WEH
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 13, 2017 10:35 am
WEH แต่งตัวเข้าตลท. จ่อยื่นไฟลิ่ง ก.พ.ปีหน้า SCBปล่อยกู้ 3.4 หมื่นล้าน ลงทุนลม 5 โครงการ
Source - ข่าวหุ้น (Th)
Wednesday, September 13, 2017 04:09
กรุงเทพฯ--13 ก.ย.--ข่าวหุ้น
“วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง” หรือ WEH จ่อยื่นไฟลิ่งก.ล.ต.ช่วง ก.พ.ปีหน้า คาดเสนอขายไอพีโอและเข้าจดทะเบียนใน SET ไตรมาส 3/61 หลังปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ไร้เงา “นพพร” ล่าสุด SCB ปล่อยกู้ 3.4 หมื่นล้านบาท หนุนลง ทุนวินด์ฟาร์มอีก 5 โครงการ กำลังผลิตรวม 450 เมกะวัตต์
นายประเดช กิตติอิสรานนท์ กรรมการ และหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติให้บริษัทเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบริษัท เคพีเอ็น เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (KPN Power international) และมีแผนที่จะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2561 คาดว่าประมาณไตรมาส 3/61 จะเสนอขาย IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ เพื่อระดมทุนมาใช้ในการขยายธุรกิจ โดยได้ให้ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA)
ขณะที่ปัจจุบัน WEH ได้มีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นเรียบร้อยแล้ว โดยบริษัท รีนิวเอเบิล เอนเนอยี่ คอร์ปอเรชั่น (REC) หรือเปลี่ยนชื่อใหม่ คือ บริษัท เคพีเอ็น เอนเนอยี่ ไทยแลนด์ (KPNET) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ WEH ในสัดส่วน 60% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ได้ดำเนินการขายหุ้นดังกล่าวออกไปแล้วทั้งหมดให้กับบริษัทในฮ่องกง จากนั้นนายณพ ณรงค์เดช ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และประธานกรรมการ KPNET และกลุ่ม KPN รวมถึงกลุ่มนายประเดชได้เข้าไปซื้อหุ้นต่อจากบริษัทดังกล่าว
โดยทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ WEH ปัจจุบัน ประกอบด้วย กลุ่ม KPN ถือหุ้นในสัดส่วน 46% กลุ่มนายประเดช ถือหุ้นในสัดส่วน 38% (ไปซื้อจากบริษัทในฮ่องกงเพิ่ม13% จากเดิมถือหุ้น 25%) บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO ถือหุ้นในสัดส่วน 3.9% และส่วนที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ
ทั้งนี้ ปัจจุบัน WEH มีทุนจดทะเบียน 1,080 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 108 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 10 บาท โดยปัจจุบัน WEH มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม (วินด์ฟาร์ม) ที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วทั้งหมด จำนวน 3 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 240 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งอยู่ที่อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา (โคราช) ประกอบด้วย โครงการเวสต์ห้วยบง 3 กำลังการผลิต 90 MW โครงการเวสต์ห้วยบง 2 กำลังการผลิต 90 MW ซึ่งทั้ง 2 โครงการ WEH ถือหุ้นอยู่ 45% และโครงการวะตะแบก กำลังการผลิต 60 MW ซึ่ง WEH ถือหุ้นอยู่ 75%
นอกจากนี้ WEH มีโครงการวินด์ฟาร์มที่เตรียมจะพัฒนาใหม่อีก จำนวน 5 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 450 MW ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่ง WEH ถือหุ้นทั้ง 100% ประกอบด้วย โครงการ T1 กำลังการผลิต 90 MW โครงการ T2 กำลังการผลิต 90 MW โครงการ T3 กำลังการผลิต 90 MW และโครงการ T4 กำลังการผลิต 90 MW ซึ่งทั้ง 4 โครงการ จะก่อสร้างแล้วเสร็จและ COD ในช่วงปลายปี 2561 ส่วนอีก 1 โครงการ คือ โครงการ T5 (NKS) กำลังการผลิต 90 MW กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จและ COD ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ทั้งนี้ หากโรงไฟฟ้าทั้งหมดของ WEH จ่ายไฟฟ้าได้ครบจะสร้างกำไรให้กับ WEH ได้ปีละประมาณ 7,000 ล้านบาท
นายประเดช กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการใหม่ WEH ทั้ง 5 โครงการดังกล่าวนั้น ล่าสุด ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ได้อนุมัติปล่อยกู้เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการแล้วเป็นวงเงิน 3.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 85% กู้เป็นโปรเจ็กต์ไฟแนนซ์ และอีก 15% เป็นการกู้โดยบริษัท ซึ่ง WEH ได้เซ็นสัญญาเงินกู้กับ SCB ไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว และมีการเบิกเงินกู้งวดแรกมาเพื่อใช้เป็นมัดจำค่าเทอร์ไบน์ (เสากังหัน) และค่าก่อสร้าง--จบ--
Source - ข่าวหุ้น (Th)
Wednesday, September 13, 2017 04:09
กรุงเทพฯ--13 ก.ย.--ข่าวหุ้น
“วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง” หรือ WEH จ่อยื่นไฟลิ่งก.ล.ต.ช่วง ก.พ.ปีหน้า คาดเสนอขายไอพีโอและเข้าจดทะเบียนใน SET ไตรมาส 3/61 หลังปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ไร้เงา “นพพร” ล่าสุด SCB ปล่อยกู้ 3.4 หมื่นล้านบาท หนุนลง ทุนวินด์ฟาร์มอีก 5 โครงการ กำลังผลิตรวม 450 เมกะวัตต์
นายประเดช กิตติอิสรานนท์ กรรมการ และหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติให้บริษัทเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบริษัท เคพีเอ็น เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (KPN Power international) และมีแผนที่จะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2561 คาดว่าประมาณไตรมาส 3/61 จะเสนอขาย IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ เพื่อระดมทุนมาใช้ในการขยายธุรกิจ โดยได้ให้ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA)
ขณะที่ปัจจุบัน WEH ได้มีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นเรียบร้อยแล้ว โดยบริษัท รีนิวเอเบิล เอนเนอยี่ คอร์ปอเรชั่น (REC) หรือเปลี่ยนชื่อใหม่ คือ บริษัท เคพีเอ็น เอนเนอยี่ ไทยแลนด์ (KPNET) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ WEH ในสัดส่วน 60% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ได้ดำเนินการขายหุ้นดังกล่าวออกไปแล้วทั้งหมดให้กับบริษัทในฮ่องกง จากนั้นนายณพ ณรงค์เดช ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และประธานกรรมการ KPNET และกลุ่ม KPN รวมถึงกลุ่มนายประเดชได้เข้าไปซื้อหุ้นต่อจากบริษัทดังกล่าว
โดยทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ WEH ปัจจุบัน ประกอบด้วย กลุ่ม KPN ถือหุ้นในสัดส่วน 46% กลุ่มนายประเดช ถือหุ้นในสัดส่วน 38% (ไปซื้อจากบริษัทในฮ่องกงเพิ่ม13% จากเดิมถือหุ้น 25%) บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO ถือหุ้นในสัดส่วน 3.9% และส่วนที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ
ทั้งนี้ ปัจจุบัน WEH มีทุนจดทะเบียน 1,080 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 108 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 10 บาท โดยปัจจุบัน WEH มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม (วินด์ฟาร์ม) ที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วทั้งหมด จำนวน 3 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 240 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งอยู่ที่อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา (โคราช) ประกอบด้วย โครงการเวสต์ห้วยบง 3 กำลังการผลิต 90 MW โครงการเวสต์ห้วยบง 2 กำลังการผลิต 90 MW ซึ่งทั้ง 2 โครงการ WEH ถือหุ้นอยู่ 45% และโครงการวะตะแบก กำลังการผลิต 60 MW ซึ่ง WEH ถือหุ้นอยู่ 75%
นอกจากนี้ WEH มีโครงการวินด์ฟาร์มที่เตรียมจะพัฒนาใหม่อีก จำนวน 5 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 450 MW ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่ง WEH ถือหุ้นทั้ง 100% ประกอบด้วย โครงการ T1 กำลังการผลิต 90 MW โครงการ T2 กำลังการผลิต 90 MW โครงการ T3 กำลังการผลิต 90 MW และโครงการ T4 กำลังการผลิต 90 MW ซึ่งทั้ง 4 โครงการ จะก่อสร้างแล้วเสร็จและ COD ในช่วงปลายปี 2561 ส่วนอีก 1 โครงการ คือ โครงการ T5 (NKS) กำลังการผลิต 90 MW กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จและ COD ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ทั้งนี้ หากโรงไฟฟ้าทั้งหมดของ WEH จ่ายไฟฟ้าได้ครบจะสร้างกำไรให้กับ WEH ได้ปีละประมาณ 7,000 ล้านบาท
นายประเดช กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการใหม่ WEH ทั้ง 5 โครงการดังกล่าวนั้น ล่าสุด ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ได้อนุมัติปล่อยกู้เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการแล้วเป็นวงเงิน 3.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 85% กู้เป็นโปรเจ็กต์ไฟแนนซ์ และอีก 15% เป็นการกู้โดยบริษัท ซึ่ง WEH ได้เซ็นสัญญาเงินกู้กับ SCB ไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว และมีการเบิกเงินกู้งวดแรกมาเพื่อใช้เป็นมัดจำค่าเทอร์ไบน์ (เสากังหัน) และค่าก่อสร้าง--จบ--