หน้า 1 จากทั้งหมด 1
วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 05, 2016 11:53 pm
โดย phakphum
ช่วยแชร์วิธีการบันทึกข้อมูลหุ้นทีครับ
ในส่วนปัจจัยพื้นฐานนะครับ
ของผมอ่าน 56-1 แล้วจดโน็ต ในสมุด แต่ปัญหาคือหาหุ้นในสมุดที่จดไม่เจอ 555..
อยากทราบวิธีการของเพื่อนๆครับ
Re: วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 06, 2016 12:44 am
โดย nut776
google sheet words น่าจะช่วยได้
Re: วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 06, 2016 4:18 pm
โดย b4solid
ใช้ Microsoft onenote ครับผม
Re: วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 06, 2016 5:27 pm
โดย nut776
b4solid เขียน:ใช้ Microsoft onenote ครับผม
ใช้บน surface ป่าวคับบ
ผมเล็งๆไว้เหมือนกัน เหมืิอนเวลา อ่าน pdf จะวงๆ ขีดๆเขียนๆได้ใช่ไหมคับ
Re: วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 08, 2016 9:17 am
โดย phakphum
ผมลองมาหลายวิธีครับ แต่ที่ดีที่สุดน่าจะเป็นการจดลงสมุดบันทึก เพราะการจดช่วยให้จำ แต่หายากในการอ่านย้อนหลัง
Re: วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 08, 2016 10:31 am
โดย ส.สลึง
เขียนใส่ A4/A3 แล้วเก็บเข้าแฟ้ม มีข้อมูลใหม่ๆ ก็เขียนแทรกได้ครับ
Re: วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 08, 2016 1:58 pm
โดย b4solid
ใช้กับ surface ก็ได้ครับ แต่ผมใช้กับ notebook
เมื่อก่อนโน้น ผมก็เคยจดเอา แต่พอเปลี่ยนมาใช้ onenote สะดวกมากๆ
เราสามารถแบ่งเป็นสมุดๆ ได้ เช่น สมุดหุ้น สมุดความรู้ด้านบัญชี
และแยกย่อย เช่นสมุดหุ้น แบ่งเป็นหมดต่างๆ เช่น หมวดหุ้นที่สนใจ หมวดจับตามอง
จากนั้น ก็แบ่งย่อย เป็นหุ้นแต่ละตัวในแต่ละหมวดอีกที
สะดวกมากๆ เปลี่ยนมาใช้แล้วจะติดใจครับ มันลงวันที่ให้ เราสามารถ search ได้ อีกทั้ง onenote มันไม่ต้อง save มันจะ save อัตโนมัติตลอด
แรกๆ อาจจะงง เดี่ยวใช้บ่อยๆ ก็จะชินไปเอง ง่ายๆ เหมือน word excel
nut776 เขียน:b4solid เขียน:ใช้ Microsoft onenote ครับผม
ใช้บน surface ป่าวคับบ
ผมเล็งๆไว้เหมือนกัน เหมืิอนเวลา อ่าน pdf จะวงๆ ขีดๆเขียนๆได้ใช่ไหมคับ
Re: วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 08, 2016 3:59 pm
โดย nut776
b4solid เขียน:ใช้กับ surface ก็ได้ครับ แต่ผมใช้กับ notebook
เมื่อก่อนโน้น ผมก็เคยจดเอา แต่พอเปลี่ยนมาใช้ onenote สะดวกมากๆ
เราสามารถแบ่งเป็นสมุดๆ ได้ เช่น สมุดหุ้น สมุดความรู้ด้านบัญชี
และแยกย่อย เช่นสมุดหุ้น แบ่งเป็นหมดต่างๆ เช่น หมวดหุ้นที่สนใจ หมวดจับตามอง
จากนั้น ก็แบ่งย่อย เป็นหุ้นแต่ละตัวในแต่ละหมวดอีกที
สะดวกมากๆ เปลี่ยนมาใช้แล้วจะติดใจครับ มันลงวันที่ให้ เราสามารถ search ได้ อีกทั้ง onenote มันไม่ต้อง save มันจะ save อัตโนมัติตลอด
แรกๆ อาจจะงง เดี่ยวใช้บ่อยๆ ก็จะชินไปเอง ง่ายๆ เหมือน word excel
nut776 เขียน:b4solid เขียน:ใช้ Microsoft onenote ครับผม
ใช้บน surface ป่าวคับบ
ผมเล็งๆไว้เหมือนกัน เหมืิอนเวลา อ่าน pdf จะวงๆ ขีดๆเขียนๆได้ใช่ไหมคับ
สงสัย ผม ไม่รอด surface แน่
ขอบคุณคับ
เล็งมานาน ดูรีวิว กะไม่เหมือน คนใช้งานตรงด้านที่เราอยากรู้ มาเล่า
Re: วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 09, 2016 5:10 am
โดย vim
ผมมักจดสรุปสั้นๆเป็นข้อๆ ลง spreadsheet ครับ แบ่งเป็นตาราง เช่น จุดที่ต้องจับตามอง หรือ SWOT อะไรแบบนี้
ข้อดีคือถ้ามีข้อมูลตัวเลขก็จะรวบไว้ตรงนั้นได้เลย ข้อมูลเชิงตัวเลขมันจะเห็นชัดเจน อันนี้เอาไว้กันลืมได้ ผมใส่ไว้ใน folder เดียวกับงบการเงิน และเอกสารอื่นๆของบริษัท
ข้อเสียคือจดอะไรยาวๆไม่ค่อยดี ข้อมูลเชิงคุณภาพอาจจดได้ไม่ละเอียด แต่เวลาเอาไว้อ่านเองผมคิดว่าไม่ต้อเขียนยาวๆก็ได้ เพราะส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพนี้ผมว่าคนมักไม่ค่อยลืมกัน แต่ถ้าจะไปคุยกับคนอื่นนี่คงต้องใช้วิธีอื่น เพราะโน้ตย่อเกินไปคนอื่นเขาอ่านไม่เข้าใจเหมือนเรา
Re: วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 10, 2016 3:31 pm
โดย romee
เขียนลง word ธรรมดานี่แหละคับ
แยกfolder เป็นชื่อหุ้นไว้ แล้วดูว่าข่าวกับที่ ผบห.พูดไว้ ทำได้จริงหรือเปล่า
Re: วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 12, 2016 9:57 am
โดย chaitorn
Worksheet แบบนี้ ลองประยุกต์ใช้ดูนะครับ ค่อนข้างเป็นระบบ คงต้องมีวินัยพอควรครับ
http://freefincal.com/wp-content/upload ... -2015.xlsm
Re: วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 22, 2020 9:32 am
โดย tono106
ผมพึ่งรื้อวิธีจดเหมือนกันครับ เมื่อก่อนจดสะเปะสะปะ จดแล้วใช้ไม่ได้เลย
ตอนนี้พยายามจดใน google sheet
- มีวันที่อ้างอิง เหตุผล ประมาณการณ์ จะได้มาลิงก์กับ งบที่ผ่านมาแล้วว่า งบดีหรือไม่ดีเกิดจากปัจจัยอะไร
- จดให้น้อย เพราะจดเยอะไปก็งง
- พยายามลองเอาข่าว มาจดปรับกับประมาณการหุ้นที่เคยทำไว้ ว่ามีผลมากน้อยแค่ไหน ตลาดให้ราคากับปัจจัยที่เปลี่ยน มากน้อยอย่างไร
Re: วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 22, 2020 9:33 am
โดย tono106
ผมพึ่งรื้อวิธีจดเหมือนกันครับ เมื่อก่อนจดสะเปะสะปะ จดแล้วใช้ไม่ได้เลย
ตอนนี้พยายามจดใน google sheet
- มีวันที่อ้างอิง เหตุผล ประมาณการณ์ จะได้มาลิงก์กับ งบที่ผ่านมาแล้วว่า งบดีหรือไม่ดีเกิดจากปัจจัยอะไร
- จดให้น้อย เพราะจดเยอะไปก็งง
- พยายามลองเอาข่าว มาจดปรับกับประมาณการหุ้นที่เคยทำไว้ ว่ามีผลมากน้อยแค่ไหน ตลาดให้ราคากับปัจจัยที่เปลี่ยน มากน้อยอย่างไร
Re: วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 24, 2020 1:47 pm
โดย A61289
ผมแนะนำวิธี เก็บรวบรวมข่าวสารเก็บคลิปดีๆ ที่ผมใช้นะครับอาจจะไม่ตรงกับหัวข้อเท่าไหร่
วิธีนี้ สะดวกรวดเร็วมากเลยครับ ผมแชร์เข้า Facebook ตัวเองครับ
แล้วกดเห็น only me
ตอนนี้ Facebook ผมเหมือน ไดอารี่ มีทั้งคลิปและความเห็นของตัวเองเยอะแยะไปหมดเลยครับ แต่อย่าพลาดไปกด Public นะครับเดี๋ยวเพื่อนๆจะงงว่าอยู่ๆโพสต์อะไร 555
Re: วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 25, 2020 1:51 am
โดย Toro149
พวกโน๊ตที่เป็น Idea เขียนลง Private Blog แบบ Blogger, wordpress ครับ
ข้อดีคือมันออนไลน์ แยกเรื่องการลงทุนออกมาต่างหากได้ และมีระบบ Tag ไว้แยกชื่อหุ้น หรือกลุ่มหุ้นได้
พวกประมาณการต่างๆก็เข้า google sheet หุ้น/กลุ่มละ 1ไฟล์
ถ้าต้องบรรยายเยอะๆ ก็เข้า google doc หรือ google slide
พวกคลิป หรือ Link ข่าว ก็เข้า google keep ทำเป็น Task ไว้ เพราะบางคลิปยาวก็เก็บไว้แล้วค่อยหาเวลาดู ดูเสร็จก็กด Complete
Re: วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 26, 2020 10:51 pm
โดย AnieLee
ใช้ แอพ เกี่ยวกับ การจดโน๊ตต่างๆ บน iPad เก็บครับ
ส่วนการทำงบ ก็ใช้ excel บน PC พอทำเสร็จ ก็เอามาปะใน โน๊ตที่จดบน iPad อีกรอบหนึ่ง ในการสำรองข้อมูล ก็อัพขึ้น dropbox, google drive ได้ครับ
Re: วิธีการบันทึกข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหุ้น
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 28, 2020 3:40 pm
โดย PrasertsakK
ตอนนี้ ผมหันมาใช้ ONENOTE
ข้อดี app คือ
มันใช้ได้ทุก platform ทั้ง PC IPHONE IPAD Android เขียนที่ไหนก็ได้ ทุกที
มันแยกหน้าเป็น TAB ทำให้แยกหมวดหมู่ง่าย และ Search ข้อมูลที่เขียนไว้ก็ค่อนข้างง่าย
หน้าตาใช้ง่ายคุ้นเคย เพราะเป็นของ Microsoft
ผมใช้มา 2 ปีแล้ว การจัดการข้อมูลดีขึ้นมากครับ