“หาหุ้น” ในยาม...หายาก ตอนที่ 1 โพสต์ทูเดย์ 21 ก.พ. 60
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 08, 2017 7:44 am
หนังสือพิมพ์ โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560
“หาหุ้น” ในยาม...หายาก ตอนที่ 1
ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต
http://www.CsiSociety.com
Add Line: @CsiSociety
อาจกล่าวได้ว่า เป็นกิจวัตรประจำ 4 เดือน ที่ทางโครงการนักลงทุน CSI วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต จะต้องทำนั่นคือการ “หาหุ้น” เพื่อให้นักศึกษาของโครงการได้มาประลองฝีมือในการวิเคราะห์ ประเมินราคา และหาให้พบว่า หุ้นตัวๆนั้นมีความสามารถในการแข่งขันและมีราคาที่น่าลงทุนไหม เกือบทุกครั้งที่เราหาหุ้นกันก็จะไม่ค่อยยากนัก แต่ในครั้งนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์บ้านเราอยู่ประมาณ 1,600 จุดเข้าไปแล้ว หุ้นส่วนใหญ่จึงมีราคาปรับตัวขึ้น ดังนั้นการหาหุ้นในครั้งนี้ จึงอยู่ในสภาพที่...หายากยิ่ง
ในรุ่นที่ 12 ที่เพิ่งเปิดไปนี้ ทางโครงการจึงได้ระดมยอดฝีมือมาเป็นผู้ช่วยสอน (Teaching Assistant – TA) จำนวน 5 ท่าน มีท่านอาจารย์ประกิต สิริวัฒนเกตุ (อาจารย์ปิง) ที่กรุณามาเป็นผู้ให้นโยบายและเทคนิคในการหาหุ้น และมีผม (วีรพงษ์) รวมเป็น 7 ท่าน เป็นคณะทำงานในการหาหุ้นโดยมีสมมติฐานในการหาหุ้นดังนี้ครับ
• หุ้นตัวนั้นๆ จะต้องมีความสามารถที่โดดเด่น สามารถเอาชนะคู่แข่งขันได้อย่างแข็งแกร่ง และมีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดของตนสูงที่สุด หรือเกือบสูงที่สุด
• หุ้นตัวนั้นๆ จะต้องมีราคาที่พอรับได้ นั่นหมายถึง ราคาไม่จำเป็นจะต้องถูก แต่จะต้อง “ไม่แพง” เกินกว่าพื้นฐาน และโอกาสในอนาคต
• หุ้นตัวนั้นๆ ควรจะมีแนวโน้มที่จะมีเหตุการณ์ที่จะทำให้ราคาปรับตัวขึ้นได้ ภายใน 3-6 เดือนนี้
• ที่สำคัญที่สุดคือ ผู้บริหารจะต้องมีธรรมาภิบาล และมีความสามารถเพียงพอที่จะนำบริษัทนั้นๆไปสู่ความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ให้จงได้
ในที่สุดคณะทำงานก็ได้หุ้นมา 5 ตัว โดยหุ้นตัวที่ 1 อยู่ในกลุ่มสื่อสาร หุ้นตัวที่ 2 เป็นโรงพยาบาล หุ้นตัวที่ 3 เป็นซัพพลายเออร์ของร้านสะดวกซื้อ และยังมีสินค้าบริโภคขายในประเทศเพื่อนบ้าน หุ้นตัวที่ 4 เป็นสินค้าบริโภคชื่อดังของเมืองไทย และเป็นสินค้ายอดฮิตของนักท่องเที่ยวอีกด้วย และหุ้นตัวสุดท้าย เป็นสินค้าที่ผู้ใหญ่มักจะใช้กัน ทั้งนี้ผมจะขออนุญาตคุยให้คุณผู้อ่านได้เข้าใจถึงความเก่งกาจของหุ้นเพียง 4 ตัวเท่านั้น ตัวที่ 5 หรือตัวสุดท้ายจะขออนุญาตไม่คุยให้ฟังนะครับ ดังนี้ครับ
หุ้นตัวที่หนึ่ง
หนึ่งในผู้นำในตลาดสถานีฐาน (Base Station) และอุปกรณ์โทรคมนาคม
เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการเจ้าใหญ่ในตลาดการสร้างสถานีฐาน (Base Station) สาย Fiber Optic สายนำสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุ (RF Feeder Cable) และอุปกรณ์เครือข่ายไร้สาย (Wi-Fi) เป็นต้น โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักคือ กลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Operator) และกลุ่มผู้ให้บริการสร้างสถานีฐานและให้บริการติดตั้งอุปกรณ์โทรคมนาคม (Contractor)
บริษัทยังได้เล็งเห็นถึงช่องทางการทำธุรกิจเพิ่มเติมในสินค้ากลุ่มตู้โทรคมนาคม (Telecom Shelter) ซึ่งเดิมสินค้าที่มีอยู่ในตลาดมักจะเป็นตู้ขนาดใหญ่และราคาสูง จึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการลดต้นทุนของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ ดังนั้นบริษัทจึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางการค้าในการผลิตและจำหน่ายตู้โทรคมนาคม โดยสินค้าของบริษัทจะมีขนาดและคุณสมบัติต่างๆที่สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้าภายใต้ต้นทุนที่ต่ำกว่า
บริษัทยังได้ร่วมกับพันธมิตรทางการค้าในการพัฒนาสถานีโทรคมนาคมเคลื่อนที่ (Rapid Deployment Unit: RDU) เพื่อใช้ทดแทนสินค้าที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศซึ่งมีราคาสูงและใช้ระยะเวลานานในการสั่งซื้อ โดยทางบริษัทสามารถพัฒนาสถานีโทรคมนาคมเคลื่อนที่ให้มีขนาดและความสามารถในการใช้งานที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าภายใต้ต้นทุนที่ถูกกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งนี้สถานีโทรคมนาคมเคลื่อนที่ของบริษัทประเภท Cell on Legs นั้น ยังได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทการให้บริการโทรคมนคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริกรเพื่อสังคม (Telecom Universal Service Obligation : USO) อีกด้วย
อีกธุรกิจหนึ่งที่บริษัทได้ขยายออกไปก็คือ ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าประเภทสายอากาศ (Antenna) โดยเริ่มจากการนำเข้าจากต่างประเทศ ได้ขยายขอบเขตการทำธุรกิจมาสู่การเป็นผู้ผลิตสายอากาศ (Antenna) และอุปกรณ์ป้องกันการรั่วของสัญญาณ (PIM Load) โดยมีจุดเด่นคือ การสามารถปรับปรุงและพัฒนาสินค้าร่วมกับลูกค้า เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้าแต่ละรายให้ได้มากที่สุด ซึ่งส่งผลให้ได้รับโอกาสในการนำเสนอสินค้าที่ต้องมีการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะอย่างจากกลุ่มลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการซ่อมแซมอุปกรณ์โทรคมนาคมอีกด้วย จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งกลุ่มธุรกิจให้บริการและธุรกิจจำหน่ายสินค้าในกลุ่มโทรคมนาคม ประกอบกับการมองอนาคตได้ขาดของผู้บริหาร ที่เห็นถึงแนวโน้มการพัฒนาธุรกิจโทรคมนาคมในต่างประเทศ บริษัทจึงนับเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการในประเทศไทยที่เป็นผู้นำเสนอแนวคิดเรื่องการใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมร่วมกัน (Telecommunication Infrastructure Sharing) ให้แก่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Operator)
จุดเปลี่ยนทางด้านประเภทรายได้ที่สำคัญ บริษัทได้เริ่มประกอบธุรกิจให้เช่าโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้แก่กลุ่มบริษัท โดยเริ่มโครงการที่นิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง เป็นการวางโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic cable) เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมโดยใช้โครงข่ายเดียวกัน ซึ่งเป็นการช่วยลดต้นทุนการลงทุนในการวางโครงข่ายของผู้ให้บริการโทรคมนาคม อันได้แก่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต และเป็นการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าของนิคมอุตสาหกรรม
นอกจากนั้น บริษัทยังคงคิดที่จะสร้างรายได้ในรูปแบบความมั่นคงของรายได้และกำไรในระยะยาวต่อไปอีก โดยเฉพาะจากธุรกิจให้เช่าโครงข่ายโทรคมนาคม โดยมีรูปแบบการลงทุนอยู่ 2 ลักษณะด้วยกันคือ บริษัทลงทุนเอง และกิจการร่วมค้า
บริษัทยังมุ่งหวังขยายในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น แผนการใช้งานโครงข่ายโทรคมนาคมภายในอาคารโดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า โดยจะร่วมกับผู้ให้บริการ Content ต่างชาติและ Mobile Operator เพื่อให้บริการ App โปรโมชั่นซื้อสินค้า โดยบริษัทได้วางแนวทางในการหารายได้เป็น 2 รูปแบบคือ ค่าเช่าโครงข่าย และส่วนแบ่งรายได้จากการใช้ App จากร้านค้า ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างตกลงรายละเอียดการให้บริการ
วันพรุ่งนี้ ขอเชิญพบกับ... หุ้น 3 ตัวที่เหลือ ในบทความ “หาหุ้น ในยาม...หายาก” ตอนจบ
แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะครับ
หาอ่านบทความ และความรู้ด้านการลงทุนของผู้เขียนได้เพิ่มเติมได้ที่ http://www.doctorwe.com
ติดตามตอนจบ ได้ที่ลิงก์นี้... http://www.doctorwe.com/posttoday/20170222/6664