Thai VI

ปูซาน 1200 ปักกิ่ง 800-900 ลองถกกันครับ ถ้าเป็นจริงใครจะได้ประโยชน์

micky1115 เขียน:ปูซาน 1200 ปักกิ่ง 800-900 ลองถกกันครับ ถ้าเป็นจริงใครจะได้ประโยชน์

รบกวนช่วยอธิบายได้มั้ยครับ ไม่ทราบจริงๆ

VAEEEEE เขียน:

micky1115 เขียน:ปูซาน 1200 ปักกิ่ง 800-900 ลองถกกันครับ ถ้าเป็นจริงใครจะได้ประโยชน์

รบกวนช่วยอธิบายได้มั้ยครับ ไม่ทราบจริงๆ

มันเป็นหนังภาคต่อครับ

http://203.150.20.122/~thaivi/board/vie ... --->ภาคแรก

ภาคแรก จากเปียงยางสู่ปูซาน มหกรรมสินค้าแกรนด์เซลล์

ภาคสอง จากปูซานสู่ปักกิ่ง ถนนคนกล้า วีรชนคนเดินดิน

ท่านกุนซือช่วยขยายความหน่อยได้ไหมครับ ว่าท่านคิดเห็นเยี่ยงไร ข้าน้อยโง่เขลา ตามไม่ทันจริง ๆ ครับ

ต่างชาติกระสุนหมด เงิน QE1 เหลือน้อยมาก ฝ่ายเราเกิดอาการดื้อยา คนที่ใจสู้ยังคงอยู่ ฆ่าไม่ตาย ถึงจะบาดเจ็บไปบ้างก็เริ่มฟื้นกันบ้างแล้ว

ยกเว้นว่าศึกในบ้านเมืองมันจะลามไปจนถึงเศรษฐกิจพินาศ นลท.หนีหน้า โครงการรัฐอย่าง 2 ล้านล้าน สะดุด ทำให้ไม่มีอะไรมากระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลเป็นง่อย เพราะเป็นแค่รักษาการ ทำโครงการอะไรไม่ได้

ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าพเจ้ายังพอมีหุ้นที่ไม่ค่อยพึ่งพิงเศรษฐกิจในประเทศอยู่บ้าง เพียงแต่ถ้ามันจะลากกันลงไปหมดจากภาพรวมที่แย่ อันนี้ก็คงต้องมาว่ากันอีกที

ศึกหนักครั้งที่แล้ว ข้าพเจ้าพยายามรุกเอาพื้นที่ ๆ เสียไปคืน กองกำลังศัตรูอ่อนล้าอาวุธหนักร่อยหรอ จึงยึดคืนพื้นที่คืนได้มาก ใช้อาวุธและกำลังพลน้อยกว่าที่คิด ถึงตอนนี้พื้นที่ ๆ ยึดคืนได้มากกว่าตอนก่อนข้าศึกบุกมาครั้งก่อน

การศึกขอเพียงไม่ตื่นตระหนก มีแผนการและชัยภูมิที่ดี วันนี้ต้องล่าถอย แต่ถ้าวันที่เรากลับมา เราจะเกรียงไกรกว่าเก่า

อันเรื่องราวของบ้านเมืองนั้น ข้าพเจ้าคิดว่าวันหนึ่งวันใดก็คงต้องจบ เพียงแต่บางเรื่องอาจจะลากยาวบ้าง เบื้องหน้ากับเบื้องหลังอาจจะคนละเรื่อง เบื้องหน้าห้ำหั่น เบื้องหลังต่อรอง ถ้าผลประโยชน์ลงตัว มันก็จบ ถ้ามันจะกระทบเศรษฐกิจบ้าง ก็คงไม่ถึงกับเล่นกันจนพังกันจนมีผลหลายปีแบบปี 40 อย่าลืมว่าผู้เล่นทั้งสองฝ่ายก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เค้าก็เป็นเจ้าของธุรกิจเช่นกัน

เหตุการณ์เมื่อปี 53 ภาพดูหน้ากลัว หุ้นโรงแรมในสมรภูมิหลายตัวทำ low แต่พอผ่านไปมันก็กลับมา บางตัวไปไกลกว่าเดิมด้วยซ้ำ

ข้าพเจ้ามองว่าตรงนี้ ถ้าเราไม่บ้าไปกับเค้า มองต่าง มันคือโอกาส

อย่าลืมว่าคนในตลาดหุ้น "ส่วนใหญ่" ขาดทุน นั่นแปลว่า ถ้าเรามองเหมือนคนอื่น สุดท้ายผลที่เราได้รับก็จะเป็นแบบ "คนส่วนใหญ่"

leky เขียน:ท่านกุนซือช่วยขยายความหน่อยได้ไหมครับ ว่าท่านคิดเห็นเยี่ยงไร ข้าน้อยโง่เขลา ตามไม่ทันจริง ๆ ครับ

ต่างชาติกระสุนหมด เงิน QE1 เหลือน้อยมาก ฝ่ายเราเกิดอาการดื้อยา คนที่ใจสู้ยังคงอยู่ ฆ่าไม่ตาย ถึงจะบาดเจ็บไปบ้างก็เริ่มฟื้นกันบ้างแล้ว

ยกเว้นว่าศึกในบ้านเมืองมันจะลามไปจนถึงเศรษฐกิจพินาศ นลท.หนีหน้า โครงการรัฐอย่าง 2 ล้านล้าน สะดุด ทำให้ไม่มีอะไรมากระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลเป็นง่อย เพราะเป็นแค่รักษาการ ทำโครงการอะไรไม่ได้

ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าพเจ้ายังพอมีหุ้นที่ไม่ค่อยพึ่งพิงเศรษฐกิจในประเทศอยู่บ้าง เพียงแต่ถ้ามันจะลากกันลงไปหมดจากภาพรวมที่แย่ อันนี้ก็คงต้องมาว่ากันอีกที

ศึกหนักครั้งที่แล้ว ข้าพเจ้าพยายามรุกเอาพื้นที่ ๆ เสียไปคืน กองกำลังศัตรูอ่อนล้าอาวุธหนักร่อยหรอ จึงยึดคืนพื้นที่คืนได้มาก ใช้อาวุธและกำลังพลน้อยกว่าที่คิด ถึงตอนนี้พื้นที่ ๆ ยึดคืนได้มากกว่าตอนก่อนข้าศึกบุกมาครั้งก่อน

การศึกขอเพียงไม่ตื่นตระหนก มีแผนการและชัยภูมิที่ดี วันนี้ต้องล่าถอย แต่ถ้าวันที่เรากลับมา เราจะเกรียงไกรกว่าเก่า

ขอตอบท่านจอมทัพ leky แท้จริงแล้วกระสุนที่เค้ายิงหมดเป็นเพียงกระสุน QEเท่านั้น พวกฝรั่งมังกี้ มีทุนที่เข้ามาซื้อตั้งแต่ช่วงซัพไพรม์ ซึ่งถ้านับรวมผลตอบแทนถึงตอนนี้

มูลค่าย่อมจะมากกว่าที่เข้ามาต่ำๆก้2-3เท่า เหตุใดผู้น้อยจึงมองเช่นนั้น เพราะท่านขงเบ้งได้ส่งข้าน้อยมาแจ้งเตือนว่า

อันเศรษฐกิจภายนอกที่ว่าแย่ ฤาจะสู้ภัยในบ้านเสียมิได้ ภายนอกพอผ่านไปเศรษฐกิจบ้านเค้าก้ย่อมจะกลับมาแข็งแรงได้ แต่ที่กลัวก้เพียงแต่ บ้านเราที่ตอนนี้

แม้ภายนอกจะฟื้นแล้ว แต่เรากลับไม่ฟื้นตัวตามเท่าไหร่ อันจะเห็นไ้ด้ว่า เหมือนประหนึ่งเมืองไทยเรานั้นโครงสร้างพื้นฐานได้เปลี่ยนไป เราผลิตสินค้าที่ไม่ได้เป็นที่ต้องการของ

ตลาดโลกมากเท่าไหร่ การลงทุนภาคเอกชนก้ชะลอตัวไปมาก การใช้จ่ายภาคครัวเรือนก้หดตัวลง จะหวังพึ่งการลงทุนภาครัฐบาลก้ล้วนแต่จะสะดุด เพราะพิษการเมือง

จะหวังส่งออก ก้มิรู้ได้ว่า จะทำได้แค่ไหน

ซึ่งก้เป็นที่ประจักษ์ว่า ณ ตอนนี้เราได้เข้าสู่ภาวะการถดถอย ทางเศรษฐกิจอย่างเต็มตัวแล้ว การจะฟื้นจากภาวะถดถอยได้นั้น เราต้องพึ่งพาทั้งนโยบายการเงินและการคลัง

โดยนโยบายการเงินก้คือ การลดดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นให้การออมลดลง ทำให้ภาระดอกเบี้ยผู้ประกอบการลดลง และ พึ่งนโยบายการคลัง โดยดำเนินนโยบายขาดดุล

โดยรัฐเป็นผู้ลงทุน เพื่อที่จะได้เป็นการเสิรมสภาพคล่องของระบบมิให้แห้งเหือด ซึ่งตอนนี้เราได้ลดดอกเบี้ยแล้ว แต่ไม่สามารถเสริมสภาพคล่องได้เนื่องจากติดตรงตอนนี้เป็นรัฐบาล

รักษาการ จึงไม่อาจจะอนุมัติการลงทุนใดๆได้


หากเป็นเช่นนี้ไปจนถึงไตรมาส2 ระบบเศรษฐกิจของเราอาจจะอ่อนล้าจนถึงขั้นซึมยาวได้ ซึ่งนั่นก้จะหมายถึง การถูกจัดลดอันดับความน่าเชื่อถือ และการถอนการลงทุนของต่างชาติ

จะตามมา ซึ่งก้จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ยิ่งลดลง ซึ่งตอนนี้กำลังจะจบไตรมาส1 แล้ว สถานการณ์ก้มิได้คลี่คลายไป

หากแม้เราอยู่ในสถานะเคว้งทางการเมืองแบบนี้ เลยไตรมาส2 ไป หายนะก้คงจะบังเกิดขึ้น และกูรูหลายท่านรวมถึงworld bank ก้ได้คาดการณ์การเมืองไว้แค่ไตรมาส2 ต้องจบ

ตอนนี้เหมือนเรา ยืนอยู่บนทางแยก ที่เลือกว่าจะฟื้นตัวหรือ ทรุดตัวต่อเนื่องและยาวนาน ซึ่งอาจารย์ท่านได้คาดว่า ต่อให้ไตรมาส2ผ่านไป ก้ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป

ซึ่งนั่นก้หมายความว่า เรากำลังจะ...........ถอยหลังไปปักกิ่งอีกครั้ง

กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม

เรียนท่านกุนซือ เท่าที่ข้าพเจ้าได้ยินมาเงิน QE1 เหลือราว ๆ 5-6 หมื่นล้านบาท (จากบทวิเคราะห์ของโบรกเจ้าหนึ่ง)

ในความเห็นของข้าพเจ้า ฝรั่งหัวแดงนั้นขี้กลัว แต่ช่วงที่มีม็อบนกหวีดรวมพลนั้น หุ้นกลับมีอาการดื้อรั้น มิใคร่จะลง ทั้ง ๆ ที่มีรายย่อยบางส่วนชิงทิ้งออกไปก่อนเพื่อจะไปรับของถูก จนสุดท้ายอาจจะซื้อของคืนไม่ทันหรือต้องซื้อคืนในราคาแพง ข้าพเจ้าจึงรู้สึกว่าแรงขายของคนหัวแดงนั้น ไม่รุนแรงเหมือนช่วงที่ผ่านมา

แต่ถ้าสถานการณ์ลากยาว จนกระทบกับผลการดำเนินงานของบ.ต่าง ๆ ใครที่มีหุ้นอยู่ก็ต้องติดตามด้วยความระมัดระวัง ชาวนาไม่มีเงินหมุน ชาวบ้านชนชั้นกลางเป็นหนี้รถยนต์ ไม่มีแรงจูงใจจะจับจ่ายใช้สอย

เพียงแต่ในความเห็นของข้าพเจ้าถ้ามีการถดถอยจริง ๆ อาจจะเป็นแค่ช่วงสั้น ๆ ไม่น่าจะรุนแรงแบบปี 40 ถ้าการเมืองจบหุ้นอาจจะกระชากขึ้น แต่ผลการดำเนินงานของบ.อาจจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อาจจะมีการชะลอตัวบ้าง แต่ถ้าเรื่องจบ สุดท้ายหลาย ๆ อย่างก็น่าจะกลับมาดีขึ้น

ผมว่าพวกนี้เล่นแรกๆก็ดูขำๆ เพลินๆ ดี

แต่ถ้าเอามาพูดกันบ่อยๆ ผมว่าเริ่มออกทะเล ไปแนวทำนายตลาดซะมากกว่า

เริ่มไม่คิดว่าการพูดคุยแบบนี้เป็นไปในแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

คิดแบบนี้บ่อยๆ แนวการลงทุนจะเสียนะครับ รู้เท่าทันก็ดี แต่ถ้าไม่รู้หรือมาอ่านแล้วเข้าใจผิดกันไปก็อาจจะเสียหายได้