หน้า 1 จากทั้งหมด 1

[b][u]The Wisdom Wealth Avenue : Investor’s Next Move[/u][/b

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2016 6:32 am
โดย amornkowa
The Wisdom Wealth Avenue : Investor’s Next Move

ช่วง ปรับการลงทุนให้สอดรับเศรษฐกิจอย่างไรให้รุ่ง 11 Oct 16

คุณเผดิมภพ กรรมการผู้จัดการ KS ได้เกริ่นนำ ด้วย รูปภาพ ของ นาฬิกาการลงทุน

เริ่มจาก 1. Inflation Rise 2. Growth Weakens 3. Inflation Falls 4. Growth Recovers

ช่วงที่ดี คือ ช่วง Recovery

เป็น ช่วงที่แย่และแย่น้อยลง อัตราดอกเบี้ยต่ำ ดอกเบี้ยเป็นขาลง เงินเฟ้อต่ำ เป็นช่วงที่ดีที่สุด หุ้นเป็น First Priority ที่ต้องลงทุน


ช่วงต่อมา Boom คือ เศรษฐกิจพอไปได้ แต่โตน้อยลง อัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อกำลังเพิ่มขึ้น เป็นช่วงน่าซื้อ

อันดับหนึ่ง คือ สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น สินค้าน้ำมัน ปิโตรเคมี ถ่านหิน ทองคำ

รองลงมาคือ หุ้น ให้ trade แบบ sideway

กลางปีที่แล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันเริ่มขึ้น ทองคำเลยขึ้นเร็วมาก


ช่วงถัดไป Slowdown สถานการณ์เศรษฐกิจเริ่ม slowdown ดอกเบี้ยก็ขึ้นอีก ต้องเก็บเงินสดอย่างเดียว ฝากออมทรัพย์


ช่วงสุดท้าย Recessopm อัตราเงินเฟ้อสูงสุด เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ เมื่อดอกเบี้ยขึ้นสูงสุด ตอนนี้โลกยังไม่เกิด เพราะดอกเบี้ยยังต่ำอยู่ เมื่อดอกเบี้ยขึ้นสูงที่สุด รายได้ลดลง GDP ลดลง ต้องซื้อตราสารหนี้ระยะยาว

หรือ พันธบัตรรัฐบาล 5-10 ปี


นื่คือกลยุทธการจัดสินทรัพย์ตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งรอบนึงใช้เวลาประมาณ 12 ปี

ตอนนี้เรามาดูแต่ละประเทศกัน


US เติบโตเด่นสุด แต่ โตน้อยลง จากการคาดการณ์ ดอกเบี้ยจะขึ้นปีนี้ครั้งเดียว และ จะขึ้นปีละ2 ครั้งในปี 2017 และ ปี 2018 ดอกเบี้ยจะไปพีคในปี 2018-19 ซึ่งจะตรงกับช่วงที่4 ปัจจุบัน ดอกเบี้ย 0.25-0.5%

ปีหน้าจะขึ้นอีก1% ตอนนี้ดอกเบี้ย Bottom และ จะขึ้นเร็ว สิ่งที่ทำให้ดอกเบี้ยขึ้นเร็วมาจาก

1. เศรษฐกิจบริการโต

2. การจ้างงานดีขึ้น

ดอกเบี้ยขึ้นแน่ๆ แต่การลงทุนขึ้นกับอนาคต แสดงว่า ดอกเบี้ยสหรัฐสิ้นสุดขาลงแล้ว


EU ไม่ขึ้นดอกเบี้ยแต่จะลด QE การลดพิมพ์แบงค์ ผมขอเสริมเองว่า ทำให้สภาพคล่องในระบบลดลง การเก็งกำไรลดลง


JP จะmanage yield curve ให้เป็นบวก จากปัจจุบัน ติดลบ เนื่องจากเดิมที่ทำ QE เพื่อให้หุ้นกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น

แต่ปรากฏว่า หุ้นในกลุ่มธนาคารลดลง Bond Yield ลดลง

สรุป ยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย แต่ดัน Bond yield ให้สูงขึ้น


ตอนนี้ เป็นช่วงของ Commodity หุ้นsideway และ จะเหวี่ยงเข้าหาเงินสดในปีหน้า


ดังนั้นในปีหน้า จะต้องมีเงินฝาก เป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วย commodity และ เงินสด

ให้รออีก 10 ปี หุ้นจะดี ตอนนี้สินค้า commodity น่าสนใจสุด


การลงทุนหุ้น ต้องดู PE Band


ตอนนี้ หุ้น US ดี แต่ราคาแพง รอซื้อตอนย่อ


หุ้น EU อังกฤษ ออก แต่ตัวเลขการผลิตของ EU เพิ่มขึ้น เชื่อว่าเศรษฐกิจแย่ แต่จริงๆไม่แย่ ทำให้หุ้นขึ้นยาก


หุ้น JP น่าใจ เพราะเศรษฐกิจแย่ ตัวเลข PMI ต่ำกว่า 50% ถ้าตัวเลขเกิน 50%เมื่อไหร่ หุ้นจะขึ้นเยอะเหมือน

ตอน US 2 ปีที่แล้ว หุ้นขึ้นหลังจาก ตัวเลข PMI สูงกว่า 50%


ส่วนหุ้นไทย ดัชนีวันนี้ 1430 PE 14 เท่า เก็งกำไร เล่นแต่ rebound

นักลงทุนระยะยาว ถ้าหุ้นลงไปที่ 1335 PE 13 เท่าต้องเข้าลงทุน



สรุป เศรษฐกิจโตช้าๆ ดอกเบี้ยสิ้นสุดขาลง

เมื่อก่อนหุ้นยิ่งแพง ยิ่งซื้อ เพราะดอกเบี้ยยังไม่ขึ้น

ตอนนนี้เงินเฟ้อเริ่มสูงขึ้น จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

หุ้นเป็นทางเลือกอันดับสอง ให้ซื้อใน ช่วง PE 13-15

อันดับหนึ่งคือให้เลือกกลุ่มพลังงงาน ปิโตรเคมี โรงกลั่น ประกันชีวิต และ ธนาคาร