Thai VI

IR_ACAP เขียน:Capital OK(สินเชื่อรายย่อย)
- ในส่วนของสินเชื่อรายย่อย เราจะโฟกัสไปที่กัมพูชา โดยไปกับพาร์ทเนอร์ในลักษณะของ JV
- ที่เราไม่โฟกัสในไทย เพราะการแข่งขันสูงมาก และหนี้ครัวเรือนในประเทศไทยเยอะมากแล้ว ไม่อยากสร้างนิสัยของคนไทยให้เป็นหนี้โดยไม่จำเป็น
- สนใจเวียดนาม พม่า กัมพูชา
- สนใจพม่าเพราะประชากรเยอะ และมีความต้องการสินเชื่อเยอะเนื่องจากประเทศเพิ่งจะเริ่มต้น
- ถ้า ไปประเทศเพื่อนบ้านต้องได้ %margin มากกว่า 5-7%ที่ดีกว่าในประเทศ ถ้าน้อยกว่านี้เราเชื่อว่าเราเติบโตในประเทศง่ายกว่า ความเสี่ยงต่ำกว่า
- ระบบแบงก์ในกัมพูชายังไม่แข็ง ส่วนมากจะเป็นแบงก์ต่างชาติเข้ามาลงทุนในรูปแบบของ Micro finance โดยปล่อยเป็นเงิน usdเพราะค่าเงินท้องถิ่นยังไม่แข็ง
- คนกัมพูชาส่วนใหญ่พึ่งพิงการกู้เงินจาก non-bank
- เป็นสาเหตุที่ทำให้ micro finance ในกัมพูชาโตมากโดยมีอัตราดอกเบี้ยประมาณ 30%
- คนในกัมพูชากู้ bank แทบไม่ได้เลย ต้องกู้กับ micro finance เกือบหมด
- สาเหตุที่คนในกัมพูชา ไม่เบี้ยวหนี้ เพราะระบบสังคมกัมพูชายังเป็นลักษณะคล้ายสังคมปิดcollectorรู้จักทุกคนในชุมชนถ้ามีการเบี้ยวหนี้ก็จะรู้ข้อมูลถึงกันหมด
- กำไรของ partner ในกัมพูชามีกำไรประมาณ 450 ล้าน ทำธุรกิจมาแล้ว 7 ปี
- ถ้า merge กันได้อาจจะไปพม่ารวมถึงอาจมีการกลับมาปล่อยสินเชื่อในประเทศไทยด้วย
- ที่ต้องการจะ JV กับcapital OK เพราะทางพาร์ทเนอร์อยากจะให้บริษัทใหม่เข้ามาลิสต์ในประเทศไทย เพราะ ตลาดไทยมี pe สูง
- ยังกำหนด timing ไม่ได้ เพราะดูกันเยอะ แต่ผู้บริหารรู้จักกันมานานกว่า 3 ปีแล้ว
- มีโอกาสปล่อยกู้โดยใช้เงินสกุลต่างประเทศมั้ย >> ในประเทศกัมพูชาปล่อยเป็นสกุลเงิน US ดอลล่าห์ผู้บริหารให้ข้อมูลว่าเงินที่ปล่อยกู้จะมาจากหลายแหล่ง
- จะมีการเซ็น NDA กับพาร์ทเนอร์ที่กัมพูชาเร็วๆนี้


OK Cash (สินเชื่อรายใหญ่)
- มีลูกค้ารออยู่เยอะมาก ไม่กลัวขายฝากหาลูกค้าไม่ได้พอร์ต 6,000 ล้านมั่นใจว่าทำได้
- เราใช้เวลาแค่ไหนในการพิจารณา >> ขึ้นอยู่กับโปรเจคต์นานสุดคือเดือนครึ่งในขณะที่แบงก์บางทีต้องรอมีประชุมบอร์ด ซึ่งการให้กู้ในแต่ละโปรเจคต์เกิน 6 เดือน
- เวลามีการroll overหนี้เราหักดอกเบี้ยทันที เหมือนในการปล่อยกู้ปกติ
- เป้าออก bond 4,000 ล้าน ดอกเบี้ย 5.5% (bond รอบก่อน 5.6%) เป็น non-rate
- กำลังทำ rating กับ ทริส
- ตั้งเป้า D:E ไม่เกิน 6 เท่า (ปัจจุบัน 3.5 เท่า)
- หลักประกัน (collateral) ในแต่ละแปลงจะมี LTV (Loan to value) ต่ำกว่า 50% โดยในเคสล่าสุดอยู่แค่ 30-40%
- พยายามลดการปล่อยตั๋ว be ลง แล้วไปปล่อยขายฝากมากขึ้น bond 4,000 ล้านที่จะออกเพิ่มตั้งเป้าว่าจะไปปล่อยขายฝากเป็นหลัก เพราะขายฝากกำไรมากกว่าการออกตั๋ว be 3%
- ปัจจุบันพอร์ตขายฝากอยู่ 2,500 ล้าน (be = 2,000ล้าน)
- ลูกค้าขายฝากประมาณ 80% อยู่ในกลุ่มอสังหาฯ
- กรีนทาวน์ roll over ประมาณ 3-4 ครั้ง แล้ว เป็นลูกค้าชั้นดี บริษัทมั่นใจว่าลูกค้าจะไม่ปล่อยให้ที่ถูกยึด
- คดีกรีนทาวน์ที่มีชาวบ้านถูกชายชุดดำบุกรุกพื้นที่ >> ผู้บริหารแจ้งว่าคดีนี้จบไปแล้ว ชาวบ้านต้องการที่จะเรียกร้องเงิน จึงทำการฟ้อง แต่สิทธิ์ในที่ดินเป็นของกรีนทาวน์


GSC (Call center)
- น่าจะเข้าตลาดปีหน้า
- ปัจจุบันพนักงานเกิน 500 seats แล้ว ทั้งปีน่าจะ 500-550
- turnover rate ของพนักงานลดลง แต่เพราะปกติใช้เด็กจบใหม่ ก็เลยยังมีส่วนที่ชอบเปลี่ยนงานอยู่ (มีพนักงานประจำประมาณ 100 กว่าคน)
- GSC เรทเงินเดือนเราถูกกว่าหรืออาจจะพอๆกับOperator อื่นๆแต่ในเรื่องส่วนของสวัสดิการเราดีกว่า
อื่นๆ
- มีประเด็นกังวลอื่นๆ มั้ย >> ขายหุ้นกู้ไม่ได้ >> ผู้บริหารแจ้งว่าไม่กังวล
- หุ้นกู้ยังขายไม่ได้ถึง 1,000 ล้านตามเป้า เป็นไปตามสภาวะตลาดโดยน่าจะได้ประมาณ 5-600 ล้าน แต่ผู้บริหารยืนยันว่าเราทำงานได้
- แบงก์ชาติกำลังลดความคุ้มครองเงินฝากลง ซึ่งน่าจะส่งผลดีกับการขายหุ้นกู้
- IFRS >>ไม่กระทบเรา เพราะ collateralเราสูงกว่าเงินที่เราปล่อยสินเชื่อ มูลค่าที่เราปล่อยสูงกว่ามูลค่าบังคับขายทุกกรณี
- สิทธ์ประโยชน์ทางภาษี ยังเหลือยังไงบ้าง >>ปีนี้น่าจะมีน้อยแล้ว เราน่าจะเสียภาษีประมาณปีหน้า
- USA ตั้งใจขึ้นดอกเบี้ย >>ไม่กังวล เพราะดอกเบี้ย bond สูงกว่าเยอะมาก ไม่น่ากระทบ


"หมายเหตุ เนื้อหาของการสรุป CV ในครั้งนี้ เป็นเนื้อหาที่สรุปโดยทางทีมของสมาคมฯ แต่ได้ผ่านการคัดกรองเนื้อหาจากทางบริษัทแล้ว"