MoneyTalk@SET9Aug15รอบบ่าย-เจาะหุ้นเด่น&รวยแล้วทำอะไร
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 10, 2015 1:19 am
Money talk at SET9Aug2015
หัวข้อที่ 1 เจาะลึกหุ้นเด่น
แขกรับเชิญ 4 บริษัท : คุณนลินี Aira, คุณปิยะ Jmt, คุณนพดล GPSC, คุณธวัช DAII
ผู้ดำเนินรายการ ดร.ไพบูลย์ และ หมอเค นพ. ศุภศักดิ์
เกริ่นนำ
อ.ไพบูลย์ ทำไม 4 บริษัทเป็นหุ้นเด่น?
หมอเค
aira มุ่งมั่นธุรกิจการเงินครบวงจร ภายใต้เครือข่ายสากล
Daii ไดอิ เพิ่งเข้าตลาด สโลกแกน สร้างนวัตกรรมเพื่อคุณค่าการอยู่อาศัย value for living
Jmt ข่าว npl เห็นบ่อยในทุกวันนี้ หนี้มีโอกาสเสียเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบงค์ทยอยขายออกมา
jmt บริหารอย่างมืออาชีพ จะได้ประโยชน์หรือไม่ต้องมาดูกัน
Gpsc เป็นแกนพลังงานไฟฟ้า ของเครือ ptt
ธุรกิจของบริษัททำอะไร?
Aira
มี 6 บริษัทภายใต้ Aira capital
- Aira advisor เป็นที่ปรึกษาการเงินในไทย
- Aira internaltional advisory ที่สิงคโปร์,
- Aira securities
- Aira factoring จดทะเบียนใน mai
- Aira & Aiful เปิดกิจการ ธ.ค.57 เป็นตัวที่น่าสนใจที่สุดตัวหนึ่งในกลุ่ม
กำลังจะเปิดสาขาแรกใน ก.ย.58 เป็น consumer finance, nano finance คาดจะเปิด 30 สาขาในปีนี้
เป็น 7 สาขาใหญ่ และที่เหลือเป็นสาขาเล็ก ทางไอฟู่เปิดมากว่า 48 ปีมีความชำนาญสูง
- Aira property เพิ่งเปิดเดือนก่อน เป็นบริษัทลูก เข้าไปร่วมทุน mou พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวสูง
ร่วมกัน sena development และแสนฟ้าก่อสร้าง
Aiful เป็น non bank ที่ใหญ่ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น หุ้นที่เทรดแต่ละวันหลักหมื่นล้าน ร่วมมือกับเราดีมากๆ
เจอกับเกือบทุกเดือน
ตอนนี้ได้ license ทำ finance จากกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว
ซึ่งเทคโนโลยี know how จาก Aiful โดยไม่คิดเงิน ในการปล่อยเงิน ที่สำคัญ credit scoring
เป็นตัววัดผล ลูกค้า อาชีพ อายุ area มีพฤติกรรมชำระเงินคืน มีครบถ้วน
รายได้หลักของกลุ่มมาจาก securities แต่โครงสร้างจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
Holding company จะพิจารณางบการเงินไม่ใช่บรรทัดสุดท้าย แต่จะดูจากรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น
growth ของการสร้างรายได้และ asset ของ holding company
อย่าง aira securities ใน Q1 ปี 58 ดีกว่า 57 เนื่องจากมีโครงสร้างที่แข็งแรงขึ้น
ทางพนักงานหรือผู้เกี่ยวข้อง อยากใช้บริการมากขึ้น
รองลงมาเป็นเรื่องการลงทุน aira factoring
ต้องแยกเป็น 2 ส่วน operating income กับการสำรอง npl
จุดเด่นของ aira group คือการกระจายความเสี่ยงที่สมบูรณ์ทางการเงิน
Gpsc
นอกจากมีโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการเองที่ศรีราชา และระยองแล้ว รวมกันราว 1000 MW
ยังมีการถือหุ้นในบริษัทผลิตไฟฟ้าอื่นๆ และมีเชื้อเพลิงหลากหลายอีก 9 บริษัท
บางบริษัทได้ผลิตแล้ว และมีระหว่างก่อสร้าง แต่มีสัญญาขายไฟกับลูกค้าระยะยาวแล้วไปในช่วง 5 ปีข้างหน้า
เราพยายามกระจายการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงหลากหลาย หลักๆใช้ ก๊าสธรรมชาติ
เริ่มไปลงทุนในเขื่อนผลิตไฟฟ้าจากลำน้ำ มี 2 โปรเจค ขนาด 1200 MW กับ 60 MW ในลาว
และมีลงทุนในโซลาร์ฟาร์ม ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า
นอกจากผลิตไฟฟ้า gpsc ผลิตไอน้ำ และน้ำเพื่ออุตสาหกรรม มีแผนขยายการลงทุนไปในธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้วย
เช่น ขายไอน้ำให้อุตสาหกรรมเอาไปใช้เป็นพลังงานแลกเปลี่ยนความร้อน เราเดินท่อไปให้เขา
นอกจากพลังงานความร้อน ถ่านหิน น้ำมันเตา ชีวมวล ซึ่งไอน้ำจาก cogeneration
เป็นการผลิตไอน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด ซึ่งไอน้ำตัวนี้เป็น value added ต้นทุนต่ำ
โรงไฟฟ้าเรามี 3 location ซึ่งอยู่ใกล้ลูกค้าแต่ละที่ เป็นจุดแข็งสำคัญ
เรามีแผนขยายโครงการที่ 4 ในจังหวัดระยอง ลูกค้าเป็นกลุ่มปตท.และลูกค้าทั่วไป
แผนก่อสร้างในช่วงสิ้นปีนี้ มีการลงนามกับลูกค้าที่จะใช้แล้ว
Gpsc เข้าตลาด 18 พค.58 ราคา ipo 27 บาท ตอนนี้ 24.3 บาท
โซลาร์ฟาร์ม 80 MW เรามีหุ้นอยู่ 40%
เป็นการลงทุนที่เริ่มมีทยอยจ่ายเงินปันผลกลับมาตั้งแต่ปีก่อน ที่ได้รับแค่ครึ่งปี โดยในปีนี้จะได้รับเต็มๆ
PPA รุ่นเก่าที่อยู่ในระบบ adder จะกำไรสูงกว่า รุ่นใหม่กว่า feed in tariff ซึ่งเมื่อก่อนนับว่าเป็นเรื่องใหม่
ปัจจุบันรายได้จะเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนในการติดตั้งก่อสร้างจะลดลงไปด้วย แม้จะได้ tariff ลดลง
แต่ค่าก่อสร้างโซลาร์ฟาร์มลดลงไปด้วย ซึ่งมีการลงทุนโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 21 MW
พลังงานทดแทนมีการผลิตไฟฟ้าจากทะลายปาล์มพัฒนากับผู้ร่วมทุนในภาคใต้อยู่ระหว่างเจรจา
คาดจะมีความชัดเจนในปีนี้ สิ่งสำคัญคือวัตถุดิบ ซึ่งจะทำให้เรามั่นใจว่าจะมีวัตถุดิบผลิตไฟฟ้าได้ตลอด
เป็นชีวมวลต้องขอใบอนุญาต อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งได้ดำเนินการรับฟังความเห็นของคนในพื้นที่แล้ว
น่าจะเป็นไปตามแผน
ในต่างประเทศ มีแผนการลงทุนในโรงไฟฟ้า
- พม่า มีเสนอการลงทุนในโรงไฟฟ้า ถ่านหิน และแก๊สธรรมชาติ
ได้ส่งรายงานให้รัฐบาลพม่าแล้ว รอการตอบรับ
- ลาว มี 2 เชื่อนระหว่างก่อสร้าง ได้เข้าไปคุยกับการไฟฟ้าของลาว ที่ให้สัมปทานไปมีรายใด
ที่ยังดำเนินการไม่ได้ เราสนใจจะเข้าไปพัฒนาต่อ ซึ่งเรามีความสามารถหาผู้ให้กู้กับผู้ผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนได้
- อินโดนีเซีย โรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นประเทศใหญ่ในอาเซียน มีประชากรกว่า 200 ล้านคน
ความต้องการไฟฟ้ายังมีอีกมาก หลายหมื่น MW เราก็พยายามเข้าไปพัฒนา 1-2 โครงการ
JMT
เป็นบริษัทลูกของ jmart ถือ 55% ใน jmt
ธุรกิจหลักคือ ซ้อหนี้เข้าไปบริหาร และรับจ้างติดตามหนี้ให้สถาบันการเงิน สัดส่วน 90% และ10%ตามลำดับ
ธุรกิจติดตามหนี้ แบ่งเป็น 2 บริษัท jmt network services ซื้อหนี้แบบ non-legal ยังไม่ดำเนินการตามกฏหมาย
แต่ J asset management เป็นหนี้แบบฟ้องแล้ว เพื่อได้สิทธิทางกฏหมายในการสวมสิทธิ์
J insurance broker เป็นนายหน้าประกันวินาศภัย เช่น ประกันรถยนต์ ประกันความเสียหาย
Jmt plus เป็นบริษัทหนึ่งที่ได้รับ license จากกระทรวงการคลัง
ทำ nano finance, personal loan, car for cash จะเริ่มดำเนินการ q3 ปีนี้
เรามีประสบการณ์ทำสินเชื่อเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว jmart ขายเงินผ่อน ซึ่งคุณปิยะ ได้มาร่วมงานด้วย 25 ปีที่แล้ว
ขี่มอเตอร์ไซค์เก็บหนี้ คิดว่าตัวบริษัทมีประสบการณ์ มองว่าช่วงนี้เป็นโอกาสจึงอยากทำ
ธุรกิจ Nano finance ทาง jmart เข้าไปถือ singer 24.99% ซึ่งลูกค้า singer เป็นร้านเล็กๆ
เช่น โชว์ห่วย อยู่เยอะ ให้ลูกค้าผ่อนตู้เติมเงิน ปั๊ม ซึ่ง nano finance เป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยง
ไม่ใช่ปล่อยกู้คนกินเงินเดือนประจำ จึงต้องปล่อยให้รัดกุม
jmt จะเข้าไปให้เงินทุนหมุนเวียนกับลูกค้า singer เพื่อเข้าไปซื้อของเข้าร้าน
ความเสี่ยงจะต่ำกว่าตรงที่เราเคยเห็นประวัติจาก singer และทาง jmart
ก็จะมีไปปล่อยกู้ให้คนเช่าพื้นที่เปิดร้านมือถือ
ช่วงแรกเน้นลูกหนี้ ลูกค้าที่เราคุ้นเคยก่อน
Jmart กำลังจะเอา Jas ipo เข้าตลาด จะมีบริษัทที่ทำ community mall
มีตลาดกลางคืนชื่อ j night อยู่ตรงรามอินทรา มีผู้เช่าที่เป็น nano มาเช่า
ซึ่งเราจะให้เงินทุนหมุนเวียนกับลูกค้ากลุ่มนี้เช่นกัน
มูลหนี้ของ jmt ตั้งแต่เข้าตลาดปี 2012 เรา ipo 4 บาท เปิดและปิดตลาดที่ 12 บาท
ฐานลูกค้าในมือ 2 หมื่นล้านบาท วันนี้มี 7.5 หมื่นล้าน ระดมซื้อหนี้มาขยาย
ครึ่งปีนี้ซื้อเข้ามา 1.5 หมื่นล้านบาท ส่วนการติดตามเก็บหนี้ 1.5 หมื่นล้านบาท
รวมทั้งพอร์ตเป็น 9 หมื่นล้านบาท
ต้นทุนซื้อหนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 5% คือ มูลค่า 100 ซื้อในราคา 5 บาท
วันนี้ jmt เป็นคนเดียวที่อยู่ในตลาด 90% market share อีก 10% กระจายอยู่ในสำนักงานกฏหมาย
ที่เราไม่เอาเนื่องจากราคาสูงไป ไม่ใช่ซื้อหนี้อย่างไรก็ได้ ต้องมีเป้าหมาย irr, yield เราอยู่ที่ 12%
เนื่องจากซื้อหนี้มาหลายปี อย่างปีก่อนซื้อที่ 5% กว่า แต่เฉลี่ยราคาที่ 4% กว่า
เพราะช่วงแรกต้นทุนต่ำซื้อได้ 3% กว่า
การติดตามหนี้ไม่ใช้วิธีรุนแรง เราประณีประนอม มูลค่าหนี้เรา 7.5 หมื่นหล้านคิดเป็นลูกค้า 2.5 ล้านคน
personal loan 60% รถยนต์ 40%
ปีหน้าสัดส่วนน่าจะเปลี่ยนพอกัน ต่อไปจะมี leasing , เครื่องยนต์การเกษตร เช่น รถไถนา
เพราะหนี้เหล่านี้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
เนื่องจากเราตามเก็บ หนี้ current เราจะเห็น ratio ที่ลดลงมา
หนี้ปัจจุบันพอค้าง 1 เดือน ก็ต้องเตรียมตัวแล้ว
เมื่อก่อนพวก finance เก็บหนี้ได้ 50% จากแต่ก่อนเก็บได้ 80% เราก็จะเริ่มเห็น สัญญาณ
สิ่งที่คนขายกลัวคือภาพลักษณ์ ไม่ใช่ใครจะตามก็ได้ คนขายก็จะดูคุณสมบัติด้วย
บางทีเราซื้อราคาต่ำกว่า แต่เราชนะ
หนี้ในมือเรา 2.5 ล้านคน บางครั้งก็ซ้ำรายกัน พอมาอยู่ที่เรา ลูกค้าได้รับการติดต่อสื่อสารจากเรา
บางทีมี 4-5 สัญญาเราก็จะเชิญมาปรับโครงสร้างหนี้ ช่วยกันบริหาร การจ่ายขึ้นอยู่กับศักยภาพ
สถาบันจึงอยากจะขายให้เรา ถ้าซื้อแล้วไปฟ้อง ลูกค้าก็จะมีขาหนึ่งที่เป็นหนี้ดีกับสถาบันอยู่
จะกลายเป็นหนี้เสีย การที่มีคนเข้าไปช่วยบริหารจัดการก็จะเป็นสิ่งที่ดี
คนตามเก็บหนี้ตอนนี้มีอยู่ 1,000 คน และจะมีคนมาช่วยอีก 3,000 คน จาก singer
ทำหน้าที่ช่วย survey ไม่ได้ตามเก็บ
Daii
เป็นบริษัทคนไทย แต่เครื่องจักรการผลิต มาจากญี่ปุ่น
ความตั้งใจ ไดอิ แปลว่า substitution เป็นสินค้าทดแทน เรามองว่าประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนปลงเยอะ
ปัญหาแรงงาน ระบบดั้งเดิมของเรามากมายที่รุ่งเรืองในอดีต รับเหมาก่อสร้าง โชว์ห่วย
ซึ่งโลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว รับมีวัสดุก่อสร้างและรับสร้างบ้าน
ธุรกิจแรก ผลิตรั้วคอนกรีตสำเร็จรูปรายแรกของประเทศไทย fencer มองว่ามี market cap รั้ว 5,000 ล้าน
ถ้ารวมแรงงานด้วยก็ 10,000 ล้านบาท ต้องมีนวัตกรรม เทคโนโลยี
ตอนเราเริ่มต้นปี 43 รั้ว เมตร 2800 บาท/ตรม. ระบบดั้งเดิม 1500 บาท/ตรม. เนื่องจากแรงงานยังถูก
จากเดิม หล่อคอนกรีต ก่ออิฐ ฉาบปูน แต่ของเราผลิตจากโรงงานแล้วมาประกอบหน้างาน ต่อสู้มา 10 กว่าปี
จนค่อนข้างจะถูกกว่าระบบดั้งเดิมแล้ว ซึ่งปัจจุบันระบบใหม่นี้มี share ในตลาดรั้วอยู่ 35% เทียบกับวีธีดั้งเดิม
ถ้าเทียบทั้งประเทศเรามี market share 15%
สินค้าเราเป็นคอนกรีตผลิตจากโรงงานกำลังสูงอัดลวดจากโรงงาน ป้องกันเชื้อรา กันซึมน้ำได้ดี
เนื่องจากรั้วมีน้ำหนักมาก การขนส่งจึงมีต้นทุนสูง เราจึงเปิดโรงงานที่ระยอง
และมองต่อไปคือ ภูเก็ต ขอนแก่น เชียงใหม่
ธุรกิจสร้างบ้านก็มาแรง เราเห็นบ้านสำเร็จรูปที่ญี่ปุ่น ใน 10 กว่าปีที่ผ่านมาเรามีที่ดินแล้วจะปลูกบ้าน
ต้องทำพิมพ์เขียวและจ้างผู้รับเหมา ใช้เวลา 10-24 เดือน ซึ่งของญี่ปุ่น 95% ใช้บ้านสำเร็จรูป
ที่ใช้แรงงานย่อยๆมีแค่ 5 % เพราะรวดเร็วและราคาค่อนข้างถูกแล้ว
ความคิดการซื้อบ้านในญี่ปุ่นจะเหมือนรถยนต์ บริษัทอันดับหนึ่งมียอดขาย 2-3 แสนล้านบาท
จาก Market 1.5 ล้านล้านบาท อันดับที่ 20 มียอดขายเกินกว่า 2 หมื่นล้านบาท
บริษัทอันดับที่ 1 มีโรงงานประมาณ 12 โรง มีโชว์รูมเป็นร้อยเกือบทุกจังหวัดในญี่ปุ่น
ขายบ้านเหมือนโชว์รูมรถยนต์
ในญี่ปุ่นเทคโนโลยีจะมี 3 แบบ เหล็ก ไม้ คอนกรีต ซึ่งในบ้านเราเหมาะกับคอนกรีต
มีรายใหญ่ในบ้านเรานำบ้านสำเร็จรูปโครงสร้างเหล็กเข้ามา
แต่ราคาต่อตรม.สูง ราว 25,000-30,000 บาทต่อตรม.
แต่เราทำราคาได้ที่ 12,000-13,000 บาทต่อตรม.
ซึ่งจะเป็นโอกาสให้เราสู้กับผู้รับเหมารายย่อยได้ ซึ่งครองตลาดอยู่ 80-90%
ของตลาดรับสร้างบ้าน 50,000 ล้านบาท
เราเพิ่งสร้างโรงงานเสร็จกลางปีก่อน เพิ่งทำโชว์รูมเสร็จช่วงปลายปี
ปี 58 เราทำได้อยู่ 300 กว่าล้านบาทในปีนี้ market share 0.7%
โจทย์คือ ต้องสู้กับ ผรม.รายย่อยให้ได้ ต้นทุนเขาอยู่ที่ 10,000-13,000 บาท/ตรม.
ซึ่งราคาเราอยู่ที่ 13,000 บาท/ตรม.
โรงาน 1 กำลังผลิต 300 ล้าน โรงงาน 2 เพิ่งเสร็จปลาย ก.ค. กำลังผลิต 500 ล้านบาท ต่อปี
จะนำเงินไปสร้างต่อที่ระยองกำลังผลิต 200-300 ล้านบาท มีศักยภาพในการผลิตบ้านสำเร็จรูป
ต้องมีโชว์รูมให้ลูกค้าเห็นบ้านจริงก่อนจะซื้อ มีบ้าน 8 หลัง ที่ลาดพร้าว
กำลังจะสร้างโชว์รูมที่เรียบด่วน เสร็จต้นปี 59
การสร้างบ้านของเรา 4 เดือนเสร็จ ให้ลูกค้าสั่งออนไลน์ สามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิต
หรือบิลเพยเมนต์ได้ 40กว่าหลังจ่ายด้วยออนไลน์ ลูกค้าชอบเพราะได้แต้มบัตรเครดิต
ข้อดี ทนทานต่อแผ่นดินไหว สามารถทำลวดลาย ผนังได้เหมือนญี่ปุ่น ไม่มีรอยร้าวตลอดอายุการใช้งาน
เพราะเราใช้คอนกรีตอัดกำลังสูงและอัดลวด มีเราเจ้าเดียว ต้องมีตอกเสาเข็ม และแกะแสล็กขึ้นมา
เข้าไปดูได้ในกินซ่าโฮมดอทคอม
ระบบการก่อสร้างหน้างานเหมือนการประกอบรถยนต์ แต่ละชุดจะมีแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะหน้าที่
แล้วย้าย site ไปเรื่อย เป็นระบบแบบอุตสาหกรรมทำให้ต้นทุนภาพรวมลดลง
หน้าต่างสำเร็จรูปกำลังเติบโต มีบาธรูม สามารถซื้อผ่านออนไลน์ได้
โมเดิร์นเทรดชนะโชว์ห่วย การซื้อสินค้าออนไลน์จะลดต้นทุนมาก
เราคิดว่าวันหนึ่งจะ cover ต้นทุนจาก modern trade ได้ มีภารกิจอีกมาที่เราต้องทำ
ผลประกอบการ แนวโน้ม และโครงการ
Aira
ผลดำเนินงาน Q1 58 รายได้ดี เปรียบเทียบกับปี 57 เพิ่มขึ้น 70 กว่า % มาจาก หลักทรัพย์เป็นหลัก
ผลประกอบการครึ่งปีน่าจะใช้ได้ ส่วนครึ่งปีหลังน่าจะทั่วไป slow down บ้าง
ของเราต้องดูทั้งงบเดี่ยว และงบรวม จะมีปันผลจากบริษัทลูกที่กำลังเติบโต กำลังลงทุน
ต้องให้ลูกทำเสร็จก่อนถึงจะส่ง retain earning มาที่แม่ในช่วง ไตรมาส 3-4 ที่จะพิจารณาจ่ายปันผล
การลงทุนกับ aira จึงเป็นการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่ระยะสั้น เป็น holding company อย่างแท้จริงทางการเงิน
ในอีก 2 ปีจะเห็นผลการลงทุน รายได้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ค่าใช้จ่ายในการวางระบบงาน การลงทุน
จึงต้องดูการเติบโตรายได้ และทรัพย์สิน
บริษัทที่เป็นอนาคตคือ aira&aiful ถ้าไปญี่ปุ่นทุกคนต้องรู้จักไอฟู่ รายได้ปีละ 6 แสนล้านเยน
สาขา 850 สาขา สนญ.อยู่ที่เกียวโต เป็นอันดับ 3-4 ของญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทที่ทำสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่อันดับ 5
เป็นครั้งแรกที่เขาออกมาตั้งต่างประเทศ เจอกับ major shareholder กันที่สิงคโปร์
พบว่า culture ของเกียวโต ใกล้เคียงกับคนไทย และถูกใจกันจึงชวนกันเข้ามาดูในประเทศไทย
ใช้เวลาราว 1 ปี และตกลงธุรกิจกัน ซึ่งระหว่างนั้นก็มีบริษัทที่ติดต่อเข้าไป 5 บริษัท
แต่เขาเลือกเรา จดทะเบียน 1 พันล้านบาท จัดตั้งบริษัทแล้วมีพนักงาน 70 สิ้นปี 392 คน
สัดส่วนที่นอกเหนือสถาบันการเงิน aira property ต่อไปจะทำ REIT
ซึ่งจะนำ property เข้ามาจดทะเบียนในตลาด และอีกส่วนที่ศึกษาคือธุรกิจพลังงาน น่าสนใจ
แต่ยังหาผู้ร่วมที่เหมาะกับเราไม่ได้
การเซ็น mou กับ Super rich สีส้ม ธุรกิจนี้ต้องเปรียบเทียบกับธุรกิจท่องเที่ยว
เวลาธุรกิจไม่ดี เราก็ไปเที่ยวกัน เชื่อว่าจะมีอนาคตในระยะยาว อยู่ระหว่างรอทางนั้นตัดสินใจ
เพราะเป็นธุรกิจครอบครัว ทางเขาก็อยากทำงานในธุรกิจที่ชำนาญคือแลกเปลี่ยนเงิน
ถ้าจับคู่กับเราก็ win win
การปันผล เราพยายามจ่ายปันผลให้มากกว่า เงินฝาก ที่ผ่านมาปันผลได้ 3-4%
GPSC
ผลการดำเนินงาน Q1 58 เติบโตก้าวกระโดด จาก 90 กว่าล้านบาท เป็น 500 กว่าล้านบาท
เนื่องจาก Q157 โรงไฟฟ้าหลักชลบุรีปิดซ่อมบำรุง ส่วน Q2 58 ผลดำเนินงานเพิ่ม 10 กว่า %
มีการบันทึกค่าใช้จ่ายราคาหุ้น esop (ความแตกต่างราคา esop ที่ให้พนักงานกับราคาตลาด
ต้องไปหักจากกำไรก่อนภาษีตามมาตรฐานบัญชี) และบันทึก fx loss บริษัทลูก
ซึ่งผลดำเนินการปกติครึ่งปีแรกดีกว่าครึ่งปีก่อน กำไรสุทธิเพิ่มจาก 600 กว่าล้านเป็น 1,000 ล้านบาท
ที่ธุรกิจ Q2 ยังดีกว่า Q1 ได้ เพราะธุรกิจไฟฟ้าต่างกับธุรกิจอื่น เพราะเป็นสัญญาระยะยาว
ปริมาณซื้อขายคงที่และมีแนวโน้มเพิ่ม สัญญามี minimum ที่ตกลงไว้แล้วต้องรับ
ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นการไฟฟ้า มีสัญญา lock กันไว้แล้ว ราคาเชื้อเพลิงมีแนวโน้มลดลง
ลูกค้าหลักคือ กฟผ.ราว 45%
ปตท. ถือหุ้น gpsc อยู่ 75% ถือตรงอยู่ที่ 22% ที่เหลือเป็น pttgc, top
ผู้ถือหุ้นไม่ได้ประโยชน์ ราคาขายสินค้าต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน มีรายการระหว่างกันตามแนวปฏิบัติของตลาดหลักทรัพย์มีกรรมการอิสระตรวจสอบ ซึ่งเราก็ขายราคามาตรฐานตั้งแต่ก่อนเข้าตลาดอยู่แล้ว
แนวโน้มครึ่งปีหลังโตสม่ำเสมอ และทยอยรับรู้รายได้จากบริษัทที่ลงทุน
ทั้งที่ operate แล้ว หรือเริ่มดำเนินการ
การลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าของ ปตท.ในอนาคต จะมอบหมายให้เราดำเนินการ
ปัจจุบันที่รับรู้รายได้ 1300 MW อีก 500 MW ที่มีสัญญาแล้วจะทยอยรับรู้
เป็น 1800 MW ใน 5 ปีข้างหน้า ส่วนอีก 1000 MW มีแผนขยายการลงทุนเพิ่ม
อย่างเช่น ที่ญี่ปุ่น หรือโครงการ 4 ในระยอง ซึ่งเรามีเงินทุนเพียงพอ ไม่ต้องเพิ่มทุน
มีเงินจาก ipo และ กู้เงินเตรียมไว้ ซึ่ง de 0.5 เท่า ซึ่งถ้ามีโครงการดีๆ ก็ยังกู้เงินเพิ่มได้อีก
ในวิกฤติจะเป็นโอกาสของเราจะเข้าลงทุนทรัพย์สินที่น่าสนใจในราคาน่าสนใจได้
ทั้งเปิดใหม่หรือโรงไฟฟ้าที่ผลิตอยู่แล้ว
ธุรกิจอื่นๆ เช่น การบริหารจัดการน้ำ เข้าไปศึกษาร่วมกับกลุ่ม eastw อย่างการบำบัดน้ำเสียพัทยา
เอามาบำบัดและใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม
ซึ่งน่าจะมีผลตอบแทนน่าสนใจและช่วยบริหารจัดการน้ำในประเทศด้วย
การลงทุนธุรกิจแบตเตอรี่ ลงทุนในบริษัทค้นคว้าวิจัย ลิเธียมอิออน ชื่อบริษัท 24M
เริ่มมีการค้นคว้าและพัฒนาแบตเตอรี่ที่เก็บไฟฟ้า ต้นทุนผลิต และขนาด และรอบการใช้
มีการพัฒนาระยะเวลาผลิตให้สั้นลงเหลือ 20% ของเวลาผลิต ทำให้ต้นทุนผลิตลดลงด้วย
เรื่องความจุ ความปลอดภัยก็กำลังพัฒนา ซึ่งจะมาประยุกต์การเก็บไฟฟ้าในอุตสาหกรรมรวมถึง
capacity peak ด้วย บริษัทนี้ได้รับทุนจาก us department of energy
ในการศึกษาแบตเตอรี่กำลังรถยนต์ด้วย เป็นโครงการย่อยที่จะพัฒนาต่อไป
Gpsc เราเป็นผู้เล่นที่มีความสมดุลทั้งโรงไฟฟ้าที่เป็นดั้งเดิม แก๊ส และพลังงานต่างๆ
ซึ่งน่าจะทำให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้
JMT
ผลประกอบการ Q1 58 รายได้ กำไร เติบโตกว่า 100% ซึ่งปี 57 อยู่ที่ 88 ล้าน
ซึ่งปี 58 อยู่ที่ 168 ล้าน กำไร 16-> 37 ล้านบาท ครึ่งปีแรกต้องดีกว่าปีก่อน
ทั้งปี 58 net profit เป้าโต 30% หนี้ในตลาดสูง ปีที่เข้าตลาด 4.7 หมื่นล้านล้านคิดเป็น 2-3% หนี้ครัวเรือน ปัจจุบัน หนี้เสียขึ้นมา 5-6% ซึ่งการซื้อหนี้เราเลือก จากนี้จะเห็นหนี้หลากหลายขึ้น
จะมีหนี้จากรถคันแรกเยอะขึ้น หนี้ personal loan ในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าจะเห็นภาคการเกษตร และ sme
จะเป็นกลุ่มหนี้ที่เริ่มขายออกมามากขึ้น ลูกค้าที่เราเก็บหนี้
เหล่านี้จะกลับมาเป็นลูกค้าของ jmt plus ในอนาคต
ปล่อยหนี้ไม่ยาก สำคัญคือ npl เรามีลูกค้าที่เรารู้จัก ไม่ว่าจะเป็นคนที่ซื้อมือถือ jmart 1 ล้านกว่าคน
เป็นลูกค้าเรา 6 แสนกว่าคน คนอื่นอาจจะมีหน้าร้านเยอะให้ลูกค้าเดินเข้ามา
ปีหน้าคาดว่าจะปล่อย loan หลัก พันล้านบาท แต่จะมีพนักงานไม่ถึง 30 คน
เพราะเราพยายามใช้หน้าร้านคนอื่น ceo ที่ดูแล jmt plus เป็นชาวญี่ปุ่น มาจาก เอคอม ที่เป็นเบอร์ 1
ซึ่งทีมงานเข้ามาแล้ว แต่จะยังไม่เห็นกำไร jmt plus ในปีนี้ แต่จะเริ่มมีกำไรปีหน้า
และมีแผนเข้าตลาดในอีก 3 ปีข้างหน้า
ซื้อหนี้ 3 หมื่นล้านบาท เหลืออีก 1.5 หมื่นล้านบาท น่าจะได้ตามเป้าหมาย
การปล่อยหนี้และการเก็บหนี้ก็จะ balance กัน 7.5 หมื่นล้าน ตัด amortization เกือบครึ่ง
ที่เหลือเก็บได้จะรับรู้ 100% เรากลต.ให้ทำตาราง projection เก็บหนี้ 5 ปี แต่เราใช้เวลาไม่ถึง
เก็บหนี้ตัด amortization หมดเฉลี่ยราว 4 ปี
เชื่อว่า jmt ทั้งสองธุรกิจต้นน้ำถึงปลายน้ำจะเห็นอะไรดีๆใน 3-5 ปีข้างหน้า
พรบ.ทวงหนี้ ทางแบงค์ชาติถ้าอธิบายว่า 200 หรือ 300 บาทมาจากไหน
ไม่มีประเด็น เช่น ธนาคาร จ้าง agency 20% ของเงินที่เก็บได้ ก็มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้
อธิบายได้ก็ไม่มีประเด็น คนที่กระทบคือ hire purchase อย่างการไป lock ล้อ
ไปเปิดประตูดึงกุญแจมาทำไม่ได้ สถาบันการเงินหรือบริษัทเช่าซื้อต้องระมัดระวัง มีเป็นแสนคน
ถ้าไม่มีเครื่องมือในการเข้าไปคุยกับลูกค้าเสี่ยง เพราะลูกค้าจะร้องเรียนได้
ซึ่งเราใช้โทรศัพท์ทวง 95% อีก 5% ลงพื้นที่ ระบบอัดเสียงก็สำคัญ
ถ้าลูกค้าปฏิเสธการจ่ายต้องหยุดทวง ต้องฟ้องร้อง ก็มีค่าใช้จ่าย เขาก็จะขายหนี้ออกมาเร็ว
อย่างบริษัทที่เช่าซื้อรถรายใหญ่สุดปกติปล่อยหนี้ปีละ 2 รอบ ปีนี้ปล่อยออกมา 4 รอบ
พรบ.ทวงหนี้จึงน่าจะเป็นภาพบวกกับ jmt แต่คนที่เป็น freelance จึงต้องปรับตัว
ต้องแสดงตนมีบัตรพนักงาน ยืนคุยกับลูกค้าต้องมีระยะห่าง ต้องมี script ในการพูด
แสดงเอกสารให้ชัดเจน การคืนรถต้องมีการตรวจสอบทรัพย์สิน ถ่ายรูปให้เรียบร้อย ส่งให้ finance รับทราบ
กลุ่มแก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิต ที่จะชวนกันชักดาบ เราดูแล้วมีไม่ถึง 1%
ซึ่งลูกค้าที่เราเจรจาได้ 99% อีก 1% ต้องไปฟ้องร้อง กับกลุ่มแบบนี้
ซึ่งถ้าก่อนฟ้องคุยกันเราลดให้ แต่หลังฟ้องต้องโดนทั้งค่าธรรมเนียมต่างๆ
Daii
Q2 58 น่าจะเติบโต 5% กำไรเทียบปีก่อนลดลง เพราะ งาน backlog ปีก่อนเป็น conventional
ราเพิ่งจะเสร็จระบบสำเร็จรูปเมื่อช่วงกลางปี 57 ซึ่งครึ่งปีที่ผ่านมาวัสดุก่อสร้างโต 20%
สร้างบ้านสำเร็จรูปโตเกิน 100% จะสะท้อนไปไตรมาส 3-4 ที่จะรับรู้
รายได้ทั้งปีน่าจะเติบโตราว 15% และกำไรน่าจะโตเกิน 100% เทียบปีก่อน
เรามีโอกาสเติบโตเยอะใน 3-5 ปีข้างหน้า บ้านสำเร็จรูปเราได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ
เนื่องจากราคาไม่ได้แพงราว 13,000 บาท/ตรม. เทียบกับรายย่อย 8,000-10,000 บาท/ตรม.
รูปแบบบ้านมีหลายแบบ เช่น บ้าน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 228 ตรม. ราคา 2.7 ล้านบาท
เป็นบ้านคอนกรีต ต้านแผ่นดินไหว ซึ่งผู้รับเหมาสามารถสร้างได้ในราคาหมื่นต้นๆ เราแพงกว่าราว 20%
ซึ่งถ้าเทียบกับรับเหมารายใหญ่ เราก็จะถูกกว่า
ในปีหน้าจะมีบ้านรูปแบบใหม่ที่ราคาต่อตรม.ต่ำกว่า 10,000 ไปสู้กับรับเหมารายย่อย
ภารกิจนี้ถ้าประสบความสำเร็จได้เราจะเป็น high growth
เราทำรับสร้างบ้าน ทำวัสดุก่อสร้าง ขายออนไลน์ เรามีหน้าที่เจียรไน ให้บ้านเป็นที่ยอมรับ
จะมีรุ่นออเรียลทัลสไตล์ ไทยสไตล์ ไอซ์แลนด์แบบยุโรป รอยัลคลาสสิคสไตล์ให้ลูกค้าเลือกได้หลายรุ่น
เป็นนวัตกรรมที่เราจะไปสู้ในตลาดมากขึ้นด้วย
ยอด backlog ในครึ่งปีหลัง จะเยอะกว่าครึ่งปีแรก จากครึ่งปีแรกบ้านสำเร็จ 40 หลัง น่าจะโตเท่าตัว
ราคาขายเฉลี่ย 4 ล้านบาท บ้านเราแพงสุด 10 ล้านบาท ถูกสุด 2.5 ล้านบาท
สำหรับหัวข้อที่ 2 ทางคุณอมรจะช่วยแชร์ต่อครับ
Money talk@SET ครั้งถัดไป 29สิงหาคม จัดวันเสาร์ตามปกติ จอง 22 สิงหาคม 7 โมงเช้าเปิดจอง
หัวข้อ 1 มี 4 บริษัท เถ้าแก่น้อย,คอม7,seafco,uac (พิเศษมีแจกขนมเถ้าแก่น้อย)
หัวข้อ 2 ลงทุนเปลี่ยนชีวิต ฟ้าลิขิตหรือจะสู้คนทำ คุณวิบูลย์,คุณนุช วราพรรณ, คุณทิวา, ดร.นิเวศน์
ขอบพระคุณอ.ไพบูลย์,พิธีกร,วิทยากร, ทีมงาน money talk และผู้สนับสนุนทุกท่าน
ข้อมูลเพื่อแบ่งปันความรู้ หากผิดพลาดอย่างไรขออภัยด้วยครับ ช่วยเสริมเพิ่มเติมได้ครับ
หัวข้อที่ 1 เจาะลึกหุ้นเด่น
แขกรับเชิญ 4 บริษัท : คุณนลินี Aira, คุณปิยะ Jmt, คุณนพดล GPSC, คุณธวัช DAII
ผู้ดำเนินรายการ ดร.ไพบูลย์ และ หมอเค นพ. ศุภศักดิ์
เกริ่นนำ
อ.ไพบูลย์ ทำไม 4 บริษัทเป็นหุ้นเด่น?
หมอเค
aira มุ่งมั่นธุรกิจการเงินครบวงจร ภายใต้เครือข่ายสากล
Daii ไดอิ เพิ่งเข้าตลาด สโลกแกน สร้างนวัตกรรมเพื่อคุณค่าการอยู่อาศัย value for living
Jmt ข่าว npl เห็นบ่อยในทุกวันนี้ หนี้มีโอกาสเสียเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบงค์ทยอยขายออกมา
jmt บริหารอย่างมืออาชีพ จะได้ประโยชน์หรือไม่ต้องมาดูกัน
Gpsc เป็นแกนพลังงานไฟฟ้า ของเครือ ptt
ธุรกิจของบริษัททำอะไร?
Aira
มี 6 บริษัทภายใต้ Aira capital
- Aira advisor เป็นที่ปรึกษาการเงินในไทย
- Aira internaltional advisory ที่สิงคโปร์,
- Aira securities
- Aira factoring จดทะเบียนใน mai
- Aira & Aiful เปิดกิจการ ธ.ค.57 เป็นตัวที่น่าสนใจที่สุดตัวหนึ่งในกลุ่ม
กำลังจะเปิดสาขาแรกใน ก.ย.58 เป็น consumer finance, nano finance คาดจะเปิด 30 สาขาในปีนี้
เป็น 7 สาขาใหญ่ และที่เหลือเป็นสาขาเล็ก ทางไอฟู่เปิดมากว่า 48 ปีมีความชำนาญสูง
- Aira property เพิ่งเปิดเดือนก่อน เป็นบริษัทลูก เข้าไปร่วมทุน mou พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวสูง
ร่วมกัน sena development และแสนฟ้าก่อสร้าง
Aiful เป็น non bank ที่ใหญ่ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น หุ้นที่เทรดแต่ละวันหลักหมื่นล้าน ร่วมมือกับเราดีมากๆ
เจอกับเกือบทุกเดือน
ตอนนี้ได้ license ทำ finance จากกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว
ซึ่งเทคโนโลยี know how จาก Aiful โดยไม่คิดเงิน ในการปล่อยเงิน ที่สำคัญ credit scoring
เป็นตัววัดผล ลูกค้า อาชีพ อายุ area มีพฤติกรรมชำระเงินคืน มีครบถ้วน
รายได้หลักของกลุ่มมาจาก securities แต่โครงสร้างจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
Holding company จะพิจารณางบการเงินไม่ใช่บรรทัดสุดท้าย แต่จะดูจากรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น
growth ของการสร้างรายได้และ asset ของ holding company
อย่าง aira securities ใน Q1 ปี 58 ดีกว่า 57 เนื่องจากมีโครงสร้างที่แข็งแรงขึ้น
ทางพนักงานหรือผู้เกี่ยวข้อง อยากใช้บริการมากขึ้น
รองลงมาเป็นเรื่องการลงทุน aira factoring
ต้องแยกเป็น 2 ส่วน operating income กับการสำรอง npl
จุดเด่นของ aira group คือการกระจายความเสี่ยงที่สมบูรณ์ทางการเงิน
Gpsc
นอกจากมีโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการเองที่ศรีราชา และระยองแล้ว รวมกันราว 1000 MW
ยังมีการถือหุ้นในบริษัทผลิตไฟฟ้าอื่นๆ และมีเชื้อเพลิงหลากหลายอีก 9 บริษัท
บางบริษัทได้ผลิตแล้ว และมีระหว่างก่อสร้าง แต่มีสัญญาขายไฟกับลูกค้าระยะยาวแล้วไปในช่วง 5 ปีข้างหน้า
เราพยายามกระจายการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงหลากหลาย หลักๆใช้ ก๊าสธรรมชาติ
เริ่มไปลงทุนในเขื่อนผลิตไฟฟ้าจากลำน้ำ มี 2 โปรเจค ขนาด 1200 MW กับ 60 MW ในลาว
และมีลงทุนในโซลาร์ฟาร์ม ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า
นอกจากผลิตไฟฟ้า gpsc ผลิตไอน้ำ และน้ำเพื่ออุตสาหกรรม มีแผนขยายการลงทุนไปในธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้วย
เช่น ขายไอน้ำให้อุตสาหกรรมเอาไปใช้เป็นพลังงานแลกเปลี่ยนความร้อน เราเดินท่อไปให้เขา
นอกจากพลังงานความร้อน ถ่านหิน น้ำมันเตา ชีวมวล ซึ่งไอน้ำจาก cogeneration
เป็นการผลิตไอน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด ซึ่งไอน้ำตัวนี้เป็น value added ต้นทุนต่ำ
โรงไฟฟ้าเรามี 3 location ซึ่งอยู่ใกล้ลูกค้าแต่ละที่ เป็นจุดแข็งสำคัญ
เรามีแผนขยายโครงการที่ 4 ในจังหวัดระยอง ลูกค้าเป็นกลุ่มปตท.และลูกค้าทั่วไป
แผนก่อสร้างในช่วงสิ้นปีนี้ มีการลงนามกับลูกค้าที่จะใช้แล้ว
Gpsc เข้าตลาด 18 พค.58 ราคา ipo 27 บาท ตอนนี้ 24.3 บาท
โซลาร์ฟาร์ม 80 MW เรามีหุ้นอยู่ 40%
เป็นการลงทุนที่เริ่มมีทยอยจ่ายเงินปันผลกลับมาตั้งแต่ปีก่อน ที่ได้รับแค่ครึ่งปี โดยในปีนี้จะได้รับเต็มๆ
PPA รุ่นเก่าที่อยู่ในระบบ adder จะกำไรสูงกว่า รุ่นใหม่กว่า feed in tariff ซึ่งเมื่อก่อนนับว่าเป็นเรื่องใหม่
ปัจจุบันรายได้จะเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนในการติดตั้งก่อสร้างจะลดลงไปด้วย แม้จะได้ tariff ลดลง
แต่ค่าก่อสร้างโซลาร์ฟาร์มลดลงไปด้วย ซึ่งมีการลงทุนโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 21 MW
พลังงานทดแทนมีการผลิตไฟฟ้าจากทะลายปาล์มพัฒนากับผู้ร่วมทุนในภาคใต้อยู่ระหว่างเจรจา
คาดจะมีความชัดเจนในปีนี้ สิ่งสำคัญคือวัตถุดิบ ซึ่งจะทำให้เรามั่นใจว่าจะมีวัตถุดิบผลิตไฟฟ้าได้ตลอด
เป็นชีวมวลต้องขอใบอนุญาต อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งได้ดำเนินการรับฟังความเห็นของคนในพื้นที่แล้ว
น่าจะเป็นไปตามแผน
ในต่างประเทศ มีแผนการลงทุนในโรงไฟฟ้า
- พม่า มีเสนอการลงทุนในโรงไฟฟ้า ถ่านหิน และแก๊สธรรมชาติ
ได้ส่งรายงานให้รัฐบาลพม่าแล้ว รอการตอบรับ
- ลาว มี 2 เชื่อนระหว่างก่อสร้าง ได้เข้าไปคุยกับการไฟฟ้าของลาว ที่ให้สัมปทานไปมีรายใด
ที่ยังดำเนินการไม่ได้ เราสนใจจะเข้าไปพัฒนาต่อ ซึ่งเรามีความสามารถหาผู้ให้กู้กับผู้ผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนได้
- อินโดนีเซีย โรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นประเทศใหญ่ในอาเซียน มีประชากรกว่า 200 ล้านคน
ความต้องการไฟฟ้ายังมีอีกมาก หลายหมื่น MW เราก็พยายามเข้าไปพัฒนา 1-2 โครงการ
JMT
เป็นบริษัทลูกของ jmart ถือ 55% ใน jmt
ธุรกิจหลักคือ ซ้อหนี้เข้าไปบริหาร และรับจ้างติดตามหนี้ให้สถาบันการเงิน สัดส่วน 90% และ10%ตามลำดับ
ธุรกิจติดตามหนี้ แบ่งเป็น 2 บริษัท jmt network services ซื้อหนี้แบบ non-legal ยังไม่ดำเนินการตามกฏหมาย
แต่ J asset management เป็นหนี้แบบฟ้องแล้ว เพื่อได้สิทธิทางกฏหมายในการสวมสิทธิ์
J insurance broker เป็นนายหน้าประกันวินาศภัย เช่น ประกันรถยนต์ ประกันความเสียหาย
Jmt plus เป็นบริษัทหนึ่งที่ได้รับ license จากกระทรวงการคลัง
ทำ nano finance, personal loan, car for cash จะเริ่มดำเนินการ q3 ปีนี้
เรามีประสบการณ์ทำสินเชื่อเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว jmart ขายเงินผ่อน ซึ่งคุณปิยะ ได้มาร่วมงานด้วย 25 ปีที่แล้ว
ขี่มอเตอร์ไซค์เก็บหนี้ คิดว่าตัวบริษัทมีประสบการณ์ มองว่าช่วงนี้เป็นโอกาสจึงอยากทำ
ธุรกิจ Nano finance ทาง jmart เข้าไปถือ singer 24.99% ซึ่งลูกค้า singer เป็นร้านเล็กๆ
เช่น โชว์ห่วย อยู่เยอะ ให้ลูกค้าผ่อนตู้เติมเงิน ปั๊ม ซึ่ง nano finance เป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยง
ไม่ใช่ปล่อยกู้คนกินเงินเดือนประจำ จึงต้องปล่อยให้รัดกุม
jmt จะเข้าไปให้เงินทุนหมุนเวียนกับลูกค้า singer เพื่อเข้าไปซื้อของเข้าร้าน
ความเสี่ยงจะต่ำกว่าตรงที่เราเคยเห็นประวัติจาก singer และทาง jmart
ก็จะมีไปปล่อยกู้ให้คนเช่าพื้นที่เปิดร้านมือถือ
ช่วงแรกเน้นลูกหนี้ ลูกค้าที่เราคุ้นเคยก่อน
Jmart กำลังจะเอา Jas ipo เข้าตลาด จะมีบริษัทที่ทำ community mall
มีตลาดกลางคืนชื่อ j night อยู่ตรงรามอินทรา มีผู้เช่าที่เป็น nano มาเช่า
ซึ่งเราจะให้เงินทุนหมุนเวียนกับลูกค้ากลุ่มนี้เช่นกัน
มูลหนี้ของ jmt ตั้งแต่เข้าตลาดปี 2012 เรา ipo 4 บาท เปิดและปิดตลาดที่ 12 บาท
ฐานลูกค้าในมือ 2 หมื่นล้านบาท วันนี้มี 7.5 หมื่นล้าน ระดมซื้อหนี้มาขยาย
ครึ่งปีนี้ซื้อเข้ามา 1.5 หมื่นล้านบาท ส่วนการติดตามเก็บหนี้ 1.5 หมื่นล้านบาท
รวมทั้งพอร์ตเป็น 9 หมื่นล้านบาท
ต้นทุนซื้อหนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 5% คือ มูลค่า 100 ซื้อในราคา 5 บาท
วันนี้ jmt เป็นคนเดียวที่อยู่ในตลาด 90% market share อีก 10% กระจายอยู่ในสำนักงานกฏหมาย
ที่เราไม่เอาเนื่องจากราคาสูงไป ไม่ใช่ซื้อหนี้อย่างไรก็ได้ ต้องมีเป้าหมาย irr, yield เราอยู่ที่ 12%
เนื่องจากซื้อหนี้มาหลายปี อย่างปีก่อนซื้อที่ 5% กว่า แต่เฉลี่ยราคาที่ 4% กว่า
เพราะช่วงแรกต้นทุนต่ำซื้อได้ 3% กว่า
การติดตามหนี้ไม่ใช้วิธีรุนแรง เราประณีประนอม มูลค่าหนี้เรา 7.5 หมื่นหล้านคิดเป็นลูกค้า 2.5 ล้านคน
personal loan 60% รถยนต์ 40%
ปีหน้าสัดส่วนน่าจะเปลี่ยนพอกัน ต่อไปจะมี leasing , เครื่องยนต์การเกษตร เช่น รถไถนา
เพราะหนี้เหล่านี้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
เนื่องจากเราตามเก็บ หนี้ current เราจะเห็น ratio ที่ลดลงมา
หนี้ปัจจุบันพอค้าง 1 เดือน ก็ต้องเตรียมตัวแล้ว
เมื่อก่อนพวก finance เก็บหนี้ได้ 50% จากแต่ก่อนเก็บได้ 80% เราก็จะเริ่มเห็น สัญญาณ
สิ่งที่คนขายกลัวคือภาพลักษณ์ ไม่ใช่ใครจะตามก็ได้ คนขายก็จะดูคุณสมบัติด้วย
บางทีเราซื้อราคาต่ำกว่า แต่เราชนะ
หนี้ในมือเรา 2.5 ล้านคน บางครั้งก็ซ้ำรายกัน พอมาอยู่ที่เรา ลูกค้าได้รับการติดต่อสื่อสารจากเรา
บางทีมี 4-5 สัญญาเราก็จะเชิญมาปรับโครงสร้างหนี้ ช่วยกันบริหาร การจ่ายขึ้นอยู่กับศักยภาพ
สถาบันจึงอยากจะขายให้เรา ถ้าซื้อแล้วไปฟ้อง ลูกค้าก็จะมีขาหนึ่งที่เป็นหนี้ดีกับสถาบันอยู่
จะกลายเป็นหนี้เสีย การที่มีคนเข้าไปช่วยบริหารจัดการก็จะเป็นสิ่งที่ดี
คนตามเก็บหนี้ตอนนี้มีอยู่ 1,000 คน และจะมีคนมาช่วยอีก 3,000 คน จาก singer
ทำหน้าที่ช่วย survey ไม่ได้ตามเก็บ
Daii
เป็นบริษัทคนไทย แต่เครื่องจักรการผลิต มาจากญี่ปุ่น
ความตั้งใจ ไดอิ แปลว่า substitution เป็นสินค้าทดแทน เรามองว่าประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนปลงเยอะ
ปัญหาแรงงาน ระบบดั้งเดิมของเรามากมายที่รุ่งเรืองในอดีต รับเหมาก่อสร้าง โชว์ห่วย
ซึ่งโลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว รับมีวัสดุก่อสร้างและรับสร้างบ้าน
ธุรกิจแรก ผลิตรั้วคอนกรีตสำเร็จรูปรายแรกของประเทศไทย fencer มองว่ามี market cap รั้ว 5,000 ล้าน
ถ้ารวมแรงงานด้วยก็ 10,000 ล้านบาท ต้องมีนวัตกรรม เทคโนโลยี
ตอนเราเริ่มต้นปี 43 รั้ว เมตร 2800 บาท/ตรม. ระบบดั้งเดิม 1500 บาท/ตรม. เนื่องจากแรงงานยังถูก
จากเดิม หล่อคอนกรีต ก่ออิฐ ฉาบปูน แต่ของเราผลิตจากโรงงานแล้วมาประกอบหน้างาน ต่อสู้มา 10 กว่าปี
จนค่อนข้างจะถูกกว่าระบบดั้งเดิมแล้ว ซึ่งปัจจุบันระบบใหม่นี้มี share ในตลาดรั้วอยู่ 35% เทียบกับวีธีดั้งเดิม
ถ้าเทียบทั้งประเทศเรามี market share 15%
สินค้าเราเป็นคอนกรีตผลิตจากโรงงานกำลังสูงอัดลวดจากโรงงาน ป้องกันเชื้อรา กันซึมน้ำได้ดี
เนื่องจากรั้วมีน้ำหนักมาก การขนส่งจึงมีต้นทุนสูง เราจึงเปิดโรงงานที่ระยอง
และมองต่อไปคือ ภูเก็ต ขอนแก่น เชียงใหม่
ธุรกิจสร้างบ้านก็มาแรง เราเห็นบ้านสำเร็จรูปที่ญี่ปุ่น ใน 10 กว่าปีที่ผ่านมาเรามีที่ดินแล้วจะปลูกบ้าน
ต้องทำพิมพ์เขียวและจ้างผู้รับเหมา ใช้เวลา 10-24 เดือน ซึ่งของญี่ปุ่น 95% ใช้บ้านสำเร็จรูป
ที่ใช้แรงงานย่อยๆมีแค่ 5 % เพราะรวดเร็วและราคาค่อนข้างถูกแล้ว
ความคิดการซื้อบ้านในญี่ปุ่นจะเหมือนรถยนต์ บริษัทอันดับหนึ่งมียอดขาย 2-3 แสนล้านบาท
จาก Market 1.5 ล้านล้านบาท อันดับที่ 20 มียอดขายเกินกว่า 2 หมื่นล้านบาท
บริษัทอันดับที่ 1 มีโรงงานประมาณ 12 โรง มีโชว์รูมเป็นร้อยเกือบทุกจังหวัดในญี่ปุ่น
ขายบ้านเหมือนโชว์รูมรถยนต์
ในญี่ปุ่นเทคโนโลยีจะมี 3 แบบ เหล็ก ไม้ คอนกรีต ซึ่งในบ้านเราเหมาะกับคอนกรีต
มีรายใหญ่ในบ้านเรานำบ้านสำเร็จรูปโครงสร้างเหล็กเข้ามา
แต่ราคาต่อตรม.สูง ราว 25,000-30,000 บาทต่อตรม.
แต่เราทำราคาได้ที่ 12,000-13,000 บาทต่อตรม.
ซึ่งจะเป็นโอกาสให้เราสู้กับผู้รับเหมารายย่อยได้ ซึ่งครองตลาดอยู่ 80-90%
ของตลาดรับสร้างบ้าน 50,000 ล้านบาท
เราเพิ่งสร้างโรงงานเสร็จกลางปีก่อน เพิ่งทำโชว์รูมเสร็จช่วงปลายปี
ปี 58 เราทำได้อยู่ 300 กว่าล้านบาทในปีนี้ market share 0.7%
โจทย์คือ ต้องสู้กับ ผรม.รายย่อยให้ได้ ต้นทุนเขาอยู่ที่ 10,000-13,000 บาท/ตรม.
ซึ่งราคาเราอยู่ที่ 13,000 บาท/ตรม.
โรงาน 1 กำลังผลิต 300 ล้าน โรงงาน 2 เพิ่งเสร็จปลาย ก.ค. กำลังผลิต 500 ล้านบาท ต่อปี
จะนำเงินไปสร้างต่อที่ระยองกำลังผลิต 200-300 ล้านบาท มีศักยภาพในการผลิตบ้านสำเร็จรูป
ต้องมีโชว์รูมให้ลูกค้าเห็นบ้านจริงก่อนจะซื้อ มีบ้าน 8 หลัง ที่ลาดพร้าว
กำลังจะสร้างโชว์รูมที่เรียบด่วน เสร็จต้นปี 59
การสร้างบ้านของเรา 4 เดือนเสร็จ ให้ลูกค้าสั่งออนไลน์ สามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิต
หรือบิลเพยเมนต์ได้ 40กว่าหลังจ่ายด้วยออนไลน์ ลูกค้าชอบเพราะได้แต้มบัตรเครดิต
ข้อดี ทนทานต่อแผ่นดินไหว สามารถทำลวดลาย ผนังได้เหมือนญี่ปุ่น ไม่มีรอยร้าวตลอดอายุการใช้งาน
เพราะเราใช้คอนกรีตอัดกำลังสูงและอัดลวด มีเราเจ้าเดียว ต้องมีตอกเสาเข็ม และแกะแสล็กขึ้นมา
เข้าไปดูได้ในกินซ่าโฮมดอทคอม
ระบบการก่อสร้างหน้างานเหมือนการประกอบรถยนต์ แต่ละชุดจะมีแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะหน้าที่
แล้วย้าย site ไปเรื่อย เป็นระบบแบบอุตสาหกรรมทำให้ต้นทุนภาพรวมลดลง
หน้าต่างสำเร็จรูปกำลังเติบโต มีบาธรูม สามารถซื้อผ่านออนไลน์ได้
โมเดิร์นเทรดชนะโชว์ห่วย การซื้อสินค้าออนไลน์จะลดต้นทุนมาก
เราคิดว่าวันหนึ่งจะ cover ต้นทุนจาก modern trade ได้ มีภารกิจอีกมาที่เราต้องทำ
ผลประกอบการ แนวโน้ม และโครงการ
Aira
ผลดำเนินงาน Q1 58 รายได้ดี เปรียบเทียบกับปี 57 เพิ่มขึ้น 70 กว่า % มาจาก หลักทรัพย์เป็นหลัก
ผลประกอบการครึ่งปีน่าจะใช้ได้ ส่วนครึ่งปีหลังน่าจะทั่วไป slow down บ้าง
ของเราต้องดูทั้งงบเดี่ยว และงบรวม จะมีปันผลจากบริษัทลูกที่กำลังเติบโต กำลังลงทุน
ต้องให้ลูกทำเสร็จก่อนถึงจะส่ง retain earning มาที่แม่ในช่วง ไตรมาส 3-4 ที่จะพิจารณาจ่ายปันผล
การลงทุนกับ aira จึงเป็นการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่ระยะสั้น เป็น holding company อย่างแท้จริงทางการเงิน
ในอีก 2 ปีจะเห็นผลการลงทุน รายได้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ค่าใช้จ่ายในการวางระบบงาน การลงทุน
จึงต้องดูการเติบโตรายได้ และทรัพย์สิน
บริษัทที่เป็นอนาคตคือ aira&aiful ถ้าไปญี่ปุ่นทุกคนต้องรู้จักไอฟู่ รายได้ปีละ 6 แสนล้านเยน
สาขา 850 สาขา สนญ.อยู่ที่เกียวโต เป็นอันดับ 3-4 ของญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทที่ทำสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่อันดับ 5
เป็นครั้งแรกที่เขาออกมาตั้งต่างประเทศ เจอกับ major shareholder กันที่สิงคโปร์
พบว่า culture ของเกียวโต ใกล้เคียงกับคนไทย และถูกใจกันจึงชวนกันเข้ามาดูในประเทศไทย
ใช้เวลาราว 1 ปี และตกลงธุรกิจกัน ซึ่งระหว่างนั้นก็มีบริษัทที่ติดต่อเข้าไป 5 บริษัท
แต่เขาเลือกเรา จดทะเบียน 1 พันล้านบาท จัดตั้งบริษัทแล้วมีพนักงาน 70 สิ้นปี 392 คน
สัดส่วนที่นอกเหนือสถาบันการเงิน aira property ต่อไปจะทำ REIT
ซึ่งจะนำ property เข้ามาจดทะเบียนในตลาด และอีกส่วนที่ศึกษาคือธุรกิจพลังงาน น่าสนใจ
แต่ยังหาผู้ร่วมที่เหมาะกับเราไม่ได้
การเซ็น mou กับ Super rich สีส้ม ธุรกิจนี้ต้องเปรียบเทียบกับธุรกิจท่องเที่ยว
เวลาธุรกิจไม่ดี เราก็ไปเที่ยวกัน เชื่อว่าจะมีอนาคตในระยะยาว อยู่ระหว่างรอทางนั้นตัดสินใจ
เพราะเป็นธุรกิจครอบครัว ทางเขาก็อยากทำงานในธุรกิจที่ชำนาญคือแลกเปลี่ยนเงิน
ถ้าจับคู่กับเราก็ win win
การปันผล เราพยายามจ่ายปันผลให้มากกว่า เงินฝาก ที่ผ่านมาปันผลได้ 3-4%
GPSC
ผลการดำเนินงาน Q1 58 เติบโตก้าวกระโดด จาก 90 กว่าล้านบาท เป็น 500 กว่าล้านบาท
เนื่องจาก Q157 โรงไฟฟ้าหลักชลบุรีปิดซ่อมบำรุง ส่วน Q2 58 ผลดำเนินงานเพิ่ม 10 กว่า %
มีการบันทึกค่าใช้จ่ายราคาหุ้น esop (ความแตกต่างราคา esop ที่ให้พนักงานกับราคาตลาด
ต้องไปหักจากกำไรก่อนภาษีตามมาตรฐานบัญชี) และบันทึก fx loss บริษัทลูก
ซึ่งผลดำเนินการปกติครึ่งปีแรกดีกว่าครึ่งปีก่อน กำไรสุทธิเพิ่มจาก 600 กว่าล้านเป็น 1,000 ล้านบาท
ที่ธุรกิจ Q2 ยังดีกว่า Q1 ได้ เพราะธุรกิจไฟฟ้าต่างกับธุรกิจอื่น เพราะเป็นสัญญาระยะยาว
ปริมาณซื้อขายคงที่และมีแนวโน้มเพิ่ม สัญญามี minimum ที่ตกลงไว้แล้วต้องรับ
ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นการไฟฟ้า มีสัญญา lock กันไว้แล้ว ราคาเชื้อเพลิงมีแนวโน้มลดลง
ลูกค้าหลักคือ กฟผ.ราว 45%
ปตท. ถือหุ้น gpsc อยู่ 75% ถือตรงอยู่ที่ 22% ที่เหลือเป็น pttgc, top
ผู้ถือหุ้นไม่ได้ประโยชน์ ราคาขายสินค้าต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน มีรายการระหว่างกันตามแนวปฏิบัติของตลาดหลักทรัพย์มีกรรมการอิสระตรวจสอบ ซึ่งเราก็ขายราคามาตรฐานตั้งแต่ก่อนเข้าตลาดอยู่แล้ว
แนวโน้มครึ่งปีหลังโตสม่ำเสมอ และทยอยรับรู้รายได้จากบริษัทที่ลงทุน
ทั้งที่ operate แล้ว หรือเริ่มดำเนินการ
การลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าของ ปตท.ในอนาคต จะมอบหมายให้เราดำเนินการ
ปัจจุบันที่รับรู้รายได้ 1300 MW อีก 500 MW ที่มีสัญญาแล้วจะทยอยรับรู้
เป็น 1800 MW ใน 5 ปีข้างหน้า ส่วนอีก 1000 MW มีแผนขยายการลงทุนเพิ่ม
อย่างเช่น ที่ญี่ปุ่น หรือโครงการ 4 ในระยอง ซึ่งเรามีเงินทุนเพียงพอ ไม่ต้องเพิ่มทุน
มีเงินจาก ipo และ กู้เงินเตรียมไว้ ซึ่ง de 0.5 เท่า ซึ่งถ้ามีโครงการดีๆ ก็ยังกู้เงินเพิ่มได้อีก
ในวิกฤติจะเป็นโอกาสของเราจะเข้าลงทุนทรัพย์สินที่น่าสนใจในราคาน่าสนใจได้
ทั้งเปิดใหม่หรือโรงไฟฟ้าที่ผลิตอยู่แล้ว
ธุรกิจอื่นๆ เช่น การบริหารจัดการน้ำ เข้าไปศึกษาร่วมกับกลุ่ม eastw อย่างการบำบัดน้ำเสียพัทยา
เอามาบำบัดและใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม
ซึ่งน่าจะมีผลตอบแทนน่าสนใจและช่วยบริหารจัดการน้ำในประเทศด้วย
การลงทุนธุรกิจแบตเตอรี่ ลงทุนในบริษัทค้นคว้าวิจัย ลิเธียมอิออน ชื่อบริษัท 24M
เริ่มมีการค้นคว้าและพัฒนาแบตเตอรี่ที่เก็บไฟฟ้า ต้นทุนผลิต และขนาด และรอบการใช้
มีการพัฒนาระยะเวลาผลิตให้สั้นลงเหลือ 20% ของเวลาผลิต ทำให้ต้นทุนผลิตลดลงด้วย
เรื่องความจุ ความปลอดภัยก็กำลังพัฒนา ซึ่งจะมาประยุกต์การเก็บไฟฟ้าในอุตสาหกรรมรวมถึง
capacity peak ด้วย บริษัทนี้ได้รับทุนจาก us department of energy
ในการศึกษาแบตเตอรี่กำลังรถยนต์ด้วย เป็นโครงการย่อยที่จะพัฒนาต่อไป
Gpsc เราเป็นผู้เล่นที่มีความสมดุลทั้งโรงไฟฟ้าที่เป็นดั้งเดิม แก๊ส และพลังงานต่างๆ
ซึ่งน่าจะทำให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้
JMT
ผลประกอบการ Q1 58 รายได้ กำไร เติบโตกว่า 100% ซึ่งปี 57 อยู่ที่ 88 ล้าน
ซึ่งปี 58 อยู่ที่ 168 ล้าน กำไร 16-> 37 ล้านบาท ครึ่งปีแรกต้องดีกว่าปีก่อน
ทั้งปี 58 net profit เป้าโต 30% หนี้ในตลาดสูง ปีที่เข้าตลาด 4.7 หมื่นล้านล้านคิดเป็น 2-3% หนี้ครัวเรือน ปัจจุบัน หนี้เสียขึ้นมา 5-6% ซึ่งการซื้อหนี้เราเลือก จากนี้จะเห็นหนี้หลากหลายขึ้น
จะมีหนี้จากรถคันแรกเยอะขึ้น หนี้ personal loan ในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าจะเห็นภาคการเกษตร และ sme
จะเป็นกลุ่มหนี้ที่เริ่มขายออกมามากขึ้น ลูกค้าที่เราเก็บหนี้
เหล่านี้จะกลับมาเป็นลูกค้าของ jmt plus ในอนาคต
ปล่อยหนี้ไม่ยาก สำคัญคือ npl เรามีลูกค้าที่เรารู้จัก ไม่ว่าจะเป็นคนที่ซื้อมือถือ jmart 1 ล้านกว่าคน
เป็นลูกค้าเรา 6 แสนกว่าคน คนอื่นอาจจะมีหน้าร้านเยอะให้ลูกค้าเดินเข้ามา
ปีหน้าคาดว่าจะปล่อย loan หลัก พันล้านบาท แต่จะมีพนักงานไม่ถึง 30 คน
เพราะเราพยายามใช้หน้าร้านคนอื่น ceo ที่ดูแล jmt plus เป็นชาวญี่ปุ่น มาจาก เอคอม ที่เป็นเบอร์ 1
ซึ่งทีมงานเข้ามาแล้ว แต่จะยังไม่เห็นกำไร jmt plus ในปีนี้ แต่จะเริ่มมีกำไรปีหน้า
และมีแผนเข้าตลาดในอีก 3 ปีข้างหน้า
ซื้อหนี้ 3 หมื่นล้านบาท เหลืออีก 1.5 หมื่นล้านบาท น่าจะได้ตามเป้าหมาย
การปล่อยหนี้และการเก็บหนี้ก็จะ balance กัน 7.5 หมื่นล้าน ตัด amortization เกือบครึ่ง
ที่เหลือเก็บได้จะรับรู้ 100% เรากลต.ให้ทำตาราง projection เก็บหนี้ 5 ปี แต่เราใช้เวลาไม่ถึง
เก็บหนี้ตัด amortization หมดเฉลี่ยราว 4 ปี
เชื่อว่า jmt ทั้งสองธุรกิจต้นน้ำถึงปลายน้ำจะเห็นอะไรดีๆใน 3-5 ปีข้างหน้า
พรบ.ทวงหนี้ ทางแบงค์ชาติถ้าอธิบายว่า 200 หรือ 300 บาทมาจากไหน
ไม่มีประเด็น เช่น ธนาคาร จ้าง agency 20% ของเงินที่เก็บได้ ก็มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้
อธิบายได้ก็ไม่มีประเด็น คนที่กระทบคือ hire purchase อย่างการไป lock ล้อ
ไปเปิดประตูดึงกุญแจมาทำไม่ได้ สถาบันการเงินหรือบริษัทเช่าซื้อต้องระมัดระวัง มีเป็นแสนคน
ถ้าไม่มีเครื่องมือในการเข้าไปคุยกับลูกค้าเสี่ยง เพราะลูกค้าจะร้องเรียนได้
ซึ่งเราใช้โทรศัพท์ทวง 95% อีก 5% ลงพื้นที่ ระบบอัดเสียงก็สำคัญ
ถ้าลูกค้าปฏิเสธการจ่ายต้องหยุดทวง ต้องฟ้องร้อง ก็มีค่าใช้จ่าย เขาก็จะขายหนี้ออกมาเร็ว
อย่างบริษัทที่เช่าซื้อรถรายใหญ่สุดปกติปล่อยหนี้ปีละ 2 รอบ ปีนี้ปล่อยออกมา 4 รอบ
พรบ.ทวงหนี้จึงน่าจะเป็นภาพบวกกับ jmt แต่คนที่เป็น freelance จึงต้องปรับตัว
ต้องแสดงตนมีบัตรพนักงาน ยืนคุยกับลูกค้าต้องมีระยะห่าง ต้องมี script ในการพูด
แสดงเอกสารให้ชัดเจน การคืนรถต้องมีการตรวจสอบทรัพย์สิน ถ่ายรูปให้เรียบร้อย ส่งให้ finance รับทราบ
กลุ่มแก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิต ที่จะชวนกันชักดาบ เราดูแล้วมีไม่ถึง 1%
ซึ่งลูกค้าที่เราเจรจาได้ 99% อีก 1% ต้องไปฟ้องร้อง กับกลุ่มแบบนี้
ซึ่งถ้าก่อนฟ้องคุยกันเราลดให้ แต่หลังฟ้องต้องโดนทั้งค่าธรรมเนียมต่างๆ
Daii
Q2 58 น่าจะเติบโต 5% กำไรเทียบปีก่อนลดลง เพราะ งาน backlog ปีก่อนเป็น conventional
ราเพิ่งจะเสร็จระบบสำเร็จรูปเมื่อช่วงกลางปี 57 ซึ่งครึ่งปีที่ผ่านมาวัสดุก่อสร้างโต 20%
สร้างบ้านสำเร็จรูปโตเกิน 100% จะสะท้อนไปไตรมาส 3-4 ที่จะรับรู้
รายได้ทั้งปีน่าจะเติบโตราว 15% และกำไรน่าจะโตเกิน 100% เทียบปีก่อน
เรามีโอกาสเติบโตเยอะใน 3-5 ปีข้างหน้า บ้านสำเร็จรูปเราได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ
เนื่องจากราคาไม่ได้แพงราว 13,000 บาท/ตรม. เทียบกับรายย่อย 8,000-10,000 บาท/ตรม.
รูปแบบบ้านมีหลายแบบ เช่น บ้าน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 228 ตรม. ราคา 2.7 ล้านบาท
เป็นบ้านคอนกรีต ต้านแผ่นดินไหว ซึ่งผู้รับเหมาสามารถสร้างได้ในราคาหมื่นต้นๆ เราแพงกว่าราว 20%
ซึ่งถ้าเทียบกับรับเหมารายใหญ่ เราก็จะถูกกว่า
ในปีหน้าจะมีบ้านรูปแบบใหม่ที่ราคาต่อตรม.ต่ำกว่า 10,000 ไปสู้กับรับเหมารายย่อย
ภารกิจนี้ถ้าประสบความสำเร็จได้เราจะเป็น high growth
เราทำรับสร้างบ้าน ทำวัสดุก่อสร้าง ขายออนไลน์ เรามีหน้าที่เจียรไน ให้บ้านเป็นที่ยอมรับ
จะมีรุ่นออเรียลทัลสไตล์ ไทยสไตล์ ไอซ์แลนด์แบบยุโรป รอยัลคลาสสิคสไตล์ให้ลูกค้าเลือกได้หลายรุ่น
เป็นนวัตกรรมที่เราจะไปสู้ในตลาดมากขึ้นด้วย
ยอด backlog ในครึ่งปีหลัง จะเยอะกว่าครึ่งปีแรก จากครึ่งปีแรกบ้านสำเร็จ 40 หลัง น่าจะโตเท่าตัว
ราคาขายเฉลี่ย 4 ล้านบาท บ้านเราแพงสุด 10 ล้านบาท ถูกสุด 2.5 ล้านบาท
สำหรับหัวข้อที่ 2 ทางคุณอมรจะช่วยแชร์ต่อครับ
Money talk@SET ครั้งถัดไป 29สิงหาคม จัดวันเสาร์ตามปกติ จอง 22 สิงหาคม 7 โมงเช้าเปิดจอง
หัวข้อ 1 มี 4 บริษัท เถ้าแก่น้อย,คอม7,seafco,uac (พิเศษมีแจกขนมเถ้าแก่น้อย)
หัวข้อ 2 ลงทุนเปลี่ยนชีวิต ฟ้าลิขิตหรือจะสู้คนทำ คุณวิบูลย์,คุณนุช วราพรรณ, คุณทิวา, ดร.นิเวศน์
ขอบพระคุณอ.ไพบูลย์,พิธีกร,วิทยากร, ทีมงาน money talk และผู้สนับสนุนทุกท่าน
ข้อมูลเพื่อแบ่งปันความรู้ หากผิดพลาดอย่างไรขออภัยด้วยครับ ช่วยเสริมเพิ่มเติมได้ครับ