แนะนำหนังสือธรรมะ "สติปัฏฐานสี่"
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2018 4:34 pm
เนื่องจากมีหลายท่านสนใจในธรรมจึงอยากแนะนำ
------------------------------------------------
ชื่อหนังสือ : สติปัฏฐานสี่ : ฐานแห่งสติและวิธีฝึกสติเพื่อความพ้นทุกข์
ผู้เขียน : ภัณเต คุณะรัตนา มหาเถระ
ผู้แปล : นัยนา นาควัชระ
ขนาด : Pocket Book 209 หน้า
ราคา : 190 บาท
ผู้วิจารณ์ : หนุ่มVI
พุทธศาสนาไม่ได้ปฏิเสธสุขจากรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อย่างการดูหนัง ฟังเพลง ทานอาหาร ก็ก่อให้เกิดความสุข เพียงแต่สุขเหล่านี้ไม่ยั่งยืน เกิดแล้วก็จางหายไป ใจจึงไขว่คว้าหาความสุขอีกเป็นวัฏจักร เป็นสุขที่เจือด้วยทุกข์ แต่ในทางพุทธศาสนานั้นยังมีความสุขที่เหนือยิ่งขึ้นไปกว่ากามสุข แต่การจะบรรลุถึงได้จะต้องผ่านขั้นตอนที่ไม่ง่ายนัก
สำหรับผู้มีจิตโน้มเอียงมาในทางธรรม การจะหาหนังสือธรรมะดีๆ และถูกกับจริตของตนก็ยังไม่ใช่เรื่องง่าย บางเล่มอ่านแล้วเกิดคำถามมากมายทำให้จิตฟุ้งซ่าน บางเล่มอ่านแล้วจิตสงบ อธิบายหลักได้ดีแต่ก็ไม่ได้ลงลึกในการปฏิบัติ สำหรับเล่มที่แนะนำนี้ ผู้วิจารณ์พบว่าอ่านแล้วจิตสงบ มีการอธิบายวิธีปฏิบัติชัดเจน
เราชาวพุทธคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า "สติปัฏฐานสี่ คือ เห็นกายในกาย เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิต เห็นธรรมในธรรม" แต่ความหมายที่ลึกซึ้งว่าแต่ละอย่างคืออะไร มีจุดประสงค์อะไร และปฏิบัติอย่างไร น้อยครั้งจะมีโอกาสได้รับทราบ ในเล่มนี้พระอาจารย์ผู้เขียนได้อธิบายโดยยกข้อความจากพระไตรปิฎกขึ้นมาก่อน จากนั้นจึงค่อยอธิบายขยายความทีละข้อ ๆ อย่างชัดเจนและปฏิบัติได้
ตัวอย่างเช่น
- การมีสติระลึกรู้กาย มีตั้งแต่ มีสติรู้ลมหายใจ มีสติรู้อิริยาบถทั้งสี่ ไปจนถึงจำแนกแยกแยะธาตุทั้งสี่ ฯ แต่ละประเภททำอย่างไร และเพื่ออะไร
- การมีสติระลึกรู้เวทนา คือสุข ทุกข์ หรือไม่สุข/ไม่ทุกข์
- การมีสติระลึกรู้จิต คือเห็นว่าจิตนี้โลภหรือไม่โลภ โกรธหรือไม่โกรธ หลงหรือไม่หลง ฯ ท่านจึงอธิบายว่าโลภคืออะไร โกรธคืออะไร หลงคืออะไร ฯ
- การมีสติระลึกรู้ธรรม ธรรมในที่นี้คือธรรมเพื่อการตรัสรู้ เช่น โพชฌงค์ 7, อริยสัจ 4 เป็นต้น ท่านจึงอธิบายหลักธรรมเหล่านี้ไว้ด้วย เพราะจะระลึกรู้ได้จะต้องรู้จักธรรมเหล่านี้ก่อน
อ่านแล้วดีจึงอยากแนะนำสำหรับผู้สนใจทางธรรมครับ
ขอจบด้วยคำตรัสของพระพุทธเจ้าที่ว่า
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย หนทางนี้เป็นทางเอก เพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่าสัตว์ ... ผู้ใดเจริญสติปัฏฐาน 4 นี้อย่างถูกต้องตลอด 7 ปี หรือแม้แต่ 7 วัน เขาพึงหวังผลสองประการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ บรรลุพระอรหันตผลในปัจจุบัน หรือหากยังมีความยึดมั่นถือมั่นหลงเหลืออยู่ เขาจักเป็นพระอนาคามี"
------------------------------------------------
ชื่อหนังสือ : สติปัฏฐานสี่ : ฐานแห่งสติและวิธีฝึกสติเพื่อความพ้นทุกข์
ผู้เขียน : ภัณเต คุณะรัตนา มหาเถระ
ผู้แปล : นัยนา นาควัชระ
ขนาด : Pocket Book 209 หน้า
ราคา : 190 บาท
ผู้วิจารณ์ : หนุ่มVI
พุทธศาสนาไม่ได้ปฏิเสธสุขจากรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อย่างการดูหนัง ฟังเพลง ทานอาหาร ก็ก่อให้เกิดความสุข เพียงแต่สุขเหล่านี้ไม่ยั่งยืน เกิดแล้วก็จางหายไป ใจจึงไขว่คว้าหาความสุขอีกเป็นวัฏจักร เป็นสุขที่เจือด้วยทุกข์ แต่ในทางพุทธศาสนานั้นยังมีความสุขที่เหนือยิ่งขึ้นไปกว่ากามสุข แต่การจะบรรลุถึงได้จะต้องผ่านขั้นตอนที่ไม่ง่ายนัก
สำหรับผู้มีจิตโน้มเอียงมาในทางธรรม การจะหาหนังสือธรรมะดีๆ และถูกกับจริตของตนก็ยังไม่ใช่เรื่องง่าย บางเล่มอ่านแล้วเกิดคำถามมากมายทำให้จิตฟุ้งซ่าน บางเล่มอ่านแล้วจิตสงบ อธิบายหลักได้ดีแต่ก็ไม่ได้ลงลึกในการปฏิบัติ สำหรับเล่มที่แนะนำนี้ ผู้วิจารณ์พบว่าอ่านแล้วจิตสงบ มีการอธิบายวิธีปฏิบัติชัดเจน
เราชาวพุทธคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า "สติปัฏฐานสี่ คือ เห็นกายในกาย เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิต เห็นธรรมในธรรม" แต่ความหมายที่ลึกซึ้งว่าแต่ละอย่างคืออะไร มีจุดประสงค์อะไร และปฏิบัติอย่างไร น้อยครั้งจะมีโอกาสได้รับทราบ ในเล่มนี้พระอาจารย์ผู้เขียนได้อธิบายโดยยกข้อความจากพระไตรปิฎกขึ้นมาก่อน จากนั้นจึงค่อยอธิบายขยายความทีละข้อ ๆ อย่างชัดเจนและปฏิบัติได้
ตัวอย่างเช่น
- การมีสติระลึกรู้กาย มีตั้งแต่ มีสติรู้ลมหายใจ มีสติรู้อิริยาบถทั้งสี่ ไปจนถึงจำแนกแยกแยะธาตุทั้งสี่ ฯ แต่ละประเภททำอย่างไร และเพื่ออะไร
- การมีสติระลึกรู้เวทนา คือสุข ทุกข์ หรือไม่สุข/ไม่ทุกข์
- การมีสติระลึกรู้จิต คือเห็นว่าจิตนี้โลภหรือไม่โลภ โกรธหรือไม่โกรธ หลงหรือไม่หลง ฯ ท่านจึงอธิบายว่าโลภคืออะไร โกรธคืออะไร หลงคืออะไร ฯ
- การมีสติระลึกรู้ธรรม ธรรมในที่นี้คือธรรมเพื่อการตรัสรู้ เช่น โพชฌงค์ 7, อริยสัจ 4 เป็นต้น ท่านจึงอธิบายหลักธรรมเหล่านี้ไว้ด้วย เพราะจะระลึกรู้ได้จะต้องรู้จักธรรมเหล่านี้ก่อน
อ่านแล้วดีจึงอยากแนะนำสำหรับผู้สนใจทางธรรมครับ
ขอจบด้วยคำตรัสของพระพุทธเจ้าที่ว่า
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย หนทางนี้เป็นทางเอก เพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่าสัตว์ ... ผู้ใดเจริญสติปัฏฐาน 4 นี้อย่างถูกต้องตลอด 7 ปี หรือแม้แต่ 7 วัน เขาพึงหวังผลสองประการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ บรรลุพระอรหันตผลในปัจจุบัน หรือหากยังมีความยึดมั่นถือมั่นหลงเหลืออยู่ เขาจักเป็นพระอนาคามี"