โอกาสการลงทุนในประเทศเวียดนาม (1) : วิเคราะห์โครงสร้างมหภาค
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 12, 2016 10:35 am
โอกาสการลงทุนในประเทศเวียดนาม (1) : วิเคราะห์โครงสร้างเชิงมหภาคด้วย PESTEL
Politics (การเมือง)
เศรษฐกิจของเวียดนามขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนค่อนข้างสูง ทั้งในแง่ของการที่จีนเป็นผู้ส่งออกวัตถุดิบอุตสาหกรรมมาให้เวียดนาม และคู่แข่งของการส่งสินค้าไปยังตลาดโลก ในขณะที่ลูกค้าหลักของเวียดนามอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและยูโรโซน นอกจากนี้ เวียดนามยังอยู่ในขั้นตอนการเซ็นสัญญา TPP (Trans-Pacific Partnership) ซึ่งเป็นเขตการค้าเสรีที่จะลดภาษีนำเข้าส่งออกเหลือใกล้เคียงศูนย์ โดย TPP ถือเป็นโอกาสสำคัญในเชิงเศรษฐกิจ เนื่องจาก TPP มีส่วนแบ่ง GDP 38% การซื้อขาย 27.8% และประชากร 11.2% ของโลก โดยเวียดนามคาดการณ์ว่า GDP จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องปีละ 8 – 10% หลังเข้าร่วม TPP
Economic (เศรษฐกิจ)
เศรษฐกิจของเวียดนามในปัจจุบันยังมีโอกาสให้เติบโตอีกมาก โดยเฉพาะในส่วนของสาธารณูปโภคพื้นฐาน เนื่องจากปัจจุบันถนนของเวียดนามส่วนใหญ่ยังมีคุณภาพไม่ดีและต้องการการพัฒนาอีกมาก รวมไปถึงถนนขนาดใหญ่ที่จะรองรับการขนส่งของภาคอุตสาหกรรม
เศรษฐกิจของเวียดนามตกต่ำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดวิกฤตครั้งที่แล้ว ปัจจุบันเริ่มกลับมามีการเติบโตของ GDP อย่างแข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจของทั้งภูมิภาคจะชะลอตัวในช่วงปีที่ผ่านมาก็ตาม
อัตราเงินเฟ้อของเวียดนามที่เคยสูงอย่างต่อเนื่องเริ่มปรับลดลงจนอยู่ในช่วงที่มีเสถียรภาพ รวมไปถึงอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินดองด้วยเช่นกัน
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เวียดนามน่าสนใจ คือ ในปัจจุบัน debt/DGP ของเวียดนามเข้าใกล้ 65% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้แล้ว เวียดนามไม่มีนโยบายสร้างหนี้สาธารณะเพิ่มไปจากเดิม แต่จะใช้นโยบายเรียกเงินลงทุนเข้าประเทศแทน ทั้งในแง่การผ่อนปรนเชิงนโยบายการถือครองทรัพย์สิน การเปิดโอกาสให้บริษัทต่างประเทศร่วมลงทุนในโครงการต่างๆ การลดสัดส่วนการถือครองหุ้นของรัฐวิสาหกิจเพื่อระดมทุนจากประชาชนและนักลงทุนต่างชาติ รวมไปถึงเปลี่ยนนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราจากคงที่เป็นลอยตัวเพื่อสร้างเสถียรภาพให้การไหลเวียนของเงินทุน
Social (สังคม)
สังคมเวียดนามมีประชากรส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน มีค่ากลางของอายุอยู่ที่ประมาณ 29.2 ปี คน 93.4% สามารถอ่านออกเขียนได้ อัตราการเติบโตอยู่ที่ 1% ต่อไป นักศึกษาที่เรียนจบปริญญาตรีมีทักษะภาษาอังกฤษในระดับดี (ต้องสอบเพื่อเรียนจบ) โดยมีประชากรวัยหลังเกษียณอยู่ไม่ถึง 5% สังคมจึงเต็มไปด้วยคนหนุ่มสาวที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอีก 15 – 20 ปีข้างหน้า
Technology (เทคโนโลยี)
ในปัจจุบันเวียดนามกำลังสร้างเมืองดานังและโฮจิมินห์เพื่อเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรม IT โดยพยายามผลักดันธุรกิจเกี่ยวกับ IT ให้เติบโตมากขึ้น
Environment and Geographical (สิ่งแวดล้อมและภูมิศาสตร์)
เวียดนามตั้งอยู่ในทำเลทอง ฝั่งขวาติดมหาสมุทธแปซิฟิกซึ่งเป็นจุดของท่าเรือน้ำลึก ด้านบนติดกับมณฑลสำคัญของจีนซึ่งเป็นแหล่งส่งวัตถุดิบลงมายังเวียดนาม
Legal (กฎหมาย)
ระบบกฎหมายของเวียดนามยังคงอ่อนแอมาก เนื่องจากอำนาจการบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการรวมอยู่ในคนกลุ่มเดียว กฎหมายต่างๆ ยังไม่เข้มงวดและไม่เพียงพอ แต่ในแง่ของการลงทุน เวียดนามกำลังพยายามปรับปรุงกฎหมายให้เอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น เพื่อต้อนรับเงินทุนที่กำลังจะไหลมาจากต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งที่รัฐบาลปัจจุบันประกาศว่ากำลังจะให้เกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านั้นก็ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมคอมมิวนิสต์อย่างเวียดนามต้องเผชิญ
ถอดความและสรุปใจความสำคัญจากงานสัมมนา “ก้าวสู่การลงทุนหุ้นเวียดนามรับปี 2559” ซึ่งถ่ายทอดความรู้โดยทีมนักวิเคราะห์จาก Ho Chi Minh Security Corporation (HSC) บริษัทนายหน้าค้าหลักทรัพย์อันดับ 2 ของประเทศเวียดนาม
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทความ “โอกาสการลงทุนในประเทศเวียดนาม” ที่จะทยอยสรุปความและถ่ายทอดออกมาตามเวลาจะเอื้ออำนวย
บทความนี้จะเหมือนกับบทความในเพจลงทุนศาสตร์ เพราะผมลงข้อมูลในหน้าเพจของผมด้วยครับ ผิดพลาดประการใดเสนอแนะได้เลย ผมถอดความจากการสัมมนามาเฉยๆ ไม่มีความเห็นส่วนตัวนะครับ
Politics (การเมือง)
เศรษฐกิจของเวียดนามขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนค่อนข้างสูง ทั้งในแง่ของการที่จีนเป็นผู้ส่งออกวัตถุดิบอุตสาหกรรมมาให้เวียดนาม และคู่แข่งของการส่งสินค้าไปยังตลาดโลก ในขณะที่ลูกค้าหลักของเวียดนามอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและยูโรโซน นอกจากนี้ เวียดนามยังอยู่ในขั้นตอนการเซ็นสัญญา TPP (Trans-Pacific Partnership) ซึ่งเป็นเขตการค้าเสรีที่จะลดภาษีนำเข้าส่งออกเหลือใกล้เคียงศูนย์ โดย TPP ถือเป็นโอกาสสำคัญในเชิงเศรษฐกิจ เนื่องจาก TPP มีส่วนแบ่ง GDP 38% การซื้อขาย 27.8% และประชากร 11.2% ของโลก โดยเวียดนามคาดการณ์ว่า GDP จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องปีละ 8 – 10% หลังเข้าร่วม TPP
Economic (เศรษฐกิจ)
เศรษฐกิจของเวียดนามในปัจจุบันยังมีโอกาสให้เติบโตอีกมาก โดยเฉพาะในส่วนของสาธารณูปโภคพื้นฐาน เนื่องจากปัจจุบันถนนของเวียดนามส่วนใหญ่ยังมีคุณภาพไม่ดีและต้องการการพัฒนาอีกมาก รวมไปถึงถนนขนาดใหญ่ที่จะรองรับการขนส่งของภาคอุตสาหกรรม
เศรษฐกิจของเวียดนามตกต่ำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดวิกฤตครั้งที่แล้ว ปัจจุบันเริ่มกลับมามีการเติบโตของ GDP อย่างแข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจของทั้งภูมิภาคจะชะลอตัวในช่วงปีที่ผ่านมาก็ตาม
อัตราเงินเฟ้อของเวียดนามที่เคยสูงอย่างต่อเนื่องเริ่มปรับลดลงจนอยู่ในช่วงที่มีเสถียรภาพ รวมไปถึงอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินดองด้วยเช่นกัน
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เวียดนามน่าสนใจ คือ ในปัจจุบัน debt/DGP ของเวียดนามเข้าใกล้ 65% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้แล้ว เวียดนามไม่มีนโยบายสร้างหนี้สาธารณะเพิ่มไปจากเดิม แต่จะใช้นโยบายเรียกเงินลงทุนเข้าประเทศแทน ทั้งในแง่การผ่อนปรนเชิงนโยบายการถือครองทรัพย์สิน การเปิดโอกาสให้บริษัทต่างประเทศร่วมลงทุนในโครงการต่างๆ การลดสัดส่วนการถือครองหุ้นของรัฐวิสาหกิจเพื่อระดมทุนจากประชาชนและนักลงทุนต่างชาติ รวมไปถึงเปลี่ยนนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราจากคงที่เป็นลอยตัวเพื่อสร้างเสถียรภาพให้การไหลเวียนของเงินทุน
Social (สังคม)
สังคมเวียดนามมีประชากรส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน มีค่ากลางของอายุอยู่ที่ประมาณ 29.2 ปี คน 93.4% สามารถอ่านออกเขียนได้ อัตราการเติบโตอยู่ที่ 1% ต่อไป นักศึกษาที่เรียนจบปริญญาตรีมีทักษะภาษาอังกฤษในระดับดี (ต้องสอบเพื่อเรียนจบ) โดยมีประชากรวัยหลังเกษียณอยู่ไม่ถึง 5% สังคมจึงเต็มไปด้วยคนหนุ่มสาวที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอีก 15 – 20 ปีข้างหน้า
Technology (เทคโนโลยี)
ในปัจจุบันเวียดนามกำลังสร้างเมืองดานังและโฮจิมินห์เพื่อเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรม IT โดยพยายามผลักดันธุรกิจเกี่ยวกับ IT ให้เติบโตมากขึ้น
Environment and Geographical (สิ่งแวดล้อมและภูมิศาสตร์)
เวียดนามตั้งอยู่ในทำเลทอง ฝั่งขวาติดมหาสมุทธแปซิฟิกซึ่งเป็นจุดของท่าเรือน้ำลึก ด้านบนติดกับมณฑลสำคัญของจีนซึ่งเป็นแหล่งส่งวัตถุดิบลงมายังเวียดนาม
Legal (กฎหมาย)
ระบบกฎหมายของเวียดนามยังคงอ่อนแอมาก เนื่องจากอำนาจการบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการรวมอยู่ในคนกลุ่มเดียว กฎหมายต่างๆ ยังไม่เข้มงวดและไม่เพียงพอ แต่ในแง่ของการลงทุน เวียดนามกำลังพยายามปรับปรุงกฎหมายให้เอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น เพื่อต้อนรับเงินทุนที่กำลังจะไหลมาจากต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งที่รัฐบาลปัจจุบันประกาศว่ากำลังจะให้เกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านั้นก็ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมคอมมิวนิสต์อย่างเวียดนามต้องเผชิญ
ถอดความและสรุปใจความสำคัญจากงานสัมมนา “ก้าวสู่การลงทุนหุ้นเวียดนามรับปี 2559” ซึ่งถ่ายทอดความรู้โดยทีมนักวิเคราะห์จาก Ho Chi Minh Security Corporation (HSC) บริษัทนายหน้าค้าหลักทรัพย์อันดับ 2 ของประเทศเวียดนาม
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทความ “โอกาสการลงทุนในประเทศเวียดนาม” ที่จะทยอยสรุปความและถ่ายทอดออกมาตามเวลาจะเอื้ออำนวย
บทความนี้จะเหมือนกับบทความในเพจลงทุนศาสตร์ เพราะผมลงข้อมูลในหน้าเพจของผมด้วยครับ ผิดพลาดประการใดเสนอแนะได้เลย ผมถอดความจากการสัมมนามาเฉยๆ ไม่มีความเห็นส่วนตัวนะครับ