Thai VI

ที่เคยได้ยินมา
1. สังคมสูงอายุ คนอายุยืนขึ้น
2. เทคโนโลยีด้านการสื่อสารที่พัฒนาขึ้นมากๆ
3. โรคร้อนขึ้นเรื่อยๆๆ

Urbanization

70 ปีที่แล้ว สาวชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ (เกษตรกรรมดั้งเดิม)
40 ปีที่แล้ว สาวโรงงาน (อุตสาหกรรม)
10 ปีที่แล้ว สาวเซเว่น สาวโลตัส สาวโรงแรม (บริการ)

ผมคิดว่าจากนี้ไปคือ บริการสมัยใหม่กับเกษตรพรีเมี่ยมคับ ด้วยข้อจำกัดของแรงงานในอนาคต ภาคส่งออกจะไม่กลับมาโตเป็นกอบเป็นกำ ตามภาคอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่ภาคเศรษฐกิจที่นำอีกต่อไป

Robotic, AI, Genome Editing, Self-drive car, Artificial food etc etc

คนทั่วโลกอายุเฉลี่ยสูง > แรงงานลด > บริโภคลด > อัตราการเจริญเติบโตโลกต่ำ > เงินเฟ้อต่ำ > ดอกเบี้ยต่ำ > กระแสเงินไหลออกจากตลาด ตราสารหนี้ > สภาพคล่องเงินสูง คลื่นกระแสเงิน จะพัดไปมาทั่วโลกรุนแรงขึ้นเรือยๆ โต้คลื่นกันให้ดีนะครับ

pathangkaro เขียน:70 ปีที่แล้ว สาวชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ (เกษตรกรรมดั้งเดิม)
40 ปีที่แล้ว สาวโรงงาน (อุตสาหกรรม)
10 ปีที่แล้ว สาวเซเว่น สาวโลตัส สาวโรงแรม (บริการ)

ผมคิดว่าจากนี้ไปคือ บริการสมัยใหม่กับเกษตรพรีเมี่ยมคับ ด้วยข้อจำกัดของแรงงานในอนาคต ภาคส่งออกจะไม่กลับมาโตเป็นกอบเป็นกำ ตามภาคอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่ภาคเศรษฐกิจที่นำอีกต่อไป

มองขาดครับ ยอดมากครับ

picatos เขียน:Robotic, AI, Genome Editing, Self-drive car, Artificial food etc etc

ตามพี่ picatos เลยคับ
google ล้วนๆเบยยยย 5555

-mobile payment
- ท่องเที่ยวแบบเที่ยวเอง (เพราะมีgoogle)
- การเดิน ออกกำลังกาย (ส่วนนึงผลจากsmart watch,สายรัดข้อมือ)
- internet of things
- sharing resources
- สินค้าโนเนม หรือสินค้าเบอร์รองๆที่มีนวัตกรรมที่ดีจะเติบโตได้เร็วขึ้นจากnetwork effect

nut776 เขียน:

picatos เขียน:Robotic, AI, Genome Editing, Self-drive car, Artificial food etc etc

ตามพี่ picatos เลยคับ
google ล้วนๆเบยยยย 5555

ขออนุญาตเพ้อฝันถึงอนาคตประมาณสัก 10-20 ปีข้างหน้าหน่อยนะครับ เป็นภาพใหญ่ๆ ที่เกิดจากเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้น และมีผลกระทบต่อภายในแต่ละด้านละกัน

ภาพในการทำธุรกิจ
- ตลาดแรงงาน คนจะทำงานเป็น Freelance มากขึ้น
- สังคมที่กลายเป็น Knowledge Economy ทำให้การทำธุรกิจวัดกันที่ความคิดสร้างสรรค์ในการต่อจิ๊กซอร์มากขึ้น
- ธุรกิจขนาดเล็กจะเพิ่มขึ้นจากตลาดแรงงานที่เปลี่ยนรูปแบบ, Social Network, Business Platform การ outsourcing, Logistic และ Home Manufacturing จากเทคโนโลยี 3d printing ที่จะ mature มากขึ้นในอนาคต
- Sharing Economy (air bnb, Uber, Cloud etc.) ทำให้ต้นทุนในการใช้ชีวิตและทำธุรกิจต่ำลง ธุรกิจเกิดง่าย ตายเร็ว จะเห็นยักษ์ถูกมดฆ่า จะเห็นธุรกิจที่ไม่น่าจะเชื่อว่าจะแพ้ แพ้
- Robot จะถูกเอาเข้ามาใช้แทนมนุษย์ที่ทำงานประจำมากขึ้น มนุษย์จะสูญเสียงานประจำ ถูกบีบให้กลายเป็น Freelance มากยิ่งขึ้น

ภาพในทางเศรษฐกิจ
- ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ณ จุด Inflection point ที่กำลังจะเกิดการก้าวกระโดดในระดับ Exponential จะกดให้อัตราเงินเฟ้อต่ำติดดิน จนกลายเป็นติดลบ ธนาคารกลาง ไม่ว่าจะอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบเท่าไหร่ เงินเฟ้อก็ไม่ขึ้น ทำให้แม้แต่ Helicopter Money ในทางเศรษฐศาสตร์ก็ยังใช้งานไม่ได้ (อันนี้แรงกว่า QE) สภาพคล่องจำนวนมหาศาลจะคงอยู่ในระบบไปอย่างยาวนานเกินกว่าที่เราคิดกันไปมาก
- Disruptive Innovation และ Robot ที่เข้ามาแทนที่แรงงาน จะทำให้คนตกงานเป็นจำนวนมาก รัฐต้องใช้เงินที่พิมพ์เข้ามาอุ้ม เป็นรัฐสวัสดิการมากยิ่งขึ้น
- แต่เทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้ามากๆ จะทำให้ทรัพยากรสมัยก่อนที่มีอยู่อย่างจำกัด (Scarce) กลายเป็นมากมายมหาศาล (Abundance) เราจะเข้าถึงพลังงานราคาถูกจากดวงอาทิตย์ได้มากขึ้น อาหารที่สังเคราะห์ขึ้นในต้นทุนที่ต่ำ มีความบันเทิงราคาถูกมากมายมหาศาลให้เสพเสวย ต้นทุนในการดำรงชีวิตต่ำเป็นประวัติการณ์
- แม้ว่าคนจะตกงาน แต่การอุดหนุนของภาครัฐฯ การช่วยเหลือของภาครัฐฯ โครงการต่างๆ ของภาครัฐ หากดำเนินอย่างถูกต้อง จะไม่ทำให้สังคมมีปัญหา ชีวิตความเป็นอยู่ของคนโดยรวมจะดีขึ้น (คล้ายๆ กับช่วงหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม แต่ดีกว่ามาก)

ภาพในการลงทุน
- สภาพคล่องที่มีล้นเหลือ ธุรกิจที่เกิดง่ายตายเร็ว ฆ่ากันง่าย จะทำให้การลงทุนมีความผันผวนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
- เมื่อเงินฝืดมากๆ เข้า ความคาดหวังจากผลตอบแทนจะต่ำลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นติดลบ สินทรัพย์ ดูเหมือนจะ bubble แต่ก็ทรงอยู่ได้
- AI จะทำให้เราลงทุนทั่วโลกได้ง่ายขึ้น ขีดจำกัดในเรื่องภาษา ความเข้าใจ กฎหมาย จะมี AI มาช่วยสรุป วิเคราะห์ และติดตามกิจการให้กับเรา ตลาดการลงทุนจะเชื่อมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น

ภาพการใช้ชีวิต
- คนจะเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ทำงานไป เที่ยวไป ค่าครองชีพในการใช้ชีวิตในที่ต่างๆ ในโลกจะใกล้เคียงกันมากขึ้น ค่าใช้จ่าย ต้นทุนต่างๆ ถูกลง
- สุขภาพมนุษย์จะแข็งแรงขึ้น จากเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ถูกลงเรื่อยๆ จะมี device คอยเตือน คอยดูแลสุขภาพ ป้องกันก่อนเกิดเหตุ จะมี nanobot อยู่ในร่างกายมนุษย์ ค่อยซ่อมแซม และรักษาโรคบางชนิด ตลอดจนเทคโนโลยี Genome Editing จะเข้าไปแก้ไขโรค รวมถึงช่วยให้อายุมนุษย์ยืนยาวและแข็งแรงขึ้น
- เทคโนโลยีแขนเทียม ขาเทียม อวัยวะเทียม รวมไปถึง Skeleton ที่ก้าวหน้าจาก Robotic จะทำให้ขีดจำกัดทางกายภาพของมนุษย์น้อยลง อายุขัยมนุษย์ยืนยาวขึ้น แข็งแรงขึ้น
- ความสามารถในการเรียนรู้สิ่งๆ หนึ่งจะเร็วขึ้น จากเทคโนโลยีทางการศึกษาที่สามารถเข้าถึงได้ทั่วโลก และมีประสิทธิภาพ ทำให้ในอนาคต เด็กอายุ 10 กว่าๆ ฉลาดกว่าผู้ใหญ่ในยุคนี้
- ความเจริญก้าวหน้าของ AI จะทำให้ทุกอย่างที่เราต้องการ และกำลังจะต้องการ จะถูกทำนายเอาไว้แล้ว และระบบ AI จะทำการจัดเตรียมสิ่งต่างๆ เอาไว้ให้เราแล้ว
- Logistic จะถูกปฏิวัติโดย Drone ทำให้อนาคต Same-day Delivery เป็นเรื่องธรรมดามาก หากเป็นสินค้าที่ 3d printer พิมพ์ได้ ก็พิมพ์เลย หากเป็นสินค้าที่ต้องโรงงานจะมี Drone บินมาส่ง ไม่ก็อาจจะมี Drone ของเราบินออกไปรับที่ Distribution Center ที่อยู่ใกล้ๆ บ้าน

ขี้เกียจเขียนละ... ชักจะเพ้อมากไปหน่อย... ขออภัยหากข้อความดังกล่าว รบกวนเพื่อนๆ นะครับ

เสริมคุณ picatos ครับ

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ก็ยังเต็มไปด้วยกิเลสตัณหาไม่ต่างจากเดิม

ดำ เขียน:เสริมคุณ picatos ครับ

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ก็ยังเต็มไปด้วยกิเลสตัณหาไม่ต่างจากเดิม

เสริม พี่ดำ

1) จำนวนครั้งของการมีเซ็กส์ต่อคืน ทั้งโลกจะมากขึ้น
2) ปริมาณบริโภคต่อคืน ทั้งโลกจะมากขึ้น
3) การออกไปเที่ยวและสถานบริการ ทั้งโลกจะมากขึ้น
4) การออกไปพักผ่อน ทั้งโลกจะมากขึ้น
5) คนสวยจะมากขึ้น เหมือนๆ กัน ทั้งโลก
6) คนหล่อจะมากขึ้น เหมือนๆ กัน ทั้งโลก

สิ่งที่คุณ picatose เขียนมายืดยาวน่าสนใจมาก
โดยเฉพาะเรื่องที่บอกว่า ปริมาณเงินจะมีมากมหาศาล อัตราดอกเบี้ยต่ำมากจนติดลบ
เนื่องจากเทคโนโลยี่ (เคื่องพิมพ์สามมิติ และเรื่องพลังงาน)
อยากทราบว่าข้อสรุปนี้ เป็นข้อสรุปจากไหน หรือ จากใคร หรือ คิดเองครับ

และเรื่องเหล่านี้ จะใช้เวลานานไม๊จึงเกิดจริง จะเริ่มเกิดเมื่อไหร่ครับ
ขอบคุณ คุณ picatose มากครับ ที่แชร์ ความรู้

ภายใน 10-15 ปี
โป่งคงจะแตกใหญ่อย่างน้อยอีก 1 ครั้ง ไม่นับครั้งย่อยๆ ที่เกิดๆ หายๆ เหมือนแผ่นดินไหวย่อยมีระยะๆ แล้วนานๆ มีแผ่นดินไหวใหญ่ที หลังจากสะสมพลังไว้นาน จนอั้นไม่อยู่
หลักๆ จากอเมริกา ผู้หากลวิธีใช้เงินอนาคต เศรษฐีชอบรูดบัตรเครดิตเป็นชีวิตจิตใจ กลยุทธประคองเรือใหญ่ไม่ให้ล่ม
สงครามอาวุธเล่นยากกว่า แต่สงครามเศรษฐกิจจะมีแน่ๆ เพราะผู้เรียนรู้ยุทธศิลป์ซุนวู ก็พยายามปลดแอกปลดปล่อยภาระที่มีชาติคอเคซอยด์พันธุ์ผสมที่มียิวเป็น CFO อยู่
แต่ไม่สามารถเบ็ดเสร็จ เพราะก็ยังมีเชื้อดอลล่าร์อยู่ ตลาดลุงแซม ก็ยังเป็นลูกค้า เป็นผู้บริโภค (เกินตัว) อยู่ โลกมันเชื่อมโยงกันยากเกินกว่าจะอยู่ตัวคนเดียว แล้วพอเชื่อมโยงกัน อเมริกาก็ยังเป็น "too big to fail"

จีน ได้ copy หลักเศรษฐศาสตร์ ทุนนิยมวิถีฝรั่ง พลาดบ้าง แตjก็ไม่ได้แค่ว่า adopt แต่ adapt ด้วย เมื่อเรียนรู้ ที่สุดจะมั่นคงกว่าเดิม พาภูมิภาคเฟื่องฟูไปด้วย

ฝึกภาษาหนีห่าว จ่าวอัน ไว้บ้างเถอะ เป็นเครื่องมือหากิน ไม่ต้องดิ้นรนไปอีกซีกโลก ไม่ต้องเหมือนเจิ้งเหอ ต้องแล่นเรือใบไปรอบโลก เหมือนโคลัมบัสหาดินแดนใหม่ จนกลายเป็น "New World"
ก็ในเมื่อดินแดนที่อุดมสมบูรณ์กว่าที่ยังไม่ถูกกร่อน คือโลก "จงหยวน" แดนอารยธรรมเก่าแก่ ที่คนไทยเราจำนวนมาก ก็มีเชื้อสายอยู่นี่แหละ ใกล้เรามากๆ ด้วย trend มันชัดแล้ว
(แต่ไม่ได้หมายถึงว่าภาษาอังกฤษจะถูกแทนที่ เพราะแม้แต่จีนเองก็ยังต้องใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารอยู่ เนื่องจากภาษาจีน โครงสร้างไม่เอื้ออำนวยให้เป็นภาษาที่สองได้ง่าย)


เมื่อ Buffet แห่งอเมริกาใกล้จากโลกนี้ไป จะตรงกับช่วงที่อเมริกาเริ่มแผ่วพอดี
เราอาจได้เห็นเศรษฐี VI อยู่ในแถบเอเชียมา
เราได้ยินกันบ่อย ว่าเศรษฐีฝั่งเอเชียเพิ่มาเรื่อยๆ

ผมกำลัง "ฝันทบต้น" ผมว่าผมไม่ได้ฝันเกินจริงนะ ผมเชื่อว่าหลาย login ที่เห็นอยู่เป็นได้... อยากเห็นคนใน Thai VI เป็นบัฟเฟตต์แห่งเอเชียจังนิ





ข้างบน มีทั้งมโน และ นโม
เพราะจะมีเวลานั้นมา จิตใจไม่สงบกันแน่ๆ ต้องหาที่พึ่งทางใจ ของศาสนาตัวเองในช่วงไม่สงบ ... แต่คนที่จิตใจสงบ ช่วงฟ้าครึ้ม นั่งสบายๆ รับรู้ความเป็นไป แล้วปรับตัว ปรับ port ใจตัวเอง ...ช่วงฟ้าหลังฝน โลกมันก็สว่างไสว

CARPENTER เขียน:สิ่งที่คุณ picatose เขียนมายืดยาวน่าสนใจมาก
โดยเฉพาะเรื่องที่บอกว่า ปริมาณเงินจะมีมากมหาศาล อัตราดอกเบี้ยต่ำมากจนติดลบ
เนื่องจากเทคโนโลยี่ (เคื่องพิมพ์สามมิติ และเรื่องพลังงาน)
อยากทราบว่าข้อสรุปนี้ เป็นข้อสรุปจากไหน หรือ จากใคร หรือ คิดเองครับ

มโน และ เพ้อ เอาเองครับ ส่วนเทคโนโลยีที่ drive สิ่งนี้ให้เกิดขึ้นไม่ได้มาจากแค่ 2 เรื่องนี้นะครับ มาจากหลายๆ เรื่อง

ในหนังสือที่พูดถึงผลกระทบของเทคโนโลยีกับเศรษฐกิจที่ผมเคยอ่าน มากที่รายละเอียดมากหน่อยก็เรื่องThe Second Machine Age: Work, Progress, and Prosperity in a Time of Brilliant Technologies

แต่ในหนังสือก็ไม่ได้ elaborate ผลกระทบมากนัก ผมเลยมโนต่อเอาเอง

อ้างอิงจากแนวโน้นของสังคม สว เมื่อมองถึงกระแส ในปัจจุบัน ที่การออกกำลังกาย กำลัง

ได้รับความนิยม ดูแล้วสอดคล้องกับอายุเฉลี่ยส่วนใหญ๋ของประเทศ (ประมาณ 38 ปี) ซึ่ง

เป็นวัยที่กำลังพยายามยื้อ ความหนุ่ม สาว ไว้ให้นาน สงผลให้กระแส การออกกำลังกาย

ความสวยงาม ได้รับความนิยมในปัจุบัน อนาคต ด้วยสังคมสูงวัยมากขึ้น ธุรกิจ ขายสวรรค์

ขายความเชื่อ จะเป็นอีกสาขาที่มีแนวโน้น ที่เติบโต สร้างความสุขให้กับผู้สูงวัยในทางจิต

ใจ ในยามที่สังขารไม่สามารถสร้างความสุขอย่างที่เคยเป็นมา วัด สถานที่ปฏิบัติธรรม

รวมทั้งกูรู และ สัปเหร่อทั้งหลาย น่าจะมีมูลค่าสูงขึ้น

เมกะเทรนด์ปี'59 บูมธุรกิจ.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/analysis/report/390496

ผู้ประกอบการเตรียมจับ
http://xn--72cfa1hey3b0dtji.com/detail.php?id=2393

น้ำท่วมครับ megatrend ที่กำลังก่อตัว
เชื่อว่ารัฐบาลต้องทุ่มงบมาแก้ไขปัญหาวิกฤตเรื่องนี้ และเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขด้วย
ถ้าไม่จริงจังในการแก้ไขเกรงว่าจะไม่ทันการณ์ครับเพราะปัญหารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

Nevercry.boy เขียน:

ดำ เขียน:เสริมคุณ picatos ครับ

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ก็ยังเต็มไปด้วยกิเลสตัณหาไม่ต่างจากเดิม

เสริม พี่ดำ

1) จำนวนครั้งของการมีเซ็กส์ต่อคืน ทั้งโลกจะมากขึ้นโรงแรม
2) ปริมาณบริโภคต่อคืน ทั้งโลกจะมากขึ้น อาหาร
3) การออกไปเที่ยวและสถานบริการ ทั้งโลกจะมากขึ้น
4) การออกไปพักผ่อน ทั้งโลกจะมากขึ้น
5) คนสวยจะมากขึ้น เหมือนๆ กัน ทั้งโลก การแพทย์
6) คนหล่อจะมากขึ้น เหมือนๆ กัน ทั้งโลก

พี่NBใบ้หุ้นหล่ะ