MFC จุดเด่นอยู่ที่การบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่เติบโตสูงมาก
และยังคงมีแนวโน้มที่จะรุกตลาดด้านนี้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีลูกค้าจากรัฐวิสาหกิจมาใช้บริการเพิ่มขึ้นอีกมาก
้ข้อมูลเริ่มปี 2557 MFC ทำการตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้ดีมากในไตรมาส 1
จากข้อมูลส่วนแบ่งการตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ณ วันที่ 30 เม.ย.57 ของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน โดย 3 อันดับแรกได้แก่ อันดับ 1 เอ็มเอฟซี มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 136,914.21ล้านบาท อันดับ 2 บลจ.กสิกรไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 136,425.21 ล้านบาท และอันดับ 3 บลจ.ทิสโก้ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 102,792 ล้านบาท
MFC ขึ้นอันดับ 1 รับบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพรัฐวิสาหกิจ-เอกชน
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี(MFC) กล่าวว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการก้าวสู่อันดับหนึ่งด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ โดย ณ วันที่ 30 เม.ย.57 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 136,914.21 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 34 จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ 27 ธ.ค.56 ซึ่งอยู่ที่ 102,152.29 ล้านบาท เนื่องจากเอ็มเอฟซีได้รับความไว้วางใจจากรัฐวิสาหกิจหลายแห่งให้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จึงมีเงินก้อนใหม่เข้ามาส่งผลให้ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรม
ต่อมาไตรมาส 2 MFC มีส่วนครองตลาดปรับลดลงมาอยู่อันดับ 2 เพราะโดน Kasset แซงกลับอย่างเฉียดฉิว
อันดับ 1 Kasset 140276 ล้านบาท ส่วนครองตลาด 17.51%
อันดับ 2 MFC 139527 ล้านบาท ส่วนครองตลาด 17.41% แพ้อย่างเฉียดฉิว
อันดับ 3 ทิสโก้ 105124 ล้านบาท ส่วนครองตลาด 13.12%
อันดับ 4 บลจ. ไทยพาณิชย์ 104314 ล้านบาท ส่วนครองตลาด 13.02% แพ้อย่างเฉียดฉิวเช่นกัน
สำหรับขนาดตลาดอุตสาหกรรมของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้น มียอดเติบโตต่อเนื่องดังนี้
2553 573,382 ล้านบาท
2554 615,259 ล้านบาท โต 7.3%
2555 696,144 ล้านบาท โต 13.14%
2556 748,123 ล้านบาท โต 7.47%
ส.ค. 2557 10.07%
ส่วนการเติบโตล่าสุดของ MFC เฉพาะกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่เป็นเรือธงนั้น
ล่าสุดข้อมูลจาก เวปไซต์ของบริษัท
การจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การจัดการของ
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)
ณ 30 กันยายน 2557
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 141,300.13 ล้านบาท เติบโตเทียบกับปี 2556 ที่อยู่ที่ 102,152 ล้านบาท โต 38.32% โตกว่าอุตสาหกรรมเกือบ 3 เท่าตัว
นายจ้าง 521 นายจ้าง
สมาชิก 198,096 ราย