หน้า 1 จากทั้งหมด 1

PMART

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 13, 2015 12:26 pm
โดย pakapong_u
*"พี-มาร์ท ซุปเปอร์สโตร์"ตั้ง FA แต่งตัวพร้อมเข้าตลาดหุ้นในปี 60
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (Th)

Wednesday, May 13, 2015 11:16


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ค. 58)--นายพลภัทร สุขหน้าไม้ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท พี-มาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด ผู้นำด้านการขนส่ง อาหารแช่แข็งรายใหญ่ของเมืองไทย แต่งตั้งบล.เอเชีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บริษัท เอินส์ท แอนด์ ยัง ดูแลระบบภายใน พร้อมทั้ง บริษัท PWC ในการออดิทตรวจสอบบัญชี และมีบริษัทสำนักกฎหมายสากล สยามพรีเมียร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนและนำหุ้นของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2560

--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/รัชดา/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: [email protected]--

Re: PMART

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 13, 2015 12:26 pm
โดย pakapong_u

Re: PMART

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 13, 2015 12:27 pm
โดย pakapong_u

Re: PMART

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 13, 2015 12:28 pm
โดย pakapong_u

Re: PMART

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 13, 2015 12:28 pm
โดย pakapong_u

Re: PMART

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 13, 2015 12:29 pm
โดย pakapong_u
“พีมาร์ท” โหมป่าล้อมเมือง ทุ่ม 6 พันล้านลุยศูนย์ค้าส่งอาหารแช่แข็ง
16 กุมภาพันธ์ 2558 22:14 น.

ASTVผู้จัดการรายวัน - “พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์” วางแผนลงทุน 3 ปีทุ่ม 6 พันล้านบาท เปิดตลาดอาหารแช่แข็งครบวงจรต่างจังหวัด หลังทำยอดขายปีแรกทะลุ 1 พันล้านบาท เน้นกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง เล็งพื้นที่ห่างไกลวัตถุดิบอาหารสดในเขตภาคเหนือ-อีสาน วางแผนเปิด 30 ศูนย์ค้าส่ง พร้อมยอดขาย 5 พันล้านบาทในปี 2560 ก่อนขยายตลาดเออีซี

นายประกร มหากิจโภคิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ จดทะเบียนด้วยจำนวนเงิน 500 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 57 เพื่อดำเนินธุรกิจศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหารแช่แข็งและอาหารสดครบวงจร ทั้งเนื้อหมู วัว ไก่ และอาหารทะเลทุกชนิด โดยเริ่มเปิดสาขาแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ จนปัจจุบันมีสาขาเพิ่มที่ จ.ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี สกลนคร และสุรินทร์ โดยมีรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท

บริษัทฯ มีแผนใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 6 พันล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายระยะสั้นว่าภายในกลางปี 2558 จะมีสาขาครบ 10 แห่งในการขยายสาขาเพิ่มที่ จ.เชียงราย หนองคาย บุรีรีมย์ และนครราชสีมา พร้อมทำรายได้เพิ่มขึ้น 100% คิดเป็นมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท ส่วนเป้าหมายระยะกลางคือมี 30 สาขา และทำรายได้ 5 พันล้านบาท พร้อมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 2560 ก่อนที่จะเดินหน้าสู่เป้าหมายระยะยาวคือขยายตลาดเออีซี เน้นประเทศมาเลเซีย เวียดนาม และลาว เป็นหลัก

“เหตุผลที่บริษัทฯ เน้นขยายสาขาในพื้นที่ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหลัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ห่างไกลจากวัตถุดิบอาหารสดโดยเฉพาะอาหารทะเล ทั้งยังมีความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่บริษัทฯ มีฐานลูกค้าเก่าจากธุรกิจวัตถุดิบอาหารแช่แข็งโดยมีสินค้าครอบคลุมทุกประเภทเป็นจำนวนกว่า 1 พันเอสเคยู ตลอดจนมีระบบการขนส่งด้วยรถบรรทุกคอนเทนเนอร์แช่เย็นกว่า 20 คันซึ่งสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างเพียงพอ”

การดำเนินงานในเบื้องต้นจะเน้นการสร้างแบรนด์เป็นหลัก จึงเป็นผู้ลงทุน 100% ในการขยายสาขาแต่ละแห่งและยังไม่มีแผนเปิดขายแฟรนไชส์แต่อย่างใด โดยใช้เงินทุนสาขาละประมาณ 200-300 ล้านบาท บนพื้นที่ 2-4 ไร่ (รวมค่าที่ดิน ค่าก่อสร้างหน้าร้าน ห้องเย็น และคลังสินค้า ตลอดจนวัตถุดิบ และรถบรรทุกห้องเย็นขนาดเล็ก สาขาละ 2 คัน) โดยจะพิจารณาการขยายสาขาตามการขยายตัวของโมเดิร์นเทรดชั้นนำเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น บิ๊กซี, เทสโก้ โลตัส ตลอดจนห้างสรรพสินค้าชั้นนำซึ่งมีการศึกษาศักยภาพอย่างละเอียดแล้ว

“บริษัทฯ ยังพิจารณาปัจจัยรองอื่นๆ อีกในการเปิดสาขาใหม่แต่ละแห่ง เช่น เป็นพื้นที่ห่างไกลจากแหล่งวัตถุดิบอาหาร มีจำนวนประชากรไม่น้อยกว่า 1 ล้านคนในแต่ละพื้นที่ รวมถึงเป็นจังหวัดที่มีสนามบินและระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ครบถ้วน เพราะแสดงให้เห็นถึงโอกาสการขยายตัวทางเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยในบางจังหวัดบริษัทฯ อาจมีการเปิดสาขามากกว่า 1 แห่ง เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น และอุบลราชธานี เป็นต้น”

นายประกรกล่าวด้วยว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทฯ ประมาณ 60% เป็นเจ้าของกิจการฟูดเชนและห้องเย็น โดยแต่ละสาขาจะมีลูกค้าสมาชิกประมาณ 1 พันราย มีความถี่ในการซื้อประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ คิดเป็นยอดขายเฉลี่ยต่อสาขาวันละประมาณ 1 ล้านบาท ส่วนอีก 40% เป็นลูกค้า HoReCa ได้แก่ กลุ่มธุรกิจโรงแรม (Hotel) ภัตตาคาร (Restaurant) และร้านอาหาร (Caterers)

“บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจค้าส่งอาหารแช่แข็ง เนื่องจากยังไม่มีคู่แข่งขันอย่างชัดเจน จึงเตรียมใช้งบประมาณ 10-20 ล้านบาทในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2558 เพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคและดำเนินกิจกรรมการตลาดผ่านสื่อหลักทางสิ่งพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ในส่วนกลางเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่เน้นสื่อรองในแต่ละพื้นที่ เช่น รถแห่โฆษณา ป้ายผ้า วิทยุชุมชน และอื่นๆ”


http://www.manager.co.th/iBizChannel/Vi ... 0000019032

Re: PMART

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 13, 2015 4:47 pm
โดย pakapong_u
(เพิ่มเติม) พี-มาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ตั้ง FA แต่งตัวพร้อมเข้าตลาดหุ้นในปี 60

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 13 พฤษภาคม 2558 14:08:53 น.
นายพลภัทร สุขหน้าไม้ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท พี-มาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด ผู้นำด้านการขนส่ง อาหารแช่แข็งรายใหญ่ของเมืองไทย แต่งตั้งบล.เอเชีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บริษัท เอินส์ท แอนด์ ยัง ดูแลระบบภายใน พร้อมทั้ง บริษัท PWC ในการออดิทตรวจสอบบัญชี และมีบริษัทสำนักกฎหมายสากล สยามพรีเมียร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนและนำหุ้นของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2560

นายพลภัทร คาดว่าจะระดมทุนผ่านการขาย IPO จำนวน 5,000 ล้านบาท เพื่อนำไปขยายสาขาในช่วง 3 ปีนี้ โดยในปี 60 จะมีจำนวนสาขา 30 สาขา ซึ่งในปี 58 จะเปิดสาขาใหม่ 4 แห่ง ได้แก่ หนองคาย นครราชสีมา บุรีรัมย์ และเชียงราย ใช้เงินลงทุน 1 พันล้านบาท ซึ่งจะเปิดได้ปลายปี 58 นี้ โดยสาขานครราชสีมา จะเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดและใช้เป็นจุดกระจายสินค้าอีกด้วย โดยในแต่ละสาขาจะตกแต่งดูเป็นโมเดิร์นเทรด

ส่วนในปี 59 จะเพิ่มสาขาอีก 10 สาขา เน้นกระจายสาขาไปที่ภาคเหนือและอีสาน อาทิ พิษณุโลก นครสวรรค์ ลำปาง มุกดาหาร ร้อยเอ็ด เป็นต้น คาดใช้เงินลงทุน 2.5 พันล้านบาท และ ปี 60 ขยายสาขาอีก 10 สาขา ใช้เงินลงทุน 2.5 พันล้านบาท หลังจากปี 60 บริษัทมีแผนจะขยายสาขาไปทั่วประเทศ และจะขยายสาขาลงไปทางภาคใต้ด้วย

นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดหาพื้นที่ในเขตกรุงเทพเพื่อจัดตั้งเป็นสำนักงานใหญ่ และเป็นแหล่งเก็บสต็อกสินค้าได้ถึง 5 หมื่นตัน ตั้งอยู่ที่บางกล้วยไทรน้อย ใกล้บางใหญ่ บนพื้นที่ 54 ไร่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 59

นายพลภัทร ยังกล่าวว่า บริษัทได้เล็งขยายสาขาพี-มาร์ท เข้าไปที่ สปป.ลาว และ เวียดนาม เพราะมีกำลังซื้อสูงและวัฒนธรรมการรับประทานอาหารคล้ายไทย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 60

สำหรับยอดขายบริษัทต้งเป้าหมายว่า ในปีนี้จะมีรายได้เติบโตเท่าตัวจากปี 57 ที่มีรายได้ 1,000 ล้านบาท เป็น 2,000 ล้านบาท โดยในไตรมาสแรกที่ผ่านมาทำได้แล้ว 500 ล้านบาท ในปี 59 คาดว่าจะมียอดขาย 4,000 ล้านบาท และในปี 60 จะมียอดขาย 6,000 ล้านบาท จากผลการขยายสาขา

"ถึงเศรษฐกิจไม่ดี แต่ของเราขายออกได้ตลอดเพราะเป็นอาหาร ปีนี้คาดว่าอาหารแช่แข็งเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีมูลค่าตลาดอาหารแช่แข็งในประเทศประมาณ 1 หมื่นล้านบาท " นายพลภัทร กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะปรับสัดส่วนยอดขายส่งลดลงและดันสัดส่วนยอดขายค้าปลีกมากขึ้น เป็นขายส่ง 60% ขายปลีก 40% จากปัจจุบันขายส่ง 80% ค้าปลีก 20% ภายใน 3 ปีนี้

อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: [email protected]--

Re: PMART

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 13, 2015 11:22 pm
โดย pakapong_u
“พี-มาร์ท” จ่อรุกเออีซี-กรุงเทพฯ แตกไลน์แช่แข็งลุยเครื่องครัว
13 พฤษภาคม 2558 21:27 น.

“พี-มาร์ท” ทุ่ม 5,000 ล้านบาท สร้างแกร่งก่อนเข้าตลาดหุ้น แตกไลน์จากอาหารแช่แข็ง ลุยขายผักและอุปกรณ์เครื่องครัว ผุดคลังสินค้าเพิ่มควบคู่ขยายสาขาให้ครบ 30 สาขาภายในปี 58 เพื่อรองรับการขยายตัวจ่อลุยเออีซี พร้อมแผนลงทุนอีก 5,000 ล้านบาทหลังเข้าตลาดหุ้นแล้ว เตรียมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนแรกเดือนกรกฎาคม 58 เพื่อสร้างอิมเมจ

นายพลภัทร สุขหน้าไม้ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท พี-มาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด ผู้ประกอบการด้านค้าส่งอาหารแช่แข็ง เปิดเผยว่า แผนการนำบริษัทฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยล่าสุดได้แต่งตั้งให้ บรัษัท เอเซียพลัส เป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงิน บริษัท เอิท แอนด์ ยัง เข้ามาดูแลระบบภายในองค์กร และบริษัท PWC เข้ามาเป็นผู้ตรวจสอบทางบัญชี อีกทั้งมีที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายในการเข้าตลาดหุ้นด้วยซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าระดมทุนในตลาดฯ ได้ภายในปี 2560

ทั้งนี้ หลังจากเข้าตลาดหุ้นแล้วมีแผนจะระดมทุนอีก 5,000 ล้านบาทเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจพี-มาร์ทให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมทั้งตลาดกรุงเทพฯ ด้วย ซึ่งเป็นตลาดที่แข่งขันสูงและรุนแรงจากผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่ก็เป็นตลาดที่ใหญ่และเติบโตดี ดังนั้นบริษัทฯ จึงต้องสร้างความพร้อมไว้ก่อนที่จะรุกตลาดกรุงเทพฯ จริงจัง เพื่อรองรับตลาดอาหารแช่แข็งในเมืองไทยที่มีมูลค่ามากกว่า 24,000 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 25% ต่อปี รวมทั้งการขยายธุรกิจไปต่างประเทศหลังจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนด้วยซึ่งในเบื้องต้นมองไว้ที่ประเทศลาวและเวียดนาม เพราะมีพฤติกรรมการบริโภคเหมือนคนไทยและคงไปในลักษณะของการร่วมทุน

อย่างไรก็ตาม แผนงานก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนรวมไว้ที่ 5,000 ล้านบาทใน 2 ปีจากนี้คือปี 2559-2560 ที่จะขยายสาขาปีละ 10 สาขา เพื่อให้มีสาขาครบ 30 สาขาก่อนเข้าตลาดหุ้นซึ่งปีนี้ที่มองไว้ เช่น มุกดาหาร ร้อยเอ็ด เป็นต้น ขณะที่ปีนี้จะลงทุนประมาณ 1,000-1,500 ล้านบาท ขยายเพิ่มอีก 4 สาขาคือ หนองคาย โคราช บุรีรัมย์ และเชียงราย เพื่อให้ครบ 10 สาขาในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันที่มี 6 สาขาแล้วคือ เชียงใหม่ ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี สกลนคร และสุรินทร์

นอกจากนั้น ยังพิจารณาในจังหวัดเดิมที่มีสาขาแล้วและอาจจะมีการเปิดสาขาที่สองเพิ่มในจังหวัดเดิม ส่วนสาขาเดิมนั้นมีแผนที่จะต่อยอดเช่นเดียวกับการเปิดสาขาใหม่ที่จะมีบริการอื่นเพิ่มคือ การจำหน่ายผัก ผลไม้ และเครื่องครัว จากเดิมที่เน้นการขายอาหารแช่แข็งเท่านั้น อีกทั้งสาขาใหม่ที่โคราชที่จะเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดเพราะมีคลังสินค้าด้วย พื้นที่รวม 4,000 ตารางเมตร คาดก่อสร้างเสร็จปลายปีนี้ซึ่งจะสามารถเก็บสินค้าได้ประมาณ 2,000 ตัน และยังพิจารณาพื้นที่ก่อสร้างคลังสินค้า หรือดีซีเพิ่มเติมอีกเช่นที่นครสวรรค์ หรือพิษณุโลก

ส่วนความพร้อมด้านอื่น เช่น กำลังผลิตและดีซีนั้นอยู่ระหว่างการขยายพื้นที่เพิ่มอีก 40 ไร่จากโรงานเดิมที่ ถ.บ้านกล้วย-ไทรน้อย 14 ไร่ ซึ่งจะขยายพื้นที่คลังสินค้าอีก สามารถเก็บได้ 50,000 ตันจากเดิมไม่กี่พันตัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการถมดินและจะต้องเพิ่มรถบรรทุกขนส่งอีกกว่า 50 คัน จากขณะนี้มี 6 คัน

สำหรับปีที่แล้วมีรายได้รวม 1,000 ล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกทำรายได้ 500 ล้านบาท และเป้าหมาย 3 ปีจะมีรายได้รวมประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยปีนี้จะใช้งบการตลาด 50 ล้านบาท จัดแคมเปญส่งเสริมการขาย โดยจัดแคมเปญแจกรถ รวยทอง รางวัลรถกระบะ 20 คัน มอเตอร์ไซค์ 50 คัน ทองคำ 100 บาท รวมมูลค่ารางวัลกว่า 5 ล้านบาทให้แก่ลูกค้าที่ทำยอดขายได้เกินเป้าหมาย อีกทั้งเดือนกรกฎาคมนี้จะมีการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนแรกของพี-มาร์ท