หน้า 1 จากทั้งหมด 1
บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 13, 2014 2:37 pm
โดย Thai VI Article
โค้ด: เลือกทั้งหมด
เมื่อเร็ว ๆ นี้ วอเร็น บัฟเฟตต์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าตนเองนั้น “ทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง” ในการลงทุนซื้อหุ้นบริษัทเทสโก้ เจ้าของเครือข่ายค้าปลีกแบบดิสเคาท์สโตร์ขนาดใหญ่สัญชาติอังกฤษที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลก เหตุเพราะว่าหุ้นเทสโก้มีราคาร่วงลงอย่างแรงภายในสัปดาห์เดียวถึง 17% หลังจากที่ประธานเจ้าหน้าที่การเงินของบริษัทออกมายอมรับว่าบริษัทได้รายงานผลประกอบการครึ่งปีที่ผ่านมาผิดพลาดโดยมีการลงบัญชีว่าบริษัททำกำไรสูงกว่าความเป็นจริงถึง 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ราคาหุ้นตกลงมาเหลือประมาณ 1.8 ปอนด์ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปีหลังจากเดือนเมษายน 2003 และเป็นการตกต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีที่ราคาหุ้นเทสโก้ลดลงถึง 48%
วอเร็น บัฟเฟตต์เริ่มต้นซื้อหุ้นเทสโก้ตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2006 ในจำนวนประมาณ 330 ล้านเหรียญหรือประมาณหมื่นล้านบาท หลังจากนั้นก็มีการซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนมีมูลค่า 2.1 พันล้านเหรียญหรือประมาณ 67,000 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 5% ของบริษัท แต่ต่อมาเขาก็เริ่มขายหุ้นไปบ้างจนเหลือประมาณ 3.7% ณ. สิ้นปีที่ผ่านมาและเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของบริษัท โดยรวมแล้ว การถือหุ้นของบัฟเฟตต์ในหุ้นเทสโก้นั้นทำให้เขาขาดทุนไปประมาณ 700 ล้านเหรียญหรือประมาณ 22,400 ล้านบาท ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นการขาดทุนครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของบัฟเฟตต์ในการถือหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง จริงอยู่บัฟเฟตต์เคยเจ็บตัวจากการลงทุนหลายครั้งเหมือนกัน เช่นการลงทุนในหุ้นสายการบินและหุ้นของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่การขาดทุนนั้นมักจะเป็นเรื่องของการ “ขาดทุนชั่วคราว” และเมื่อถือต่อไป บางทีเขาก็ “ได้ทุนคืนมา” เหตุเพราะว่าราคาหลักทรัพย์ปรับตัวขึ้นและเขาขายมันทิ้งไปเมื่อรู้ว่าตนเอง “ผิดพลาด”
โดยปกตินั้น ถ้าบัฟเฟตต์ซื้อหุ้นตัวไหน เขาจะต้องมั่นใจมากว่าพื้นฐานของบริษัทจะต้องดีและราคาที่เขาซื้อนั้นถูกหรือเหมาะสมกับมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท และมูลค่าที่แท้จริงในความหมายของเขาก็คือ มันเป็นมูลค่าที่มาจากกระแสเงินสดของบริษัทที่จะจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นตลอดชีวิต ดังนั้น ถ้าเขาคาดการณ์ไม่ผิดในเรื่องความสามารถในการทำเงินของบริษัทแล้ว เขาก็พร้อมที่จะซื้อหุ้นและ “ถือมันไปตลอดชีวิต” โดยที่ไม่ต้องขายแม้ว่าหุ้นในระยะสั้นจะตกลงมามาก ในบางกรณีที่บัฟเฟตต์ไม่แน่ใจในความสามารถของบริษัทที่จะทำกำไรและสร้างกระแสเงินสดระยะยาวได้ เขาก็มักจะกำหนด “เงื่อนไขในการลงทุน” เช่น แทนที่จะซื้อเป็นหุ้น เขาก็จะซื้อเป็นพันธบัตรที่มีสิทธิแปลงเป็นหุ้นหรือได้วอแรนต์มาฟรีเพื่อที่ว่าในกรณีที่บริษัทไม่ดีอย่างที่คิด ทำให้หุ้นไม่ขึ้นหรือตกลงไปแต่บริษัทก็ไม่ถึงกับล้มละลาย เขาก็จะสามารถได้เงินต้นคืนและแค่เสียโอกาสในการทำกำไรจากหุ้นเท่านั้น
ที่ผ่านมานั้น บัฟเฟตต์จึงมักจะลงทุนในบริษัทที่ “มีความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยั่งยืน” มีผลประกอบการที่มั่นคงสม่ำเสมอ และมีหนี้ไม่มาก สามารถสร้างกระแสเงินสดได้ดีและไม่ต้องลงทุนมากนัก อีกข้อหนึ่งที่อาจไม่ค่อยเกี่ยวกับเรื่องของการทำกำไรนักก็คือ เขาต้องการหุ้นที่มีขนาดใหญ่ที่ทำให้เขาสามารถลงทุนเป็นเรื่องเป็นราวไม่เป็นเบี้ยหัวแตกที่ไม่มีความหมายกับพอร์ตที่มีขนาดยักษ์ของเขา นอกจากนั้น ช่วงจังหวะเวลาที่เขาชอบที่จะเข้าลงทุนก็คือช่วงเวลาที่บริษัทอาจจะมีปัญหาที่เขาคิดว่า “แก้ไขได้” และราคาหุ้นตกลงมามากที่จะทำให้การลงทุนของเขาได้ผลตอบแทนมากขึ้น ทั้งหมดนี้ผมคิดว่า เข้ากับ Story และคุณสมบัติของหุ้นเทสโก้แทบจะสมบูรณ์แบบในปี 2006 ที่เขาเริ่มเข้าไปซื้อนั่นคือ
เทสโก้มีความได้เปรียบเนื่องจากมันมีขนาดที่ใหญ่มากโดยเฉพาะในอังกฤษและอีกหลายแห่งในโลกรวมถึงประเทศไทย และธุรกิจขายสินค้าประจำวันแบบนี้ ขนาดเป็นเรื่องที่ทำให้ได้เปรียบค่อนข้างมาก นอกจากนั้น ผลการดำเนินงานของ Modern Trade นั้น มักจะมีความสม่ำเสมอสูงเนื่องจากเกี่ยวข้องกับคนเป็นล้าน ๆ คนและบริษัทมักจะกำหนดมาร์จินหรือผลกำไรลงบนต้นทุนขายได้ กระแสเงินสดเองก็มักจะดีมากเพราะสามารถได้เครดิตการค้ายาวและขายเงินสด เทสโก้จึงสามารถจ่ายปันผลได้สูงมาโดยตลอด ในด้านของจังหวะเวลาในการเข้าซื้อเองนั้น ในกรณีของเทสโก้นั้นดูเหมือนว่าที่ผ่านมาก่อนถึงปี 2006 ที่บัฟเฟตต์ซื้อนั้น จะไม่มีช่วงเวลาที่บริษัทจะย่ำแย่หรือราคาหุ้นตกลงมาแรงมาก ๆ ซึ่งนี่ก็คล้ายกับกรณีของหุ้นวอลมาร์ทที่บัฟเฟตต์ไม่ได้ซื้อและรอมาเรื่อย ๆ จน “ทนไม่ไหว” และเขาอาจจะเริ่มตระหนักว่าหุ้นค้าปลีกนั้น จะโตไปเรื่อย ๆ อย่างมั่นคงและมีโอกาสที่จะพลาดอย่างรุนแรงยาก ดังนั้น เขาจึงเริ่มเข้าซื้อหุ้นดิสเค้าท์สโตร์ขนาดใหญ่ทั้งวอลมาร์ทและเทสโก้ในเวลาต่อมา
หลังจากซื้อหุ้นเทสโก้แล้วก็ดูเหมือนว่า “ภาพใหญ่” นั่นคือภาวะเศรษฐกิจและตลาดหุ้นโดยเฉพาะของยุโรปและอังกฤษจะไม่เข้าข้างเขาเลย วิกฤติเศรษฐกิจในปี 2008 ทำให้หุ้นเทสโก้ตกลงมาประมาณ 30% และน่าจะทำให้กำไรในช่วงแรกของบัฟเฟตต์หดหายไปหมด แต่หลังจากนั้น ราคาหุ้นก็ “ตีตื้น” ขึ้นได้เนื่องจากลักษณะของธุรกิจที่อาจจะเป็น “Defensive” คือไม่ถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนักเนื่องจากเป็นสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ผลการดำเนินงานของเทสโก้ก็เริ่ม “ออกอาการ” ยอดขายเริ่มโตช้าหรือไม่โตเลย ยอดขายของร้านเดิมติดลบแรงอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ แต่ที่น่ากลัวกว่าก็คือ ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทเริ่มลดลงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทเมื่อเทียบกับร้านเครือข่ายอื่นแย่ลงมาก ในส่วนของตลาดบน คู่แข่งอย่าง Sainsbury ก็ดีขึ้นเทียบกับเทสโก้ ในส่วนของตลาดล่างลงมา เครือข่ายของบริษัทเยอรมันเช่น ALDI หรือ LIDL ก็ใช้กลยุทธ์ด้านราคาที่ถูกที่สุดโดยเน้นขายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ ก็สามารถแย่งตลาดของเทสโก้ได้มาก เทสโก้ถูกบีบทั้งสองด้าน และนี่ทำให้ราคาหุ้นเริ่มไหลลงมาตลอด และ “ตะปูตัวสุดท้าย” ก็คือความฉ่าวโฉ่ทางด้านบัญชีที่ทำให้ราคาหุ้นดิ่งลงมาอย่างหนัก
บัฟเฟตต์เองยังไม่ได้ขายหุ้นเทสโก้ทั้งหมดและผมเองก็ไม่รู้ว่าบัฟเฟตต์จะถือต่อไปแค่ไหน ผมไม่รู้ว่าราคานี้เป็นราคาที่เหมาะสมหรือยังกับพื้นฐานที่แย่ลง ผมเองเคยคิดที่จะซื้อหุ้นเทสโก้เหมือนกันก่อนที่จะเกิดเรื่องของบัญชี เหตุผลที่ผมคิดในตอนนั้นก็คือ ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่นั้น ยังไงมันก็ยังน่าจะมีกำไรและมีเงินสดที่จะจ่ายปันผลได้ดี และเมื่อภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ผลประกอบการก็น่าจะดีขึ้น เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ผมจะซื้อได้ในราคาต่ำกว่าบัฟเฟตต์พอสมควรทีเดียว โชคดีที่ผมไม่ได้ซื้อ อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์และราคาหุ้นตกลงไปมากพร้อม ๆ กับที่บัฟเฟตต์ออกมาสารภาพว่าตนเองผิดพลาด ผมก็ยังไม่ได้ทำอะไร ผมคิดว่าแม้ราคาจะลดลงไปอีกแต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้น ผมเองก็เริ่มรู้สึกว่า ค้าปลีกเองก็มีความเสี่ยงโดยเฉพาะในประเทศที่การบริโภค “อิ่มตัว” และพัฒนาการต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไปในโลกของการบริการ
บทเรียนของเทสโก้กับบัฟเฟตต์นั้น ผมคิดว่าสอนให้เราเรียนรู้ว่า หนึ่ง ไม่มีใครถูกเสมอไปในเรื่องของการลงทุนและเราไม่รู้ว่าเขาจะพลาดในวันไหน สอง ไม่มีบริษัทไหนที่แข็งแกร่งขนาดที่ไม่มีอะไรสามารถทำลายมันได้แม้ว่าในวันที่เรามองดู ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีวันแพ้ สาม ถ้าคุณเข้าซื้อหุ้นในวันที่ราคามันอยู่ในระดับใกล้กับราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์ของมันอย่างหุ้นเทสโก้ในปี 2006 ที่บัฟเฟตต์เข้าซื้อ ความเสี่ยงก็น่าจะเพิ่มขึ้นมาก และสุดท้ายก็คือ เรื่องของผู้บริหาร ซึ่งผมเชื่อว่าบัฟเฟตต์เองคงจะรู้สึกเจ็บหนักที่สุดก็คือ ผู้บริหารที่แย่นั้น ทำลายมูลค่าของบริษัทได้มากมายและเป็นเรื่องยากที่เราจะรู้ว่าใครเป็นอย่างไร เรื่องของเทสโก้กับบัฟเฟตต์นั้นยังไม่จบเพราะเขายังถือหุ้นอยู่ไม่น้อย เราคงต้องดูกันต่อว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไรในอีก “หลายตอน” ข้างหน้า ซึ่งก็คงอีกหลายปีเพราะกิจการที่ยิ่งใหญ่นั้นไม่ “ตาย” ง่าย ๆ
[/size]
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 13, 2014 2:51 pm
โดย Nek
ขอบคุณครับ
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 13, 2014 3:29 pm
โดย ลูกหิน
ขอบคุณมากครับ
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 13, 2014 3:32 pm
โดย Mr.CHANOPPS
ขอบคุณครับ
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 13, 2014 4:36 pm
โดย unnop.t
เป็นบทความที่ดีมากครับ
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 14, 2014 2:23 am
โดย SUPERBUA
บทความเยี่ยมมากครับ
แต่ที่ยังหาคำตอบไม่ได้คือทำไมปู่บัฟยังถืออยู่อ่ะครับในเมื่อเห็นว่าปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนไปมากขนาดนี้
ติดตามต่อไปครับ...
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 14, 2014 6:21 am
โดย RnD-VI
ขอบพระคุณครับอาจารย์
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 14, 2014 11:19 am
โดย Red24
"นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง" คุณปู่ ลืม MOS และใช้อารมณ์กับกรณีนี้(ผมเป็นบ่อย) ดร. บอก ผมโชคดี ... อย่าคิดว่าบุคคล 2 ท่านนี้ก็เหมือนคนทั่วๆไป ที่ทำผิดเป็นเหมือนกัน... สำหรับผมท่านยิ่งใหญ่และกล้าที่จะบอกว่า "ผมทำผิดพลาด" "ผมแค่โชคดี"
ขอบคุณสำหรับบทความของ ดร. และคำสัมภาษณ์ของคุณปู่ ผมจะพยายามทำผิดพลาดให้น้อยที่สุด และเมื่อนั้นโชคน่าจะเข้าข้างผม
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 14, 2014 11:34 am
โดย Nevercry.boy
ผมถือ Tesco ครับ ปัจจุบันขายไปหมดแล้วตอนต้นปี
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=53&t=51046
.....................
บอกตามตรงผมก็ไม่รู้ว่าผมจะขายหมูหรือเปล่าหรือในอนาคต Tesco จะ Turnaround ได้มั๊ย? แต่เรียนตรง ๆ ผมคิดว่าใน ภาพของระยะเวลาอีก 10-15 ปีข้างหน้า ผมก็ไม่แน่ใจว่าเร็วไปมั๊ย ณ เวลานี้ที่จะบอกว่าการลงทุนใน เทสโก้ นั้นผิดพลาด
แต่ตอนนี้นั้น ผมสามารถสรุปได้หลายอย่าง
1. ตอนผมซื้อนั้นผมว่าผมก็มี MOS พอสมควรเพราะซื้อในช่วงวิกฤตยูโร
2. ถึงแม้บัฟเฟตต์จะขาดทุน แต่ผมกำไร เพราะผมได้เปรียบเรื่องค่าเงินปอนด์ ณ ขณะนั้น เมื่อเทียบกับที่ผมขายผมกำไรเฉพาะค่าเงินก็หลายเปอร์เซนต์อยู่
3. ดังที่ ดร. ท่านว่า แม้แต่เซียนก็ยังผิดพลาดได้ ไม่เว้น
4. จุดนี้ผมไม่แน่ใจ แต่ การที่เราเป็นเป้าหมายใหญ่ ก็จะเป็น สิ่งที่คู่แข่งก็จะพยายามจะโค่นล้ม ได้ชัด คือ เป้าหมายใหญ่ จะเห็นชัดและโดนโจมตีได้ง่ายกว่า
***5. ได้ข่าวว่ามี shenanigans เรื่องนี้ผมกังวลมากกว่าเรื่องผลประกอบการ
6. การมาของเทคโนโลยี เช่น ออนไลน์ หรือ ซุปเปอร์เซฟ ในรูปแบบใหม่ ๆ เช่น ลิดเดิ้ล
คราวนี้ก็ต้องลองดูครับ เมื่อตลาดอิ่มตัว พีอี จะโดนปรับตามมา และเมือผลประกอบการที่แย่ตามมา พีอี ก็จะลดลง เป็น "วัฏฏะ" ผมว่าบ้านเราก็ไม่พ้นนะ
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 14, 2014 4:04 pm
โดย WHYDOWEFALL
อย่างนี้ถ้าเป็นเมืองไทย หุ้นค้าปลีกที่มีคูเมืองหนาแน่น ดูยังงัยก็ไม่มีทางที่จะคู่แข่งจะสู้ได้ PE 30 กว่าๆ พอถึงวันที่อิ่มตัวขึ้นมา PE ก็อาจจะไม่ใช่ 30 กว่าแร่ะ ไอ้ที่เราคิดว่ากิจการอันดับหนึ่ง ยังงัยก็ปลอดภัยก็ไม่ใช่แล้วสินะ อะไรก็ไม่แน่นอนเสมอไปสินะสำหรับตลาดหุ้น
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 14, 2014 4:33 pm
โดย vim
ก่อนหน้านี้สัก 1-2 ปีก็มีบทความเกี่ยวกับความล้มเหลวของ Tesco ในประเทศตัวเองให้อ่านเป็นระยะๆครับ ถ้าไปสังเกตดูจะเห็นเลยว่ากระแสการบริโภคในภูมิภาคนั้นเปลี่ยนมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว
ผมคิดว่าส่วนหนึ่งของความผิดพลาดนี้ มีสาเหตุมาจากความเสียเปรียบของนักลงทุนต่างประเทศที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการหรือสินค้าได้ท่วงที เมื่อเทียบกับนักลงทุนในประเทศ ทำให้นักลงทุนต่างประเทศอาจติดภาพเดิมๆของบริษัท แต่กลับมองไม่เห็นถึงการพัฒนาของคู่แข่งทั้งตลาดบนและตลาดล่าง กว่าจะเห็นผลกระทบจังๆก็สายไปแล้ว
อีกส่วนหนึ่งคือสินทรัพย์ของ BRK นั้นเริ่มสูงมาก จนถูกบีบให้ไปลงทุนในสนามรบต่างประเทศที่ตัวเองเสียเปรียบ
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 15, 2014 2:15 pm
โดย simpleBE
เป็น case study ที่ยอดเยี่ยมมากๆ ครับ
ได้กลับทบทวนการลงทุนในหลายๆ ด้านเลย
ขอบคุณมากๆ ครับ
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 16, 2014 6:31 am
โดย offshore-engineer
บทเรียนอีกข้อคือ การไม่ใส่ไข่ทั้งหมดในตะกร้าใบเดียวยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ดีในการลงทุน
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2014 7:19 pm
โดย shinray
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก NICHOLAS KAMM / AFP, tesco.com
วอร์เร็น บัฟเฟตต์ ประกาศขายทิ้งหุ้นเทสโก้ ที่ถือครองไว้กว่า 245 ล้านหุ้น หลังหุ้นเทสโก้ดิ่งลงต่อเนื่อง เผยเป็นการลงทุนที่ผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2557 สำนักข่าวบีบีซี มีรายงานว่า วอร์เร็น บัฟเฟตต์ ผู้บริหารบริษัทด้านการลงทุน เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ ตัดสินใจขายทิ้งหุ้นเทสโก้ ที่ถือครองไว้กว่า 245 ล้านหุ้น จนเหลือหุ้นเทสโก้ในการถือครองไม่ถึง 3% พร้อมกล่าวว่าการตัดสินใจลงทุนในหุ้นเทสโก้ นับเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ของเขา
รายงานระบุว่า บัฟเฟตต์เริ่มซื้อหุ้นของเทสโก้ ห้างค้าปลีกของอังกฤษ สะสมไว้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีมาแล้ว ทว่าในช่วง 52 สัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นของเทสโก้กลับดิ่งลงเหวต่อเนื่องเกินกว่า 50% อันเนื่องมาจากเทสโก้มียอดขายที่ตกต่ำ เพราะไม่สามารถแข่งขันกับผู้ค้าปลีกรายอื่น ๆ ได้ และการรายงานตัวเลขผลประกอบการที่ผิดพลาด จนสร้างความไม่มั่นใจให้กับนักลงทุนทั่วโลก
ขณะที่นักลงทุนรายใหญ่เจ้าอื่นอย่าง Blackrock ก็ตัดสินใจขายทิ้งหุ้นเทสโก้ไปเช่นกัน ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2014 8:41 pm
โดย ท่าสะแก
+++ TESCO เตรียมขายกิจการในไทย ***ลาก่อน TESCO Lotus*** +++
วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2557
นายเดฟ ลูว์อิส ซีอีโอของบริษัทเทสโก้ของอังกฤษ เปิดเผยว่า กำลังพิจารณาการขายสินทรัพย์
ในอังกฤษ, ประเทศไทย และในประเทศอื่นๆ แม้เขาเพิ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งได้เพียง 6 สัปดาห์ ขณะที่เขา
พยายามระดมเงินทุนเพื่อกอบกู้กิจการเทสโก้ที่มีการดำเนินธุรกิจมายาวนานถึง 95 ปี ให้รอดพ้นจาก
วิกฤติครั้งร้ายแรงที่สุด
โดย เทสโก้ เป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่อันดับ 3 ของโลก มียอดขายตกต่ำลงจนถึงขั้นที่ทำให้ทางบริษัท
จำเป็นต้องระดมเงินมากยิ่งขึ้น เพื่อจะนำมาใช้รับมือกับหนี้สินและยอดขาดดุลเงินบำนาญที่พุ่งสูงขึ้น
นอกจากนี้ เทสโก้ยังจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องต้นทุนของแผนฟื้นฟูยอดขายด้วย
http://www.kaohoon.com/online/101685/twitter.htm
.........................................................................................
ข่าวแว่วๆ ว่ามี 3 กลุ่มยักาษ์ใหญ่ในไทยสนใจเตรียมซื้อคือ คือ เจ้าสัวซีพี - เสี่ยเจริญ - กลุ่มเซ็นทรัล
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2014 9:12 pm
โดย Mr.Children
ท่าสะแก เขียน:+++ TESCO เตรียมขายกิจการในไทย ***ลาก่อน TESCO Lotus*** +++
วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2557
นายเดฟ ลูว์อิส ซีอีโอของบริษัทเทสโก้ของอังกฤษ เปิดเผยว่า กำลังพิจารณาการขายสินทรัพย์
ในอังกฤษ, ประเทศไทย และในประเทศอื่นๆ แม้เขาเพิ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งได้เพียง 6 สัปดาห์ ขณะที่เขา
พยายามระดมเงินทุนเพื่อกอบกู้กิจการเทสโก้ที่มีการดำเนินธุรกิจมายาวนานถึง 95 ปี ให้รอดพ้นจาก
วิกฤติครั้งร้ายแรงที่สุด
โดย เทสโก้ เป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่อันดับ 3 ของโลก มียอดขายตกต่ำลงจนถึงขั้นที่ทำให้ทางบริษัท
จำเป็นต้องระดมเงินมากยิ่งขึ้น เพื่อจะนำมาใช้รับมือกับหนี้สินและยอดขาดดุลเงินบำนาญที่พุ่งสูงขึ้น
นอกจากนี้ เทสโก้ยังจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องต้นทุนของแผนฟื้นฟูยอดขายด้วย
http://www.kaohoon.com/online/101685/twitter.htm
.........................................................................................
ข่าวแว่วๆ ว่ามี 3 กลุ่มยักาษ์ใหญ่ในไทยสนใจเตรียมซื้อคือ คือ เจ้าสัวซีพี - เสี่ยเจริญ - กลุ่มเซ็นทรัล
รอบนี้ BigC ไม่เอาด้วยเหรอครับ
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 05, 2015 12:22 am
โดย sakkaphan
ขุดครับ เคยได้ยินคำกล่าวหนึ่ง จำไม่ได้ว่าใครเป็นกล่าวไว้ แต่ "ในระยะที่ยาวนานพอ หุ้นทุกตัวเป็นหุ้นวัฏจักร"
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 23, 2015 10:49 pm
โดย iceberg
ผมไม่คิดว่าบัฟเฟตจะพลาดนะครับ เรามองว่าเค้าพลาด เพราะมันผ่านมาแล้วต่างหากครับ
จริงๆ ถ้าย้อนเวลากลับไป ผมว่าเค้าก็ซื้อเหมือนเดิมครับ
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 23, 2015 11:06 pm
โดย iceberg
คำว่าพลาดนี่ บัฟฟเฟตให้ไว้มีสองอย่าง
1. ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ
2. ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ
ส่วนใหญ่เป็นข้อสองนะครับ
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 24, 2015 6:24 pm
โดย torpongpak
[quote="sakkaphan"]ขุดครับ เคยได้ยินคำกล่าวหนึ่ง จำไม่ได้ว่าใครเป็นกล่าวไว้ แต่ "ในระยะที่ยาวนานพอ หุ้นทุกตัวเป็นหุ้นวัฏจักร"[/quote]
เห็นด้วยเลยครับ ชีวิตคนก็เช่นกัน ทุกอย่างในโลกล้วนเป็นวัฏจักร ^^
เป็นบทความที่ดีมากๆครับ ตามด้วยคอมเม้นที่ยอดเยี่ยมของเพื่อนๆ อ่านเเล้วได้คิดเยอะเลย
ขอเเปะข่าวเพิ่มเติมด้วยครับ
http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 1445491395
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 25, 2015 4:32 pm
โดย iceberg
ขยายความต่อครับ
หากเคยซื้อหวยหรือลอตเตอรี่
ในขณะที่เราซื้อ เราได้คิดแล้วใช่มั้ยครับก่อนซื้อ
บางคนอาจจะมี check list ไว้แล้ว
คราวนี้ เมื่อหวยออก หากไม่ถูก
ก็มักจะบ่นว่า ทำไม เราไม่ซื้อตัวนั้น ตัวนี้
นั่นแหละ หวยออกถึงรู้
ผมถึงบอกว่า เราจะรู้ว่าพลาด เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว
Re: บัฟเฟตต์กับหุ้นเทสโก้/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 26, 2015 5:00 pm
โดย opengn
ขอบคุณครับ