Thai VI

ผลการตรวจสอบ ปรากฎว่าเป็นความผิดของพนักงานสินเชื่อ ส่วนผู้บริหารระดับสูงไม่มีความผิด

ผมเป็นงงครับ ปรกติเวลาพิจารณาสินเชื่อนั้นจะมีการอนุมัติตามวงเงิน ถ้าวงเงินมากๆก็ต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการหลายชั้นหลายระดับ ถ้ามากอย่างที่เป็ฯข่าวก็น่าจะถึงขั้นสูงสุดคือคณะกรรมการบริหารของธนาคาร แน่นอนจะอนุมัติหรือไม่นั้นย่อมเป็นอำนาจของคณะกรรมการ เจ้าหน้าที่บริหารสินเชื่อซึ่งมีเงินเดือนอันน้อยนิดคงไม่มีอำนาจอะไรเลยครับ

แล้วทำไมถึงไปมีความผิดที่เจ้าหน้าที่สินเชื่อละครับ หรือว่ากรรมการของธนาคารนั้นรับแต่ชอบไม่ต้องรับผิดครับ มีใครเอาปืนมาจี้บังคับให้เซ็นต์ชื่ออนุมัติหรือไม่ ก็เปล่า

การตรวจสอบก็ไม่ยากเพราะเอกสารในการขออนุมัติสินเชื่อนั้นย่อมมีรายเซ็นต์ของกรรมการเป็นหลักฐานอยู่แล้วครับ

ผมผิดหวังกับกรรมการสอบสวนเป็นอย่างมากในกรณีนี้

ใครเป็นผู้ถือหุ้นธนาคารกรุงไทย น่าจะซักถามหาคำตอบให้มากๆครับ

โดยปกติเวลาจะกู้เงิน ก้อต้องมีสินทรัพย์ไปค้ำการกู้ใช่มั้ยครับ ...
เพื่อนผมคนนึงทำงานอยู่ในบริษัท xxx เล่าให้ฟังว่า บริษัท xxx กู้เงินเพื่อไปซื้อ ฮ. แล้วสินทรัพย์ที่เอาไปค้ำก็คือ ฮ. ลำที่จะซื้อแหละครับ ... น่าขันนะครับ กับระบบปล่อยสินเชื่อของธนาคารนี้ แล้วจะไม่ให้หนี้เน่าท่วมออกมาได้ไง ....

แหม... พี่ฉัตรชัยครับ ก็วงเงินกู้มัน "แค่หลักพันล้าน" เองนี่ครับ เค้าคงมองว่ามันน้อยมั้ง

กู้เงินซื้อ ฮ. ก็สามารถนำ ฮ. มาเป็นหลักประกันได้ครับ เพียงแต่ว่าต้องไม่ใช่กู้เงิน 100% มาซื้อ ฮ. นะครับ

จริงๆแล้ว หลายบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่มีฐานะทางการเงินที่ดี สามารถขอสินเชื่อเงินกู้โดยไม่มีหลักประกันก็ได้ครับ หลานธนาคารแย่งกันปล่อยกู้ แย่งกันลดดอกเบี้ย แต่บริษัทเหล่านี้ก็ไม่กู้ยืมครับ

เห็นใจกับธุรกิจ ประเภทนี้ครับ ใช้คำว่า Credit มีมากก็ปล่อยมาก ถึงขั้นไม่ต้องมีอะไรค้ำเลย มีแค่คำว่า credit

พอปล่อยมาก มีการชำระคืนไม่ได้ตามคาด ก็เลย คาดว่ากลายเป็น NPL

เกิดวงแตก กลัวกันไปต่างๆนาๆ ต้องเห็นใจและเข้าใจลักษณะธุรกิจปล่อยสินเชื่อครับ ( NPL ยังไงก็ต้องมีแน่จะมากหรือน้อย )


ข่าวบางทีปล่อยออกมาด้านจิตวิทยาเกิดอาการกลัว ไม่ควรตื่นจนเกินเหตุ ถ้ามองในทางกลับก็ถือว่าดี จะได้ช่วยกันระวัดระวัง ตรวจสอบกันอย่างรัดกุม

สรุปอย่าตื่นกลัวตามข่าวลือ

(เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวครับ)[/u]

ต้องดูที่เจตนาของเจ้าหน้าที่ด้วยครับ

การประเมิณราคาทรัพย์สินที่นำมาค้ำ

ตั้งใจมองในแง่ดีเกินไปไหมครับ

ก่อนจะสรุปเรื่องหลักทรัพย์ค้ำประกันให้ บอร์ดอนุมัติ

คือเจ้าหน้าที่ไม่ได้โกงนะครับ

แต่เลือกแต่ส่วนดีดี สรุปมาให้หรือเปล่าครับ

ทางที่ดี ต้องได้อ่านรายละเอียด

ที่คณะกรรมการตรวจสอบสรุปมา

ถึงจะยุติธรรมนะครับ

ถ้าอ่านเฉพาะบทสรุป เราอาจจะเข้าใจผิดได้มั้งครับ

Chlorophyle เขียน:โดยปกติเวลาจะกู้เงิน ก้อต้องมีสินทรัพย์ไปค้ำการกู้ใช่มั้ยครับ ...
เพื่อนผมคนนึงทำงานอยู่ในบริษัท xxx เล่าให้ฟังว่า บริษัท xxx กู้เงินเพื่อไปซื้อ ฮ. แล้วสินทรัพย์ที่เอาไปค้ำก็คือ ฮ. ลำที่จะซื้อแหละครับ ...

ตอนผมกู้เงินซื้อบ้าน ผมก็เอาที่จะซื้อนี่แหละครับเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
มันแปลกตรงไหนครับ

เรื่องปล่อยกู้ผมว่าก็น่าเห็นใจแบงก์ในระดับหนึ่งครับ ถ้าเข้มงวดเกินไป
แบงก์ก็จะกำไรน้อยกว่าแบงก์อื่น ผลการดำเนินงานก็จะย่ำแย่ (เพราะเงิน
ฝากมีต้นทุน) โดนผู้ถือหุ้นด่า ถ้าปล่อยมากไป เกิดเศรษฐกิจหดตัว ลูกหนี้
ไม่มีปัญญาจ่าย ก็กลายเป็น NPL โดนด่าอีก

ก็เลยไม่เคยและไม่ยอมซื้อหุ้นแบงก์ครับ -- นอกจาก SCIB-C1