เห็นมีการเอ่ยถึงอุตสาหกรรมทอผ้าและการค้าขายย่านประตูน้ำ ขออนุญาติแลกเปลี่ยนอีกมุมมองครับ
ผมก็ทำโรงงานทอผ้า และเปิดหน้าร้านขายเองที่ประตูน้ำ จตุจักร เกือบทุกห้าง งานวัด ยันตลาดนัด
อุตสาหกรรมทอผ้า ถ้าใครผ่านปีที่แล้วมาได้ ผมพูดได้เต็มปากว่าจุดต่ำสุดผ่านไปแล้ว
เพราะรายใหญ่ๆ เจ๊งเรียบร้อยไปหมดแล้ว เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เรียบจริงๆ:mrgreen:
ปีที่แล้วจะได้ยินข่าวโรงงานทอผ้าหลายโรงไฟไหม้ เสียหายไปหลายร้อยล้าน
ซึ่งไหม้พร้อมๆกัน รายใหญ่ๆ ส่งออกระดับประเทศทั้งนั้น เดากันเอาเองครับ เกิดขึ้นได้อย่างไร
และหลังจากนั้น ก็ปิดกิจการ ย้ายไปประเทศเพื่อนบ้านหลายโรงเลย หรือเลิกไปเลยก็มี oem รายใหญ่ทั้งนั้น
ผลก็คือขณะนี้ รายเล็ก รายกลางทั้งหลายตอนนี้ ที่ยื้อรอดมาได้ ระดมนำเข้าเครื่องจักรกันเยอะมาก
ผมโรงงานเล็กๆ ก็ได้รับผลดีจากรายใหญ่เจ๊งไปด้วย
order เข้ามาเยอะเลย turn aroundเต็มตัว:D
พูดถึงค้าปลีก ค้าส่ง รายย่อย sme บ้าง ผมใกล้ชิดคนกลุ่มนี้ เพราะค้าขายมาหลายที่
Sme การแข่งขันมันสูงมากครับ ส่วนใหญ่แข่งตัดราคากัน สินค้าก็ copy กันไปมา
ใครขายอะไรดีก็แห่ตามกัน คนขายดีประสบความสำเร็จ ผมว่าแค่ 20% เท่านั้น
ที่เหลือแค่พออยู่ได้ เพราะค่าเช่าที่หลายๆที่สูงเกินกำลัง sme มาก
แพลทินัม จตุจักร อินทรา mbk แม้แต่ bigc lotus ตอนนี้ค่าเช่าโหดมาก
คุณไปถาม พ่อค้าแม่ค้าsme ทุกที่ คำตอบเดียวกันหมด คือพอได้ (แม้ว่าตอนนั้นตลาดหุ้น เศรษฐกิจจะดีมาก)
ขายเท่าไรโดนค่าเช่าที่กินหมด คนเก่งโดดเด่นจริงๆถึงรอด แต่ก็รวยระยะสั้น
ช่วงพีคsmeประมาณ7ปี ต้องรีบโกย รีบเก็บ แล้วเลิกกิจการ เปลี่ยนสินค้าหนีคู่แข่ง
แต่ระยะยาวยังไงก็สู้ modern trade หรือ brand ต่างประเทศไม่ไหว เหนื่อย ทุน ต้นทุนต่างกันเยอะ
บ้านเรานี่มันแปลกอย่างนึงครับ คนไทยปรับตัวกับการเมืองได้ดีมาก แม้จะรุนแรงแค่ไหน หรือเพราะชิน
หลังการเมืองจบทุกครั้ง การค้าขายจะกลับมาคึกคักเร็วมาก
สังเกตดีๆ ขณะที่มีแต่ข่าวร้าย ช่วงนี้คุณจะไม่ได้เห็นผู้ส่งออก บ่นขายไม่ดีซักคน แม้การเมืองจะยืดเยื้อ
Order ตอนนี้ ผู้ผลิตผมว่าหลายอุตสาหกรรมเลย ไม่ใช่แค่สิ่งทอ
ที่อยู่รอด เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์บ้างแล้วครับ
ฟังหูไว้หูนะครัชชช ความเห็นส่วนตัวของคนโลกสวยล้วนๆ อิอิ