Veni Vidi Vici กับการลงทุน/เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ
โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 18, 2017 5:32 pm
โค้ด: เลือกทั้งหมด
Veni vidi vici เป็นภาษาละติน แปลเป็นอังกฤษว่า “I came, I saw, I conquered” เป็นคำที่ทหารของ Julius Caesar ใช้ในขณะที่เดินทัพกลับกรุงโรมในปี 46 BC เพื่อฉลองชัยชนะที่ทัพของ Caesar มีเหนือคู่แข่ง ที่เมือง Zela หรือเมือง Zile ที่อยู่ทางด้านเหนือของตุรกีในปัจจุบัน
Julius Caesar เป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงที่สุดของโรมันที่คนเกือบทั้งโลกรู้จัก ประวัติของ Caesar นั้นมีหลายอย่างที่น่าสนใจและเป็นบทเรียนที่ดีให้กับคนรุ่นหลัง Caesar เกิดเมื่อปี 100 BC ในครอบครัวนักการเมืองที่มีชื่อเสียงแต่ยากจนเนื่องจากถูกนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามยึดทรัพย์ไปจนหมด เขาจึงต้องใช้ชีวิตทหารในช่วงต้นอยู่ในดินแดนที่อยู่ห่างไกลกรุงโรมให้มาก โดยประจำอยู่ที่ดินแดนเอเชียไมเนอร์หรือประเทศตุรกีในปัจจุบัน Caesar ได้ชื่อว่าเป็นทหารที่เก่งกาจเฉลียวฉลาดมาก จึงเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นเรื่อยมา หลังจาก Sulla ศัตรูของครอบครัวเสียชีวิต เขาจึงเริ่มกลับเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในโรม
ช่วงต่อมาเขาก็ถูกย้ายไปประจำการที่สเปน เป็นที่ๆ Caesar ได้มีโอกาสอ่านชีวประวัติของ Alexander of Macedonia ขณะที่อ่าน หลายครั้งเขานั่งนิ่งอยู่นาน พออ่านจบเขาถึงกับร้องไห้ เนื่องจากเขาในวัย 33 ปียังไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย ในขณะที่ Alexander ที่เสียชีวิตในวัย 33 ปีประสบความสำเร็จมากมายพิชิตดินแดนตั้งแต่กรีกจนถึงอินเดีย
จุดเปลี่ยนสำคัญของ Caesar คือการอาสาออกศึกขยายดินแดนแถบประเทศฝรั่งเศสที่เดิมเป็นถิ่นฐานของพวก Gaul ชัยชนะเหนือ Gaul นำมาซึ่งชื่อเสียงและความมั่งคั่งให้ Caesar และทหารของเขา ส่งผลให้คู่แข่งสำคัญของเขาซึ่งได้แก่ Pompey ไม่พอใจ ทำให้เกิดการสู้รบระหว่างโรมันด้วยกันเอง โดยทัพ Caesar อยู่ในที่มั่นในโรมและดินแดนตะวันตก ส่วนทัพของ Pompey ตั้งมั่นอยู่ทางตะวันออกแถบประเทศกรีกและตุรกีในปัจจุบัน
ผลลัพธ์คือทัพของ Caesar ที่ผ่านการทำศึกกับพวก Gaul มาร่วม 10 ปี เอาชนะฝ่าย Pompey ได้อย่างรวดเร็ว จนเป็นที่มาของการเฉลิมฉลอง Veni vidi vici ในปี 46 BC Pompey หนีไปขึ้นฝั่งที่ประเทศอียิปต์ ฝ่ายอียิปต์ที่มี Cleopatra อันโด่งดัง อยากเอาใจฝ่าย Caesar จึงจับ Pompey ตัดหัวเป็นของขวัญให้ Caesar ต่อมา Caesar เดินทางไปอียิปต์และพบกับ Cleopatra จนมีลูกด้วยกันหนึ่งคน จากนั้นจึงกลับโรม
Caesar ในขณะนั้นเป็นผู้ที่มีอำนาจและมีชื่อเสียงที่สุดในโรม เป็น War Hero ของโรม กลับเสียชีวิตในปี 44 BC โดยถูกลอบสังหารจากกลุ่มนักการเมือง Senate ในขณะที่มีการอภิปรายทางการเมืองกันอยู่ โดยกลุ่มนักการเมืองทำทีเข้ามาล้อม Caesar แล้วร่วมกันใช้มีดสั้นแทง Caesar ถึง 34 ครั้ง ถือเป็นการจบชีวิตของนักรบผู้ยิ่งใหญ่ของโรม
ชีวิตของ Caesar ให้ข้อคิดหลายอย่างทั้งในแง่การใช้ชีวิตและการลงทุน ข้อแรก ความผิดพลาดมักเกิดขึ้นในที่ๆ เราไม่คาดฝัน สนามรบอันดุเดือดทำอะไร Caesar ไม่ได้ แต่นักการเมืองที่ดูไม่มีพิษสงกลับเป็นคนปลิดชีวิต Caesar
ข้อสอง ไม่ว่าเราจะทำดีแค่ไหน ทำประโยชน์มากมายให้แก่ชาติบ้านเมือง ก็จะมีคนบางคนไม่ชอบอยู่ดี อาจมองเราว่าเก่งเกินไป เป็นอันตราย หรืออาจจะหมั่นไส้ในความสำเร็จของเรา สิ่งนี้เราคงแก้อะไรไม่ได้มาก ที่ทำได้คือควรพยายามใช้เวลากับคนดีๆ คนชั่ว คนขี้อิจฉา พยายามอยู่ให้ห่างเข้าไว้จะดีที่สุด แล้วจะมีความสุขมากขึ้นเยอะเลย
ข้อสาม จุดเปลี่ยนสำคัญของ Caesar คือการเข้าทำสงครามกับ Gaul บางครั้งหากเราอยากประสบความสำเร็จ เราต้องเสี่ยงบ้าง เพราะหากไม่คิดจะเสี่ยงเลย ทั้งชีวิตคงได้แค่อยู่ไปวันๆ ดังนั้น No gut, no glory
ข้อสี่ Caesar อ่านประวัติของ Alexander the Great คงมอง Alexander เป็น Role model ที่วันนึงจะได้ Conquer the world บ้าง ดังนั้น สำคัญมากที่เด็กรุ่นใหม่ควรมี Role model ที่ดีเพื่อเป็นแบบอย่างในการดำรงชีพและใช้ชีวิตให้คุ้มค่า นึกย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน การที่ผมเลือก ดร. นิเวศน์ เป็น Role model ในด้านการลงทุนถือเป็นการกระทำที่ประมาณค่าไม่ได้
ข้อห้า เวลามีค่าที่สุด และผ่านไปเร็วมาก หากท่านอายุครบ 33 ปี ลองถามตัวเองว่าประสบความสำเร็จอะไรบ้างแล้ว
Happy investing