รถไฟรางคู่ถ้ามาจริง
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 31, 2014 11:27 am
กลุ่มไหนจะได้งานมากสุด ระหว่าง เหล็ก กับ รับเหมา
Tarzann เขียน:โครงการรถไฟรางคู่ ดูแนวโน้มน่าจะผ่านการอนุมัตินะครับ
ไม่ทราบว่าจะช่วยเพิ่ม demand ของ PC-wire ได้มากขนาดไหน
ผมลองคิดคร่าวๆ
ถ้าทำรางเดียวทั้งหมดให้เป็นรางคู่ จะต้องสร้างรางเพิ่มอีก 3685 กม หรือ 3,685,000 เมตร
ทุกๆ 1 เมตร จะใช้หมอนรอง 2.5 อัน หมอนรองแต่ละอันจะใช้ PC-wire 15 kg
จะต้องใช้ PC-wire ทั้งหมด = 3,685,000 x 2.5 X 15/1000 = 1,381,987 ตัน
คาดว่าใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 8 ปี ดังนั้นจะมี Demand เพิ่มเข้ามาอีกปีล่ะ 172,748 ตันต่อปี
คิดแบบนี้พอได้ไหมครับ ?
ระบบรถไฟทั่วประเทศในปัจจุบัน มีทั้งรางเดี่ยว และรางคู่ทั้งสิ้น ระยะทาง 4,043 กิโลเมตร ให้บริการครอบคลุมเพียง 47 จังหวัด
โดยแบ่งเป็น รถไฟทางเดี่ยว 91.1 % หรือแทบทั้งหมดของรางรถไฟทั้งประเทศ มีระยะทาง 3,685 กิโลเมตร (ร้อยละ 91.1)
http://www.isnhotnews.com/read-hot/1031 ... 35-53.html
ประกาศฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง ประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบุใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines) 3 แห่ง
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ กส.1/ปก./2557
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีความประสงค์จะประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยขอบเขตและรายละเอียดสังเขปของงานสัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบุใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines) 3 แห่ง ที่ต้องการจ้างมีดังนี้
• ก่อสร้างทางรถไฟทางคู่เพิ่ม 1 ทาง ขนานเส้นทางรถไฟเดิม จากสถานีฉะเชิงเทราถึงสถานีวิหารแดงระยะทาง 78 กิโลเมตร และจากสถานีบุใหญ่ถึงสถานีแก่งคอย ระยะทาง 19 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 97 กิโลเมตร
• งานก่อสร้างทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines) จำนวน 3 แห่ง ที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา สถานีชุมทาง แก่งคอย และสถานีชุมทางบ้านภาชี รวมระยะทางประมาณ 7.1 กม.
• งานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมตลอดแนวเส้นทางช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย รวมทั้งทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines) ทั้ง 3 แห่ง
• งานก่อสร้างสะพานรถไฟคอนกรีตเสริมเหล็ก 57 แห่ง รวมความยาวประมาณ 4,763 เมตร
• งานก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่ง รวมความยาวประมาณ 212 เมตร
ราคากลาง 10,183,702,194.00 บาท
ผู้มีสิทธิเสนอราคา จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
ผู้ประสงค์จะเสนอราคา ต้องเป็นผู้รับเหมาที่มีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ
2. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
2.1 ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องเป็นผู้มีอาชีพรับจ้างงานที่ประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
2.2 ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานของ รฟท. หรือรัฐวิสาหกิจ หรือของทางราชการและได้แจ้งเวียนชื่อแล้ว หรือไม่เป็นผู้ที่ได้รับผลของการสั่งให้นิติบุคคลหรือบุคคลอื่นเป็นผู้ทิ้งงานตามระเบียบของทางราชการ
2.3 ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ประสงค์จะเสนอราคารายอื่น และ/หรือต้องไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างผู้ประสงค์จะเสนอราคากับผู้ให้บริการตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ ณ วันประกาศประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือไม่เป็นผู้กระทำอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
2.4 ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องไม่เป็นผู้ที่ได้รับเอกสิทธิ์หรือความคุ้มครอง ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทยเว้นแต่รัฐบาลของผู้ประสงค์จะเสนอราคา ได้มีคำสั่งให้สละสิทธิ์และความคุ้มครองเช่นว่านั้น
2.5 ผู้ประสงค์จะเสนอราคา ต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระบุชื่อว่าเป็นคู่สัญญาที่ไม่ได้แสดงบัญชีรายรับรายจ่าย หรือแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนในสาระสำคัญ ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำและแสดงบัญชีรายการรับจ่ายของโครงการที่บุคคลหรือนิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2554
2.6 ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องเป็นนิติบุคคลที่ได้ลงทะเบียนในระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมบัญชีกลางที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
ทั้งนี้ผู้ประสงค์จะเสนอราคาที่ได้รับการคัดเลือก และหากมีการทำสัญญาซึ่งมีมูลค่าตั้งแต่ 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) ขึ้นไป กับ รฟท. ให้รับและจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคาร เว้นแต่การจ่ายเงินแต่ละครั้ง ซึ่งมีมูลค่าไม่เกินสามหมื่นบาทสามารถจ่ายเป็นเงินสดได้ และให้จัดทำบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายยื่นต่อกรมสรรพากร และปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำและแสดงบัญชีรายการรับจ่ายของโครงการที่บุคคลหรือนิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2554 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2555
2.7 ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องเสนอผู้รับจ้างช่วง (Subcontractor) ในงานระบบอาณัติสัญญาณ อย่างน้อย 1 ราย แต่ไม่เกิน 3 ราย โดยผู้รับจ้างช่วงต้องมีผลงานการออกแบบและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณงานรถไฟหรือรถไฟฟ้าระบบขนส่งมวลชน ยกเว้นกรณีที่ผู้ประสงค์จะเสนอราคามีผลงานด้านระบบอาณัติสัญญาณอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องยื่นเสนอผู้รับจ้างช่วงงานระบบอาณัติสัญญาณก็ได้ แต่ทั้งนี้ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องแสดงผลงานดังกล่าวต่อการรถไฟ
อนึ่งผู้ประสงค์จะเสนอราคาสามารถเสนอผู้รับจ้างช่วง (Subcontractor) ได้มากกว่า 1 (หนึ่ง) ราย แต่ไม่เกิน 3 (สาม) ราย โดยผู้รับจ้างช่วงงานระบบอาณัติสัญญาณจะต้องเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ระบบอาณัติสัญญาณ ที่สอดคล้องกับรายการจำเพาะด้านเทคนิค และมีผลงานที่เคยใช้งานและได้รับการยอมรับ (Proven Record) มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ระบบอาณัติสัญญาณดังกล่าวจะต้องผ่านการใช้งานในงานรถไฟหรือรถไฟฟ้าระบบขนส่งมวลชนนอกประเทศผู้ผลิตนั้นมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีนับถึงวันยื่นประกวดราคา โดยมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้หรือมีสำเนาหนังสือสัญญาที่แสดงว่ามีการใช้งานผลิตภัณฑ์ระบบอาณัติสัญญาณนั้นจริงและหนังสือรับรองงานแล้วเสร็จขั้นสุดท้าย (Final Completion Certificate) ประกอบมาด้วย
2.8 ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องเป็นนิติบุคคลไทยที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 500,000,000 บาท (ห้าร้อยล้านบาทถ้วน)
2.9 ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 2,500,000,000 บาท (สองพันห้าร้อยล้านบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว และต้องเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานเอกชนที่ รฟท. เชื่อถือ
ผลงานก่อสร้างทางรถไฟ เช่น ผลงานก่อสร้างทางรถไฟหรือรถไฟฟ้าเสมอระดับ(At Grade) หรือยกระดับ (Elevated) หรือใต้ดิน (Underground) หรือผลงานก่อสร้างสะพานทางรถไฟ(Railway Bridge)
ในการพิจารณาผลงานให้ยึดถือหลักเกณฑ์ ดังนี้
(1) หากผลงานที่นำมายื่นเป็นผลงานที่ส่งมอบงานโดยสมบูรณ์แล้ว ผลงานดังกล่าวต้องแล้วเสร็จเป็นเวลาไม่เกิน 15 ปี นับถึงวันที่ยื่นซอง โดยต้องมีสำเนาสัญญาจ้างและหนังสือรับรองผลงานพร้อมแสดงมูลค่าของงาน
(2) หากผลงานที่นำมายื่นเป็นผลงานของโครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ ผลงานที่นำมายื่นต้องเป็นผลงานในส่วนที่ส่งมอบงานและผู้ว่าจ้างออกหนังสือรับมอบงานในส่วนนั้นแล้วเท่านั้น ซึ่งต้องมีมูลค่าที่ส่งมอบแล้วไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ โดยต้องมีสำเนาสัญญาจ้างและรับรองสำเนาถูกต้อง และต้องมีหนังสือรับรองผลงานอย่างเป็นทางการพร้อมแสดงวงเงินของงานส่วนที่ได้ส่งมอบงานแล้วมายื่นต่อ รฟท.
(3) กรณีที่ผู้ประสงค์จะเสนอราคาเป็นผู้รับจ้างในลักษณะเป็นกิจการร่วมค้า (Joint Venture หรือ Consortium) สำหรับผลงานในอดีตที่อ้างถึง ผู้ประสงค์จะเสนอราคาจะต้องมีสัดส่วนความรับผิดชอบของผลงานในอดีตที่คิดเป็นมูลค่าสัดส่วนความรับผิดชอบไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ โดยต้องมีหนังสือรับรองผลงานที่แสดงมูลค่าของงานที่รับผิดชอบซึ่งออกโดยผู้ว่าจ้าง และสำเนาข้อตกลงร่วมค้ารับรองสำเนาถูกต้อง แสดงการเข้าร่วมเป็นกิจการร่วมค้า ที่แสดงสัดส่วนความรับผิดชอบของผู้ประสงค์จะเสนอราคา และสำเนาสัญญาจ้างรับรองสำเนาถูกต้อง มายื่นต่อ รฟท. ด้วย
(4) ตามหลักเกณฑ์ในหัวข้อ (1)-(3) ข้างต้น หากเป็นผลงานที่ดำเนินการภายนอกประเทศไทยหลักฐานเอกสารผลงานที่นำมาเสนอจะต้องแปลเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษและได้รับการรับรองการแปลโดย Notary Public หรือ Notary Public Lawyer และลงนามรับรองและประทับตราในเอกสารที่ให้การรับรองโดยสถานทูตไทย หรือสถานกงสุลไทยประจำประเทศนั้น ๆ และให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนในวันที่งานนั้นแล้วเสร็จ หรือวันที่ส่งมอบงานแล้วแต่กรณี สำหรับการคิดคำนวณมูลค่างานนั้น ๆ
(5) หนังสือรับรองผลงานข้างต้นต้องออกโดยหัวหน้าหน่วยงานหรือผู้มีอำนาจของหน่วยงานซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง
2.10 ในกรณีที่ผู้ประสงค์จะเสนอราคาเป็นกิจการร่วมค้า
(1) สมาชิกทุกรายของกิจการร่วมค้านั้นต้องเป็นนิติบุคคล
(2) กรณีที่กิจการร่วมค้านั้นไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ บริษัทผู้นำ (Leading Company) ของกิจการร่วมค้าต้องเป็นนิติบุคคลไทย โดยนิติบุคคลไทยที่เป็นบริษัทผู้นำของกิจการร่วมค้าต้องมีสัดส่วนการลงทุนหรือร่วมงานมากกว่าร้อยละ 50 (50%) ของมูลค่างานทั้งหมดของสัญญา
(3) กรณีที่กิจการร่วมค้าไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ นิติบุคคลแต่ละรายที่เข้าร่วมค้าทุกราย ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ข้างต้น ยกเว้นคุณสมบัติด้านผลงานก่อสร้างสามารถใช้ผลงานก่อสร้างของบริษัทผู้นำรายเดียวเป็นผลงานก่อสร้างของกิจการร่วมค้าได้ โดยกิจการร่วมค้าต้องมีข้อตกลงระหว่างผู้เข้าร่วมค้าเป็นลายลักษณ์อักษรกำหนดให้บริษัทผู้นำเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการเข้าประกวดราคา
(4) กรณีที่กิจการร่วมค้านั้นได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ นิติบุคคลไทยในกิจการร่วมค้าต้องมีสัดส่วนการถือหุ้นรวมกันแล้วมากกว่าร้อยละ 50 (50%) และนิติบุคคลไทย 1 ราย ต้องเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของกิจการร่วมค้า
(5) กรณีที่กิจการร่วมค้าได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ กิจการร่วมค้าที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่นั้น ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ข้างต้น ส่วนคุณสมบัติด้านผลงานก่อสร้างสามารถนำผลงานก่อสร้างของผู้เข้าร่วมค้ารายใดรายหนึ่งมาใช้แสดงเป็นผลงานก่อสร้างของกิจการร่วมค้าได้ ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมค้ารายนั้นต้องมีสัดส่วนการถือหุ้นในกิจการร่วมค้านั้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 (30%)
(6) ในวันยื่นเอกสารประกวดราคาจะต้องยื่นเอกสารข้อตกลงสำหรับการร่วมกันเป็นกิจการร่วมค้า ซึ่งต้องชี้ชัดถึงสัดส่วนของการลงทุนหรือร่วมงานของแต่ละนิติบุคคลในกลุ่ม และต้องระบุข้อความไว้ด้วยว่าสมาชิกทั้งหมดของกิจการร่วมค้า ต้องมีภาระรับผิดชอบร่วมกันและชดใช้แทนกันในทุกกรณี (Shall be jointly and severally responsible for all cases)
2.11 ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องมีหนังสือรับรองการให้สินเชื่อจากธนาคารรายเดียว หรือหลายธนาคารในประเทศไทยคิดเป็นวงเงินรวมไม่น้อยกว่า 1,500,000,000 บาท (หนึ่งพันห้าร้อยล้านบาทถ้วน) มีผลบังคับตลอดระยะเวลาของการก่อสร้าง
2.12 ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องจัดทำข้อเสนอด้านเทคนิคตามเอกสารข้อมูลด้านเทคนิค เล่ม IIA โดยผู้ประสงค์จะเสนอราคาจะต้องแสดงให้เห็นว่ามีคุณสมบัติและความสามารถด้านเทคนิคเพียงพอ ต่อการดำเนินงานก่อสร้าง ตลอดจนได้จัดเตรียมวัสดุ บุคลากร เครื่องมือ เครื่องจักร ขั้นตอนวิธีการทำงาน และแผนการดำเนินงานเป็นไปตามข้อกำหนด ในเอกสารประกวดราคา เล่ม IIA โดยการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิค จะใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาตามที่กำหนดในข้อ 4.6 ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกด้านเทคนิค ต้องได้รับการพิจารณาว่าผ่านหลักเกณฑ์ที่กำหนดดังกล่าวจึงมีสิทธิ์เสนอราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
2.13 เพื่อให้การทำงานของการก่อสร้างทางรถไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิ์ภาพ ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องมี หรือต้องจัดหาหรือต้องเช่าเครื่องมืออุปกรณ์ก่อสร้างทางรถไฟเพื่อใช้ในงานนี้อย่างน้อยที่สุดดังนี้ คือ
(1) รถอัดหินแบบสองหมอนอัดต่อเนื่องสำหรับอัดหินในทางทั่วไป จำนวน 1 คัน
(2) รถอัดหินแบบหมอนเดียวอัดต่อเนื่องสำหรับอัดหินในชุดประแจ จำนวน 1 คัน
(3) รถเกลี่ยหิน จำนวน 1 คัน
(4) รถสั่นหิน จำนวน 1 คัน
(5) รถบรรทุกหินโรยทาง (รถโบกี้ : Ballast Hopper Wagon) จำนวน 5 คัน
มีสมรรถนะการบรรทุกหินโรยทางไม่น้อยกว่า 28 ลูกบาศก์เมตร
และมีช่องลงหินใต้ท้องรถทุกตัวเป็นอย่างน้อย
(6) รถจักรหรือรถลากจูง UTV (Utility Track Vehicle) จำนวน 1 คัน
มีกำลังลากจูงไม่น้อยกว่า 500แรงม้าสำหรับลากจูงรถงานต่างๆ
โดยที่เครื่องมืออุปกรณ์ก่อสร้างทางรถไฟ ตามข้อ (1)-(4) ผู้รับจ้างต้องจัดซื้อจัดหามาเพื่อใช้ในการก่อสร้างและส่งมอบให้ รฟท. เมื่องานก่อสร้างแล้วเสร็จ ตามรายละเอียดที่ระบุในข้อกำหนดรายการจำเพาะด้านเทคนิค เฉพาะเครื่องมืออุปกรณ์ก่อสร้างทางรถไฟตามข้อ (5) และ (6) ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องยื่นเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ หรือหนังสือรับรองการจัดหาหรือการขอเช่าแล้วแต่กรณีซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวพร้อมการประกวดราคา โดยต้องระบุด้วยว่าหากชนะการประกวดราคาในโครงการนี้แล้ว จะสามารถจัดหาหรือจัดเช่าให้ทันใช้งาน และผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องยื่นภาพถ่ายของเครื่องมือฯ แต่ละรายการพร้อมสมรรถนะและแหล่งที่มาด้วย
2.14 ผู้ประสงค์จะเสนอราคาที่เป็นนิติบุคคลไทยรายเดียว หรือกิจการร่วมค้าที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ หรือผู้เข้าร่วมค้าทุกรายของกิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ ต้องเป็นผู้ที่มีชื่อปรากฏในบัญชีผู้ซื้อเอกสารประกวดราคาเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์ยื่นเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์นี้ได้
กำหนดการและข้อมูลที่สำคัญ
1. กำหนดการดูสถานที่ก่อสร้างภาคสนาม และการประชุมก่อนการเสนอราคาเพื่อตอบข้อซักถามของผู้ที่ประสงค์จะเสนอราคา จะจัดให้มีขึ้นเป็นเวลา 2 วัน
ผู้ประสงค์จะเสนอราคาจะต้องแจ้งชื่อผู้แทนที่จะเข้าร่วมดูสถานที่ก่อสร้างภาคสนามและการประชุมก่อนการเสนอราคาต่อวิศวกรอำนวยการศูนย์โครงการก่อสร้าง ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย ภายในวันที่ 14 มีนาคม 2557 ก่อนเวลา 14.00 น.
ผู้ที่ประสงค์จะไปดูสถานที่ก่อสร้างภาคสนาม ต้องมาให้พร้อมกันที่สถานีรถไฟฉะเชิงเทรา ในวันที่ 17 มีนาคม 2557 เวลา 9.30 น.
การประชุมก่อนการเสนอราคา จะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 18 มีนาคม 2557 ที่สำนักงานของ รฟท. โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาสามารถตั้งคำถามเป็นทางการเกี่ยวกับการประกวดราคาให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร และยื่นต่อ รฟท. ภายในเวลา 11.00 น. ของวันที่มีการประชุมก่อนการเสนอราคา
หากมีการแก้ไขใดๆ ในเอกสารประกวดราคา รฟท. จะแจ้งให้ผู้ประสงค์จะเสนอราคาทุกรายทราบในเวลาที่เหมาะสมแต่ไม่น้อยกว่า 10 วันปฏิทินก่อนวันยื่นซองประกวดราคา
2. ราคากลางของงานก่อสร้างในการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้ เป็นเงินทั้งสิ้น 10,183,702,194.00บาท (หนึ่งหมื่นหนึ่งร้อยแปดสิบสามล้านเจ็ดแสนสองพันหนึ่งร้อยเก้าสิบสี่บาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แล้ว
ผู้ประสงค์จะเสนอราคาจะต้องวางหลักประกันซอง พร้อมกับการยื่นเอกสารประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นมูลค่า 510,000,000 บาท (ห้าร้อยสิบล้านบาทถ้วน) และหลักประกันซองนี้ให้ใช้หลักประกันตามข้อกำหนดของ รฟท.
3 ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องปฏิบัติงานที่รับจ้างตามสัญญาให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาไม่เกิน 36 เดือน นับจากวันที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งให้เริ่มงานของ รฟท. และรับประกันผลงาน 24 เดือน นับจากวันที่งานแล้วเสร็จสมบูรณ์
4. ผู้ประสงค์จะเสนอราคาต้องยื่นเอกสารการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 10 (สิบ) ชุด คือ ต้นฉบับ 1 (หนึ่ง) ชุด และสำเนา 9 (เก้า) ชุด เย็บเล่มเรียงลำดับ และยื่นโดยผู้มีอำนาจเท่านั้น ในวันที่ 10 เมษายน 2557 ระหว่างเวลา 10.00 น. ถึง 12.00 น. ต่อคณะกรรมการประกวดราคา ณ ห้องประชุมฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ตึกพัสดุ ชั้น 3 การรถไฟแห่งประเทศไทย ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. ทั้งนี้ คณะกรรมการประกวดราคาจะไม่รับซองเอกสารประกวดราคาที่ยื่นก่อนเวลา 10.00 น. และภายหลังเวลา 12.00 น. ในวันดังกล่าว และเมื่อพ้นกำหนดเวลายื่นเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว คณะกรรมการประกวดราคาจะไม่รับเอกสารเพิ่มเติมโดยเด็ดขาด
5. รฟท. สงวนสิทธิ์ในการแก้ไขเพิ่มเติม เอกสารประกวดราคาในภายหลัง หรือจะยกเลิกการประกวดราคา หรือไม่ทำสัญญากับผู้ประสงค์จะเสนอราคาที่ได้รับการคัดเลือก หากเอกสารประกวดราคา สัญญาจ้างก่อสร้างทางคู่ฯนี้ ไม่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานอัยการสูงสุด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
6. รฟท. สงวนสิทธิ์ที่จะทำสัญญาจ้างกับผู้ชนะการประกวดราคาเมื่อได้รับงบประมาณจากรัฐบาล
7. ก่อนทำสัญญาจ้างฯ ผู้เสนอราคาที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องเสนอรายชื่อผู้รับจ้างช่วงงานระบบอาณัติสัญญาณที่เสนอมาในเอกสารประกวดราคาและได้รับความเห็นชอบจาก รฟท. แล้ว เพื่อที่ รฟท. จะได้ระบุในสัญญาจ้างฯ ต่อไป
8. ผู้สนใจติดต่อขอซื้อเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่ศูนย์โครงการก่อสร้าง ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ตึกพัสดุ การรถไฟแห่งประเทศไทย ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 ได้ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2557 ถึงวันที่ 12 มีนาคม 2557 ระหว่างเวลา 09.00 น. ถึง 15.00น. ในราคาชุดละ 300,000.00 บาท (สามแสนบาทถ้วน) รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยให้ชำระเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย “การรถไฟแห่งประเทศไทย” ที่กองการเงิน ฝ่ายการเงินและการบัญชี การรถไฟแห่งประเทศไทย แล้วนำใบเสร็จรับเงินมาติดต่อขอซื้อเอกสารประกวดราคา ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 02-220-4766, 02-220-4767 โทรสาร 02-221-5763 ในวันและเวลาทำการ
9. ผู้ที่มาซื้อเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือเข้าร่วมฟังคำชี้แจง หรือผู้มาดูการชี้แจงสถานที่ก่อสร้าง ต้องเป็นผู้มีอำนาจกระทำการในนามของนิติบุคคล โดยต้องแสดงหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน กรณีมอบอำนาจต้องมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ
10. กำหนดแจ้งผลผู้มีสิทธิ์เสนอราคา วันที่ 16 พฤษภาคม 2557
11. กำหนดเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ วันที่ 9 มิถุนายน 2557
ประกาศ ณ วันที่ 28 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
( ลงนาม ) ประภัสร์ จงสงวน
( นายประภัสร์ จงสงวน )
ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
สำเนาถูกต้อง
( นายธีระ รุ่งโรจน์สุวรรณ )
วิศวกรกำกับการกองมาตรฐานงานวิศวกรรมโยธา
4/3/2557 9:33:29