หน้า 1 จากทั้งหมด 1

พนักงานต้องมาก่อน/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 12, 2014 9:17 pm
โดย Thai VI Article

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ปกติการบริหารงานของบริษัททั่วไปมักจะให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลักเสมอ ไม่ว่าจะเป็นคำกล่าวที่ว่า”ลูกค้าคือพระเจ้า”หรือ”ลูกค้าต้องมาก่อน”เป็นต้น ซึ่งหลักบริหารนี้ใช้กันมาเป็นเวลานานและ ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีการที่บริษัทต่างๆนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงานกันจำนวน มากไม่ว่าจะเป็นธุรกิจธนาคาร ร้านอาหารหรือบริษัทใหญ่ๆระดับโลกหรือระดับท้องถิ่นก็ตาม ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้หลักการนี้ก็ปะปนกันไปทั้งความสำเร็จและความล้ม เหลวขึ้นกับการนำไปใช้งานและความสามารถของผู้บริหารและความใส่ใจของพนักงาน ต่อหลักการลูกค้าคือพระเจ้านี้มากน้อยแค่ไหนมีผู้บริหารบริษัทไอทีที่อินเดียอยู่บริษัทหนึ่งซึ่งคิดสโลแกนขึ้นมาใหม่ ว่า”พนักงานต้องมาก่อน ส่วนลูกค้ามาทีหลัง” (Employee First, Customer Second) และเขานำมาใช้ในการปฏิบัติจริงซึ่งเป็นการท้าทายความเชื่อเดิมๆเรื่องของการ บริการลูกค้าอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ในช่วงแรกไม่มีใครเชื่อว่าจะสามารถทำได้สำเร็จ แต่สุดท้ายบริษัทไอทีแห่งนี้ซึ่งเป็นบริษัทอันดับหลังๆของวงการได้ก้าวขึ้น มาแข่งกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างไอบีเอ็มได้ในเรื่องการบริการทางด้านไอที ระดับโลก

หลังจากความสำเร็จนั้นทำให้ซีอีโอของบริษัทเฮชซีแอล เทคโนโลยี่ (HCL Technology) ที่ชื่อวินีท นายา (Vineet Nayar) ได้เขียนหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งเพื่ออธิบายว่าเขานำหลักการนี้มาใช้ในองค์กร ของเขาได้อย่างไรจนสามารถสู้กับบริษัทระดับโลกได้ในชื่อหนังสือเดียวกันที่ ว่า ”พนักงานต้องมาก่อน ส่วนลูกค้ามาทีหลัง” (Employee First, Customer Second)

หนังสือเล่มนี้คนที่เป็นผู้บริหารระดับสูงทุกคนควรอ่านและคนที่อยากเป็นผู้ บริหารควรอ่านด้วยเช่นเดียวกัน นอกเหนือจากนั้นนักลงทุนที่ศึกษาพื้นฐานของกิจการยิ่งควรอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะจะทำให้เห็นภาพว่าการต่อสู้เพื่อส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทในอุตสาหกรรม นั้นไม่ได้เกิดจากมีเงินเพียงอย่างเดียว เพราะสมัยนี้ไม่ว่าบริษัทไหนต่างก็สามารถหาเทคโนโลยี่และพัฒนาสินค้าได้ อย่างแทบจะเท่าเทียมกัน แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถทำให้บริษัทมีความสามารถในการแข่งขันสูงกว่าบริษัท อื่นนั่นคือเรื่องของพนักงานและบุคคลากรของบริษัทที่มุ่งมั่นและทำหน้าที่ ของตนได้อย่างเต็มที่

โดยปกติพนักงานในบริษัทต่างๆมักได้รับมอบหมายงานตามหน้าที่และมีเป้าหมายใน การทำงาน บางครั้งการตั้งเป้าหมายหรือเคพีไอ (KPI = Key Performance Indicator) นั่นเองที่เป็นการทำลายความตั้งใจในการทำงานของพนักงานนั่นเสียอีก นอกเหนือจากนั้นการพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนหรือโปรโมชั่นต่างๆมักถูกมองว่า ไม่เป็นธรรมและไม่โปร่งใส การทำงานตามKPIกลายเป็นการทำงานแบบต่างคนต่างทำเพียงเพราะต้องการรักษาผลงาน ของตนเองทำให้การทำงานเป็นทีมลดน้อยลงไป

อันดับแรกที่ผู้บริหารของบริษัทHCLTทำคือการทำให้สิ่งต่างๆในบริษัทมีความ โปร่งใสและสร้างความน่าเชื่อถือระหว่างกัน (Trust) ของผู้บริหารและพนักงานด้วยกันเอง เขาเปลี่ยนการประเมินผลแบบ 360 องศาจากการประเมินด้วยผู้บริหารหรือพนักงานเพียงไม่กี่คนกลายเป็นการประเมิน โดยพนักงานคนใดก็ได้ในบริษัท ผลของการประเมินยังเปิดเผยให้ทุกคนเห็นได้และผล 360 องศาไม่นำมาใช้ในการขึ้นเงินเดือนแต่นำมาใช้ในการพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นไป
 การให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีมกลายเป็นสิ่งสำคัญ พนักงานที่ทำงานเก่งคนเดียวแต่ไม่สามารถทำงานร่วมกับทีมได้จะถูกประเมินจาก เพื่อนพนักงานด้วยกันไม่ใช่จากผู้บริหารเพียงคนเดียว นอกจากนั้นบริษัทยังสร้างห้องแซทให้กับพนักงานสามารถตั้งคำถามกับผู้บริหาร ระดับสูงได้โดยตรงอย่างเปิดเผยทำให้ข่าวลือต่างๆในบริษัทลดน้อยลงไปเรื่อยๆ

บริษัทยังทำนโยบายอย่างอื่นอีกมากเพื่อความพึงพอใจของพนักงานหลังจากพนักงาน มีความสุขที่ได้ทำงานกับบริษัทแล้วก็จะทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับบริษัทและ ดูแลลูกค้าเป็นอย่างดี จะเห็นว่าเราในฐานะผู้ใช้บริการสามารถดูได้ว่าบริษัทไหนให้ความสำคัญกับ พนักงานมากน้อยแค่ไหนโดยดูจากระดับการให้บริการของพนักงาน

หลายบริษัทมีแต่นโยบายที่เขียนไว้ว่า”พนักงานคือบุคคลที่สำคัญต่อองค์กร”แต่ ในความเป็นจริงพนักงานทำงานแบบไปวันๆและไม่ใส่ใจลูกค้ามากนัก แสดงให้เห็นว่าบริษัทไม่ได้ให้ความสำคัญกับบุคคลากรของบริษัทอย่างแท้จริง

หนังสือเล่มนี้ยังไม่มีแปลเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่ใช้เขียนก็ไม่ได้ยาก นัก คิดว่าผู้บริหารและนักลงทุนทุกคนสามารถอ่านกันได้แน่นอน
[/size]

Re: พนักงานต้องมาก่อน/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 12, 2014 11:13 pm
โดย miracle
บทความอันนี้ดี สำหรับ พวก HR ทั้งหลาย
และ Customer Service ที่อดทนอดกลั้นกับลูกค้าอย่างมากมาย
:)~

Re: พนักงานต้องมาก่อน/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 13, 2014 9:59 am
โดย ลูกหิน
ขอบคุณมากครับ

Re: พนักงานต้องมาก่อน/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 13, 2014 10:40 am
โดย Nevercry.boy
ขอบคุณมากครับ ผมเห็นมานักต่อนักแล้วการพัฒนาองค์กรด้วย KPI คือการจัดลำดับชนชั้นให้พนักงานเป็นเพียงหนึ่งใน procedure การทำงานให้เป็นมาตรฐานของ ฝรั่งหรือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ญี่ปุ่น

คนไทยไม่ค่อยมีสิทธ์เสียงออกเสียงวิพากษ์วิจารย์ บอกตรง ๆ นั่นคือสาเหตุหลายครั้งที่วิศวกรไทยไม่ก้าวหน้า วิศวกรไทยอย่าเรียกว่าเป็น วิศวกรก็ไม่เต็มปาก เย็นกินเหล้า เสาร์อาทิตย์ ตีกอล์ฟ กลางวันทำงานเป็นหุ่นยนต์

เราเป็นเพียงขายแรงงาน เงินโกยกลับญี่ปุ่น อยู่ในองค์กรนาน หลายคนยอมเป็นทาสโดยความสมัครใจ

ขัดใจญี่ปุ่นผู้เป็นนายไม่ได้เลย สร้างวัฒนธรรมกันเองข่มกันเอง ดูถูกกันเอง

ไม่ใช่การศึกษาและการบริหารแบบญี่ปุ่นไม่ดี แต่การพัฒนาเพื่อการพัฒนาให้คนไทยเก่งกว่าญี่ปุ่นเช่นซัมซุงจะต้องโค่นโซนี่ให้ได้ เพราะมันคือสงคราม ไม่เคยเกิดในประเทศไทย และจะไม่มีวันเกิดด้วยหากคนไทยยังอยู่ในกรอบความคิดเช่นนี้

Re: พนักงานต้องมาก่อน/วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 18, 2014 9:13 am
โดย sorawitch
คนไทยชอบให้ "ควบคุม" ด้วยเนี่ยสิครัช แหม่ม

อยากบอกท่าน NB ว่า ไม่ได้เป็นเฉพาะบริษัทญี่ปุ่น

บริษัทฝรั่งในไทยก็เป็นครับ :oops:

คนเรานี่ก็แปลก พอเป็นใหญ่เป็นโต เรื่องที่ไม่รู้ ก็กลายเป็นรู้ขึ้นมา

ผบห ไม่ทำหน้าที่ที่ตัวเองควรทำ แต่กลับสั่งให้ทำนุ่นนี่นั่น รุ้ไปโม้ด

ผบห หลายๆคน อยู่องค์กรเดิมมาเป็นสิบๆปี ความรู้ความเข้าใจกับเทคโนโลยีภายนอกน้อยมากๆ

แต่กลับสั่งงานเด็กรุ่นใหม่ๆ แบบที่ผมเห็นแล้ว :'O :'O :'O

อันนี้ผมเข้าใจว่าเป็นเฉพาะตัวบุคคล แต่คนแบบนี้ดันมีเยอะมากๆ

พอแก่ตัว ก็นึกว่าตัวเองเก่ง หารู้มั้ย โลกไปถึงไหน

บางคนบอกว่าเด็กสมัยนี้ไม่อดทน ส่วนหนึ่งก็จริง แต่ความคิดสร้างสรรค์ กับความรู้เค้านี่ไม่ธรรมดานะ เพียงปลายนิ้ว หาในกุเกิ้ล เด็กรุ่นใหม่ทำได้ดีจริงๆ ผมยังยอมเลย :oops: :oops: