หน้า 1 จากทั้งหมด 1

PTK

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 25, 2014 3:17 pm
โดย pakapong_u
ผาทองกิจ สตีลอินดัสตรี้ แถลงข่าวแต่งตั้ง บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 25 สิงหาคม 2557 14:37:33 น.
กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--ธามดี พลัส

บริษัท ผาทองกิจ สตีลอินดัสตรี้ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กทรงยาวเพื่อใช้ในงานก่อสร้าง ได้แก่ เหล็กเส้นกลม เหล็กเส้นข้ออ้อย ผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นทุกชนิด ภายใต้เครื่องหมายการค้าอักษรย่อ” PTK” มาตรฐานเหล็กเส้นไทย ขอเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมงานแถลงข่าว แต่งตั้ง บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน “เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และแผนธุรกิจของบริษัทฯ” โดยมีคุณนัคพัฒน์ ยิ้มเศรษฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผาทองกิจสตีลอินดัสตรี้ จำกัด และคุณสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เข้าร่วมงาน

โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม 2557 เวลา 13.00 – 14.30 น. ณ โถงนิทรรศการ ชั้น 1 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

Re: PTK

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 25, 2014 3:43 pm
โดย pakapong_u
"ผาทองกิจ สตีลอินดัสตรี้"แต่งตั้ง APM เป็น FA ปรับโครงสร้าง-เข้าตลาดฯ
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (Th)

Monday, August 25, 2014 15:13


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ส.ค. 57)--บริษัท ผาทองกิจ สตีลอินดัสตรี้ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กทรงยาวเพื่อใช้ในงานก่อสร้าง ได้แก่ เหล็กเส้นกลม เหล็กเส้นข้ออ้อย ผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นทุกชนิดของบริษัทได้รับมาตรฐานอุตสากรรม มอก. 20-2543 และ มอก. 24-2548 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ) และ เป็นที่ยอมรับจากลูกค้าทั่วไปมานานกว่า 30 ปี ภายใต้เครื่องหมายการค้าอักษรย่อ PTK และสโลแกน ว่า "PTK มาตรฐานเหล็กเส้นไทย"
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้าง โดยบริษัทฯได้แต่งตั้ง บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด(APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทมุ่งเน้นคุณภาพมาตรฐาน ความหลากหลายของสินค้า และการให้บริการที่จริงใจ ซื่อสัตย์ และซื่อตรงต่อลูกค้าเป็นสำคัญ จึงได้ผลิตผลิตภัณฑ์ครบทุกชนิดทุกขนาดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและส่งมอบได้ตรงต่อเวลาในราคาที่ลูกค้าพึงพอใจ
บริษัทฯมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ กลุ่มตระกูลยิ้มเศรษฐี โดยจุดเริ่มต้นของกลุ่มบริษัทผาทองกิจ (PTK) เริ่มจากวิสัยทัศน์ ความมุ่งมั่น และวิริยะของประธานกรรมการ คือนายขจรวุฒิ ยิ้มเศรษฐี ผู้เริ่มก่อตั้ง โดยเริ่มต้นจากร้านค้าเหล็กเส้น และหางเหล็กเล็กๆ ย่านตลาดพลู ฝั่งธนบุรี ในปี 2515 และเริ่มแปรรูปเหล็กดอกไม้จากเหล็กแบนเพื่อใช้สำหรับทำประตูยืด ภายใต้กิจการชื่อ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ผาทองกิจ
ต่อมาในปี 2517 ตลาดในประเทศมีความต้องการการใช้เหล็กสูงมาก ประกอบกับจังหวะและโอกาสที่ดี นายขจรวุฒิจึงได้ตัดสินใจขยายกิจการโรงงาน โดยก่อสร้างโรงงานแห่งแรกย่านบางขุนเทียน ผลิตเหล็กเส้นแบน และเหล็กเส้นกลม ภายใต้การบริหารงานและทีมงานที่มีประสิทธิภาพ ทำให้กิจการเติบโตอย่างรวดเร็วจึงได้ขยายโรงงานต่อเนื่องแห่งที่ 2 , 3 และ 4 ตามลำดับ
บริษัท ผาทองกิจสตีลอินดัสตรี้ จำกัด เป็นหนึ่งในโรงงานในกลุ่มผาทองกิจที่ผลิตเหล็กทรงยาว (เดิมชื่อ บริษัท พี ที เค เมททัล จำกัด) จดทะเบียนนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2532 และภายหลังในปี 2554 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ผาทองกิจสตีลอินดัสตรี้ จำกัด บนถนนเอกชัย ตำบลคอกกระบือ อำเภอเมือง จังหวัด สมุทรสาคร

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--

Re: PTK

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 28, 2014 3:49 pm
โดย pakapong_u
"ผาทองกิจฯ"ตั้ง APM เป็น FA จัดโครงสร้างเข้าตลาดหุ้นเล็งระดมทุนขยายไลน์ผลิต
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (Th)

Thursday, August 28, 2014 15:20

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ส.ค. 57)--นายนัคพัฒน์ ยิ้มเศรษฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผาทองกิจสตีลอินดัสตรี้ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กเส้นเพื่อใช้ในงานก่อสร้างภายใต้เครื่องหมายการค้า"PTK มาตรฐานเหล็กเส้นไทย" เปิดเผยว่า บริษัทแต่งตั้งบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และวางแผนธุรกิจ โดยบริษัทฯอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมทั้งการจัดโครงสร้างธุรกิจ โครงสร้างทางการเงิน และปรับปรุงมาตรฐานบัญชีเพื่อรองรับการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ผาทองกิจฯ ดำเนินธุรกิจค้าเหล็กเส้นทุกชนิดมายาวนานกว่า 40 ปี ซึ่งเหล็กเส้นทุกชนิดได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก.20-2543 และ มอก.24-2548 ชั้นคุณภาพ SR24, SD30, SD40, SD50 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ภายใต้เครื่องหมายการค้า PTK และสโลแกนที่ว่า "PTK มาตรฐานเหล็กเส้นไทย" โดยมีจุดแข็ง คือ เป็นบริษัทขนาดกลางที่มีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งสามารถปรับโครงสร้าง และกำลังการผลิตเหล็กชนิดต่างๆให้สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรม ขณะที่บริษัทฯมีกำลังการผลิต 150,000 ตันต่อเดือน อีกทั้งวัตถุดิบที่ใช้เป็นวัตถุดิบในประเทศที่สามารถแปรรูปได้ตามต้องการช่วยลดความเสี่ยงในนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน บริษัทได้มีการทำการตลาดเชิงรุกกับตัวแทนจำหน่ายเหล็กเส้น PTK อาทิ การออกบูทสินค้า และการจัดงานให้ลูกค้าได้ร่วมสนุก ทั้งกับดีลเลอร์ในจังหวัดต่างๆ และตัวแทนที่เป็นโมเดิร์นเทรดไม่ว่าจะเป็น โกลบอลเฮ้าส์ (Global House) ดูโฮม (Do Home) ไทวัสดุ (Thai Watsadu) โฮมฮับ (Home Hub) เมกาโฮม (Mega Home) และซีเมนต์ไทยโฮมมาร์ท (SCG Home Mart) โดยสัดส่วนการจัดจำหน่ายของดีลเลอร์และโมเดิร์นเทรดอยู่ที่ 50:50
นายนัคพัฒน์ กล่าวถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศไทยนั้น โดยส่วนตัวแล้วมองว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมเหล็กน่าจะดีขึ้น โดยข้อมูลจากสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย คาดการณ์ปริมาณการใช้เหล็กของไทยในปี 57 จะขยายตัวประมาณ 2.5% จากปี 56 และปริมาณการใช้เหล็กทุกประเภทรวมอยู่ที่ 18.14 ล้านตัน
ขณะเดียวกัน ยังมีปริมาณการส่งออกเหล็กเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน (CLMV) แสดงให้เห็นสัญญาณการฟื้นตัว และความต้องการใช้เหล็กมีมากขึ้นตามโครงการต่างๆ หลังเกิดความเชื่อมั่นทางการเมือง และนโยบายภาครัฐที่เริ่มเดินหน้า ตลอดจนทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน และธุรกิจขนาดเล็ก ทั้งการก่อสร้าง การซ่อมแซมอาคารบ้านเรือน และสิ่งปลูกสร้างแนวราบที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมีแผนจะเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ในปี 58 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงเพิ่มไลน์การผลิตและขยายการผลิต จากปัจจุบันมีการผลิตเหล็กเส้นกลม เหล็กเส้นข้ออ้อย ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ และมีแผนจำหน่ายไปประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว ที่อุตสาหกรรมการก่อสร้างเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มโอกาส และช่องทางการจำหน่ายให้มากยิ่งขึ้น
“ตลอด 40 ปีที่ผ่านมาเหล็กเส้น PTK ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าหลัก คือ ลูกค้ารายย่อยที่ปลูกสร้างบ้าน มีการซื้อสินค้าจากดีลเลอร์ตามจังหวัดต่างๆ และโมเดิร์นเทรด ส่งผลให้มียอดขายเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งทำให้เรามีแผนเพิ่มการผลิต จึงจำเป็นต้องหาแหล่งเงินทุนเพื่อมาซื้อเครื่องจักรใหม่ และปรับปรุงของเดิมเพื่อการผลิตที่เพียงพอตามความต้องการของลูกค้า และเพิ่มศักยภาพการผลิตเพื่อรองรับโอกาสที่จะมีเข้ามาในอนาคต"นายนัคพัฒน์ กล่าว
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APM กล่าวว่า คาดว่าภายใน 1-2 ปีข้างหน้า ผาทองกิจฯ จะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ หลังจากจัดโครงสร้างทางธุรกิจ และด้านบัญชีให้เป็นไปตามหลักการและกฏเกณฑ์ ระหว่างนี้ APM จะดูแลในเรื่องการจัดหาแหล่งเงินทุนในรูปแบบอื่นๆเพื่อรองรับการขยายกิจการ และสามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมได้
การที่บริษัทฯมีแผนที่จะระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯถือเป็นแหล่งเงินทุนที่จะช่วยสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจเพิ่มในการนำมาปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิตเหล็กเส้นให้ทันสมัย และสามารถผลิตสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้นตอบสนองความต้องการของลูกค้า และจะส่งผลต่อยอดขายที่ดีในอนาคต ทั้งนี้ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดขายเฉลี่ยปีละ 2,000 ล้านบาท ขณะที่ 6 เดือนแรกของปี 57 มียอดขายอยู่ที่ 1,077.41 ล้านบาท โดยคาดว่ายอดขายรวมในปีนี้จะไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา

--อินโฟเควสท์ โดย ศศิธร ซิมาภรณ์ โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--