สรุปประเด็นไฮไลท์จาก Internet Trends 2017 ของ Mary Meeker

[Dr. Manhattan]

สรุปประเด็นไฮไลท์จาก Internet Trends 2017 ของ Mary Meeker

ในทุก ๆ ปี Mary Meeker นักลงทุนและนักวิเคราะห์จะจัดทำรายงานเกี่ยวกับเทรนด์การใช้อินเทอร์เน็ตของผู้คนทั่วโลก เพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือสำหรับนักการตลาด วันนี้เราเลยย่อยข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ อีกทีหนึ่งเพื่อความสะดวกในการอ่านและเลือกประเด็นที่น่าสนใจมานำเสนอ

รายงาน Internet Trends ของ Mary Meeker จะวิเคราะห์ข้อมูลออกมาในเชิงสถิติเพื่อแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงการใช้งานอินเทอร์เน็ตและการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ ซึ่งมีมากถึง 355 สไลด์ (สามารถดูฉบับเต็มได้ที่ : http://www.kpcb.com/internet-trends)

สำหรับ Internet trends 2017 มีไฮไลท์สำคัญๆ ดังนี้

เกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลก (46% หรือ 3.4 พันล้านผู้ใช้งาน) ขณะนี้เป็นผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต
มีสมาร์ทโฟนถูกใช้งานกว่า 2.8 พันล้านเครื่อง แต่ว่าในปีนี้ยอดขายสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นเพียง 3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่เพิ่มขึ้น 10% อาจกล่าวได้ว่าแทบทุกคนที่อยากได้สมาร์ทโฟนในตอนนี้มีกันคนละเครื่องอยู่แล้ว
Google ได้เงินจากค่าโฆษณา 35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ Facebook ได้ประมาณ 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว (รวมกันสองเจ้าแล้ว เติบโตเกือบ 85% ในรายได้จากโฆษณาออนไลน์ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก)
ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาในอินเทอร์เน็ตทั่วโลกกำลังจะมากกว่าค่าใช้จ่ายโฆษณาทางโทรทัศน์ในอีก 6 เดือน แสดงให้เห็นถึงตลาดออนไลน์ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
แม้โฆษณาทางออนไลน์จะมากขึ้น แต่คนที่บล็อคโฆษณาเหล่านี้ก็มีมากขึ้นด้วยเช่นกัน ด้วยตัวเลขกว่า 400 ล้านคนทั่วโลกที่เลือกจะบล็อคโฆษณาบนหน้าจอมือถือ
Image Recognition และแอปพลิเคชันกล้องทำให้แพลตฟอร์มโฆษณาสามารถรู้ว่าเรากำลังมองหาอะไรอยู่ และเสนอโฆษณาที่เหมาะกับเรา
กว่าหมื่นล้านพัสดุถูกส่งโดยบริการขนส่งพัสดุ ซึ่งเติบโตในอัตรา 10% ต่อปี
ร้านค้าปลีกกว่า 7,000 ร้านปิดตัวลงในปีนี้ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ในรอบ 20 ปี แต่ในขณะเดียวกัน Amazon กำลังจะเปิดร้านหนังสือของตัวเอง ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองกลยุทธ์ของ Amazon ว่าจะดำเนินธุรกิจอย่างไรต่อไป
ยอดขายจากสื่อออนไลน์ของร้านค้าปลีกจะเพิ่มเป็นประมาณ 400 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเติบโตขึ้นปีละประมาณ 15%
ธุรกิจเดลิเวอรี่อาหารเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
Customer Services เปลี่ยนจากการใช้โทรศัพท์มาเป็นบน Chat มากขึ้นอย่างชัดเจน
การ Subscribe และ Streaming เป็นหนทางการหารายได้ของธุรกิจทางด้านดนตรี ซึ่งมากถึง 52% (จากเดิม 0% ในปีพ.ศ 2547)
Netflix มีคน subscribe แบบเสียเงินจำนวนประมาณ 98 ล้านคนทั่วโลก และได้รายได้เกือบ 1 ใน 3 ของกลุ่มธุรกิจบันเทิงในครอบครัวในสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังเติบโตขึ้นอย่างมากสวนทางกับเครือข่ายโทรทัศน์อื่น ๆ ที่ยอดตกลง
กว่า 37% ของค่าใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ถูกใช้ไปกับระบบ Cloud (จากเดิม 21% เมื่อ 4 ปีที่แล้ว)
Amazon นำตลาดด้าน Cloud เหนือ Microsoft, Google และ IBM
Gamification หรือการประยุกต์ใช้หลักการของเกมมีมากขึ้นในหลาย ๆ แอปพลิเคชัน ซึ่งทำให้คนกลับมาใช้แอปพลิเคชันบ่อยขึ้น
ธุรกิจเริ่มใส่ใจด้าน Design มากขึ้น ดูได้จากอัตราส่วน Designer เทียบกับ Developer
มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านทางโทรศัพท์กว่า 700 ล้านคนในจีน และมากกว่า 355 ล้านคนในอินเดีย
Alipay และ WeChat ทำให้การใช้จ่ายผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้นกว่าเดิมประมาณ 2 เท่า
กว่า 95% ของโรงพยาบาลมีบริการให้ผู้ป่วยเข้าถึงข้อมูลทางสุขภาพออนไลน์ เพิ่มมาจาก 24% เมื่อ 5 ปีที่แล้ว และธุรกิจด้าน Healthcare มีการเติบโตขึ้นจากเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเติบโตเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปในทิศทางตามนี้
– ช่วงศตวรรษที่ 18 : การเพาะปลูกและการแปรรูปอาหาร
– ช่วงศตวรรษที่ 19-20 : การผลิตทางอุตสาหกรรม
– ช่วงศตวรรษที่ 21 : ยุคของพลังแห่งคอมพิวเตอร์และศักยภาพของมนุษย์ (เทคโนโลยีและความสามารถที่เพิ่มขึ้นของมนุษย์)

จะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในด้านตลาดออนไลน์ที่ทำรายได้ให้กับธุรกิจมากขึ้น การใช้งานของอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มีมากขึ้น และเทคโนโลยีทำให้ธุรกิจในหลาย ๆ ด้านเติบโตอย่างรวดเร็ว มีบริการที่ดีขึ้นและเน้นประสบการณ์ที่ดีของผู้บริโภค

แต่การเติบโตนี้ก็ทำให้ธุรกิจที่ปรับตัวไม่ทันต้องล้มหายไป รวมถึงการเติบโตของตลาดของประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีนและอินเดียก็เป็นที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจและนักลงทุนในยุคสมัยนี้ สำหรับใครที่สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูสรุปจากลิงค์ข้างล่างนี้ได้เช่นกัน

ข้อมูลจาก InsideHighered และ Techcrunch
ที่มา http://www.cheetahmarketing.in.th/2017/ ... marketing/