Money talk@SET14Dec13วางแผนการเงินฯกับVIกับหุ้นไทยปี57
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 14, 2013 11:57 pm
Money talk@SET14Dec13
ช่วงที่ 1 วางแผนการเงินสู่ความมั่งคั่งที่ยั่งยืน
ช่วงที่ 2 วีไอกับหุ้นไทยปี57
ขอบคุณอ.ไพบูลย์ พิธีกร วิทยากรและทีมงาน Money talk ในการจัดงาน รวมถึงทีมงาน A-life ด้วยครับ
______________________________________
Money talk ครั้งต่อไปปีหน้า วันที่ 18 มกราคม 2557
เปิดจอง Facebook เสาร์ 11 มกราคม 57 มี 2หัวข้อ
1) บริษัทจดทะเบียนด้านอุปโภคบริโภค 4 บริษัท ตลท.กำลังติดต่อ
2) เชิญแขกรับเชิญมาและพิธีกร 4 ท่านช่วยกันสัมภาษณ์ (คุณกอบศักดิ์ ภูตระกูล,คุณมนตรี ศรไพศาล)
_______________________________________
ช่วงที่ 1 "วางแผนการเงินสู่ความมั่งคั่งที่ยั่งยืน"
แขกรับเชิญ
คุณเรืองวิทย์ นันทาภิวัฒน์ (อุปนายก ส.นักวางแผนการเงินไทย)
คุณเชาว์พันธุ์ พานทอง (กรรมการผู้จัดการ บมจ.แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต)
คุณสุรัสวดี มาหิรัญ (ที่ปรึกษาการวางแผนการเงินอาวุโส บมจ.แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต)
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ
ทำไมต้องมีการวางแผนการเงิน?
คุณเรืองวิทย์
• ถ้าเจอปัญหาจะไปไม่ถูก เหมือนเรื่องการเดินทาง ถ้ารถติด หรือมีอุบัติเหตุข้างหน้า จะทำอย่างไรต่อ
• สังคมสมัยก่อนกับปัจจุบันต่างกันมาก เมื่อก่อนในน้ำมีปลาในหน้ามีข้าวไม่อดตาย แต่ยุคนี้ไม่มีสตางค์อดตาย
ต้องคิดหาวิธีที่จะทำให้มีกินมีใช้
• จะต้องเริ่มวางแผนการเงินเมื่อไร? ผมจะตอบเมื่อวานนี้ หมายความว่า คุณช้าไปแล้ว 1 วัน เริ่มเร็วที่สุดเท่าที่เป็นได้
• ต้องมีแผนเหมือนกัน แต่ถ้าจะวางแผนเกษียณตั้งแต่อายุ 55 ขึ้นไปก็ไม่ทันแล้ว
• แผนปรับเปลี่ยนได้ ถ้าเหตุการณ์เปลี่ยนไปก็ย้อนกลับมาดู แต่ถ้าไม่มีแผนเลยลำบาก
• อย่างเช่น มีลูกค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นเท่าตัว, คุณพ่อเสียชีวิต จะทิ้งแม่ไว้ที่ต่างจังหวัดคนเดียวหรือเปล่า ถ้าหกล้มทำอย่างไร
• อ.เสน่ห์เสริมคนโสดก็วางแผนได้ เดี๋ยวนี้เงินเดือนออกใช้ไปถึงเดือนหน้าแล้ว ต้องคิดแผนออมแผนลงทุน
คุณเชาว์พันธุ์
• การวางแผนการเงินเป็นกระบวนการบริหารสินทรัพย์ เพื่อบริหารการเงินระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เพื่อให้ชีวิตเราดีขึ้นและมีอิสรภาพทางการเงิน
• อิสรภาพทางการเงิน คือความมั่งคง สินทรัพย์ลบหนี้สินแล้วมีเงินใช้โดยไม่ต้องทำงาน
• มีเป้าหมาย 4-5 อย่าง วางแผนเพื่อเกษียณ วางแผนการลงทุน วางแผนการประกันภัย วางแผนเพื่อมรดก
การเงินที่วางแผนไว้ต้องคิดความเป็นจริงหรือการคาดการณ์?
คุณเรืองวิทย์
• ต้องใช้ทั้ง 2 แบบ ก่อนวางแผนต้องตั้งเป้าหมายก่อน เพื่ออะไร อย่างที่คุณชวพันธ์พูด มีระยะสั้น กลาง ยาว
• สิ่งที่เราอยากได้ทั้งหลายต้องมาดูกับสิ่งที่เรามีปัจจุบัน ทรัพย์สิน หนี้สิน รายได้ รายจ่าย แล้วในอนาคตจะมีอะไรเข้ามาขนาดไหน แล้วพิจารณาว่าเป้าหมายเราเป็นไปได้ไหม
• บางครั้งที่เห็นว่ามีเงินซื้อของแพงๆก็ต้องมาให้นักวางแผนการเงินดู อาจจะมีหนี้มากซึ่งก็ต้องวางแผนไว้
คุณสุรัสวดี
• เวลาลูกค้ามาหามักจะบอกปัญหาตัวเองก่อน ส่วนมากบอกไม่มีเวลาวางแผนการเงิน ซึ่งทางเราจะเป็นตัวช่วยในการจัดวางสิ่งที่มีอยู่แล้ว
• ต้องรู้ lifestyle ว่าชอบทำอะไร บางคนก็ชอบตีกอล์ฟ
• แผนการเงินจะออกมาได้ต้องมีข้อมูลมาวิเคราะห์
• ทาง a life จะมี template ทำออกมาแสดงเรียกว่า wealth curve
คุณเชาว์พันธุ์
• จะมีคนเข้ามาวางแผนการเกษียณค่อนข้างเยอะ จะมีอายุอีกกี่ปีหลังเกษียณ จะต้องใช้เงินเดือนละเท่าไร
• จากสถิติผู้ชายอายุเฉลี่ย 71 ปี ผู้หญิง 75 ปี แต่สำรวจมาว่าถ้าคนอายุถึง 60 ปีแล้วจะมีอายุยืนยาวออกไปอีก 20 ปี เพราะการแพทย์ดีขึ้น คนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น
• บางครั้งอาจต้องปรับแผนเพิ่มผลตอบแทนหรือลดค่าใช้จ่ายที่คิดไว้หลังเกษียณ
คุณเรืองวิทย์
• สำหรับคนมีฐานะการเงินดีแล้ว รวยแล้วก็ยังต้องวางแผน หนี้ ภาระในอนาคต สุขภาพ จะเป็นอย่างไร
• สมัยนี้ต้องใช้เงินเยอะในการรักษา ขึ้นกับใช้โรงพยาบาลที่ไหน
• ท่านอาจจะไม่รู้ว่า ถ้ามีเงิน 5 ล้านบาท เป็นโรคมะเร็งรักษาปีเดียว ก็หมดแล้ว
• อ.ไพบูลย์เสริมที่เพิ่งไปรักษานิ่วแค่นิดเดียวหมดไป 2 แสนกว่าบาท บังเอิญมีประกันอยู่
คุณเชาว์พันธ์
• สถิติในประเทศไทย ทุกๆ 9 นาทีมีคนเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง 1 คน ทุกๆ 1 นาที คนเป็นโรคหัวใจ 1 คน
• มะเร็งมีคนเสียชีวิตมากกว่าโรคหัวใจ
• อ.ไพบูลย์ เสริมอย่าคิดว่าคนเราแข็งแรง มีเงินมีทองแล้วไม่เป็นไร มีเพื่อนอายุ 60 ปี อยู่ดีๆลำไส้ไปพันกัน ต้องผ่าตัดตั้งแต่ยอดอกลงไปอยู่โรงพยาบาล 3 เดือน ไม่มีประกันด้วย โดยไปเป็นหลักสิบ
คุณเรืองวิทย์
• บางทีกรณีฉุกเฉินเราตัดสินใจเองไม่ได้ เช่น เส้นเลือดสมองแตก ในต่างประเทศจะมีเขียนพินัยกรรมขณะที่เรามีชีวิตอยู่ ถ้าเราเป็นอะไรไปตัดสินใจเองไม่ได้ จะใช้ใครเป็นผู้ตัดสินใจให้
• อ.ไพบูลย์เสริม พระไพศาลวิสาโล แนะนำไว้
1) เขียนพินัยกรรมถ้าตายแล้วทรัพย์สินยกให้ใคร
2) ถ้าเป็นอะไรไป จะให้ใครตัดสินใจแทน หรือร่างกายเราจะให้ทำอย่างไร
3) งานการที่ค้างอยู่จะทำยังไง
ยังมีต่ออีก 2-3 เรื่อง ลูกเมีย เรื่องบ้าน ต้องคิดให้ครบ
สิ่งที่จะได้ตอบแทนกลับมา?
คุณเรืองวิทย์
• นั่นคือแผนการลงทุน ซึ่งขึ้นกับเป้าหมาย
• ในการลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะ vi ตรงนั้นคือแผนระยะกลางหรือยาว อย่าไปเข้าใจผิดไปใช้กับแผนระยะสั้น เช่น อย่างพาลูกไปดิสนีย์แลนด์อเมริกา ก็เลยเอาเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น
• แผนการลงทุนต้องสอดคล้องกับเป้าหมายใหญ่ ถ้าเราไม่เข้าใจก็จะใช้สิ่งนั้นผิด
อ.ไพบูลย์ หลายคนในห้องมีหลายสิบหลายร้อยล้านแล้ว ต้องวางแผนไหม?
คุณเชาวพันธ์
• ต้องวางแผนปกป้องความมั่งคั่งให้ส่งมอบไปลูกหลาน เนื่องจากมีเงินเฟ้อเข้ามาเกี่ยวข้อง
• ถ้าคนจนยิ่งต้องวางแผน ต้องมาดูก่อนว่าทำไมไม่มี ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ อดออม
• A life วางแผนไม่คิดค่าธรรมเนียมในการปรึกษา
o มีสินค้าที่เป็นพันธมิตร กองทุนรวม 200-300 กอง เช่น บลจ.ไทยพาณิชย์, uob,วรรณ ฯลฯ
o มีประกันชีวิต ซึ่งผลตอบแทนไม่เสียภาษี เงินต้นได้ครบ 100%
o มีประกันภัยที่เป็นพันธมิตร ประกันทรัพย์สิน ประกันรถยนต์ วิศนาภัย สุขภาพ มารีน all rist
o เป็น 1 stop service มีสินค้าหลากหลาย ให้บริการครบทุกอย่าง มาปรึกษาได้
ขอให้ยกตัวอย่างในการบริหารจัดการเงินลูกค้า?
คุณสุรัสวดี
• มีผู้ชายท่านหนึ่ง อายุ 45 ปี ทำงานบริษัท อยู่ในตำแหน่งสูง รายได้สูง ยังไม่แต่งงาน แต่ไม่มีความรู้ด้านการเงิน เนื่องจากใช้ชีวิตกับการทำงานมากเกินไป เครียดจึงอยาก early retire มีสะสมสินทรัพย์เยอะ เช่น ที่ดิน แต่เงินที่มีแทบไม่ได้เอาไปลงทุนเลยเก็บไว้ออมทรัพย์ ทางเราจึงเข้าไปช่วยจัดระเบียบให้ วางแผนภาษี อยากจะ early ที่ 50 ปี มีแผนที่จะผันตัวเป็นอาจารย์หลังเกษียณ
• ระหว่างที่พูดคุยกัน 3 ปีก็มีการปรับเปลี่ยนแผนเรื่อยๆ
• การทำแผนดูว่าภาษีวางแผนไว้ครบหรือยัง LTF,RMF ,ดอกเบี้ยบ้าน,ประกันชีวิต หักภาษีได้ใน 1 แสนแรก, มีบุตรก็หักภาษีได้ ถ้าเข้าเรียนก็หักเพิ่มได้อีก
• จากนั้นก็มาดูแผนเกษียณว่าจะทำให้งอกเงยได้อย่างไร ดูว่าค่าใช้จ่ายรายวันต่อเดือนเท่าไรพอเกษียณแล้วจะใช้เงินเท่าไรต่อเดือน ต้องรวมเงินเฟ้อและสุขภาพ
คุณเรืองวิทย์
• ถ้ามีการแต่งงานแผนจะเปลี่ยนเยอะ เช่น ถ้าผู้ชายไม่อยู่แล้ว ผู้หญิงจะสามารถอยู่ได้ไหม การบริหารทรัพย์สินที่ได้มาหลังแต่งงาน จะมีลูกไหม
• อ.เสน่ห์ ผู้หญิง มะเร็งที่ตายเยอะสุดคือ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูกเดี๋ยวนี้ป้องกันได้แล้ว ฉีดวัคซีนก่อนอายุ 25 ปี
• คุณเชาวพันธ์
o ผู้ชายจะเสียชีวิตด้วย มะเร็งตับ มะเร็งปอดเยอะ
o เบี้ยประกันผู้ชายผู้หญิงไม่เท่ากัน ของผู้หญิงจะถูกกว่า เนื่องตายยากกว่า ช้ากว่า
คุณเชาวพันธ์
o ปกติผู้หญิงจะอดออมดีกว่าผู้ชาย และคนมีครอบครัวน่าจะออมดีกว่าคนโสด
o คนที่วางแผนเกษียณจะอยู่ที่อายุ 40-45 ปีขึ้นไป
o ตอนนี้คนไทยแต่งงานช้าลง เกือบอายุ 40 ปี กว่าลูกจะเรียนจบใช้เงินเท่าไร เรียนโทในประเทศต่างประเทศ ก็มีรายละเอียดอีก
คุณเรืองวิทย์
• สิ่งที่เป็นทรัพย์สินควรเป็นสิ่งที่มูลค่าเพิ่มขึ้น อย่างรถยนต์มูลค่ารถยนต์ไม่ควรเรียกว่าทรัพย์สิน
• สิ่งที่อต้งระมัดระวังคือหนี้สิน ที่เจ้าของธุรกิจลืมนึกถึงไปคือภาระค้ำประกันธุรกิจเราเองกับธนาคาร พอช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี ก็จะมีปัญหาตรงนี้มาย้อนหาเรา รวมถึงการค้ำประกันคนอื่นด้วย ควรจดเอาไว้ว่าไปค้ำประกันใครบ้าง
• ถ้าเป็นสามีภรรยาที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย เพราะภาระของคู่สมรสก็ถือเป็นหนี้เราด้วย แม้จะค้ำประกันก่อนแต่งงาน
• อย่างกรณีที่อาจารย์ไปค้ำประกันลูกศิษย์ก็เป็นตัวอย่าง
การจัดการมรดก?
คุณเชาวพันธ์
• ต้องดูว่าทรัพย์สินมีอะไรบ้าง ถ้าไม่เขียนไว้ก็จะตกเป็นของทายาท ต้องร้องขอจัดทำมรดก
จะมาขอคำปรึกษาต้องเตรียมอะไร?
คุณเชาวพันธ์
• รายการทรัพย์สินหนี้สินโดยละเอียดห้ามปิดบัง เรื่องข้อมูลเราเก็บเป็นความลับ ชื่อลูกค้าที่จัดเก็บก็เป็น code
• เป้าหมาย สั้น กลาง ยาว
• สามารถโทรมาที่ call center ได้ 02648333
• ทีมงานมีความรู้ความสามารถใกล้เคียงกันมีการอบรมอย่างเข้มงวด
เลือกนักวางแผนการเงินอย่างไร?
คุณเรืองวิทย์
• การวางแผนการเงินเป็นเรื่องรายบุคคล เวลาเราไม่สบายไปหาหมอจะเลือกหมออย่างไร
o อ.ไพบูลย์เสริมถ้าเป็นตนจะเลือกคนแก่ๆ จะได้มีประสบการณ์เยอะ
• ให้คิดว่านักวางแผนการเงินคือหมอการเงิน
1) ต้องมีคุณสมบัติที่ถูกต้อง ได้รับการอบรม
2) คุยกันรู้เรื่อง ไว้เนื้อเชื่อใจกันได้ เกิดจากการพบเจอคุยกัน
บริษัท A-life โต 50% 5 ปีติดต่อกัน?
คุณเชาวพันธ์
• ใช่ เรามี 3 P
1) Product
- สะสมทรัพย์ผลตอบแทน 4.5 % ต่อปี คุ้มครอง7 ปีชำระเบี้ย 3 ปี เราคิดว่าดีสุดในตลาด
- ลดหย่อนภาษีได้ ผลตอบแทน 4.49%
- บำนาญก็ลดหย่อนภาษีได้
2) People ที่ปรึกษาการเงินของเรา เป็นพนักงาน full time รับคุณสมบัติคัดเลือกพอสมควร ไม่ใช่ agent
3) Process กระบวนการที่ให้บริการลูกค้าที่ดี
ถ้ามีแผนตัวเองอยู่แล้ว ถือแผนมาคุยกับ alife ได้ไหม?
คุณสุรัสวดี
• ยิ่งดีแล้ว จะได้รู้ว่าลูกค้าพร้อมแล้ว ก็มาพูดคุยกัน ไม่จำเป็นว่าต้องซื้อผลิตภัณฑ์
ช่วงที่ 2 “วีไอกับหุ้นไทยปี57”
แขกรับเชิญ
อนุรักษณ์ บุญแสวง (โจ ลูกอิสาน) นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
พีรนาถ โชควัฒนา (นักลงทุนเน้นคุณค่าอาวุโส)
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร (ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน)
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ
Intro
• อ.เสน่ห์กล่างถึงคำพูดที่อ.นิเวศน์กล่าวในงานครบรอบ thaivi "หมู่บ้าน thaivi หมู่บ้านที่อยู่กันด้วยความเชื่อ อยู่กันด้วยความตั้งใจ อยู่กันด้วยภูมิปัญญาจริงๆ ทุกคน contribute สิ่งที่ตัวเองถนัด 10 ปีผ่านมา ความยิ่งใหญ่ขนาดไหนผมคิดว่ามันมหัศจรรย์ ผมเป็นแค่เพียงผู้จุดตะเกียง"
• ในฐานะครั้งสุดท้ายของปี อ.ไพบูลย์ กล่าวขอบคุณทีมงาน สปอนเซอร์ วิทยากรตลอดทั้งปี และผู้มาร่วมฟังทุกคน
คาดว่าหุ้นไทยปี 57 จะเป็นอย่างไร?
อ.เสน่ห์ หุ้นที่มีอยู่ในตลาดก็ยังอยู่ในตลาด หุ้น ipo ที่ dealy จะเข้าปี 57 คนทั้งหลายจะมีความรู้ลงทุนมากขึ้น
หาความรู้ได้จากรายการ moneytalk, ดูที่ facebook.com/moneytalk tv , ฟังงานสัมมนาที่ money talk@SET
อ.ไพบูลย์ ถ้าคิดว่าปีหน้าหุ้นจะดีขึ้น เรื่องคอรัปชั่นในไทยแย่ลงทุกปี คะแนนตกลงทุกปี
อ.เสน่ห์ องค์กร CPI องค์ด้านความโปร่งใส จัดลำดับ อันดับต้นๆ นิวซีแลนด์ เดนมาร์ค อันดับ 5 สิงคโปร์ ปี 55 ประเทศไทยอยู่อันดับ 88 ได้ 37 คะแนน ปี 56 อันดับ 102 คะแนน 35 ทุกประเทศใน ASEAN ดีขึ้นหมดยกเว้นไทย
คุณโจ ลูกอิสาน
• อนาคตไม่มีใครรู้แน่นอน อดีตที่ผ่านแล้วเราจะรู้
• 3-4 ปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นขึ้นค่อนข้างเยอะ ขึ้นทุกปี ถ้ารวมปันผลด้วยขึ้นตลอด อย่างปีนี้ก็ลดลงแค่ 3% กว่าๆ ถ้าหักปันผลออกไป คือตลาดให้ผลตอบแทน -0.6% ไม่ค่อยมีนัยสำคัญ สรุป อดีตหุ้นขึ้นค่อนข้างเยอะ
• ปัจจุบันความถูกแพงหุ้นใช้อารมณ์อย่างเดียวัดไม่ได้ ต้องดูตัวเลข PE ตลาดเฉลี่ย 15 เท่า ขณะที่ 38 ปีที่ผ่านมา PE เฉลี่ย 12 เท่า PBV 2.1 เท่า อดีต 1.9 เท่า สรุป ไม่ถูกแต่ยังไม่ใช่ฟองสบู่
• อนาคต มีถูกมีผิด คิดว่าคงไม่เปลี่ยนแปลงมาก +/- ไม่น่าเกิน 15%
คุณพีรนาถ
• ไม่มีใครรู้ อยู่ในตลาดเกิน 20 ปี ก็ไม่เคยเป็นห่วงว่าตลาดจะเป็นอย่างไร
• ให้เดาคิดว่าต่ำสุดคง 1140 ถ้ามีก็อาจจะครึ่งปีแรก ส่วน upside ถ้าขึ้นก็อาจจะ new high ไปเลย เพราะตอนนี้แย่สุดแล้ว การเมืองก็ไม่รู้จะเป็นอย่างไรแต่คงไม่ลากยาวไปถึงปลายปีหน้า
อ.นิเวศน์
• พูดตอนนี้ไม่มีผิด แต่ถ้าพรุ่งนี้อาจจะผิด
• ดูจาก 5 ปีที่ผ่านมา รวมถึง 10 ปีที่ผ่านมาด้วย อาจจะเป็นทศวรรษแห่ง VI สังเกตปรากฏการณ์ครั้งนี้มันดีจริงๆ เป็น 10 ปีทองของ VI ไทย มีคนรวยจากการลงทุนแบบ VI เยอะมาก ความสนใจในการลงทุนในหุ้นเปลี่ยน ภาพของคนที่มาลงทุนเปลี่ยนไปเลย อายุ 30-40 เยอะมาก มีนักลงทุนรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่น เป็นภาพตัวแทน VI ทั้งประเทศซึ่งทยอยเพิ่มขึ้น
• หุ้นที่เคยถูกก็มีนักลงทุนซื้อไปหมด หุ้นที่ปรับขึ้นเป็น 10 เท่าก็มีเยอะมาก พอเงินมากก็เป็นมวลมหานักลงทุนหุ้นก็ขึ้นเอาขึ้นเอา โดยเฉพาะหุ้นตัวเล็กหน่อยที่มีกำไรดี
• ก่อน 5 ปีแรกของทศวรรษ VI กำไรบริษัทก็ไม่ได้ขึ้นเท่าไรหรอก เป็นการขึ้นเพราะคนมองว่าหุ้นถูก ดอกเบี้ยต่ำ ไม่มีที่ลงทุน เสร็จแล้วก็เกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ตอน hamburger crisis ซึ่งหุ้นลงไม่นานก็ราคาปรับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือกำไรบริษัทจดทะเบียนโตเร็วมาก ส่วนหนึ่งอาจมีการลดภาษีนิติบุคคลจาก 30->23->20% ก็เป็นกำไรที่เพิ่มขึ้น แม้จะขึ้นค่าแรงแต่บริษัทใหญ่ๆค่าแรงก็ไม่ได้มีผลมาก และพนักงานก็ไม่ได้เยอะเมื่อเทียบกับ size ธุรกิจ
• พอถึงปี 57 ก็อาจเป็นไปได้ว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนอาจเริ่มชะลอตัวใหม่ พลังที่ผลักดันหุ้นอาจเริ่มชะลอ ภาพก็เปลี่ยนเศรษฐกิจเริ่มเหงาๆลง กำลังที่ขับเคลื่อนหุ้นก็ชะลอ ฝรั่งก็ขายตลอด พวกที่เป็น VI เซียนๆ นักลงทุน VI ต่างประเทศ ค่อยๆทิ้งหุ้นมาตลอด แล้วไปลงทุนเวียดนาม ลงทุนจีน เซียน VI หลายคนชะลอลงทุนในไทย ไปต่างประเทศเยอะขึ้น
• (ตอบอ.เสน่ห์ การลงทุนเอกชน ก็ทรงๆ การบริโภคยังพอใช้ได้ การลงทุนรัฐบาลก็ไม่เอื้ออำนวย)
• คิดว่าไม่ positive 3-4 ปี ก็ขึ้นมาเยอะ ถ้าบริษัทจดทะเบียนกำไรไม่เพิ่มดีๆ QE ก็หยุด
• 10 ปีที่ผ่านมาหุ้นมีการ rerating มาก ทั้งๆที่กำไรขึ้น 20-30% แต่ราคาหุ้นขึ้นไปหลายเท่า ตอนนี้คงหวังแบบนั้นยาก
• ปี 57 คิดว่าอาจจะสิ้นสุดยุคทองของ vi คือ VI ยังอยู่ได้มีผลตอบแทน แต่จะหวังแบบเลิศๆเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว
นักลงทุน VI ควรจะใช้กลยุทธ์อย่างไร?
คุณโจ ลูกอีสาน
• ควรใช้กลยุทธ์ใดๆที่เคยใช้ได้ผล ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ทุกปี กลยุทธ์ไม่รู้หรอกว่าปีนี้คือปี 56 หรือ 57 มนุษย์ไปแบ่งเอง กลยุทธ์อาจเป็นรายละเอียดย่อย แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือหลักการ VI
• หลักการ VI ซื้อหุ้นกิจการดี ราคาไม่แพง downside ต่ำๆ มีการเติบโต และอดทนกับความผันผวนให้ได้
• ปีหน้าน่าจะเป็น side way ขึ้นๆลงๆไม่ชัดเจน ซึ่งเป็นภาวะที่เหมาะสมกับ VI อย่างมาก หุ้นที่จะขึ้นมาต้องเติบโตจริงๆ เป็นหน้าที่ของ VI ตอนนี้ไม่มีลมใต้ปีกที่จะมาช่วยเรา
คุณพีรนาถ
• ถ้าดัชนี ณ ปลายปีหน้าปิดเท่ากับตอนนี้ คิดว่ายังใช้ได้ เหมือน ดร.นิเวศน์พูด มันจะรอการ rerating ครั้งใหม่ หุ้นอาจไม่ไปไหน เป็นโอกาสให้เราสะสมหุ้น ต่างชาติอาจไปซื้อที่อื่น จนหุ้นไทยถูกลงก็กลับมาใหม่
• สิ่งที่ทำมาตลอดซื้อหุ้น 18 เดือนไม่ขึ้นเลย ก็ไม่ได้เป็นอะไร กลยุทธ์ที่ควรทำคืออยู่กับสิ่งที่เรารู้ดี ถ้าหุ้นลงเราต้องยืนยันว่าตลาดเพี้ยนหรือเราเพี้ยน bell curve มี 2 ด้าน ต้องมั่นใจว่าเราอยู่ด้าน A ถ้าเราไปอยู่ด้าน S ก็เจ๊ง เวลาที่หุ้นลงก็จะมีคนโทรมาถามตลอดซึ่งเขาไม่มั่นใจในบริษัทที่ซื้อ ของดีก็ต้องโชว์ตัวเองว่าเป็นของดี ต้องมองให้เห็นว่า competitive ของไทยอยู่ไหน บริษัทนั้นจะอยู่รอดถึงการ rerate ไหม ถึงวันหนึ่ง การลงทุนภาครัฐ demand ก็ต้องกลับมาอยู่ดี เงินไม่มีเพราะอยู่ในหุ้นหมด ก็จะขายตัวที่เข้าใจน้อย ไปซื้อตัวที่เข้าใจเยอะ
อ.นิเวศน์
• ผมก็พยายามเก็บเงินสด แต่หุ้นที่คิดว่าพอไปได้ ยังรักษาฐานได้ ไม่มีความเสี่ยงว่ากำไรจะลดลง คนจะดูว่ากิจการนี้จะถดถอยหรือเริ่มแย่ เป็นกิจการที่เติบโตแน่นอนไป 2-3 ปี เมื่อทุกอย่างฟื้นตัว การเมืองคลี่คลายก็จะเติบโตมาใหม่แน่นอน
• หุ้นบางตัวก็ขายออกไปบ้าง ตัวที่คิดว่าอนาคตไม่สดใสเท่าเดิม เกิดการเปลี่ยนแปลง หุ้นบางตัวก็ล้าลง แย่ลง บางตัวก็อยู่ที่เก่าได้ บางตัวสภาพคล่องไม่ได้ก็ต้องถือ
• เก็บเงินสดแต่ก็ยังไม่ได้ไปซื้ออะไร ก็ดูไปมันยังไม่แน่นอน พร้อมที่จะเข้าถ้ามีโอกาส ความสำเร็จล้มเหลวขึ้นกับว่าเราทนไหว
• มีเงินใหม่จากรายย่อยเข้ามาตลาดหุ้นมากขึ้น ฝรั่งขาย 3500 ล้านหุ้นก็ขึ้นได้ ซึ่งวันนึงรับไม่ไหวก็อาจจลงก็ได้
• สรุปกลยุทธ์ปีหน้าคือ ซื้อตอนที่หุ้นตกเยอะๆ ในหุ้นที่มั่นใจว่า earning ดีแน่นอน 3 ปีข้างหน้าดีแน่นอน อนาคตสดใส มี cash เยอะ กิจการ generate เงินสดเยอะ มีการจ่ายผลดี เป็น % สูงเทียบกำไร เป็นกิจการที่ดี โดดเด่นมาก
ปัจจัยอะไรที่เป็นห่วงจะมีผลทางลบกับตลาดหุ้น ปัจจัยอะไรที่มีแล้วจะเป็นผลทางบวก
คุณโจ ลูกอีสาน
• คนไทยมีเงินฝากมาก มาลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเมกะเทรนด์ แต่ช่วงนี้มีอย่างหนึ่งที่เป็นคู่แข่งหุ้นคือกองทุนอสังหาฯ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่ลงทุนเป็นหลายหมื่นล้านบาท จะแย่งเม็ดเงินจากตลาดหุ้น แต่กองทุนพวกนี้ก็ต้องระวังว่ามีความซับซ้อน เข้าใจยาก
• วิกฤติปี 40 มันมีภาพหลอน ช่วงนั้นการขาดดุลย์บัญชีเดินสะพัดประเทศไทย 7-8% GDP คือเราค้าขายให้บริการไปขาดทุนตลอด 10 ปีให้หลังตัวเลขนี้เป็นบวกทุกปี มีปี 55,56 ที่ติดลบ ต้องคอยระวังว่าจะวิ่งขึ้นไปมากๆหรือเปล่า เราขายไปน้อยกว่าที่เราซื้อ รายจ่ายมากกว่ารายรับ ถ้าค่าเงินอ่อนหุ้นส่งออกก็ได้ประโยชน์
• ปัจจัยบวกก็คงเป็นการลงทุนภาครัฐในโครงการที่สมเหตุสมผลน่าจะตอบสนองในทางที่ดี
คุณพีรนาถ
• ผมไม่เก่งด้านปัจจัยลบ เดาไม่ถูก เพราะทุกวิกฤติที่มีมามีหุ้น 100% ตลอด ดูแต่บริษัทก็เลยไม่ดูปัจจัยพวกนี้เลย
• มองในแง่ดีคนไทยก็มีเงินเยอะ พักหลังก็ไปลงทุนในคอนโดเยอะ มีเพื่อนหลายคนซื้อมาก็ไม่ได้ปล่อยเช่า ทิ้งไว้เฉยๆ บางครั้งซื้อเป็น 10 กว่า unit ดีกว่าเก็บเงินสดไว้เฉยๆ
• ถ้าตลาดหลักทรัพย์หรือเราช่วยกันให้ความรู้กับคนเหล่านี้ ซึ่งเขาต้องมีลูกมีหลาน ก็จะมีเงินที่เข้ามาในตลาดได้
• สมัยนี้ไม่เหมือนปี 40 แบงค์ไม่มีปล่อยกู้ซื้อที่ดิน คนก็มีหนี้สินมาก คิดว่าคงไม่เลวร้ายชนาดนั้นแล้ว ปัจจัยลบก็รู้อยู่แล้ว ซึ่งในที่สุดมันก็จะเห็น ในชีวิตปัญหาหลายๆอย่างที่ไม่มีทางออกสุดท้ายมันก็จะมีทางออก บางครั้งมันง่ายกว่าที่คิดมาก
• บางครั้งปัญหาเราตามเยอะๆจะเครียดไม่สบายใจ เราก็ไปแก้ปัญหาตรงนั้นไม่ได้ก็ไม่ต้องรับฟังเยอะ
อ.นิเวศน์
• สิ่งที่กลัวคือปัจจัยรุนแรง ปัจจัยแบบหงส์ดำ blackswan ถ้าไม่ใช่อันนี้คือไม่กลัว มันหมายถึงสิ่งที่ไม่คาดคิด แต่ก่อนมีความเชื่อว่าหงส์ดำไม่มีในโลก มีแต่หงส์ขาว มีคนมาค้นพบว่ามีหงส์ดำอยู่ในโลก
• ถ้าหากมีสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วพลิกประเทศไทยให้ไม่เหมิอนเดิมเลย แต่ส่วนตัวก็คิดว่าไม่เกิด
• ปัจจัยบวกก็คือถ้าไม่เกิดหงส์ดำ
2557 หุ้นไทยจะเป็นอย่างไร? (ถ้าดีมากให้ 10 แย่มากให้ 0 คะแนน)
คุณโจ ลูกอีสาน
• ปีที่แล้วทุกคนมองว่าน่าจะดี ก็ทายไม่ดี
• ปีหน้าทุกคนมองว่าจะไม่ดี แต่คิดว่าน่าจะดีขึ้นนิดนึง ให้ 6 คะแนน
คุณพีรนาถ
• ปีที่แล้วมองว่าดี ก็ขึ้นแต่ไม่ได้ขาย ตอนนี้ก็ลงมาแล้ว ก็เห็นเหมือนคุณโจ ให้ 6.5 คะแนน
ดร.นิเวศน์
• ให้ 5 คะแนน
ช่วงที่ 1 วางแผนการเงินสู่ความมั่งคั่งที่ยั่งยืน
ช่วงที่ 2 วีไอกับหุ้นไทยปี57
ขอบคุณอ.ไพบูลย์ พิธีกร วิทยากรและทีมงาน Money talk ในการจัดงาน รวมถึงทีมงาน A-life ด้วยครับ
______________________________________
Money talk ครั้งต่อไปปีหน้า วันที่ 18 มกราคม 2557
เปิดจอง Facebook เสาร์ 11 มกราคม 57 มี 2หัวข้อ
1) บริษัทจดทะเบียนด้านอุปโภคบริโภค 4 บริษัท ตลท.กำลังติดต่อ
2) เชิญแขกรับเชิญมาและพิธีกร 4 ท่านช่วยกันสัมภาษณ์ (คุณกอบศักดิ์ ภูตระกูล,คุณมนตรี ศรไพศาล)
_______________________________________
ช่วงที่ 1 "วางแผนการเงินสู่ความมั่งคั่งที่ยั่งยืน"
แขกรับเชิญ
คุณเรืองวิทย์ นันทาภิวัฒน์ (อุปนายก ส.นักวางแผนการเงินไทย)
คุณเชาว์พันธุ์ พานทอง (กรรมการผู้จัดการ บมจ.แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต)
คุณสุรัสวดี มาหิรัญ (ที่ปรึกษาการวางแผนการเงินอาวุโส บมจ.แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต)
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ
ทำไมต้องมีการวางแผนการเงิน?
คุณเรืองวิทย์
• ถ้าเจอปัญหาจะไปไม่ถูก เหมือนเรื่องการเดินทาง ถ้ารถติด หรือมีอุบัติเหตุข้างหน้า จะทำอย่างไรต่อ
• สังคมสมัยก่อนกับปัจจุบันต่างกันมาก เมื่อก่อนในน้ำมีปลาในหน้ามีข้าวไม่อดตาย แต่ยุคนี้ไม่มีสตางค์อดตาย
ต้องคิดหาวิธีที่จะทำให้มีกินมีใช้
• จะต้องเริ่มวางแผนการเงินเมื่อไร? ผมจะตอบเมื่อวานนี้ หมายความว่า คุณช้าไปแล้ว 1 วัน เริ่มเร็วที่สุดเท่าที่เป็นได้
• ต้องมีแผนเหมือนกัน แต่ถ้าจะวางแผนเกษียณตั้งแต่อายุ 55 ขึ้นไปก็ไม่ทันแล้ว
• แผนปรับเปลี่ยนได้ ถ้าเหตุการณ์เปลี่ยนไปก็ย้อนกลับมาดู แต่ถ้าไม่มีแผนเลยลำบาก
• อย่างเช่น มีลูกค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นเท่าตัว, คุณพ่อเสียชีวิต จะทิ้งแม่ไว้ที่ต่างจังหวัดคนเดียวหรือเปล่า ถ้าหกล้มทำอย่างไร
• อ.เสน่ห์เสริมคนโสดก็วางแผนได้ เดี๋ยวนี้เงินเดือนออกใช้ไปถึงเดือนหน้าแล้ว ต้องคิดแผนออมแผนลงทุน
คุณเชาว์พันธุ์
• การวางแผนการเงินเป็นกระบวนการบริหารสินทรัพย์ เพื่อบริหารการเงินระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เพื่อให้ชีวิตเราดีขึ้นและมีอิสรภาพทางการเงิน
• อิสรภาพทางการเงิน คือความมั่งคง สินทรัพย์ลบหนี้สินแล้วมีเงินใช้โดยไม่ต้องทำงาน
• มีเป้าหมาย 4-5 อย่าง วางแผนเพื่อเกษียณ วางแผนการลงทุน วางแผนการประกันภัย วางแผนเพื่อมรดก
การเงินที่วางแผนไว้ต้องคิดความเป็นจริงหรือการคาดการณ์?
คุณเรืองวิทย์
• ต้องใช้ทั้ง 2 แบบ ก่อนวางแผนต้องตั้งเป้าหมายก่อน เพื่ออะไร อย่างที่คุณชวพันธ์พูด มีระยะสั้น กลาง ยาว
• สิ่งที่เราอยากได้ทั้งหลายต้องมาดูกับสิ่งที่เรามีปัจจุบัน ทรัพย์สิน หนี้สิน รายได้ รายจ่าย แล้วในอนาคตจะมีอะไรเข้ามาขนาดไหน แล้วพิจารณาว่าเป้าหมายเราเป็นไปได้ไหม
• บางครั้งที่เห็นว่ามีเงินซื้อของแพงๆก็ต้องมาให้นักวางแผนการเงินดู อาจจะมีหนี้มากซึ่งก็ต้องวางแผนไว้
คุณสุรัสวดี
• เวลาลูกค้ามาหามักจะบอกปัญหาตัวเองก่อน ส่วนมากบอกไม่มีเวลาวางแผนการเงิน ซึ่งทางเราจะเป็นตัวช่วยในการจัดวางสิ่งที่มีอยู่แล้ว
• ต้องรู้ lifestyle ว่าชอบทำอะไร บางคนก็ชอบตีกอล์ฟ
• แผนการเงินจะออกมาได้ต้องมีข้อมูลมาวิเคราะห์
• ทาง a life จะมี template ทำออกมาแสดงเรียกว่า wealth curve
คุณเชาว์พันธุ์
• จะมีคนเข้ามาวางแผนการเกษียณค่อนข้างเยอะ จะมีอายุอีกกี่ปีหลังเกษียณ จะต้องใช้เงินเดือนละเท่าไร
• จากสถิติผู้ชายอายุเฉลี่ย 71 ปี ผู้หญิง 75 ปี แต่สำรวจมาว่าถ้าคนอายุถึง 60 ปีแล้วจะมีอายุยืนยาวออกไปอีก 20 ปี เพราะการแพทย์ดีขึ้น คนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น
• บางครั้งอาจต้องปรับแผนเพิ่มผลตอบแทนหรือลดค่าใช้จ่ายที่คิดไว้หลังเกษียณ
คุณเรืองวิทย์
• สำหรับคนมีฐานะการเงินดีแล้ว รวยแล้วก็ยังต้องวางแผน หนี้ ภาระในอนาคต สุขภาพ จะเป็นอย่างไร
• สมัยนี้ต้องใช้เงินเยอะในการรักษา ขึ้นกับใช้โรงพยาบาลที่ไหน
• ท่านอาจจะไม่รู้ว่า ถ้ามีเงิน 5 ล้านบาท เป็นโรคมะเร็งรักษาปีเดียว ก็หมดแล้ว
• อ.ไพบูลย์เสริมที่เพิ่งไปรักษานิ่วแค่นิดเดียวหมดไป 2 แสนกว่าบาท บังเอิญมีประกันอยู่
คุณเชาว์พันธ์
• สถิติในประเทศไทย ทุกๆ 9 นาทีมีคนเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง 1 คน ทุกๆ 1 นาที คนเป็นโรคหัวใจ 1 คน
• มะเร็งมีคนเสียชีวิตมากกว่าโรคหัวใจ
• อ.ไพบูลย์ เสริมอย่าคิดว่าคนเราแข็งแรง มีเงินมีทองแล้วไม่เป็นไร มีเพื่อนอายุ 60 ปี อยู่ดีๆลำไส้ไปพันกัน ต้องผ่าตัดตั้งแต่ยอดอกลงไปอยู่โรงพยาบาล 3 เดือน ไม่มีประกันด้วย โดยไปเป็นหลักสิบ
คุณเรืองวิทย์
• บางทีกรณีฉุกเฉินเราตัดสินใจเองไม่ได้ เช่น เส้นเลือดสมองแตก ในต่างประเทศจะมีเขียนพินัยกรรมขณะที่เรามีชีวิตอยู่ ถ้าเราเป็นอะไรไปตัดสินใจเองไม่ได้ จะใช้ใครเป็นผู้ตัดสินใจให้
• อ.ไพบูลย์เสริม พระไพศาลวิสาโล แนะนำไว้
1) เขียนพินัยกรรมถ้าตายแล้วทรัพย์สินยกให้ใคร
2) ถ้าเป็นอะไรไป จะให้ใครตัดสินใจแทน หรือร่างกายเราจะให้ทำอย่างไร
3) งานการที่ค้างอยู่จะทำยังไง
ยังมีต่ออีก 2-3 เรื่อง ลูกเมีย เรื่องบ้าน ต้องคิดให้ครบ
สิ่งที่จะได้ตอบแทนกลับมา?
คุณเรืองวิทย์
• นั่นคือแผนการลงทุน ซึ่งขึ้นกับเป้าหมาย
• ในการลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะ vi ตรงนั้นคือแผนระยะกลางหรือยาว อย่าไปเข้าใจผิดไปใช้กับแผนระยะสั้น เช่น อย่างพาลูกไปดิสนีย์แลนด์อเมริกา ก็เลยเอาเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น
• แผนการลงทุนต้องสอดคล้องกับเป้าหมายใหญ่ ถ้าเราไม่เข้าใจก็จะใช้สิ่งนั้นผิด
อ.ไพบูลย์ หลายคนในห้องมีหลายสิบหลายร้อยล้านแล้ว ต้องวางแผนไหม?
คุณเชาวพันธ์
• ต้องวางแผนปกป้องความมั่งคั่งให้ส่งมอบไปลูกหลาน เนื่องจากมีเงินเฟ้อเข้ามาเกี่ยวข้อง
• ถ้าคนจนยิ่งต้องวางแผน ต้องมาดูก่อนว่าทำไมไม่มี ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ อดออม
• A life วางแผนไม่คิดค่าธรรมเนียมในการปรึกษา
o มีสินค้าที่เป็นพันธมิตร กองทุนรวม 200-300 กอง เช่น บลจ.ไทยพาณิชย์, uob,วรรณ ฯลฯ
o มีประกันชีวิต ซึ่งผลตอบแทนไม่เสียภาษี เงินต้นได้ครบ 100%
o มีประกันภัยที่เป็นพันธมิตร ประกันทรัพย์สิน ประกันรถยนต์ วิศนาภัย สุขภาพ มารีน all rist
o เป็น 1 stop service มีสินค้าหลากหลาย ให้บริการครบทุกอย่าง มาปรึกษาได้
ขอให้ยกตัวอย่างในการบริหารจัดการเงินลูกค้า?
คุณสุรัสวดี
• มีผู้ชายท่านหนึ่ง อายุ 45 ปี ทำงานบริษัท อยู่ในตำแหน่งสูง รายได้สูง ยังไม่แต่งงาน แต่ไม่มีความรู้ด้านการเงิน เนื่องจากใช้ชีวิตกับการทำงานมากเกินไป เครียดจึงอยาก early retire มีสะสมสินทรัพย์เยอะ เช่น ที่ดิน แต่เงินที่มีแทบไม่ได้เอาไปลงทุนเลยเก็บไว้ออมทรัพย์ ทางเราจึงเข้าไปช่วยจัดระเบียบให้ วางแผนภาษี อยากจะ early ที่ 50 ปี มีแผนที่จะผันตัวเป็นอาจารย์หลังเกษียณ
• ระหว่างที่พูดคุยกัน 3 ปีก็มีการปรับเปลี่ยนแผนเรื่อยๆ
• การทำแผนดูว่าภาษีวางแผนไว้ครบหรือยัง LTF,RMF ,ดอกเบี้ยบ้าน,ประกันชีวิต หักภาษีได้ใน 1 แสนแรก, มีบุตรก็หักภาษีได้ ถ้าเข้าเรียนก็หักเพิ่มได้อีก
• จากนั้นก็มาดูแผนเกษียณว่าจะทำให้งอกเงยได้อย่างไร ดูว่าค่าใช้จ่ายรายวันต่อเดือนเท่าไรพอเกษียณแล้วจะใช้เงินเท่าไรต่อเดือน ต้องรวมเงินเฟ้อและสุขภาพ
คุณเรืองวิทย์
• ถ้ามีการแต่งงานแผนจะเปลี่ยนเยอะ เช่น ถ้าผู้ชายไม่อยู่แล้ว ผู้หญิงจะสามารถอยู่ได้ไหม การบริหารทรัพย์สินที่ได้มาหลังแต่งงาน จะมีลูกไหม
• อ.เสน่ห์ ผู้หญิง มะเร็งที่ตายเยอะสุดคือ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูกเดี๋ยวนี้ป้องกันได้แล้ว ฉีดวัคซีนก่อนอายุ 25 ปี
• คุณเชาวพันธ์
o ผู้ชายจะเสียชีวิตด้วย มะเร็งตับ มะเร็งปอดเยอะ
o เบี้ยประกันผู้ชายผู้หญิงไม่เท่ากัน ของผู้หญิงจะถูกกว่า เนื่องตายยากกว่า ช้ากว่า
คุณเชาวพันธ์
o ปกติผู้หญิงจะอดออมดีกว่าผู้ชาย และคนมีครอบครัวน่าจะออมดีกว่าคนโสด
o คนที่วางแผนเกษียณจะอยู่ที่อายุ 40-45 ปีขึ้นไป
o ตอนนี้คนไทยแต่งงานช้าลง เกือบอายุ 40 ปี กว่าลูกจะเรียนจบใช้เงินเท่าไร เรียนโทในประเทศต่างประเทศ ก็มีรายละเอียดอีก
คุณเรืองวิทย์
• สิ่งที่เป็นทรัพย์สินควรเป็นสิ่งที่มูลค่าเพิ่มขึ้น อย่างรถยนต์มูลค่ารถยนต์ไม่ควรเรียกว่าทรัพย์สิน
• สิ่งที่อต้งระมัดระวังคือหนี้สิน ที่เจ้าของธุรกิจลืมนึกถึงไปคือภาระค้ำประกันธุรกิจเราเองกับธนาคาร พอช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี ก็จะมีปัญหาตรงนี้มาย้อนหาเรา รวมถึงการค้ำประกันคนอื่นด้วย ควรจดเอาไว้ว่าไปค้ำประกันใครบ้าง
• ถ้าเป็นสามีภรรยาที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย เพราะภาระของคู่สมรสก็ถือเป็นหนี้เราด้วย แม้จะค้ำประกันก่อนแต่งงาน
• อย่างกรณีที่อาจารย์ไปค้ำประกันลูกศิษย์ก็เป็นตัวอย่าง
การจัดการมรดก?
คุณเชาวพันธ์
• ต้องดูว่าทรัพย์สินมีอะไรบ้าง ถ้าไม่เขียนไว้ก็จะตกเป็นของทายาท ต้องร้องขอจัดทำมรดก
จะมาขอคำปรึกษาต้องเตรียมอะไร?
คุณเชาวพันธ์
• รายการทรัพย์สินหนี้สินโดยละเอียดห้ามปิดบัง เรื่องข้อมูลเราเก็บเป็นความลับ ชื่อลูกค้าที่จัดเก็บก็เป็น code
• เป้าหมาย สั้น กลาง ยาว
• สามารถโทรมาที่ call center ได้ 02648333
• ทีมงานมีความรู้ความสามารถใกล้เคียงกันมีการอบรมอย่างเข้มงวด
เลือกนักวางแผนการเงินอย่างไร?
คุณเรืองวิทย์
• การวางแผนการเงินเป็นเรื่องรายบุคคล เวลาเราไม่สบายไปหาหมอจะเลือกหมออย่างไร
o อ.ไพบูลย์เสริมถ้าเป็นตนจะเลือกคนแก่ๆ จะได้มีประสบการณ์เยอะ
• ให้คิดว่านักวางแผนการเงินคือหมอการเงิน
1) ต้องมีคุณสมบัติที่ถูกต้อง ได้รับการอบรม
2) คุยกันรู้เรื่อง ไว้เนื้อเชื่อใจกันได้ เกิดจากการพบเจอคุยกัน
บริษัท A-life โต 50% 5 ปีติดต่อกัน?
คุณเชาวพันธ์
• ใช่ เรามี 3 P
1) Product
- สะสมทรัพย์ผลตอบแทน 4.5 % ต่อปี คุ้มครอง7 ปีชำระเบี้ย 3 ปี เราคิดว่าดีสุดในตลาด
- ลดหย่อนภาษีได้ ผลตอบแทน 4.49%
- บำนาญก็ลดหย่อนภาษีได้
2) People ที่ปรึกษาการเงินของเรา เป็นพนักงาน full time รับคุณสมบัติคัดเลือกพอสมควร ไม่ใช่ agent
3) Process กระบวนการที่ให้บริการลูกค้าที่ดี
ถ้ามีแผนตัวเองอยู่แล้ว ถือแผนมาคุยกับ alife ได้ไหม?
คุณสุรัสวดี
• ยิ่งดีแล้ว จะได้รู้ว่าลูกค้าพร้อมแล้ว ก็มาพูดคุยกัน ไม่จำเป็นว่าต้องซื้อผลิตภัณฑ์
ช่วงที่ 2 “วีไอกับหุ้นไทยปี57”
แขกรับเชิญ
อนุรักษณ์ บุญแสวง (โจ ลูกอิสาน) นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
พีรนาถ โชควัฒนา (นักลงทุนเน้นคุณค่าอาวุโส)
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร (ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน)
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ
Intro
• อ.เสน่ห์กล่างถึงคำพูดที่อ.นิเวศน์กล่าวในงานครบรอบ thaivi "หมู่บ้าน thaivi หมู่บ้านที่อยู่กันด้วยความเชื่อ อยู่กันด้วยความตั้งใจ อยู่กันด้วยภูมิปัญญาจริงๆ ทุกคน contribute สิ่งที่ตัวเองถนัด 10 ปีผ่านมา ความยิ่งใหญ่ขนาดไหนผมคิดว่ามันมหัศจรรย์ ผมเป็นแค่เพียงผู้จุดตะเกียง"
• ในฐานะครั้งสุดท้ายของปี อ.ไพบูลย์ กล่าวขอบคุณทีมงาน สปอนเซอร์ วิทยากรตลอดทั้งปี และผู้มาร่วมฟังทุกคน
คาดว่าหุ้นไทยปี 57 จะเป็นอย่างไร?
อ.เสน่ห์ หุ้นที่มีอยู่ในตลาดก็ยังอยู่ในตลาด หุ้น ipo ที่ dealy จะเข้าปี 57 คนทั้งหลายจะมีความรู้ลงทุนมากขึ้น
หาความรู้ได้จากรายการ moneytalk, ดูที่ facebook.com/moneytalk tv , ฟังงานสัมมนาที่ money talk@SET
อ.ไพบูลย์ ถ้าคิดว่าปีหน้าหุ้นจะดีขึ้น เรื่องคอรัปชั่นในไทยแย่ลงทุกปี คะแนนตกลงทุกปี
อ.เสน่ห์ องค์กร CPI องค์ด้านความโปร่งใส จัดลำดับ อันดับต้นๆ นิวซีแลนด์ เดนมาร์ค อันดับ 5 สิงคโปร์ ปี 55 ประเทศไทยอยู่อันดับ 88 ได้ 37 คะแนน ปี 56 อันดับ 102 คะแนน 35 ทุกประเทศใน ASEAN ดีขึ้นหมดยกเว้นไทย
คุณโจ ลูกอิสาน
• อนาคตไม่มีใครรู้แน่นอน อดีตที่ผ่านแล้วเราจะรู้
• 3-4 ปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นขึ้นค่อนข้างเยอะ ขึ้นทุกปี ถ้ารวมปันผลด้วยขึ้นตลอด อย่างปีนี้ก็ลดลงแค่ 3% กว่าๆ ถ้าหักปันผลออกไป คือตลาดให้ผลตอบแทน -0.6% ไม่ค่อยมีนัยสำคัญ สรุป อดีตหุ้นขึ้นค่อนข้างเยอะ
• ปัจจุบันความถูกแพงหุ้นใช้อารมณ์อย่างเดียวัดไม่ได้ ต้องดูตัวเลข PE ตลาดเฉลี่ย 15 เท่า ขณะที่ 38 ปีที่ผ่านมา PE เฉลี่ย 12 เท่า PBV 2.1 เท่า อดีต 1.9 เท่า สรุป ไม่ถูกแต่ยังไม่ใช่ฟองสบู่
• อนาคต มีถูกมีผิด คิดว่าคงไม่เปลี่ยนแปลงมาก +/- ไม่น่าเกิน 15%
คุณพีรนาถ
• ไม่มีใครรู้ อยู่ในตลาดเกิน 20 ปี ก็ไม่เคยเป็นห่วงว่าตลาดจะเป็นอย่างไร
• ให้เดาคิดว่าต่ำสุดคง 1140 ถ้ามีก็อาจจะครึ่งปีแรก ส่วน upside ถ้าขึ้นก็อาจจะ new high ไปเลย เพราะตอนนี้แย่สุดแล้ว การเมืองก็ไม่รู้จะเป็นอย่างไรแต่คงไม่ลากยาวไปถึงปลายปีหน้า
อ.นิเวศน์
• พูดตอนนี้ไม่มีผิด แต่ถ้าพรุ่งนี้อาจจะผิด
• ดูจาก 5 ปีที่ผ่านมา รวมถึง 10 ปีที่ผ่านมาด้วย อาจจะเป็นทศวรรษแห่ง VI สังเกตปรากฏการณ์ครั้งนี้มันดีจริงๆ เป็น 10 ปีทองของ VI ไทย มีคนรวยจากการลงทุนแบบ VI เยอะมาก ความสนใจในการลงทุนในหุ้นเปลี่ยน ภาพของคนที่มาลงทุนเปลี่ยนไปเลย อายุ 30-40 เยอะมาก มีนักลงทุนรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่น เป็นภาพตัวแทน VI ทั้งประเทศซึ่งทยอยเพิ่มขึ้น
• หุ้นที่เคยถูกก็มีนักลงทุนซื้อไปหมด หุ้นที่ปรับขึ้นเป็น 10 เท่าก็มีเยอะมาก พอเงินมากก็เป็นมวลมหานักลงทุนหุ้นก็ขึ้นเอาขึ้นเอา โดยเฉพาะหุ้นตัวเล็กหน่อยที่มีกำไรดี
• ก่อน 5 ปีแรกของทศวรรษ VI กำไรบริษัทก็ไม่ได้ขึ้นเท่าไรหรอก เป็นการขึ้นเพราะคนมองว่าหุ้นถูก ดอกเบี้ยต่ำ ไม่มีที่ลงทุน เสร็จแล้วก็เกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ตอน hamburger crisis ซึ่งหุ้นลงไม่นานก็ราคาปรับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือกำไรบริษัทจดทะเบียนโตเร็วมาก ส่วนหนึ่งอาจมีการลดภาษีนิติบุคคลจาก 30->23->20% ก็เป็นกำไรที่เพิ่มขึ้น แม้จะขึ้นค่าแรงแต่บริษัทใหญ่ๆค่าแรงก็ไม่ได้มีผลมาก และพนักงานก็ไม่ได้เยอะเมื่อเทียบกับ size ธุรกิจ
• พอถึงปี 57 ก็อาจเป็นไปได้ว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนอาจเริ่มชะลอตัวใหม่ พลังที่ผลักดันหุ้นอาจเริ่มชะลอ ภาพก็เปลี่ยนเศรษฐกิจเริ่มเหงาๆลง กำลังที่ขับเคลื่อนหุ้นก็ชะลอ ฝรั่งก็ขายตลอด พวกที่เป็น VI เซียนๆ นักลงทุน VI ต่างประเทศ ค่อยๆทิ้งหุ้นมาตลอด แล้วไปลงทุนเวียดนาม ลงทุนจีน เซียน VI หลายคนชะลอลงทุนในไทย ไปต่างประเทศเยอะขึ้น
• (ตอบอ.เสน่ห์ การลงทุนเอกชน ก็ทรงๆ การบริโภคยังพอใช้ได้ การลงทุนรัฐบาลก็ไม่เอื้ออำนวย)
• คิดว่าไม่ positive 3-4 ปี ก็ขึ้นมาเยอะ ถ้าบริษัทจดทะเบียนกำไรไม่เพิ่มดีๆ QE ก็หยุด
• 10 ปีที่ผ่านมาหุ้นมีการ rerating มาก ทั้งๆที่กำไรขึ้น 20-30% แต่ราคาหุ้นขึ้นไปหลายเท่า ตอนนี้คงหวังแบบนั้นยาก
• ปี 57 คิดว่าอาจจะสิ้นสุดยุคทองของ vi คือ VI ยังอยู่ได้มีผลตอบแทน แต่จะหวังแบบเลิศๆเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว
นักลงทุน VI ควรจะใช้กลยุทธ์อย่างไร?
คุณโจ ลูกอีสาน
• ควรใช้กลยุทธ์ใดๆที่เคยใช้ได้ผล ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ทุกปี กลยุทธ์ไม่รู้หรอกว่าปีนี้คือปี 56 หรือ 57 มนุษย์ไปแบ่งเอง กลยุทธ์อาจเป็นรายละเอียดย่อย แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือหลักการ VI
• หลักการ VI ซื้อหุ้นกิจการดี ราคาไม่แพง downside ต่ำๆ มีการเติบโต และอดทนกับความผันผวนให้ได้
• ปีหน้าน่าจะเป็น side way ขึ้นๆลงๆไม่ชัดเจน ซึ่งเป็นภาวะที่เหมาะสมกับ VI อย่างมาก หุ้นที่จะขึ้นมาต้องเติบโตจริงๆ เป็นหน้าที่ของ VI ตอนนี้ไม่มีลมใต้ปีกที่จะมาช่วยเรา
คุณพีรนาถ
• ถ้าดัชนี ณ ปลายปีหน้าปิดเท่ากับตอนนี้ คิดว่ายังใช้ได้ เหมือน ดร.นิเวศน์พูด มันจะรอการ rerating ครั้งใหม่ หุ้นอาจไม่ไปไหน เป็นโอกาสให้เราสะสมหุ้น ต่างชาติอาจไปซื้อที่อื่น จนหุ้นไทยถูกลงก็กลับมาใหม่
• สิ่งที่ทำมาตลอดซื้อหุ้น 18 เดือนไม่ขึ้นเลย ก็ไม่ได้เป็นอะไร กลยุทธ์ที่ควรทำคืออยู่กับสิ่งที่เรารู้ดี ถ้าหุ้นลงเราต้องยืนยันว่าตลาดเพี้ยนหรือเราเพี้ยน bell curve มี 2 ด้าน ต้องมั่นใจว่าเราอยู่ด้าน A ถ้าเราไปอยู่ด้าน S ก็เจ๊ง เวลาที่หุ้นลงก็จะมีคนโทรมาถามตลอดซึ่งเขาไม่มั่นใจในบริษัทที่ซื้อ ของดีก็ต้องโชว์ตัวเองว่าเป็นของดี ต้องมองให้เห็นว่า competitive ของไทยอยู่ไหน บริษัทนั้นจะอยู่รอดถึงการ rerate ไหม ถึงวันหนึ่ง การลงทุนภาครัฐ demand ก็ต้องกลับมาอยู่ดี เงินไม่มีเพราะอยู่ในหุ้นหมด ก็จะขายตัวที่เข้าใจน้อย ไปซื้อตัวที่เข้าใจเยอะ
อ.นิเวศน์
• ผมก็พยายามเก็บเงินสด แต่หุ้นที่คิดว่าพอไปได้ ยังรักษาฐานได้ ไม่มีความเสี่ยงว่ากำไรจะลดลง คนจะดูว่ากิจการนี้จะถดถอยหรือเริ่มแย่ เป็นกิจการที่เติบโตแน่นอนไป 2-3 ปี เมื่อทุกอย่างฟื้นตัว การเมืองคลี่คลายก็จะเติบโตมาใหม่แน่นอน
• หุ้นบางตัวก็ขายออกไปบ้าง ตัวที่คิดว่าอนาคตไม่สดใสเท่าเดิม เกิดการเปลี่ยนแปลง หุ้นบางตัวก็ล้าลง แย่ลง บางตัวก็อยู่ที่เก่าได้ บางตัวสภาพคล่องไม่ได้ก็ต้องถือ
• เก็บเงินสดแต่ก็ยังไม่ได้ไปซื้ออะไร ก็ดูไปมันยังไม่แน่นอน พร้อมที่จะเข้าถ้ามีโอกาส ความสำเร็จล้มเหลวขึ้นกับว่าเราทนไหว
• มีเงินใหม่จากรายย่อยเข้ามาตลาดหุ้นมากขึ้น ฝรั่งขาย 3500 ล้านหุ้นก็ขึ้นได้ ซึ่งวันนึงรับไม่ไหวก็อาจจลงก็ได้
• สรุปกลยุทธ์ปีหน้าคือ ซื้อตอนที่หุ้นตกเยอะๆ ในหุ้นที่มั่นใจว่า earning ดีแน่นอน 3 ปีข้างหน้าดีแน่นอน อนาคตสดใส มี cash เยอะ กิจการ generate เงินสดเยอะ มีการจ่ายผลดี เป็น % สูงเทียบกำไร เป็นกิจการที่ดี โดดเด่นมาก
ปัจจัยอะไรที่เป็นห่วงจะมีผลทางลบกับตลาดหุ้น ปัจจัยอะไรที่มีแล้วจะเป็นผลทางบวก
คุณโจ ลูกอีสาน
• คนไทยมีเงินฝากมาก มาลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเมกะเทรนด์ แต่ช่วงนี้มีอย่างหนึ่งที่เป็นคู่แข่งหุ้นคือกองทุนอสังหาฯ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่ลงทุนเป็นหลายหมื่นล้านบาท จะแย่งเม็ดเงินจากตลาดหุ้น แต่กองทุนพวกนี้ก็ต้องระวังว่ามีความซับซ้อน เข้าใจยาก
• วิกฤติปี 40 มันมีภาพหลอน ช่วงนั้นการขาดดุลย์บัญชีเดินสะพัดประเทศไทย 7-8% GDP คือเราค้าขายให้บริการไปขาดทุนตลอด 10 ปีให้หลังตัวเลขนี้เป็นบวกทุกปี มีปี 55,56 ที่ติดลบ ต้องคอยระวังว่าจะวิ่งขึ้นไปมากๆหรือเปล่า เราขายไปน้อยกว่าที่เราซื้อ รายจ่ายมากกว่ารายรับ ถ้าค่าเงินอ่อนหุ้นส่งออกก็ได้ประโยชน์
• ปัจจัยบวกก็คงเป็นการลงทุนภาครัฐในโครงการที่สมเหตุสมผลน่าจะตอบสนองในทางที่ดี
คุณพีรนาถ
• ผมไม่เก่งด้านปัจจัยลบ เดาไม่ถูก เพราะทุกวิกฤติที่มีมามีหุ้น 100% ตลอด ดูแต่บริษัทก็เลยไม่ดูปัจจัยพวกนี้เลย
• มองในแง่ดีคนไทยก็มีเงินเยอะ พักหลังก็ไปลงทุนในคอนโดเยอะ มีเพื่อนหลายคนซื้อมาก็ไม่ได้ปล่อยเช่า ทิ้งไว้เฉยๆ บางครั้งซื้อเป็น 10 กว่า unit ดีกว่าเก็บเงินสดไว้เฉยๆ
• ถ้าตลาดหลักทรัพย์หรือเราช่วยกันให้ความรู้กับคนเหล่านี้ ซึ่งเขาต้องมีลูกมีหลาน ก็จะมีเงินที่เข้ามาในตลาดได้
• สมัยนี้ไม่เหมือนปี 40 แบงค์ไม่มีปล่อยกู้ซื้อที่ดิน คนก็มีหนี้สินมาก คิดว่าคงไม่เลวร้ายชนาดนั้นแล้ว ปัจจัยลบก็รู้อยู่แล้ว ซึ่งในที่สุดมันก็จะเห็น ในชีวิตปัญหาหลายๆอย่างที่ไม่มีทางออกสุดท้ายมันก็จะมีทางออก บางครั้งมันง่ายกว่าที่คิดมาก
• บางครั้งปัญหาเราตามเยอะๆจะเครียดไม่สบายใจ เราก็ไปแก้ปัญหาตรงนั้นไม่ได้ก็ไม่ต้องรับฟังเยอะ
อ.นิเวศน์
• สิ่งที่กลัวคือปัจจัยรุนแรง ปัจจัยแบบหงส์ดำ blackswan ถ้าไม่ใช่อันนี้คือไม่กลัว มันหมายถึงสิ่งที่ไม่คาดคิด แต่ก่อนมีความเชื่อว่าหงส์ดำไม่มีในโลก มีแต่หงส์ขาว มีคนมาค้นพบว่ามีหงส์ดำอยู่ในโลก
• ถ้าหากมีสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วพลิกประเทศไทยให้ไม่เหมิอนเดิมเลย แต่ส่วนตัวก็คิดว่าไม่เกิด
• ปัจจัยบวกก็คือถ้าไม่เกิดหงส์ดำ
2557 หุ้นไทยจะเป็นอย่างไร? (ถ้าดีมากให้ 10 แย่มากให้ 0 คะแนน)
คุณโจ ลูกอีสาน
• ปีที่แล้วทุกคนมองว่าน่าจะดี ก็ทายไม่ดี
• ปีหน้าทุกคนมองว่าจะไม่ดี แต่คิดว่าน่าจะดีขึ้นนิดนึง ให้ 6 คะแนน
คุณพีรนาถ
• ปีที่แล้วมองว่าดี ก็ขึ้นแต่ไม่ได้ขาย ตอนนี้ก็ลงมาแล้ว ก็เห็นเหมือนคุณโจ ให้ 6.5 คะแนน
ดร.นิเวศน์
• ให้ 5 คะแนน