ไฮไลท์จดหมายถึงผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway (BRK) ปี 2017
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 25, 2018 8:57 pm
จดหมายถึงผู้ถือหุ้นเขียนโดย Warren E. Buffett (WB) มีนักลงทุนทั่วโลกเฝ้าคอยติดตามทุกปีเพราะนอกจากจะพูดถึงผลประกอบการณ์และแผนงานของธุรกิจ BRK แล้วยังสอดแทรกเนื้อหาการลงทุนแบบวีไอที่เป็นประโยชน์มากๆกับนักลงทุน เปรียบเหมือนเป็นหนังสือการลงทุนจากปรมาจารย์หุ้น
1. หุ้น BRK ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาได้อย่างยอดเยี่ยม
BRK สร้างความมั่งคั่งให้กับผู้ถือหุ้นด้วยผลตอบแทนถึง 20.9% ตั้งแต่ปี 1965 หรือผลตอบแทนรวมทั้งหมด 2,400,000% ตลอด 53 ปี BRK ได้ผ่านช่วงที่เลวร้ายมาทั้งหมดดังนี้
หุ้นลดลงไป 59% ในช่วงปี 1973-1975
ลดลง 37% ช่วง Black Monday ปี 1987
ลดลง 48.9% ช่วงปี 1998-2000
ลดลง 50.7% ช่วงปี 2008-2009
สรุปคือให้มองการลงทุนหุ้นระยะยาวแม้ว่าระหว่างทางอาจจะบาดเจ็บบ้างก็อย่าไปให้น้ำหนักกับมันมากตราบใดที่เราถือหุ้นที่ดีอยู่
2. ประโยชน์จากนโยบายลดภาษีในปี 2017
BRK สร้างผลกำไรให้ผู้ถือหุ้นในปี 2017 ได้มากถึง 65.3 พันล้านดอลล่าร์ มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 23%
แต่ WB ชี้แจงว่าในผลกำไรทั้งหมดจริงๆแล้ว 36 พันล้านดอลล่าร์มาจากผลดำเนินงานจริงของบริษัทที่เหลือเป็นผลจากการลดภาษีตอนปลายปีที่แล้ว
3. ทำไม WB ไม่ได้ลงทุนครั้งใหญ่ในปี 2017
หลังจากลงทุนครั้งใหญ่ในหุ้น Apple ปี 2016 แต่ WB ยังไม่ได้ลงทุนครั้งใหญ่ในปี 2017 เลยแม้ว่าจะมีการลงทุนบางบริษัทแต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการลงทุนครั้งใหญ่
WB บอกว่าในการลงทุนหาหุ้นนั้นต้องมีคุณภาพโดยดูได้จาก 1)ศักยภาพในการแข่งขัน 2)คุณภาพของผู้บริหาร 3) การจัดการกับสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4) โอกาสในการเติบโต 5)ราคาที่เหมาะสม
แม้ว่าจะมีหุ้นที่เข้าข่ายหลายข้อแต่ WB ก็ยังหาหุ้นที่มีราคาเหมาะสมไม่ได้ในปีที่แล้ว ปีนี้ต้องคอยติดตามการเข้าซื้อกิจการกันต่อไป
4. เปรียบเทียบขั้นตอนการซื้อธุรกิจกับหนุ่มผู้คลั่งรัก
เมื่อนักวิเคราะห์หรือผู้ถือหุ้นเรียกร้องให้ CEO ซื้อกิจการเปรียบได้เหมือนกับให้วัยรุ่นปฎิบัติตามชีวิตรักที่ตัวเองชอบ (A normal sex life) ง่ายๆก็คือยังไง CEO ก็ต้องทำแม้ว่าราคาจะไม่เอื้อต่อการเข้าซื้อกิจการ
เมื่อ CEO ได้รับโจทย์ให้ซื้อกิจการแล้วก็จะพยายามให้ทีมงานทำ Feasibility Study ที่จะทำให้ดีลเกิดขึ้นให้ได้ลูกน้องก็จะเชียร์ให้ทำเพราะถ้ากิจการใหญ่ขึ้นก็มีโอกาสได้โบนัสมากขึ้น ส่วน Investment Banker ก็ยิ่งชอบเพราะอยากเอาหุ้นเข้าตลาด
แม้ว่าผลงานในอดีตของหุ้นจะตัดสินได้ว่าไม่ควรเข้าซื้อกิจการแต่คนเหล่านั้นก็จะร่วมมือกันทำให้ดีลเกิดขึ้นให้ได้บน Spreadsheets Excel
WB เลยไม่เร่งรีบซื้อกิจการถ้าคิดว่าไม่ดีจริง ไม่ใช่ให้ทีมงานตัดสินใจกันเอง
5. กล้าบ้าบิ่นที่จะเสี่ยงในสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการ
แม้ว่าผลของการที่ WB ไม่กู้เงินมาลงทุนทำให้เสียโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแต่ WB ก็นอนหลับฝันดีเพราะคิดว่าจะเสี่ยงไปกู้เงินมาลงทุนทำไมตอนนี้ได้มากกว่า 20% ต่อปีความเสี่ยงไม่เยอะก็ดีอยู่แล้ว
WB มีแนวคิดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อ 50 ปีที่แล้วตอนเริ่มลงทุนแบบ Partnership กับเพื่อนและญาติ ทุกวันนี้มีผู้ถือหุ้นเป็นล้านคน WB ก็ยังมีหลักการเหมือนเดิมที่จะไม่กู้เงินมาลงทุนในหุ้น
6. ธุรกิจประกันดีมาก
BRK ได้รับผลขาดทุนประมาณ 3 พันล้านดอลล่าร์หรือประมาณ 3% ของผลเสียหายทั้งหมด (1 แสนล้านดอลล่าร์) จาก Hurricane ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม WB ยังคงเชื่อว่าธุรกิจประกันเป็นโมเดลธุรกิจที่ยอดเยี่ยมเพราะบริษัทได้รับเงินจากผู้ทำประกันมาก่อนแล้วนำเงินไปลงทุนสร้างผลตอบแทน ส่วนค่าเคลมประกันค่อยจ่ายทีหลังเมื่อมีการเคลมเกิดขึ้น
7. การลงทุนในหุ้นไม่ใช่แค่ชื่อตัวย่อหุ้นในตลาด
การลงทุนในหุ้นเป็นเจ้าของธุรกิจไม่ใช่การซื้อหุ้นที่รู้จักแค่ตัวย่อ Ticket ของหุ้น การซื้อตามสัญญาณทางเทคนิคหรือซื้อตามราคาเป้าหมายจากนักวิเคราะห์
WB มีความเชื่อว่าถ้าธุรกิจดีราคาหุ้นก็จะดีเองแม้ว่าบางครั้ง WB จะมีการลงทุนผิดพลาดบ้างแต่ในระยะยาวก็สามารถสร้างตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นได้อย่างยอดเยี่ยม
WB เปรียบเทียบนักลงทุนในตลาดหุ้นอเมริกาว่าเป็นนักลงทุนที่มีลมคอยสนับสนุนด้านหลังให้สามารถขับเคลื่อนไปได้ตลอด ง่ายๆคือลงทุนที่อเมริกาดี
ทั้งหมดนี้เป็นแค่บางส่วนของจดหมาย ทุกท่านสามารถอ่านได้โดยตรงที่ http://www.berkshirehathaway.com/letters/letters.html
หวังว่าเนื้อหาทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับนักลงทุนทุกท่านครับ #วอร์เรนบัฟเฟต์ #BerkshireHathaway
CR: Billionaire VI
1. หุ้น BRK ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาได้อย่างยอดเยี่ยม
BRK สร้างความมั่งคั่งให้กับผู้ถือหุ้นด้วยผลตอบแทนถึง 20.9% ตั้งแต่ปี 1965 หรือผลตอบแทนรวมทั้งหมด 2,400,000% ตลอด 53 ปี BRK ได้ผ่านช่วงที่เลวร้ายมาทั้งหมดดังนี้
หุ้นลดลงไป 59% ในช่วงปี 1973-1975
ลดลง 37% ช่วง Black Monday ปี 1987
ลดลง 48.9% ช่วงปี 1998-2000
ลดลง 50.7% ช่วงปี 2008-2009
สรุปคือให้มองการลงทุนหุ้นระยะยาวแม้ว่าระหว่างทางอาจจะบาดเจ็บบ้างก็อย่าไปให้น้ำหนักกับมันมากตราบใดที่เราถือหุ้นที่ดีอยู่
2. ประโยชน์จากนโยบายลดภาษีในปี 2017
BRK สร้างผลกำไรให้ผู้ถือหุ้นในปี 2017 ได้มากถึง 65.3 พันล้านดอลล่าร์ มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 23%
แต่ WB ชี้แจงว่าในผลกำไรทั้งหมดจริงๆแล้ว 36 พันล้านดอลล่าร์มาจากผลดำเนินงานจริงของบริษัทที่เหลือเป็นผลจากการลดภาษีตอนปลายปีที่แล้ว
3. ทำไม WB ไม่ได้ลงทุนครั้งใหญ่ในปี 2017
หลังจากลงทุนครั้งใหญ่ในหุ้น Apple ปี 2016 แต่ WB ยังไม่ได้ลงทุนครั้งใหญ่ในปี 2017 เลยแม้ว่าจะมีการลงทุนบางบริษัทแต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการลงทุนครั้งใหญ่
WB บอกว่าในการลงทุนหาหุ้นนั้นต้องมีคุณภาพโดยดูได้จาก 1)ศักยภาพในการแข่งขัน 2)คุณภาพของผู้บริหาร 3) การจัดการกับสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4) โอกาสในการเติบโต 5)ราคาที่เหมาะสม
แม้ว่าจะมีหุ้นที่เข้าข่ายหลายข้อแต่ WB ก็ยังหาหุ้นที่มีราคาเหมาะสมไม่ได้ในปีที่แล้ว ปีนี้ต้องคอยติดตามการเข้าซื้อกิจการกันต่อไป
4. เปรียบเทียบขั้นตอนการซื้อธุรกิจกับหนุ่มผู้คลั่งรัก
เมื่อนักวิเคราะห์หรือผู้ถือหุ้นเรียกร้องให้ CEO ซื้อกิจการเปรียบได้เหมือนกับให้วัยรุ่นปฎิบัติตามชีวิตรักที่ตัวเองชอบ (A normal sex life) ง่ายๆก็คือยังไง CEO ก็ต้องทำแม้ว่าราคาจะไม่เอื้อต่อการเข้าซื้อกิจการ
เมื่อ CEO ได้รับโจทย์ให้ซื้อกิจการแล้วก็จะพยายามให้ทีมงานทำ Feasibility Study ที่จะทำให้ดีลเกิดขึ้นให้ได้ลูกน้องก็จะเชียร์ให้ทำเพราะถ้ากิจการใหญ่ขึ้นก็มีโอกาสได้โบนัสมากขึ้น ส่วน Investment Banker ก็ยิ่งชอบเพราะอยากเอาหุ้นเข้าตลาด
แม้ว่าผลงานในอดีตของหุ้นจะตัดสินได้ว่าไม่ควรเข้าซื้อกิจการแต่คนเหล่านั้นก็จะร่วมมือกันทำให้ดีลเกิดขึ้นให้ได้บน Spreadsheets Excel
WB เลยไม่เร่งรีบซื้อกิจการถ้าคิดว่าไม่ดีจริง ไม่ใช่ให้ทีมงานตัดสินใจกันเอง
5. กล้าบ้าบิ่นที่จะเสี่ยงในสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการ
แม้ว่าผลของการที่ WB ไม่กู้เงินมาลงทุนทำให้เสียโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแต่ WB ก็นอนหลับฝันดีเพราะคิดว่าจะเสี่ยงไปกู้เงินมาลงทุนทำไมตอนนี้ได้มากกว่า 20% ต่อปีความเสี่ยงไม่เยอะก็ดีอยู่แล้ว
WB มีแนวคิดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อ 50 ปีที่แล้วตอนเริ่มลงทุนแบบ Partnership กับเพื่อนและญาติ ทุกวันนี้มีผู้ถือหุ้นเป็นล้านคน WB ก็ยังมีหลักการเหมือนเดิมที่จะไม่กู้เงินมาลงทุนในหุ้น
6. ธุรกิจประกันดีมาก
BRK ได้รับผลขาดทุนประมาณ 3 พันล้านดอลล่าร์หรือประมาณ 3% ของผลเสียหายทั้งหมด (1 แสนล้านดอลล่าร์) จาก Hurricane ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม WB ยังคงเชื่อว่าธุรกิจประกันเป็นโมเดลธุรกิจที่ยอดเยี่ยมเพราะบริษัทได้รับเงินจากผู้ทำประกันมาก่อนแล้วนำเงินไปลงทุนสร้างผลตอบแทน ส่วนค่าเคลมประกันค่อยจ่ายทีหลังเมื่อมีการเคลมเกิดขึ้น
7. การลงทุนในหุ้นไม่ใช่แค่ชื่อตัวย่อหุ้นในตลาด
การลงทุนในหุ้นเป็นเจ้าของธุรกิจไม่ใช่การซื้อหุ้นที่รู้จักแค่ตัวย่อ Ticket ของหุ้น การซื้อตามสัญญาณทางเทคนิคหรือซื้อตามราคาเป้าหมายจากนักวิเคราะห์
WB มีความเชื่อว่าถ้าธุรกิจดีราคาหุ้นก็จะดีเองแม้ว่าบางครั้ง WB จะมีการลงทุนผิดพลาดบ้างแต่ในระยะยาวก็สามารถสร้างตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นได้อย่างยอดเยี่ยม
WB เปรียบเทียบนักลงทุนในตลาดหุ้นอเมริกาว่าเป็นนักลงทุนที่มีลมคอยสนับสนุนด้านหลังให้สามารถขับเคลื่อนไปได้ตลอด ง่ายๆคือลงทุนที่อเมริกาดี
ทั้งหมดนี้เป็นแค่บางส่วนของจดหมาย ทุกท่านสามารถอ่านได้โดยตรงที่ http://www.berkshirehathaway.com/letters/letters.html
หวังว่าเนื้อหาทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับนักลงทุนทุกท่านครับ #วอร์เรนบัฟเฟต์ #BerkshireHathaway
CR: Billionaire VI