หน้า 1 จากทั้งหมด 1

มุมมองในการลงทุนของPIMCO สำหรับasset classต่างๆใน3ปีข้างหน้า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 21, 2017 9:34 pm
โดย amornkowa
Seminar “ The World Class Seminar 2017 “

Mr Danial J.Ivascyn Group Chief Investment Officer and Managing Director ,PIMCO
ดร สมจินต์ ศรไพศาล Chief Executive Officer TMBAM

หัวข้อนี้มีความน่าสนใจ หาเหตุผลว่าทำไมPIMCO ถึงบริหารกองทุนFIFที่ใหญ่ที่สุดในโลก
และบลจ ทหารไทยทำอย่างไรถึงสามารถขายกองนี้ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ผลตอบแทนไม่ติดลบเลย เมื่อเทียบกับ บลจอื่นที่ลงFIFกับที่อื่นแล้วขาดทุนค่าเงิน
มันเป็นอะไรที่น่าติดตาม ผมได้พูดคุยกับผู้บริหารพบว่ามีการป้องกันความเสี่ยงจากMaster fund
และบลจ ทหารไทยก็ได้ป้องกันความเสี่ยงค่าเงินบาทไว้ด้วยอีกทาง ทำให้ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจาก
ค่าเงินบาทที่แข็งมากๆในช่วงที่ผ่านมา

เอาละครับ มาเข้าสู่สัมมนากันดีกว่า

วันนี้เป็นโอกาสที่เจอผจก กองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ ตอบโจทย์ Medium risk Medium return
ตอนนี้TMB Global Income เป็นกองFIF ใหญ่สุดในไทย ประมาณ 9x,xxx ลบ
คุณ Danial กล่าวขอบคุณ บลจ ทหารไทย , ธ ทหารไทย และ นักลงทุนที่สนใจลงทุนกับกองของเขา
ทางทีมสัญญาว่าตั้งใจให้ได้ผลตอบแทนให้ดี และ รักษาเงินต้นไว้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

PIMCO update
เราจะเริ่มต้นมุมมองจากPIMCO และจากมุมมองเหล่านั้น ต้องการผลตอบแทนพอสมควรต้องทำอย่างไร
มีการจัดการ และ มียุทธศาสตร์อย่างไร
คุณDanial กล่าวว่า PIMCO เป็นบริษัทจัดการกองทุนGlobal ทีมงาน225 คน อยู่นอกUs และจะเพิ่มเป็น 250 คนในสิ้นปี ซึ่งจะสามารถ cover Latin America , Asia
ปรัญชาการลงทุน เราเน้น active manager และ Risk management ผ่านช่วงเวลาต่างๆของเศรษฐกิจ
ปี1997 เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง และ ปี 2008 เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์
เวลาตลาดขาขึ้น ลงทุนไม่ยาก แต่ยากตรงตลาดขาลง

การแกว่งตัวของดัชนีมีสองแบบคือ
1.Secular trend แนวเส้นตรง
2.Cyclical trend แกว่งตัวไม่ตามวงจรเศรษฐกิจ

วิธีคิด และ วิธีตัดสินใจ ของPIMCO
มีประชุมใหญ่4ครั้ง ต่อปี
ครั้งแรกช่วงsummer เอาคนของpimco และ คนข้างนอกที่เป็นที่ปรึกษาทรงคุณวุฒิ
มาคิดว่าปัจจัยอะไรเป็นตัวขับเคลื่อนในอีก3ปี
หลังจากนั้นมีประชุมรายไตรมาสอีก3ครั้ง โดยมุมมองระยะสั้นต้องสอดคล้องกับมมมองระยะยาว
ในหมู่ของที่ปรึกษาภายนอก มีดร เบน อดีตผู้บริหารFED และ Anne Marie Director ของอเมริกา
อึ้งก๊กซง อดีตผู้บริหารของกองทุนบำนาญของสิงค์โปร์

Evolution of PIMCO’s secular views
ตัวอย่างของการมองแบบsecular ตั้งแต่ ปี2009
New normal โลกเปลี่ยนแปลงมาก มี access capacity from china ,debt globalที่สูงขึ้น
ทำให้โลกเติบโตลดลง ดอกเบี้ยไม่ควรอยู่ระดับสูงได้ ในปี2014 เรียกว่า New neutral

The global economy has been stable…
การเติบโตของโลกช้าลง ไทยก็มีดอกเบี้ยต่ำมาก แต่เปรียบเทียบกับประเทศญี่ปุ่น พันธบัตร10ปีดอกเบี้ยแค่ 0.5%
บางที่ต้องจ่ายให้รัฐบาลเพราะผลตอบแทนติดลบ เช่นทางอียู
มองโลกทั้งใบ มองเฉพาะสาม สี่ปีให้หลัง เสถียรขึ้น
เช่นในช่วงปี2004-2007 G20 GDP stable
Monetary policy effectiveness is waning
ความเสถียรของโลกมาจากการให้สภาพคล่องเพิ่มขึ้นของcentral bank ประเทศต่างๆเช่น US
ในอนาคตมีแนวโน้ม Balance sheet ปรับสู่สภาพใกล้เดิมมากขึ้น
But remains insecure
China rising risks to global economy
ถ้าหากว่า เศรษฐกิจ ดูเสถียรในระยะสั้น ความเสี่ยงจะเพิ่มในระยะยาว
จีนโตค่อนข้างสูง มีการก่อหนี้มากขึ้น ตอนนี้ลดการส่งออก มาเน้นเศรษฐกิจภายใน เป็นการสะสมทีละน้อย

Cyclical Outlook
PIMCOมีการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวความคิดในการประชุม
ประเทศอินเดีย บราซิล และ รัสเซีย GDPโตขึ้น ส่วนประเทศที่เหลือGDPโตลดลง เช่น จีน เหลือ GDP 6.0%
Japan เหลือ1% , Mexico 2.5%, US 2% ,Euro Zone 2%
GDPของโลกโต 3% มาจาก ประเทศพัฒนา (DM) 1.8% และประเทศตลาดเกิดใหม่(EM) 5.5%

What about the Feb ? President Trump will have a significant ability to remake the Feb
ในสภาพของพัฒนาการทางการเมืองมีความไม่แน่นอน เช่น ธนาคารกลางของUS
คุณJanetหมดเทอมในเดือน กพ 18 เธอน่าจะleave และยังมีที่ว่างอีกสี่ที่ซึ่งต้องหาคนมาเสริม
ทำให้เราไม่เห็นภาพที่ชัดของFEDในอนาคต

How is PIMCO positioned given our policy outlook?
More defensive given policy outlook and valuations
ทิศทางโดยทั่วไป neutralค่อยๆลดcredit exposure
การที่จะเติม เพื่อมีส่วนเสริมผลตอบแทนดี แต่ความผันผวนของตลาดเพิ่มขึ้น
เขายินดีแต่ต้องไม่มากจนเกินไป

PIMCO ‘s overall views across multi-asset portfolios
Equites, Rates , credit,real assets,currency
ถ้ามามองในasset class ครั้งนี้ทางPIMCOจะระมัดระวังมากขึ้น
ฝั่งหุ้นทุน ชอบยุโรป ญี่ปุ่น และ Emerging market
Bond ชอบ US, ออสเตรเลีย
Credit : Corporate bond such as securitize bond

Implications for income การตัดสินใจลงทุนจะมองเป็น
Current investment themes
1. Global opportunity set มองทั่วโลก
2. Increase flexibility มีความยืดหยุ่นกับbenchmark
3.Focus on downside risk ปกป้องความเสี่ยง มีความรอบคอบในการลงทุน

Balance yield and capital preservation objectives
ระหว่าง capital preservation กับ Yield ( see high and consistent level of distribution )
PIMCO จะให้ผลตอบแทนที่ดี กับความเสี่ยงไม่มากเกินไป
ฝั่งyield เลือกเครื่องมือให้yield ดีสุด เช่น Mortgage back securities , EM bond
และ พันธบัตรรัฐบาลที่มีความเชื่อถือสูง บางช่วงลงทุนsaveมากขึ้น บางช่วงโลกสดใส ก็เอียงมาที่High yieldมากหน่อย
ถ้าทำถูกต้อง ได้ผลตอบแทนที่ดี ณ ความเสี่ยงพอรับได้

Top investment themes in the Income Strategy
ลงลึกในการลงทุน เช่น MBS ( Mortgage Back Securitization )
1. Improving US growth เศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น MBS มีความน่าเชื่อถือดีขึ้น
2. EM opportunities ลงในEMด้วย
3. Downside Risk Protection ลงทุนพันธบัตรUSมากขึ้น
4. Policy divergenc

PIMCO’S proprietary Geo Score model เป็นระบบในการศึกษาloanก่อนลงทุนในMBS
MBS มีความเกี่ยวข้องกับราคาบ้านและที่ดิน
เขาเชื่อว่าราคาบ้านในอีก2ปีจะเพิ่มขึ้น 4-8% บนscenario ได้ผลตอบแทนสัก 8%
แต่ถ้าราคาบ้านลดลง10% เราจะได้สัก 2% มีgood downside protection หรือมีการปกป้องความเสี่ยง
ในช่วงขาลงด้วย
แม้ว่าลูกค้าของPIMCOฟังแล้วก็ยังกังวลใจในMBS มาดูข้อมูลเพิ่มเติม
2009 มูลค่าบ้านที่จดจำนอง แล้วคำนวณ มูลหนี้ต่อมูลค่าบ้าน(Loan to value) ตอนนั้น 140%
2017 Bondที่ลงทุนที่เป็นตัวแทน Loan to value =70%เอง credit riskต่ำมาก
น่าจะเป็นsectorที่ให้ผลตอบแทนที่ดีต่อไป
Emerging market มีประเทศต่างๆมากมายแต่เราเลือกบางประเทศ ไม่อยากเสี่ยงcurrency risk

PIMCO GIS income fund
ประกอบไปด้วย
Gov 39%,Non-agency 12%,High yield 9%
กระแสเงินปันผลจ่ายไปได้อย่างเสถียร

ช่วงคำถามและคำตอบท้ายสัมมนา

Q: High yieldที่มีอยู่ในport 10% น่ากลัวไหม
A: ปีที่ผ่านมาได้ลดสัดส่วนลงอย่างมีนัยสำคัญ ที่เหลือจะมีทรัพย์สินค้ำอยู่
อีกส่วนจะมีความมั่นคง แต่จะพยายามลดลงเรื่อยๆ

Q: ผลกระทบขาลง มากแค่ไหน กระทบแค่ไหน
A: ผันผวนประมาณ 4-5%
ทางทีมไม่ได้มีเป้าหมายขาดทุนเท่าไหร่ แต่วัดส่วนเบี่ยงเบนเป้าหมายอยู่ในช่วง 4-5%
ช่วงนี้ระมัดระวัง อยู่ในช่วง 3-4%เท่านั้น
ถ้าหากพูดถึงความเสี่ยง
1.spreadเพิ่มหรือลด มีผลต่อราคา
2.Default หมายถึง ตราสารหนี้default
เรายอมรับspreadมากกว่าdefault

Q: ขนาดกองทุนใหญ่ มีความยากในการบริหาร มีข้อจำกัดขนาดหรือไม่
A: ขนาดของuniverseใหญ่มากเมื่อเทียบกับbenchmark ยังรับได้อีก
แต่จะคอยดูว่า ถ้าไปถึงจุดที่ไม่comfortable จะปิดไม่รับเงินใหม่

Q: มุมมองตราสารหนี้ในเอเชียต่างกับภูมิภาคอื่นอย่างไร
A: เอเชียมีมุมมองเป็นบวก กำลังเพิ่มทีมเข้ามาเลือกโอกาสในการลงทุน
ไทยมีความน่าสนใจ แต่Government debtน้อยเกินไป supplyมีน้อย ยากกับการลงทุน

Q:ความเสี่ยงของportfolioเป็นอย่างไร
A: มองในเชิงเปรียบเทียบ US corporate credit ดีขึ้นมาก housingแย่มาก อาจทำให้ผลตอบแทนแย่มาก
แต่ข้อจริง มีการป้องกัน housing market ไม่ให้ใหญ่เกินไป
บนภาพตอนนี้มีการระมัดระวังในการลงทุนอยู่แล้ว

Q: อยากทราบมุมมองต่อFED
A:FEDจะประกาศลด balance sheet ในแง่อัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะมีโอกาสมากกว่าครึ่งที่ขึ้นดอกเบี้ย

Q: นาฟต้ามีผลต่อmexico outlook อย่างไร
A: อาจจะมีการกีดกันทางการค้า แต่มีโอกาสแค่20%

Q: Themeการลงทุนในอนาคต ถ้าเกาหลีเหนือมีปัญหาจริงๆ ทำอย่างไร
A: เป็นคำถามเฉพาะเจาะจง เราต้องระมัดระวัง แต่ภาพใหญ่ต้องมีการบริหารการจัดการเป็นหลัก
และลดความเสี่ยงลง
มีความเชื่อว่าUSไม่น่าเลือกวิธีการทางทหารในการตอบโต้ แต่ระหว่างทางอาจมีบ้าง

Q: สัดส่วนTMB Global IncomeในกองMaster fund
A: แค่ 2%ของMaster fund

ขอขอบคุณ TMBAM, PIMCOที่มาให้ข้อมูลครับ