หน้า 1 จากทั้งหมด 1

มีคนวิเคราะห์ไว้ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 30, 2015 1:17 pm
โดย chowbe76
พี่น้องครับ วันนี้เรามาวิเคราะห์งบการเงินว่าด้วยรางวัล Benz ชาเขียวกันดีกว่านะครับ ^^

บริษัทเครื่องดื่มแห่งหนึ่งจะแจก Benz 50 คัน สำหรับใครก็ตามที่ดื่มผลิตภัณฑ์ของเขาครับ ตรงนี้เราเลยลองมาดูกันว่าโอกาสถูกหวยชาเขียวจะมากน้อยแค่ไหน ซึ่งตัวแปรที่ต้องการคือเขามียอดขายไตรมาสละกี่ขวด (เพราะแคมเปญนี้กินเวลาประมาณ 1 ไตรมาส) ซึ่งจากข้อมูลในงบการเงินบริษัทแห่งนี้มียอดขายประมาณ 6,179 ล้านบาทในปี 2557 ราคาขายส่งต่อขวดเท่ากับ 8 บาทโดยประมาณ ดังนั้น ก็แปลว่าจำนวนขวดที่ขายได้ต่อไตรมาสก็ประมาณ 191 ล้านขวด เมื่อหารด้วยจำนวน Benz ที่แจก 50 คันก็แปลว่าอัตราส่วนระหว่างจำนวนขวดชาเขียว : Benz 1 คันเท่ากับ 3.83 ล้านขวดต่อ 1 คันครับ !!!!

ถ้าเทียบกับการเล่นหวย โอกาสถูกรางวัลที่ 1 อยู่ที่ 1 ล้าน : 1 นั่นก็แปลว่าถ้าเราเล่นหวยก็ยังมีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 มากกว่าซื้อชาเขียวตั้ง 3.83 เท่าครับ

ยิ่งไปกว่านั้น หวยในแต่ละชุดมีรางวัลมูลค่ารวม 23 ล้านบาท จากมูลค่าหวย 1 ล้านใบ 40 ล้านบาท (ขายจริง 50 ล้านบาท) ซึ่งก็ยังมีอัตรารางวัลต่อเงินลงทุนเท่ากับ 46% ส่วนชาเขียวมีอัตราส่วนรางวัลต่อเงินลงทุนแค่ 5.44% ซึ่งไม่ว่าจะเล่นหวยหรือกินชาเขียว ถ้ามองในแง่สถิติก็ไม่คุ้มทั้งคู่ แต่ยังไงๆ เล่นหวยก็ยังคุ้มกว่าซื้อชาเขียวเกือบๆ 10 เท่าครับ

รู้แบบนี้จะทำไงดี? อันนี้ไม่ได้แนะนำให้เล่นหวยนะครับ แต่กำลังบอกถ้ามีแค่ 2 ทางเลือก แล้วอยากได้ Benz ผมว่าเอาเงินไปซื้อหวยคุ้มกว่า แถมยังลดความเสี่ยงจากการเป็นเบาหวาน หรือได้รับสารอาหารเกินความจำเป็นอีกด้วยครับ …. แต่ถ้าให้ดีก็เก็บเงินไว้ไปลงทุนอย่างอื่นที่มันเสริมสร้างคุณค่าให้กับตัวเองก็น่าจะดีที่สุดครับ

คำถามสุดท้าย ซื้อหวยชาเขียวแล้วใครรวย? อย่างที่วิเคราะห์ให้ดู ยอดขายชาเขียว 3.83 ล้านขวดต่อ Benz 1 คันมูลค่า 2.5 ล้านบาท ซึ่งบริษัทแห่งนี้มีอัตรากำไรสุทธิ 17% ของยอดขาย นั่นก็แปลว่ารถทุกๆ คันที่แจก จะสร้างกำไรให้กับบริษัทแห่งนี้เท่ากับ 3.83 ล้านขวด x 8.07 บาท x 17% = 5.25 ล้านบาท หรือแปลความง่ายๆ ว่าทุกๆ ครั้งที่บริษัทนี้แจก Benz 1 คัน คนกินชาเขียวจะคืน Benz ให้เขา 2 คันครับ !!!!

คราวนี้ทราบแล้วใช่ไหมครับว่าการดื่มชาเขียวในลักษณะนี้จะสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับใคร …. ก็เจ้าของกิจการชาเขียวไงล่ะครับ ซึ่งส่วนตัวผมเลิกดื่มชาเขียวนานแล้ว (และไม่เล่นหวยด้วย) เพราะคิดยังไงก็ไม่คุ้มครับ ^^

Re: มีคนวิเคราะห์ไว้ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 30, 2015 2:44 pm
โดย Buntam
วิเคระห์ได้เห็นภาพเลย

Re: มีคนวิเคราะห์ไว้ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 30, 2015 7:45 pm
โดย yoko
:cheers: :cheers: :cheers: :cheers: :cheers:

Re: มีคนวิเคราะห์ไว้ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 30, 2015 9:43 pm
โดย leky
ผมว่าเค้าได้มากกว่านั้นนะ อย่าลืมว่าการส่ง SMS ในลักษณะแบบนี้ คนจัดรายการได้ส่วนแบ่งค่า SMS แน่นอน

ผมไม่ได้เชียร์ชาเขียวนะครับ แต่ในกรณีข้างบนคงบอกยาก เพราะว่าอย่าลืมว่าต้นทุนของคนที่ซื้อชาเขียว 1 ขวดกับหวยรัฐหนึ่งใบ ราคาจริง ๆ ต่างกัน 7-8 เท่าครับ

Re: มีคนวิเคราะห์ไว้ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 30, 2015 9:46 pm
โดย leky
ความ(อยาก)รวย เปลี่ยนคนเป็น 'ผีพนัน' ส่งรหัสใต้ฝาชิงโชค = แทงพนันผ่าน SMS!

เกมการตลาดชูประเด็น ส่งรหัสใต้ฝาเครื่องดื่มนานาชนิด 'ลุ้นรวย' รับโชคจำพวก เงินล้าน, รถยนต์, รถมอเตอร์ไซค์, โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ ล่อตาล่อใจผู้บริโภคเสียจนต้องรีบซื้อหาสินค้าอย่าง 'ชาเขียว - น้ำอัดลม - เครื่องดื่มชูกำลัง' แบรนด์ใจป้ำที่กำลังมีแคมเปญส่ง SMS รหัสใต้ฝาลุ้นรับโชคใหญ่ ด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ เพียงฝาเดียวก็รวยได้ ไม่ต่างจากการพนันขันต่อ กลายๆ ว่าการตลาดทำนองนี้เข้าข่ายมอมเมาประชาชน เสี่ยงดวงด้วยการซื้อเครื่องดื่มเพื่อนำมาส่งรหัสใต้ฝาลุ้นโชค งวดนี้รวย!

นายทุนเป็นเจ้ามือ ปลุกผี(พนัน)
เครื่องดื่มหลายแบรนด์ดึงดูดผู้บริโภค ด้วยการร่วมเสี่ยงโชคส่ง SMS รหัสใต้ฝา ลุ้นรับรางวัลใหญ่มากมาย กลายๆ ว่า ยิ่งซื้อยิ่งเพิ่มโอกาสให้ตนเองรวยแบบไม่ทันตั้งตัวด้วยการส่งรหัสใต้ฝา

'อิชิตันรหัสรวยเปรี้ยง4' แจกเบนซ์ทุกวัน 50 คัน 50 วัน
'รหัสโออิชิ ซิ่งทั่วไทย' แจกรถยนต์ Toyota Yaris 50 คัน และ Yamaha Fino 550 คัน
'est รหัสซ่า พาซิ่ง' ส่ง SMS รหัสร่วมลุ้นบิ๊กไบค์ราคาแพง Ducati 899 Panigale
'น้ำดื่มสิงห์โฉมใหม่ แจก iPhone6' เพียงส่งเลขที่ใบเสร็จ 7-ELEVEN ผ่าน SMS ฯลฯ

ทว่า แคมเปญทางการตลาดลักษณะนี้เข้าข่ายการเล่นพนันทางอ้อม รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เคยกล่าวถึงกรณีลักษณะนี้ว่ารัฐบาลควรหันมาออกมาตรการควบคุมรางวัลเสี่ยงโชค โดยเฉพาะบรรดาเครื่องดื่มชาเขียวที่มีรางวัลจูงใจมูลค่าสูงเหล่านี้เป็นเหมือนการพนันทางอ้อม

โดยเฉพาะเครื่องชาเขียวแบรนด์ดัง 'อิชิตัน' และ 'โออิชิ' ส่งแคมเปญดังกล่าวล่อผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
ลุ้นเป็นเจ้าของ เงินล้าน, รถยนต์, โทรศัพท์มือถือ iPhone , แท็บเลต iPad ฯลฯ แข่งขันแจกสิ่งของคืนความสุขให้ผู้บริโภคกันอย่างดุเดือด นอกจากนี้ยังมีเครื่องดดื่มชูกำลัง ซึ่งเป็นแคมเปญที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก

รศ.ดร.สังศิต เปิดเผยรายงานการวิจัยเรื่องการพนันหรือการเสี่ยงโชคว่า ขณะนี้ภาคธุรกิจอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายจัดรายการเสี่ยงโชคจำนวนมาก ซึ่งเป็นการมอมเมาประชาชนและทำให้คนบริโภคสินค้าเกินความจำเป็น ในงานวิจัยดังกล่าวได้ศึกษาการแข่งขันทางธุรกิจอย่างรุนแรงของบริษัทชาเขียว 2 แห่ง การชิงโชคในลักษณะนี้เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นการพนัน เพราะมีผลลัพธ์เกิดขึ้นทุกวันและทุกชั่วโมงของเวลาทำการ ผลกระทบอาจรุนแรงกว่าการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ออกทุก 15 วัน หรือการเสี่ยงโชคด้วยการซื้อสลากออมสิน หรือสลากออมทรัพย์ทวีสิน ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

"ธุรกิจชาเขียวมีมูลค่าตลาดสูงถึงปีละ 1.4-1.5 หมื่นล้านบาทบริษัทจึงใช้กลยุทธ์ต่างๆ ในการกระตุ้นยอดขาย จนกลายเป็นการมอมเมาประชาชน ทำให้การส่งเสริมพฤติกรรมการเสี่ยงโชคเป็นเรื่องที่น่าทดลอง เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ ทำให้คนเชื่อว่าสามารถได้สิ่งที่ต้องการโดยง่าย สนุก ไม่เหนื่อยไม่ต้องทำงาน รอคอยโชควาสนา หากไม่ควบคุมเชื่อว่าสินค้าหลายตัวจะนำกลยุทธ์เช่นนี้ไปใช้จนกลายเป็นปัญหาของสังคมไทยได้"



เช่นเดียวกับ ธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการ สถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ (สวส.) วิพากษ์แคมเปญลักษณะดังกล่าวผ่าน Thaipbs ระบุว่าเป็นการทำตลาดที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะลักษณะแคมเปญของเครื่องดื่มชาเขียนแบรนด์ดังที่เร่ขายฝันรายวัน

“เป็นการตลาดที่ขาดจริยธรรม เพราะจริงๆ แล้วคุณไม่ได้ส่งเสริมการขาย แต่จริงๆ แล้วคือคุณกำลังขายโชค ถ้าเป็นแต่ก่อนเนี่ย เราขายตัวสินค้าจริงๆ แล้วก็ทำกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ พอหอมปากหอมคอให้ผู้บริโภครู้สึกว่าตอบแทนสังคม แต่ทุกวันนี้มันไม่ใช่มันเอาดวงมาเป็นตัวนำสินค้าและบริการ และก็เอาตัวความหวังที่จะถูกโชคนั้นทำให้ไปเพิ่มยอมขาย เพราะฉะนั้นมันก็คือการเสี่ยงทายการเล่นพนันประเภทหนึ่ง”

ฝาชาเขียว มูลค่าสูงกว่าสุขภาพ?
ปฏิเสธไม่ได้ว่าแคมเปญดังกล่าวกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน ความอยากรวยด้วยการเสี่ยงโชคแบบง่ายๆ ก็ดึงดูดผู้คนจำนวนมากเข้าร่วมแคมเปญ อย่าง 'ฝาชาเขียว' กลายเป็นสิ่งที่มีมูลค่ามากกว่าน้ำชาที่บรรจุอยู่ภายใน มีพ่อค้าแม่ค้าหัวใสตั้งร้านออนไลน์บนเฟซบุ๊กรวบรวมฝาเครื่องดื่มที่สามารถส่งชิงโชคจัดจำหน่าย
ตัวอย่าง ฝาชาเขียวแบรนด์อิชิตัน จำนวน 300 ฝา ราคารวมค่าส่ง EMS = 667 บาท, จำนวน 500 ฝา ราคารวมค่าส่ง EMS = 1,122 บาท, จำนวน 1000 ฝา ราคารวมค่าส่ง EMS = 2000 บาท (ส่งฟรี)

นอกจากนี้ยังมีข่าว โจรย่องเบาขโมยฝาชาเขียว ทิ้งไว้เพียงซากขวดที่มีน้ำชาเขียวเต็มปริ่ม ภายในร้านมินิมาร์ทซุปเปอร์ชีป บางคณฑี จ.ภูเก็ต ซึ่งคาดกันว่ามือดีขโมยฝาไปเพื่อส่งชิงโชค

ผศ.ศรัณยพงศ์ เที่ยงธรรม คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ให้สัมภาษณ์ในเวทีเสวนาเรื่อง 'SMS เสี่ยงโชค ธุรกิจรุ่ง แต่สังคมร่วง' โดยยอมรับว่าเป็นการส่งเสริมการตลาดในรูปแบบลุ้นชิงโชคช่วยกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี ทว่า กิจกรรมลักษณะนี้ต้องระบุให้ชัดเจนว่าผู้ใดสามารถมีส่วนร่วมได้บ้าง

อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจทัศนคติและพฤติกรรมการลุ้นโชคของผู้บริโภคในแคมเปญการส่งรหัสลุ้นโชคผ่าน ของสินค้าแบรนด์ต่างๆ พบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ44.2 เคยลุ้นรับโชคในกิจกรรมทางการตลาดประเภทนี้ ขณะที่ร้อยละ 30.7 ยอมรับว่าแคญเปญเทือกนี้ส่งผลให้ต้องซื้อสินค้าดังกล่าวในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น

นอกจากซื้อหาเครื่องดื่มมาเสี่ยงโชค หากบริโภคเป็นจำนวนมากผู้บริโภคยังเสี่ยงต่อปัญหาทางสุขภาพ เช่น โรคเบาหวาน ฯลฯ เพราะส่วนผสมในเครื่องดื่มจำพวกนี้แฝงด้วยน้ำตาล ซึ่งแคมเปญลักษณะดังกล่าวส่งผลต่อพฤติกรรมด้วย ผศ.พญ.พรจิรา ปริวัชรากุล ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เปรียบเปรยในเวทีเสวนาฯ ความว่า ถ้าเด็กอยู่ในลักษณะที่โดนกระตุ้นอยู่ตลอดเวลาด้วยรางวัล โดยที่ไม่ต้องพยายามมันทำให้ทักษะชีวิตในการที่จะอดทนต่างๆ มีแนวโน้วลดลง อันนี้เป็นอันตรายมากที่จะทำให้นิสัย หรือบุคคลิกของเขาอาจจะอดทนน้อยลง

อ้างอิงข้อมูลจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยถึง เกณฑ์น้ำตาลในอาหารต่อ 1 ผลิตภัณฑ์ ต้องบริโภคต่อวันไม่เกิน 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัม ทว่า จากการสำรวจส่วนประกอบในเครื่องดื่มชาเขียว รสน้ำผึ้งมะนาวยี่ห้อหนึ่ง พบปริมาณน้ำตาล 18.125 ช้อนชา หรือกว่า 72 กรัม ซึ่งมากที่สุดในกลุ่มเครื่องดื่มชาเขียวที่ทางมูลนิธิฯ สำรวจพบ สูงกว่า 3 เท่า

แก้กฎหมาย ควบคุมการพนัน
การเสี่ยงโชคโดยการส่ง SMS รหัสใต้ฝาชาเขียวกำลังถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการพนันรูปแบบหนึ่งหรือไม่ อ้างอิงรายงานจากสำนักข่าวอิศรา ธนากร คมกฤส ผู้อำนวยการรณรงค์หยุดพนัน มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าวว่า ขณะนี้สังคมสับสนว่าอะไรคือการพนัน ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะต้องสร้างความชัดเจน และจัดการเรื่องการพนันต่างๆ

“หากเทียบนิยามของการพนันตามคุณสมบัติที่เรียกว่าเป็นพนัน คือสิ่งที่เป็นพนันจะทำงานกับความโลภ มีการวางเดิมพัน มีความเสี่ยงไม่ได้ผลลัพธ์ที่แน่นอน และสุดท้ายคือมีรางวัลล่อใจ ซึ่ง SMS ชาเชียว เช่น เอารถเบนซ์ ไอโฟน 6 มาเป็นรางวัล หากสรุปถือว่า กิจกรรมลุ้นโชคนี้เข้าข่ายความเป็นพนันเป็นถึง 3 ใน 4 ข้อ คือทำให้เกิดความโลภ จะได้หรือไม่ได้ ไม่แน่ และคือมีรางวัลล่อใจ

“ดังนั้นกิจกรรมเข้าข่ายแบบนี้ถือเป็นการใช้การส่งเสริมการตลาดที่เป็นอันตรายต่อสังคม ทั้งความถี่ของการออกรางวัลตามหลักสากล กิจกรรมส่งเสริมการขายในลักษณะนี้จึงเป็นการซ้อนทั้งเรื่องการเข้าข่ายพนันและการตลาดอยู่ในกิจกรรมเดียวกัน”

การเสี่ยงโชคเมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม มีของชิงโชคได้เงินส่วนแบ่ง เงินส่วนแบ่งนั่นคือเงินแทงพนัน นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน อธิบายถึงแคมเปญการตลาดลักษณะดังกล่าว

เขากล่าวต่อว่า บริษัทที่ใช้กิจกรรมลักษณะนี้ฉลาด รู้ว่ากฎหมายยังไม่ได้มีการบังคับเท่าไหร่ ให้ส่ง SMS ฟรี แต่ได้กำไรจากกิจกรรมสูง เป็นกิจกรรมที่ไม่ได้ใช้เงินวางเดิมพัน แต่เป็นการซื้อโชค แถมของ ความจริงแล้วก็คือการพนัน

อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.การพนัน 2478 ยังไม่มีความชัดเจนต่อการจัดการพนัน โดยเฉพาะในประเด็นลักษณะนี้ จึงเห็นควรว่าต้องปรับแก้ให้ทันยุคทันสมัย

“เรื่องการให้คำนิยามของการพนันเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด เนื่องจากตัวพ.ร.บ.การพนัน 2487 ไม่มีแม้กระทั่งคำนิยาม แต่กลับไปบรรจุในบัญชี ก. ว่าประเภทนี้เล่นได้ ประเภท ข. ห้ามเล่นเด็ดขาด ซึ่งเป็นการนิยามที่ไม่ชัดเจน ทำให้เกิดความสับสนว่าแท้จริงแล้วอะไรคือพนันหรือไม่ใช่พนันกันแน่

“ฉะนั้นควรจะจัดตั้งให้มีคณะกรรมการอิสระเรื่องพนันขึ้นมาโดยแยกออกมาจากกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยไม่ทำงานนั่งอยู่เฉยๆ ไม่ลงมือทำงานเชิงรุก”


http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews ... 0000035417

Re: มีคนวิเคราะห์ไว้ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 30, 2015 9:47 pm
โดย leky
กระทรวงมหาดไทยเสนอแก้กฎหมายชิงโชค

ม้ตัวบทกฏหมายการพนันจะไม่ถือว่าการส่งเสริมการตลาดด้วยการเสี่ยงโชคลุ้นรับของรางวัลเป็นการพนัน แต่ก็มีความกังวลว่าสิ่งที่ธุรกิจชาเขียวยี่ห้อหนึ่งกำลังทำอยู่จะถือเป็นการมอมเมาหรือไม่ อาจจะต้องมีกฏหมายขึ้นมาควบคุมการเสี่ยงโชคโ ดยเฉพาะแต่ฝ่ายเจ้าของธุรกิจก็ชี้แจงว่าต้องการคืนกำไรให้ผู้บริโภคเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ภาคประชาสังคมแสดงความเป็นห่วงทัศนคติเชิงลบต่อการใช้ชีวิตโดยเฉพาะ เด็ก เยาวชน ที่ให้ความสำคัญกับการเสี่ยงโชคโดยเห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ต่างจากการติดการพนัน

ในขณะที่เครื่องดื่มชาเขียวยี่ห้อดังนำรถยนต์หรู 50 คัน มูลค่ากว่าร้อยล้านบาทเป็นรางวัลใหญ่จากการลุ้นโชคผ่าน SMS จนเกิดกระแสสร้างความคาดหวังแก่ผู้บริโภคจำนวนมากนำไปสู่ความพยายามแสวงหาช่องทางเพื่อส่งผ่านไปยังเจ้าของธุรกิจโดยคาดหวังในตัวรางวัล

นาย ตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป ยืนยันว่า กิจกรรมที่ทำขึ้นมุ่งหวังคืนกำไรเพียงปีละครั้งซึ่งทุกบริษัทต่างต้องแสวงหากลยุทธ์เพื่อขยายฐานผู้บริโภค แต่เมื่อมีข้อห่วงใยจากสังคมที่มองว่ากิจกรรมนี้ไม่ต่างจากการมอมเมาสังคมก็พร้อมทบทวนกิจกรรมครั้งต่อไป

การอ้างว่าการลุ้นโชคผ่าน SMS ไม่เข้าข่ายการพนันในมุมมองของนักกฎหมายเห็นว่ามาจากคำนิยามการพนันที่ต้องมีเงินเดิมพันและรางวัลเป็นจูงใจแต่เมื่อภาคธุรกิจจัดกิจกรรมที่พยายามทำให้เห็นว่าผู้บริโภคไม่เสียผลประโยชน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายจากการส่ง SMS จึงเป็นการเลี่ยงกฎหมายที่ไม่มีควบคุมเรื่องนี้จึงเสนอให้มีคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ควบคุมเรื่องนี้อย่างจริงจัง

รณวิทย์ สิมะเสถียร ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และอุปนายกสมาคมวิทยุสื่อเพื่อเด็กฯ ระบุว่า ในต่างประเทศจะตั้งเป็นองค์กรขึ้้นมาหนึ่งองค์กรเลยมาดูว่ามันเป็นการพนันไหมถ้าเป็นใครจะควบคุม ถ้าไม่เป็นใครจะเป็นคนควบคุม ถ้าพูดถึงเรื่องราคาองค์กรอิสระอาจจะควบคุมไม่ได้ กระทรวงพาณิชย์จึงจำเป็นต้องไปดูว่าการที่เขาตั้งราคามันสูงเกินจริงไหม

ปัจจุบันการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายชิงโชค ลุ้นรางวัล ผู้ประกอบกิจการต้องได้รับอนุญาตจากกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทยตามกฎหมายการพนัน ปี 2478 โดยต้องแจกแจงที่มาของกิจกรรมของรางวัลของสมนาคุณ กฎ กติกาการได้มาซึ่งรางวัลรวมถึงระยะเวลาจัดกิจกรรม ให้ชัดเจนแต่กิจกรรม SMS ลุ้นโชคที่เกิดขึ้นแม้จะขออนุญาตถูกต้องและไม่พบการกระทำที่ผิดกฎหมาย

ในขณะที่นาย ศักดิ์ชัย แตงฮ่อ ผอ.สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ยอมรับว่า เป็นกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสังคมนำไปสู่การเสนอปรับแก้กฎหมาย โดยแยกจากกฎหมายการพนันเพื่อควบคุมกิจกรรมลักษณะนี้ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น

ทั้งนี้จากสถิติตลอดปี 2557 พบว่า มีผู้ประกอบการที่ขออนุญาตจัดกิจกรรมด้วยการเสี่ยงโชคโดยวิธีใดๆ จำนวน 426 กิจกรรมขณะที่ปีนี้ 3 เดือนแรก มีการขออนุญาตไปแล้ว 158 กิจกรรมซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขออนุญาตในพื้นที่ที่ตั้งของสถานประกอบการ

http://news.thaipbs.or.th/content/%E0%B ... A%E0%B8%84

Re: มีคนวิเคราะห์ไว้ครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 30, 2015 10:54 pm
โดย romee
การ์ตูน moa investor บอกได้ดีกับเรื่องนี้ด้วยฮ่ะ ว่าให้เทียบกับ "กองสลากกินแบ่งรัฐบาล" :la:
1398610057-maoishi2-o.gif

Re: มีคนวิเคราะห์ไว้ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 31, 2015 5:15 am
โดย yoko
ปชชส่งSMSฟรีครับ เขาน่าจะแบกรับค่าส่งSMSครับ แฟร์ไหมครับ555

Re: มีคนวิเคราะห์ไว้ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 31, 2015 6:18 pm
โดย Ii'8N
https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =1&theater
รูปภาพ

โค้ด: เลือกทั้งหมด

Somsak Pratomsrimek
Follow · March 24 · Edited · 
 
 ·

พี่น้องครับ วันนี้เรามาวิเคราะห์งบการเงินว่าด้วยรางวัล Benz ชาเขียวกันดีกว่านะครับ ^^

บริษัทเครื่องดื่มแห่งหนึ่งจะแจก Benz 50 คัน สำหรับใครก็ตามที่ดื่มผลิตภัณฑ์ของเขาครับ ตรงนี้เราเลยลองมาดูกันว่าโอกาสถูกหวยชาเขียวจะมากน้อยแค่ไหน ซึ่งตัวแปรที่ต้องการคือเขามียอดขายไตรมาสละกี่ขวด (เพราะแคมเปญนี้กินเวลาประมาณ 1 ไตรมาส) ซึ่งจากข้อมูลในงบการเงินบริษัทแห่งนี้มียอดขายประมาณ 6,179 ล้านบาทในปี 2557 ราคาขายส่งต่อขวดเท่ากับ 8 บาทโดยประมาณ ดังนั้น ก็แปลว่าจำนวนขวดที่ขายได้ต่อไตรมาสก็ประมาณ 191 ล้านขวด เมื่อหารด้วยจำนวน Benz ที่แจก 50 คันก็แปลว่าอัตราส่วนระหว่างจำนวนขวดชาเขียว : Benz 1 คันเท่ากับ 3.83 ล้านขวดต่อ 1 คันครับ !!!! 

ถ้าเทียบกับการเล่นหวย โอกาสถูกรางวัลที่ 1 อยู่ที่ 1 ล้าน : 1 นั่นก็แปลว่าถ้าเราเล่นหวยก็ยังมีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 มากกว่าซื้อชาเขียวตั้ง 3.83 เท่าครับ

ยิ่งไปกว่านั้น หวยในแต่ละชุดมีรางวัลมูลค่ารวม 23 ล้านบาท จากมูลค่าหวย 1 ล้านใบ 40 ล้านบาท (ขายจริง 50 ล้านบาท) ซึ่งก็ยังมีอัตรารางวัลต่อเงินลงทุนเท่ากับ 46% ส่วนชาเขียวมีอัตราส่วนรางวัลต่อเงินลงทุนแค่ 5.44% ซึ่งไม่ว่าจะเล่นหวยหรือกินชาเขียว ถ้ามองในแง่สถิติก็ไม่คุ้มทั้งคู่ แต่ยังไงๆ เล่นหวยก็ยังคุ้มกว่าซื้อชาเขียวเกือบๆ 10 เท่าครับ

รู้แบบนี้จะทำไงดี? อันนี้ไม่ได้แนะนำให้เล่นหวยนะครับ แต่กำลังบอกถ้ามีแค่ 2 ทางเลือก แล้วอยากได้ Benz ผมว่าเอาเงินไปซื้อหวยคุ้มกว่า แถมยังลดความเสี่ยงจากการเป็นเบาหวาน หรือได้รับสารอาหารเกินความจำเป็นอีกด้วยครับ …. แต่ถ้าให้ดีก็เก็บเงินไว้ไปลงทุนอย่างอื่นที่มันเสริมสร้างคุณค่าให้กับตัวเองก็น่าจะดีที่สุดครับ

คำถามสุดท้าย ซื้อหวยชาเขียวแล้วใครรวย? อย่างที่วิเคราะห์ให้ดู ยอดขายชาเขียว 3.83 ล้านขวดต่อ Benz 1 คันมูลค่า 2.5 ล้านบาท ซึ่งบริษัทแห่งนี้มีอัตรากำไรสุทธิ 17% ของยอดขาย นั่นก็แปลว่ารถทุกๆ คันที่แจก จะสร้างกำไรให้กับบริษัทแห่งนี้เท่ากับ 3.83 ล้านขวด x 8.07 บาท x 17% = 5.25 ล้านบาท หรือแปลความง่ายๆ ว่าทุกๆ ครั้งที่บริษัทนี้แจก Benz 1 คัน คนกินชาเขียวจะคืน Benz ให้เขา 2 คันครับ !!!! 

คราวนี้ทราบแล้วใช่ไหมครับว่าการดื่มชาเขียวในลักษณะนี้จะสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับใคร …. ก็เจ้าของกิจการชาเขียวไงล่ะครับ ซึ่งส่วนตัวผมเลิกดื่มชาเขียวนานแล้ว (และไม่เล่นหวยด้วย) เพราะคิดยังไงก็ไม่คุ้มครับ ^^

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =1&theater
รูปภาพ

โค้ด: เลือกทั้งหมด


Somsak Pratomsrimek
Follow · March 28 · Edited · 
 
 ·

พี่น้องครับสืบเนื่องจากโพสต์ที่แล้ว สมมติว่าพี่น้องเลิกเล่นหวยและชาเขียว เหลือเงินแล้วจะลงทุนอะไรดี ? ลองดูนะครับ

สมมติว่าเรามีเงิน 100,000 บาท เสียภาษีในอัตราสุดท้ายเท่ากับ 10% แล้วลงทุนในทางเลือกต่างๆ เป็นเวลา 3 ปี ดังนี้ 

1) LTF ได้ทันที 10% และผลตอบแทนต่อปีถ้าเป็นกองหุ้นที่มีปันผลน่าจะให้ได้ประมาณ 3% ต่อปี และมี capital gain ประมาณ 6%

2) สลากออมสิน ผลตอบแทนขั้นต่ำประมาณ 1.33% - 2.1% (อ้างอิงจาก http://www.gsb.or.th/lottery/lottery3.php)

3) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือ กองทรัสต์ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ได้ประมาณ 7% capital gain ไม่มากนัก ประมาณ 1% ต่อปี (REIT)

4) เล่นหุ้น ขึ้นอยู่กับฝีมือ แต่ถ้าเล่น Blue Chip น่าจะคาดหวังผลตอบแทนในรูปปันผลได้ประมาณ 6
% ต่อปี + capital gain ประมาณ 5% ต่อปีก็น่าจะได้

5) ซื้อบ้านให้เช่า ขึ้นอยู่กับทำเลและเงินลงทุน ที่น่าจะคาดหวังได้ก็ประมาณ 7% + capital gain ตามอัตราการขยายตัวของ GDP ซึ่งคาดการณ์ว่าปีละ 4% ซึ่งมีความได้เปรียบในกรณีของภาษี ที่สามารถนำดอกเบี้ยมาหักเป็นรายจ่ายได้ และสามารถกู้เงินได้ 90% 
....................................
เรามาดูกันนะครับ ว่าทางไหนดีสุด?

1) การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ผลตอบแทนสูงสุด คือ 51% ต่อปี ซึ่งที่ได้มากขนาดนี้ก็เพราะการซื้อบ้านให้เช่าเราสามารถกู้มาซื้อได้ รวมทั้งดอกเบี้ยก็สามารถนำมาคำนวณหักภาษีได้ปีละ 100,000 บาทครับ (แต่ตรงนี้ก็มีความเสี่ยงตรงที่ต้องเลือกทำเล และผู้เช่า) 

2) รองลงมาก็น่าจะเป็นการซื้อกองทุน LTF ซึ่งอาจต้องเลือกกองหน่อยที่คาดหวังผลตอบแทนสูงถึง 13.7% ต่อปี เนื่องจากเราสามารถหักภาษีเงินได้ตั้งแต่ปีแรกที่ซื้อ ทำให้อัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับที่สูงมาก (ส่วนตัวจะบอกว่าเราควรซื้อ LTF ให้มากที่สุดเท่าที่มีโควตาหักภาษีครับ เพราะมันคุ้มสุดๆ)

3) รองลงมาก็น่าจะเป็นการเล่นหุ้นที่ได้ผลตอบแทนประมาณ 11% ต่อปี แต่มีข้อแม้ว่าเราต้องซื้อหุ้นที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม (ก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน)

4) ต่อมาก็จะเป็นการลงทุนในกองทรัสต์อสังหาริมทรัพย์ที่ได้ค่อนข้างแน่ปีละ 7% และ capital gain เล็กน้อยปีละ 1% - 4%

5) สุดท้ายคือการลงทุนในสลากออมสิน ซึ่งได้ผลตอบแทนไม่มาก คือ 2.1% ต่อปี แต่มีลุ้นเรื่องของรางวัลครับ

-----------------

จะบอกว่าที่เขียนทั้งหมด คนกินเงินเดือนอย่างเราสามารถทำได้จริงนะครับ โดยอาจต้องหาความรู้เพิ่มเติมนิดหน่อย หรือหาคนที่เก่งๆ ให้คำปรึกษาครับ 

ปล. แม้แต่ละทางเลือกก็มีข้อดีข้อเสียของมัน แต่ทุกท่านพึงต้องระวังไว้ว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจ” ^^ ขอให้เฮงๆ ครับ

Re: มีคนวิเคราะห์ไว้ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 31, 2015 6:21 pm
โดย Ii'8N
ตกลง คุณ Somsak Pratomsrimek คือ login chowbe76 เหรอครับ :D :bow:

Re: มีคนวิเคราะห์ไว้ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 31, 2015 7:28 pm
โดย yoko
ผมว่าคงไม่มีใครเก็งกำไรBENZ
คนหิวน้ำเลือกichitonเพราะหวังผลพลอยได้คือBENZ
555

Re: มีคนวิเคราะห์ไว้ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 31, 2015 8:28 pm
โดย คนคอน
เค้าลืมคำนวน ราคาหวย กับราคาชาเขียวด้วยรึป่าวครับ ถ้าหวยราคา120/1ใบ เท่ากับว่า เราก็ซื้อชาเขียวได้15ขวด ก็เท่ากับโอกาสที่จะถูกก็ต้องเพิ่มขึ้นรึป่าวครับ

Re: มีคนวิเคราะห์ไว้ครับ

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 01, 2015 1:45 pm
โดย workart
ชาเขียวได้น้ำกินติดมือนิดนึง แต่หวยได้ความฝันและความมุ่งมั่น.....

สรุปคือทำอย่างอื่นดีกว่า