หน้า 1 จากทั้งหมด 1

มุมมองเอสแอนด์พี 19 บริษัทชั้นนำของไทย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 06, 2014 5:21 pm
โดย pakapong_u
คอลัมน์: คอร์ปอเรตโฟกัส: มุมมองเอสแอนด์พี 19 บริษัทชั้นนำของไทย
Source - โพสต์ ทูเดย์ (Th)

Monday, October 06, 2014 04:56


เจียรนัย อุตะมะ
บริษัทสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ หรือเอสแอนด์พีบริษัทจัดอันดับเครดิตชั้นนำของโลกได้ประกาศผลสำรวจบริษัทขนาดใหญ่ของไทยประมาณ 20 แห่ง เทียบบริษัทในอาเซียน ปี 2556 เพื่อให้เครดิตในอนาคต ดังนี้
1.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC)เครดิตA- /คงที่
ความเสี่ยงทางธุรกิจ-เป็นที่น่าพอใจความเสี่ยงทางด้านการเงิน-น้อยกลุ่มธุรกิจ-สื่อสารโทรคมนาคม- แข็งแกร่งในกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมของไทย- อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษีและค่าเสื่อมสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของบริษัทกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม
- มีการบริหารเงินสดได้อย่างแข็งแกร่งและหนี้น้อย
- เพิ่มความสามารถในการแข่งขันสำหรับลูกค้า 3จี
- จัดการความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ธุรกิจนี้ได้ดีในเมืองไทย
- มีการเพิ่มเงินลงทุนในเครือข่าย
2.บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT)
- ความเสี่ยงทางธุรกิจ-มีความแข็งแกร่ง
- ความเสี่ยงทางด้านการเงิน
-มีกระแสเงินสดตั้งแต่ปี2552 และมีการปรับปรุงการใช้จ่ายด้านเงินทุน
- มีขนาดเล็กเทียบสนามบินหลักของโลก
- ความเสี่ยงจากผู้มีส่วนได้เสียยังกดดันกำไรสายการบินในประเทศ
- ได้รับผลกระทบเครดิตจากผู้ถือหุ้นที่เป็นภาครัฐ
3.บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH)
ความเสี่ยงทางธุรกิจ
-อยู่ในระดับที่เหมาะสมความเสี่ยงทางด้านการเงิน
-ระดับกลางกลุ่มธุรกิจการแพทย์
- ธุรกิจการแพทย์ขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในประเทศ
- ใช้ทุนในการลงทุนพัฒนาสินทรัพย์
- กระแสเงินสดสูงและอัตรากำไรมั่นคงมานานมากกว่า5 ปี
- ครอบคลุม 60% ของโรงพยาบาลในเขตกรุงเทพฯ
- เงินสดหมุนเวียนลดลงมากว่า 3 ปี เพราะการใช้เงินขยายโรงพยาบาล
- เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วยการมีความสามารถในการเติบโตในตลาด
4.บริษัท บ้านปู (BANPU)ความเสี่ยงธุรกิจ
-อ่อนแอความเสี่ยงทางด้านการเงิน
-เชิงรุกธุรกิจเหมืองแร่และโรงไฟฟ้า- เหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย มีขนาดใหญ่และมีต้นทุนที่เหมาะสม
- ได้รับปันผลอย่างสม่ำเสมอจากธุรกิจโรงไฟฟ้าทำให้มีกระแสเงินสดมั่นคง
- เหมืองที่อินโดนีเซียมีความเสี่ยงสูงจากความเสี่ยงประเทศและกฎเกณฑ์
- หนี้เติบโตสูงช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพราะการบริหารสิ่งแวดล้อมสำหรับเหมืองถ่านหินและการเพิ่มเงินทุน
- เงินสดลดลงจากการบริหารดอกเบี้ยของเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย
5.บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC)ความเสี่ยงทางธุรกิจ
-น่าพอใจความเสี่ยงทางการเงิน
-ระดับกลางกลุ่มค้าปลีก
- มีส่วนแบ่งการตลาดขนาดใหญ่
- มีเงินสดหมุนเวียนในการขยายร้านค้า
- หนี้เพิ่มขึ้นในปี 2554ตามการขยายตัวของกองทุน
- มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามความเสี่ยงของประเทศ รวมบรรยากาศทางการเมือง
- เผชิญการแข่งขันสูงจากการเติบโตของร้านค้าและคู่แข่งขันที่รุกธุรกิจ
6.บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN)ความเสี่ยงธุรกิจ
-เหมาะสมความเสี่ยงทางการเงิน
-ระดับกลางธุรกิจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
- อัตราพื้นที่เช่าสูง 95%
- ธุรกิจขนาดใหญ่และมีสินทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
- มากกว่า 50% ของรายได้ค่าเช่าอยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล
- รูปแบบธุรกิจมีนัยสำคัญ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง
- มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วมากกว่า 3 ปี และคาดหวังว่าหนี้จะสูงขึ้นหลังจากมีกลยุทธ์เติบโตสูง
- มีความสามารถในการเข้าถึงพื้นที่เป้าหมายมากกว่าตลาดค้าปลีกในภูมิภาคเอเชีย อย่างเช่นสิงคโปร์และฮ่องกง
- เครดิตได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ถือหุ้นเป็นกลุ่มเซ็นทรัล
7.บริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL)ความเสี่ยงธุรกิจ
-น่าพอใจความเสี่ยงทางด้านการเงิน
-หนี้สูงกลุ่มค้าปลีก
- ผูกขาดตลาดร้านค้าสะดวกซื้อในเมืองไทยและมีเงินสดหลังเข้าซื้อกิจการบริษัท สยามแม็คโคร (MAKRO) เมื่อปี2556
- คาดหวังการเติบโตที่ดีในประเทศไทย
- หนี้เพิ่มจากการซื้อกิจการ MAKRO
- กำไรลดมีความเสี่ยงจากการรวมธุรกิจกับ MAKRO
- รายได้ส่วนใหญ่มาจากในประเทศ ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงจากความเสี่ยงประเทศ
8.บริษัท โกลว์ พลังงาน (GLOW)ความเสี่ยงธุรกิจ
-เหมาะสมความเสี่ยงด้านการเงิน
-มีนัยสำคัญกลุ่มโรงไฟฟ้า
- มั่นคงมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย
- ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ จีดีเอฟ ซูเอซ เอส.เอ.
- อัตรากำไรและเงินสดมั่นคงจากการบริหารต้นทุนพลังงาน โดยขึ้นราคาไฟฟ้าตามค่าไฟฟ้าผันแปรที่เพิ่มขึ้น
- เงินสดหมุนเวียนเติบโตและมีสัดส่วนหนี้ที่ดีมาตั้งแต่ปี2554 เพราะมีการลดการใช้จ่ายด้านการลงทุน
- โรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ
- ลูกค้าบางรายเป็นธุรกิจปิโตรเคมี ธุรกิจยานยนต์และธุรกิจจักรยานยนต์
9.บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH)ความเสี่ยงธุรกิจ
-น่าพอใจความเสี่ยงด้านการเงิน-น้อยกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมและดาวเทียม
- ถือหุ้น 40.45% ในบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส (ADVANC) ผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดในไทย
- จ่ายปันผลสูงอย่างต่อเนื่อง
- หนี้น้อยและมีความระมัดระวังด้านการเงิน
- แยกการจัดการด้านผลการดำเนินงานจากเงินปันผลของ ADVANC
- ผลงานไม่สะท้อนธุรกิจของบริษัท ไทยคม บริษัทย่อยผู้ประกอบการธุรกิจดาวเทียม
10.บริษัท ไออาร์พีซี (IRPC)
-เครดิต BB+คงที่ความเสี่ยงทางธุรกิจ-อ่อนแอความเสี่ยงทางด้านการเงิน
-เชิงรุกธุรกิจโรงกลั่นและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี
- เป็นกลยุทธ์สำคัญและได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่บริษัท ปตท.
- บางผลิตภัณฑ์กระจายความเสี่ยงไปยังผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี
- หนี้สูงเพราะการใช้จ่ายเงินทุนสูงในสินทรัพย์ที่สร้างโอกาสในการเติบโต
- การบริหารงานเพื่อสร้างประสิทธิภาพเพราะมีโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพต่ำ
- มีการบริหารความเสี่ยงหนี้ที่สูงและทำให้มีความผันผวนของความสามารถในการทำกำไรและการบริหารเงินสด
11.บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) BBB +/คงที่
ความเสี่ยงธุรกิจ-น่าพอใจความเสี่ยงด้านการเงิน
-พอประมาณกลุ่มธุรกิจน้ำมันและสำรวจก๊าซธรรมชาติและผลิตภัณฑ์
- เป็นกลยุทธ์สำคัญของกลุ่ม ปตท.และรัฐบาลไทย
- ผูกขาดธุรกิจในประเทศในธุรกิจต้นน้ำของน้ำมันและสำรวจก๊าซและผลิตภัณฑ์
- มีกำไรแน่นอนและเงินสดแข็งแกร่ง
- มีการระดมทุนจากนอกประเทศ
- การผลิตต่ำและมีการสำรองมากกว่ากลุ่ม
- เติบโตเชิงรุกและมีค่าใช้จ่ายสูง
- มีความเสี่ยงในการพัฒนาองค์กรให้สำเร็จอย่างยั่งยืนและแหล่งสำรวจที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา
12.บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เครดิตBBB/คงที่
ความเสี่ยงธุรกิจ
-น่าพอใจความเสี่ยงด้านการเงิน-ระดับกลางธุรกิจโรงกลั่นและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี
- ผูกขาดตลาดในประเทศด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี
- กระแสเงินสดแข็งแกร่งและมั่นคงในวงจรอุตสาหกรรมเพราะต้นทุนต่ำ และวัตถุดิบมาจากก๊าซธรรมชาติ
- ระมัดระวังในนโยบายและการใช้จ่ายเงินทุน- โรงงานมีความเสี่ยง
- ต้นทุนและอัตรากำไรต่ำตามธรรมชาติของการบริหารโรงกลั่น
13.บริษัท ปตท.(PTT) -เครดิต BBB/คงที่ความเสี่ยงธุรกิจ
-น่าพอใจความเสี่ยงทางด้านการเงิน-ระดับกลางธุรกิจน้ำมันสำรวจก๊าซและผลิตภัณฑ์ โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเคมีและโรงไฟฟ้า
- ผูกขาดน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในประเทศ
- มีการผนึกธุรกิจทั้งต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
- กระแสเงินสดแข็งแกร่ง
- รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และให้การสนับสนุน
- กำไรต่ำกว่าบริษัทพลังงานแห่งชาติอื่น
- เติบโตเชิงรุกและใช้เงินทุนสูงแม้ว่าจะมีความยืดหยุ่น
14.บริษัท การบินไทย (THAI)
ความเสี่ยงทางธุรกิจ-อ่อนแอความเสี่ยงด้านการเงิน-หนี้สูงธุรกิจขนส่งทางอากาศ
- สายการบินขนาดใหญ่ 1 ใน 3 รายในประเทศ
- รัฐบาลถือหุ้นใหญ่- หนี้สินต่อทุนเกือบสองเท่า รวมค่าเช่าดำเนินงานตั้งแต่ปี 2551 เพราะการเพิ่มทุน
- มีความเสี่ยงสูงจากการแข่งขันและอัตรากำไรผันผวน
15.บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ
ความเสี่ยงธุรกิจ-น่าพอใจความเสี่ยงด้านการเงิน-ระดับกลาง
ธุรกิจแบรนด์เครื่องดื่มและร้านอาหาร
- ผู้ผลิตรายใหญ่ที่มีส่วนแบ่งตลาดแบรนด์ระดับบน
- อัตรากำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ย
- เงินสดแข็งแกร่งมีการจำกัดเงินทุน
- มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนของกฎเกณฑ์ในไทย
- หนี้สูงตามการเข้าซื้อกิจการเฟรเซอร์แอนด์นีฟโฮลดิ้ง เมื่อปี 2556 และเติบโตจากการซื้อกิจการ
16.บริษัท ไทยออยล์ (TOP)
- เครดิต BBB/คงที่ความเสี่ยงทางธุรกิจ-น่าพอใจความเสี่ยงด้านการเงิน-ระดับกลางกลุ่มโรงกลั่นและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี
- โรงกลั่นขนาดใหญ่ในไทย
- โรงกลั่นครบวงจรขนาดใหญ่มีผลิตภัณฑ์ผสมผสานและต้นทุนต่ำ
- กลยุทธ์สำคัญของกลุ่ม ปตท.
- มีระดับการจัดการหนี้- มีวงจรธุรกิจเป็นสินค้าโภคภัณฑ์และมีเงื่อนไขในเรื่องทุน
- มีความเสี่ยงในธุรกิจ
- มีการใช้เงินทุนสูงและคาดว่ากระแสเงินสดจะเป็นลบ
17.บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC)
ความเสี่ยงธุรกิจ-น่าพอใจความเสี่ยงด้านการเงิน-มีนัยสำคัญกลุ่มปิโตรเคมี กระดาษ และวัสดุก่อสร้าง
- มีการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจที่ดี
- มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศ
- แข็งแกร่งด้านธุรกิจวัสดุก่อสร้าง
- มีความอ่อนไหวด้านราคาและวงจรของธุรกิจ
- การแข่งขันเพิ่มขึ้น ปิโตรเคมีและกระดาษเป็นสินค้าโภคภัณฑ์
- หนี้สินสุทธิต่อทุนเกือบสองเท่า รวมค่าเช่าดำเนินการ ตั้งแต่ปี 2556 เพราะการเติบโตของการใช้เงินทุนและการซื้อกิจการ
18.บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC)
ความเสี่ยงธุรกิจ-น่าพอใจความเสี่ยงทางด้านการเงิน
-พอประมาณธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม
- ผู้ประกอบการสื่อสารโทรคมนาคมอันดับสองของประเทศ
- ระมัดระวังด้านการเงินหนี้ต่ำมีเงินสด
- ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ เทเลนอร์ เอเอสเอ- เงินสดเหลือน้อยเพราะจ่ายปันผลสูง
- มีความเสี่ยงสูงจากกฎเกณฑ์รัฐบาล
19.บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ความเสี่ยงธุรกิจ
-เหมาะสมความเสี่ยงทางด้านการเงิน
-เชิงรุกกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม
- ผู้ประกอบการสื่อสารโทรคมนาคมอันดับสามของประเทศ
- กระจายความเสี่ยงรายได้ข้ามธุรกิจไปยังโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์พื้นฐานและเพย์ทีวี
- ความเสี่ยงจากกฎเกณฑ์สูง
- โครงสร้างเงินทุนดีตามการบริหารของบริษัท
- เงินสดเป็นลบเพราะใช้เงินทุนสูง --จบ--

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

Re: มุมมองเอสแอนด์พี 19 บริษัทชั้นนำของไทย

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 06, 2014 5:24 pm
โดย ลูกหิน
เห็นข่าวมา 2-3 วันแล้วครับ เวลามองดูบางครั้ง มุมมองของนักลงทุนไทยก็อาจจะมองโลกสวยไปนิดก็เป็นได้นะครับ :roll: