Thai VI

หลายๆ คนรอบตัวผมที่สนใจการลงทุนแต่ไม่เคยเริ่มจริงจัง หรือไม่สนใจการลงทุนเลย บ้างจะให้เหตุผลว่า ในสนามการลงทุนนั้นเป็นเกมที่ไม่ง่าย มีอะไรมากมายที่ไม่รู้ และเป็นเกมของคนที่รวยกว่า ฉลาดกว่า หรือมี connection มากกว่า

ผมเห็นด้วย เพียงแต่อยากจะเปรียบเรื่องนี้กับเรื่องการออกวิ่ง ที่ผมหยิบยกนำมาเปรียบบ่อยๆ

การลงทุนนั้นเป็นเกมที่ไม่ง่าย เพราะเราอยู่ในสนามเดียวกับคนที่ลงทุนได้เก่งที่สุด ในสนามแข่งวิ่ง ก็เหมือนกับเราเจอคู่แข่งที่ ขายาวกว่า แข็งแรงกว่า ฟิตกว่า ฝึกซ้อมมามากกว่า บางคนรู้จักกับกรรมการด้วยซ้ำ แต้มต่อแบบกีฬากอล์ฟก็ไม่มี แล้วแบบนี้เราจะลงเล่นในเกมที่ไม่มีโอกาสชนะเขาไปทำไม?

เมื่อไม่มีโอกาสชนะ หลายๆ คนจึงไม่กล้าลองไปยืนอยู่ที่จุดสตาร์ท ไม่กล้าแม้แต่จะลองเปลี่ยนชุดแข่งด้วยซ้ำ แต่สำหรับผมแล้ว มุมมองนี้เป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างยิ่ง ผมเชื่อว่าชีวิตและการลงทุนนั้น ไม่ใช่เกมการแข่งวิ่ง 100 เมตรที่ต้องการผู้ชนะในเวลาไม่กี่วินาที แต่เป็นการวิ่งมาราธอนที่กินเวลาไม่รู้กี่สิบปี

ผมไม่เคยคิดว่าผมขายาวกว่าใคร หรือมีร่างกายแข็งแกร่งกว่าใคร สิ่งที่ผมเลือกทำจึงเป็นการซ้อม ซ้อม และก็ซ้อม ผมไม่สนว่าใครจะวิ่งเร็วแค่ไหนหรือรู้จักกรรมการคนไหนบ้าง ผมรู้เพียงแต่ว่าการวิ่งที่เร็วเกินไปก็มีโอกาสพลาดที่จะสะดุดล้มหรืออาจเหนื่อยจนต้องชะลอ/หยุดวิ่งในวันใดวันหนึ่ง อันที่จริงผมไม่สนด้วยซ้ำว่าใครจะวิ่งไปถึงไหนแล้วบ้าง เพราะสิ่งที่ผมให้ความสนใจคือเส้นทางของตัวผมเอง ผมไม่เคยเปรียบเทียบกับใคร ผมจึงมี่ความสุขกับการออกวิ่ง อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

เกมการลงทุนไม่เพียงแต่เป็นเกมยาวแบบมาราธอน แต่ยังเป็นเกมที่เปิดโอกาสให้คุณได้ออกแบบลู่วิ่งของตัวคุณเองอีกด้วย แม้ว่าศักยภาพของคุณอาจจะด้อยกว่าคู่แข่ง มันก็ไม่ได้ทำให้คุณไปถึงจุดหมายช้าลง คุณไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับใคร เพราะคุณสามารถที่จะออกแบบลู่วิ่ง วิธีการวิ่ง รวมไปถึงมีความสุขไปกับเส้นทางวิ่งในแบบของตัวคุณเอง

โดนใจ เอาไป 1 บวกครัชชช

เห็นด้วยครับ แต่ผมชอบเดินมากกว่าครับ เดินไปเรื่อยๆ มองธรรมชาติไปเรื่อยๆ ทำความเข้าใจโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ถามตัวเองอยู่เรื่อยๆ ว่าเราเกิดมาทำไม เพื่ออะไร และเราจะทำอะไรต่อไป ผมเป็นคนที่เก็บตัว แทบไม่มีคนรู้จักหรือเพื่อนๆเลยครับ ตั้งแต่ลงทุนมา งานสังสรรค์ งานสัมนาต่างๆ ผมไม่เคยไปเลยแม้แต่ครั้งเดียวครับ ผมว่าการที่เราฝึกวิ่งได้ ผมกลับมองว่าจริงๆแล้วถ้าเราเกิดมาได้อย่างไม่เหมาะสมกับการลงทุน สิ่งต่างๆคงไม่ได้เป็นอย่างที่เป็นอยู๋ในปัจจุบัน เช่น ถ้าเราเกิดมาไม่สมประกอบ ถ้าเราเกิดมามีสมองที่ไม่ค่อยมีความเข้าใจด้านลงทุน ถ้าเราไม่ได้ถูกหล่อหลอมจากอดีตที่เราเจอ เราก็คงไม่ได้เป็นแบบนี้ ผมสรุปได้ดังนี้นะครับ สิ่งที่เราได้ที่เรามีในปัจจุบัน อาจจะถูกกำหนดจากกรรมในชาติปางก่อนแล้วก็ได้ และมันเป็นชะตาชีวิตของเรา เราอาจจะทำอะไรที่ไม่ได้มีผลมากในปัจจุบัน แต่มันอาจส่งผลไปในอนาคตหรือชาติหน้ามากกว่านะครับ เดินไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักนะครับ

เยี่ยมครับ เปรียบเทียบได้ดีและโดนใจมากครับ

ติดตามผลงานของคุณมานะมานาน นับถือจริงๆครับ

สุดยอดครับคุณมานะ เขียนบทความมาให้อ่านบ่อยๆนะครับ รอติดตามผลงาน

ขอบคุณครับ ไว้เขียนมาอีกนะครับ

ลูกหิน เขียน:เห็นด้วยครับ แต่ผมชอบเดินมากกว่าครับ เดินไปเรื่อยๆ มองธรรมชาติไปเรื่อยๆ ทำความเข้าใจโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ถามตัวเองอยู่เรื่อยๆ ว่าเราเกิดมาทำไม เพื่ออะไร และเราจะทำอะไรต่อไป ผมเป็นคนที่เก็บตัว แทบไม่มีคนรู้จักหรือเพื่อนๆเลยครับ ตั้งแต่ลงทุนมา งานสังสรรค์ งานสัมนาต่างๆ ผมไม่เคยไปเลยแม้แต่ครั้งเดียวครับ ผมว่าการที่เราฝึกวิ่งได้ ผมกลับมองว่าจริงๆแล้วถ้าเราเกิดมาได้อย่างไม่เหมาะสมกับการลงทุน สิ่งต่างๆคงไม่ได้เป็นอย่างที่เป็นอยู๋ในปัจจุบัน เช่น ถ้าเราเกิดมาไม่สมประกอบ ถ้าเราเกิดมามีสมองที่ไม่ค่อยมีความเข้าใจด้านลงทุน ถ้าเราไม่ได้ถูกหล่อหลอมจากอดีตที่เราเจอ เราก็คงไม่ได้เป็นแบบนี้ ผมสรุปได้ดังนี้นะครับ สิ่งที่เราได้ที่เรามีในปัจจุบัน อาจจะถูกกำหนดจากกรรมในชาติปางก่อนแล้วก็ได้ และมันเป็นชะตาชีวิตของเรา เราอาจจะทำอะไรที่ไม่ได้มีผลมากในปัจจุบัน แต่มันอาจส่งผลไปในอนาคตหรือชาติหน้ามากกว่านะครับ เดินไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักนะครับ

สวัสดีครับพี่ลูกหิน ติดตามกระทู้พี่อยู่ครับ เทียบกับพี่แล้วผมยังถือว่าอ่อนประสบการณ์มากครับ ^^"

จริงๆ ผมไม่ได้คิดว่าจะต้องวิ่ง เพราะมันเร็วกว่าเดินนะครับ เพียงแต่ที่เปรียบเปรยกับการวิ่ง เพราะผมชอบออกกำลังกายด้วยการวิ่งครับ แต่ก่อนที่ผมจะบังคับตัวเองให้เริ่มวิ่งทุกๆ วันได้ มันต้องใช้ความพยายามสูงมากในช่วงแรก ในขณะที่การเดินนั้นเป็นสิ่งที่เราเป็นปกติ เป็นประจำอยู่แล้ว แต่การวิ่งจึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ สำหรับผมครับ

ผมเห็นด้วยกับพี่ลูกหินครับว่ามันไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องรีบร้อนไปถึงจุดหมาย ผมคิดว่าเส้นทางนี้ สังคมนี้ให้อะไรกับผมมากมายครับ เพราะนอกจากเงินแล้ว ผมยังได้ทั้งความรู้ ประสบการณ์ มิตรภาพ ในขณะที่เส้นชัยเส้นแรกที่เราเรียกว่า "อิสรภาพทางการเงิน" นั้น ผมเห็นว่ามันเป็นแค่ของแถมเท่านั้นเองครับ ^^

ยอดเยี่ยมคับ เขียนได้ดี รอรับชมครั้งต่อๆไป ขอบคุณคร๊าบบ

เขียนบทความดีมากเลยครับ ได้ประโยชน์สาระดีครับ คอยติดตามเรื่อยๆนะครับ

ยินดีที่รู้จักนะครับ คุณมานะ ผมเป็นน้องใหม่ที่พึ่งรู้จักเวปไม่นานครับ ไม่ได้เก่งอะไรเลยครับ แต่มีความสุขที่ได้อยู่ในสังคมที่มีแต่การแบ่งปันครับ เมื่อรับแล้วเลยคิดว่าเราก็ควรให้ต่อๆไปนะครับ ผมไม่ค่อยมีเพื่อนครับค่อนข้างสันโดน บางครั้งก็เหงาเหมือนกันครับ ถ้าไม่รังเกียรติไว้ pm แล้วโทรคุยกันหลังไมค์ได้นะครับ ขอบคุณครับ

ขอบคุณสำหรับบทความนะครับ โดนใจทีเดียว

เมื่อก่อนผมเคยมี logic ประหลาดๆ เวลาเห็นใครที่ log in ปีที่สมัครสมาชิก ใหม่กว่าเรา แต่เวลาที่เค้าโพสต์ออกมา ดูมีความรู้หรือเก่งมากๆ ก็จะมาเปรียบเทียบกับตัวเองซึ่งสมัครสมาชิกนานกว่าเค้าอยู่เสมอว่า ดูซิ เค้าเพิ่งสมัครเองทำไมเก่งกว่าเราตั้งเยอะ

โดยที่ความจริงแล้ว เค้าคนนั้นอาจเก่งอยู่แล้ว เป็นเซียนอยู่แล้ว แต่เพิ่งมาสมัครสมาชิก หรือเหตุผลอื่นๆอีกมากมาย

จนได้มาค้นพบว่า เส้นทางการลงทุนนี้ ตัวเราต้องเป็นคน design เองตามความรู้ความสามารถของตัวเราเอง
ขยันฝึกฝน ลงมือ ประเมินผล อย่างสม่ำเสมอ

และสำคัญที่สุด มีความสุขด้วยตัวเราเองครับ

ชอบครับ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ

ยอดเยี่ยมเลยค่ะน้องตู้

พี่กำลังเขียนเรื่อง "แข่งกับตัวเอง"
เพื่อลงใน fb Money talk อยู่
และมีการเล่าถึงการวิ่งมาราธอนด้วย

แนวเราตรงกันมากเลย

ขอบคุณทุกท่านสำหรับกำลังใจครับ ผมยังเป็นมือใหม่ ความรู้ ประสบการณ์ยังน้อยมาก คงต้องเรียนรู้จากพี่ๆ ทุกท่านอีกมากครับ

อ่านแล้วก็นึกถึงโฆษณาที่เคยดูมานานแล้ว แต่ยังจำได้ลางๆ

https://www.youtube.com/watch?v=Gje8A0nA7U0

[youtube]Gje8A0nA7U0[/youtube]

ขอบคุณสำหรับแง่คิดดีๆ ค่ะ

เขียนได้ดีครับ ขอบคุณที่แชร์แนวคิดครับ

บทความที่สั้นกระชับ เยี่ยมยอดครับ

ผมสงสัย การวิ่งมาราธอน มีเวลากำหนดไหมหนอครับ ...

dome@perth เขียน:บทความที่สั้นกระชับ เยี่ยมยอดครับ

ผมสงสัย การวิ่งมาราธอน มีเวลากำหนดไหมหนอครับ ...

สำหรับการลงทุน ผมมองว่าผู้เข้าแข่งขันสามารถกำหนดเองได้ทั้งเป้าหมายและระยะเวลาครับ

นายมานะ เขียน:

dome@perth เขียน:บทความที่สั้นกระชับ เยี่ยมยอดครับ

ผมสงสัย การวิ่งมาราธอน มีเวลากำหนดไหมหนอครับ ...

สำหรับการลงทุน ผมมองว่าผู้เข้าแข่งขันสามารถกำหนดเองได้ทั้งเป้าหมายและระยะเวลาครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ทุกท่านที่ลงสนามต้องกำหนดเป้าหมายและระยะเวลาเองครับ

แต่อยากให้มี benchmark คร่าวๆ เพื่อให้เป็นตัววัด คุณภาพ พัฒนาการ และความสามารถของตัวเอง
ไม่ใช่ว่า วิ่งมาราธอน 60 km สมมุติปกติคนทั่วไปควรใช้เวลาไม่เกิน 4-5 ชั่วโมง
แต่เรากำหนดตัวเองว่า 3 วันก็ได้นะ มาจะกลายเป็นการตั้งเป้าเข้าข้างความอ่อนแอของตัวเองครับ