งานสัมมนาวิเคราะห์เจาะลึกกลุ่มบริการและสินค้าอุตสาหกรรม
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 25, 2017 2:29 pm
งานสัมมนาวิเคราะห์เจาะลึกหุ้นเด่นกลุ่มบริการและสินค้าอุตสาหกรรม
โดยคุณ สยาม ติยานนท์ บล ฟิลลิป ประเทศไทย
อุตสาหกรรม TV Digital หลังจากเปิดประมูลเมื่อปลายปี56 และเริ่มออกอากาศ
วันที่ 1 เมษายน 2557 ช่องทีวีจาก 6 ช่อง บวกกับช่องใหม่อีก 24 ช่องรวมเป็น 30 ช่อง
Demand เท่าเดิม แต่ supplyเพิ่มอีก 24 ช่อง คนดูทีวีเท่าเดิม ก็เกิดการแข่งขันกันสูง
ช่วง Q4 16 มีการหยุดออกอากาศมากกว่า 1 เดือน ทำให้ผลประกอบการลดลง
ต้นปี 60 ภาพรวมดีขึ้น agencyมองว่ายังดี แต่กำลังซื้อชะลอตัวลง เม็ดเงินโฆษณาลดลง6%
คนในอุตสาหกรรมโฆษณาคิดว่าชะลอตัวลงจนถึงกันยายน และจะโตโดดเด่นในQ4
ส่วนปีหน้า แนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น กำลังซื้อค่อยๆกลับมา อุตสาหกรรมทีวีจะค่อยๆกลับมา
หลังจากทีวีดิจิตอลโตมาตลอด โดย Rating WP,Mono,RS อยู่อันดับต้นของอุตสาหกรรม
หุ้น workpoint เป็นช่องแรกที่มีกำไร และ MONO เริ่มจะมีกำไรในQ1 17
ตัวถัดไปนักวิเคราะห์มองว่าเป็น RS ซึ่งได้Ratingอันดับที่5 = 0.5-0.6
รายการที่เป็นจุดเด่นคือ ละคร กีฬามวย วาไรตี้ ซึ่งมีเม็ดเงินเข้ามาโฆษณาสูงขึ้น
แถมยังมีสื่อประเภทอื่นขายเป็นแพตเกต เช่น ทีวีดาวเทียม และ รายการวิทยุ
ช่วงปี58 มีผู้ผลิตสินค้าเสริมความงามมาเช่าเวลา เพื่อโปรโมตสินค้า เห็นว่าดี
เลยลองทำดู ซึ่งปีแรกรายได้กว่า 200 ล้านบาท ปีที่2รายได้ทรงตัวไปมุ่งmodern trade
ไม่ได้ตามเป้า และ ใช้งบโฆษณาสูง ขาดทุนจากการดำเนินงาน
ส่วนปีนี้ภาพกลับกัน
รายได้ในส่วน H&B ในQ1 199 ลบซึ่งดีกว่าเดิมคือทั้งปี16 ได้แค่ 230 ลบ
ส่วนQ2น่าจะได้มากขึ้นกว่าQ2 16
ตอนนี้ผู้บริหารปรับเป้ารายได้ส่วน H&B เป็น 1,100 ลบในปีนี้
โดย สินค้าในหมวดนี้จะเพิ่มจาก 7 SKU เป็น 15 SKU
ส่วน call center เพิ่มคนจาก 40 เป็น 250 คนเพื่อรองรับลูกค้า
ส่วนGP 70% NP 20% ซึ่งบริษัทยังขายสินค้าน้อยเมื่อคิดถึงมูลค่าอุตสาหกรรมความงาน
2.8 แสนล้านบาท ถือว่าใหญ่สุดในอาเซียน
ธุรกิจใหม่น่าจะเป็นดาวเด่น ปีหน้าจะโดดเด่นทั้ง TV Digital และ H&B
ปีนี้ผลประกอบการน่าจะดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว รวมถึงภาพรวมก็เติบโตอย่างมีนัยยะ
โดยคุณ สยาม ติยานนท์ บล ฟิลลิป ประเทศไทย
อุตสาหกรรม TV Digital หลังจากเปิดประมูลเมื่อปลายปี56 และเริ่มออกอากาศ
วันที่ 1 เมษายน 2557 ช่องทีวีจาก 6 ช่อง บวกกับช่องใหม่อีก 24 ช่องรวมเป็น 30 ช่อง
Demand เท่าเดิม แต่ supplyเพิ่มอีก 24 ช่อง คนดูทีวีเท่าเดิม ก็เกิดการแข่งขันกันสูง
ช่วง Q4 16 มีการหยุดออกอากาศมากกว่า 1 เดือน ทำให้ผลประกอบการลดลง
ต้นปี 60 ภาพรวมดีขึ้น agencyมองว่ายังดี แต่กำลังซื้อชะลอตัวลง เม็ดเงินโฆษณาลดลง6%
คนในอุตสาหกรรมโฆษณาคิดว่าชะลอตัวลงจนถึงกันยายน และจะโตโดดเด่นในQ4
ส่วนปีหน้า แนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น กำลังซื้อค่อยๆกลับมา อุตสาหกรรมทีวีจะค่อยๆกลับมา
หลังจากทีวีดิจิตอลโตมาตลอด โดย Rating WP,Mono,RS อยู่อันดับต้นของอุตสาหกรรม
หุ้น workpoint เป็นช่องแรกที่มีกำไร และ MONO เริ่มจะมีกำไรในQ1 17
ตัวถัดไปนักวิเคราะห์มองว่าเป็น RS ซึ่งได้Ratingอันดับที่5 = 0.5-0.6
รายการที่เป็นจุดเด่นคือ ละคร กีฬามวย วาไรตี้ ซึ่งมีเม็ดเงินเข้ามาโฆษณาสูงขึ้น
แถมยังมีสื่อประเภทอื่นขายเป็นแพตเกต เช่น ทีวีดาวเทียม และ รายการวิทยุ
ช่วงปี58 มีผู้ผลิตสินค้าเสริมความงามมาเช่าเวลา เพื่อโปรโมตสินค้า เห็นว่าดี
เลยลองทำดู ซึ่งปีแรกรายได้กว่า 200 ล้านบาท ปีที่2รายได้ทรงตัวไปมุ่งmodern trade
ไม่ได้ตามเป้า และ ใช้งบโฆษณาสูง ขาดทุนจากการดำเนินงาน
ส่วนปีนี้ภาพกลับกัน
รายได้ในส่วน H&B ในQ1 199 ลบซึ่งดีกว่าเดิมคือทั้งปี16 ได้แค่ 230 ลบ
ส่วนQ2น่าจะได้มากขึ้นกว่าQ2 16
ตอนนี้ผู้บริหารปรับเป้ารายได้ส่วน H&B เป็น 1,100 ลบในปีนี้
โดย สินค้าในหมวดนี้จะเพิ่มจาก 7 SKU เป็น 15 SKU
ส่วน call center เพิ่มคนจาก 40 เป็น 250 คนเพื่อรองรับลูกค้า
ส่วนGP 70% NP 20% ซึ่งบริษัทยังขายสินค้าน้อยเมื่อคิดถึงมูลค่าอุตสาหกรรมความงาน
2.8 แสนล้านบาท ถือว่าใหญ่สุดในอาเซียน
ธุรกิจใหม่น่าจะเป็นดาวเด่น ปีหน้าจะโดดเด่นทั้ง TV Digital และ H&B
ปีนี้ผลประกอบการน่าจะดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว รวมถึงภาพรวมก็เติบโตอย่างมีนัยยะ