หน้า 1 จากทั้งหมด 1
การเข้าไปซื้อหุ้นแข็งแกร่งในประเทศที่ค่าเงินมีปัญหา
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 27, 2014 11:46 am
โดย Nevercry.boy
ผมว่านี่เป็นกลยุทธ์ที่ดี กลยุทธ์นึงทีเดียว
แต่ว่าต้องมองหลายมิติ
1 ปัญหาของประเทศมันมักจะใหญ่กว่าปัญหาของบริษัท คือมันจะใช้เวลานานในการกลับมาหรือไม่กลับมา เช่นหากเราสนใจบริษัทชั้นนำของยูเครนตอนนี้ก็เสี่ยงเพราะ ??? หรือหลายปีก่อนหากเราสนใจไปลงทุนในกรีซ ก็คงเสี่ยง เพราะ ???
2 มองกลับมาประเทศเราตอนนี้ หากมองไปถึงค่าเงินและอื่น ๆ พลังค่าเงินเราน้อยกว่า ดังนั้นการที่หุ้นแข็งแกร่งเรา PE สูง อาจไม่ได้แปลว่าแพงสำหรับคนต่างชาติ เปรียบเทียบกับตัวผมเองตอนลงทุนบาทแข็งเราโยกออก แต่ถ้าเราไปซื้อคนที่เงินเค้ากำลังแข็งกว่าเรา แม้จะเป็นเนเชอรัลเฮจด์ แต่ก็อันตราย
นั่นคือสิ่งที่ใครจะลงทุน ตปท. ต้องระวัง เรามองมิติเดียวไม่ได้
Re: การเข้าไปซื้อหุ้นแข็งแกร่งในประเทศที่ค่าเงินมีปัญหา
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 27, 2014 12:07 pm
โดย Nevercry.boy
อีกมุมหนึ่งที่ต้องระวังคือการตีมิติเรื่องการเติบโตให้ขาด บริษัท ตปท. หลายบริษัทการเติบโตอยู่ในประเทศอื่นไม่ได้อยู่ในประเทศตัวเอง นี่ก็ต้องระวัง ส่วนที่ Go Inter จริง ๆ มันก็ยังมีปัจจัยเรื่องภูมิภาคและการขยายตัวอยู่
การปิดสาขาใน ตปท. เพราะอะไร นี่ต้องติดตาม เพราะอาจเกิดไวรัลเอฟเฟกต์ กับกิจการเราได้
Re: การเข้าไปซื้อหุ้นแข็งแกร่งในประเทศที่ค่าเงินมีปัญหา
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 27, 2014 12:09 pm
โดย Nevercry.boy
การขยายเข้าไปใน ตปท. มีสองสามประเภท
1 การ M&A
2 Localization
3 ไปเองเลย
มีความแตกต่างและข้อดีข้อเสีย โดยเฉพาะข้อ (3) มีประเด็นอีก ไว้มาต่อ
Re: การเข้าไปซื้อหุ้นแข็งแกร่งในประเทศที่ค่าเงินมีปัญหา
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 27, 2014 2:55 pm
โดย vim
ในช่วงปัญหาหนี้กรีซ สถาบันการเงินเจ็บกันค่อนข้างหนักเพราะพันธบัตรรัฐบาลเคยถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่แทบไร้ความเสี่ยง กลับกลายเป็นสิ่งที่เสี่ยงที่สุด โดยเฉพาะบริษัทประกันภัยหลายๆบริษัทที่เอาเงินไปลงกับพันธบัตร
ถ้ามองกลับไปช่วงนั้น การเข้าลงทุนในบริษัทประกันในยุโรปที่ดีที่สุด ก็คือช่วงที่บริษัทประกันตัดสำรองหมดแล้ว พร้อมที่จะพลิกกลับมาทำกำไรในปีต่อไป
ถ้ากลับมามองในปัจจุบัน ผมมองว่าตอนนี้คือจังหวะที่น่าลงทุนในประเทศไทยครับ โดยเฉพาะบริษัทประกันภัยที่มีการสำรองน้ำท่วมไปหมดแล้ว ในปีนี้น่าจะกลับมาทำกำไรได้เต็มปี และด้วยค่าเงินบาทที่อ่อนลงมากในปัจจุบัน อาจจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะโยกเงินจากต่างประเทศมาลงทุนในไทย
Re: การเข้าไปซื้อหุ้นแข็งแกร่งในประเทศที่ค่าเงินมีปัญหา
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 27, 2014 3:09 pm
โดย Nevercry.boy
vim เขียน:
ถ้ากลับมามองในปัจจุบัน ผมมองว่าตอนนี้คือจังหวะที่น่าลงทุนในประเทศไทยครับ โดยเฉพาะบริษัทประกันภัยที่มีการสำรองน้ำท่วมไปหมดแล้ว ในปีนี้น่าจะกลับมาทำกำไรได้เต็มปี และด้วยค่าเงินบาทที่อ่อนลงมากในปัจจุบัน อาจจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะโยกเงินจากต่างประเทศมาลงทุนในไทย
อาห์ บอกชื่อได้มั๊ยครับ ขอสักตัวนะครับกำลังหิว
อ่ะ ล้อเล่น นะครับ ดร.
Re: การเข้าไปซื้อหุ้นแข็งแกร่งในประเทศที่ค่าเงินมีปัญหา
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 27, 2014 7:11 pm
โดย vim
เชื่อผม รับรองได้ดอยเหมือนผมครับพี่
ผมเห็นด้วยกับพี่ครับว่าการที่เงินเราไหลเข้าออกนอกประเทศได้อิสระมากขึ้นแล้ว ปัจจัยที่มีผลกับการลงทุนนั้นจะมีเรื่องค่าเงินด้วย (ขอเสริมนิดนึงว่าภาษีก็สำคัญ กำไรนิดๆหน่อยๆบางทีมันไม่ค่อยคุ้มที่จะมากรอกข้อมูลภาษี)
นอกจากปัจจัยค่าเงินแล้ว ปัจจัยเฉพาะของธุรกิจในประเทศนั้นๆก็น่าสนใจ เพราะสมัยก่อนถึงแม้ว่ากรีซจะย่ำแย่เพียงใด ผมก็ไม่กล้าไปลงธุรกิจเดินเรือซึ่งเป็นธุรกิจหลักของประเทศกรีซ เพราะมันมีปัจจัยอื่นที่คาดการณ์ลำบาก สมัยนั้นเรายังไม่รู้กันเลยว่ากรีซจะแยกออกจาก EU ไหม หรือว่าฝรั่งเศสและเยอรมันจะผลักกรีซออกไหม แต่หลังจากเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ของสามประเทศนี้แล้ว อะไรๆมันก็ชัดเจนขึ้น
ต้องอธิบายคนอื่นที่เข้ามาอ่านหน่อย ว่าผมยกตัวอย่างบริษัทประกันในยุโรปเพราะเป็นอะไรที่เราเข้าใจได้ ในไทยเราก็มีคล้ายๆกัน และปัญหาหนี้ในกรีซเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจประกันขาดทุน ซึ่งขาดทุนครั้งนี้ถ้ามันจบ ธุรกิจมันก็ต้องกลับมาเพราะเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ ตรงนี้ไม่ได้มีเจตนาเชียร์หุ้นนะครับ
ในไทยเองแม้เราจะไม่เจอปัญหาหนี้กรีซ แต่เราเจอน้ำท่วมในช่วงเวลาไล่ๆกันกับหนี้กรีซ บวกกับค่าเงินบาทอ่อน ผมเลยหยิบมาเปรียบเทียบกันครับว่าหุ้นกลุ่มนี้ในไทยก็น่าสนใจดี ถ้ามองในมุมนี้ไทยกับยุโรปในช่วงนั้นก็คล้ายๆกันทั้งค่าเงินและผลกระทบกับธุรกิจประกัน
ในไทยเองก็มีประกันเจ้าใหญ่ๆอยู่ในตลาดหลักทรัพย์หลายเจ้า บางบริษัทก็เจอผลน้ำท่วมยาว บางรายก็มีผลสั้นๆ บางบริษัทนั้นไม่มีผลเลยเพราะไม่ค่อยรับเบี้ยประกันอัคคีภัยหรือประกันน้ำท่วม บางรายแม้จะฟื้นจากน้ำท่วมมาแล้วแต่ก็อาจไม่มีความสามารถไปแข่งขันกับรายอื่นๆได้
การลงทุนเป็นความเสี่ยงของผู้ลงทุนครับ ผมไม่เกี่ยว