Thai VI

พี่น้อง VI ช่วงนี้ถือเงินสดกันบ้างไหมครับ

ขอความเห็นหน่อยครับ เนื่องจากหุ้นช่วงนี้ไม่ค่อยจะเจอ หุ้นบริษัทดีๆที่มี margin of safety สูงๆเท่าไรเลย
ผมก็เลยเลือกถือเงินสดไว้อยู่ประมาณ50%พอร์ตเลยครับ

-อยากถามความเห็นหน่อยครับ ว่าผมถือเงินสดในสัดส่วนที่เยอะไปหรือเปล่า เพราะเงินสดที่ถือไว้รอโอกาสลงทุนตอนที่หุ้นถูกๆ ก็ไม่ได้ผลตอบแทนอะไรเลยเหมือนกัน
-พี่ๆน้องๆคนอื่นถือเงินสดกันบ้างไหมครับ ถ้าถือ ถือประมาณกี่%พอร์ตครับ
-มีการลงทุนอะไรที่ใกล้เคียงเงินสด ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก แบบว่าจะเปลี่ยนเป็นเงินสดมาซื้อหุ้นก็สามารถทำได้ทันทีบ้างไหมครับ

สำหรับผมดูที่ MOS ของหุ้นที่จะถือเป็นหลักครับ
หากราคาที่ซื้อเป็นราคาที่สมเหตุสมผลและเติบโตได้ในระยะยาว

หากหาไม่ได้ผมก็จะถือเงินสดแทน บางครั้งก็มาก บางครั้งก็น้อย
ขึ้นอยู่กับว่าสามารถหาหุ้นที่ถูกใจได้หรือเปล่า
บางครั้งอาจจะผิดที่มีเงินสดเยอะ แต่บางครั้งก็ถูกที่มีเงินสดในมือ
ซึ่งก็คือโอกาสในการลงทุนของแต่ละคน ก็ต้องแตกต่างกันไป

สำหรับผมเน้นความสบายใจเป็นหลัก ถือหุ้นก็มีความสุข ถือเงินสดก็มีความสุข
สำคัญสุดคือกำหนดเป้าหมายของการลงทุนให้ชัด และพยายามทำให้ได้ตามเป้าครับ

ผมว่าถือเงินสด 50% เยอะไป
เงินสดน่าจะอยู่ระหว่าง 10%-30% เท่ากับหุ้นที่เราลงทุนในแต่ละตัว
ถ้าเราตั้งสมมติฐานว่าเงินสดคือหุ้นตัวนึง pe ประมาณ 40 เท่า
มีบางโบรคจะให้ดอกเบี้ยที่ถือเงินสดด้วย หลายเปอเซนต์เหมือนกัน
ลองหาดูนะครับ
ดร.นิเวชร แนะนำว่า ไม่ควรถือหุ้นตัวนึงเกิน 30%
ดังนั้น ผมว่า เราสามารถเอาหลักนี้มาประยุกต์ การถือเงินสดได้

ถือหุ้น 100% ครับ..รอ..รอ รอ ขาย...555

ผมใช้กลยุทธ์หุ้น ร้อยหรือเกือบร้อย อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นสำหรับผมช่วงนี้เป็นช่วงสะสมเงินสดครับจากเดิม โดยเฉพาะช่วง 12xx - 13xx ผมนำเงินเกือบทั้งหมดลงในหุ้นตัวที่มีอยู่ ช่วงนั้นมีเงินสดประมาณ 3% ของพอร์ต เงินสดเกือบ ๆ ติดลบอยู่บ้างหรือเกือบ ๆ เป็นศูนย์ เนื่องจากมีเงินกู้ด้วย ลงในหุ้นทั้งหมด ช่วงไตรมาส 2-3 ที่ผ่านมา

ปัจจุบัน มีหุ้น+กองทุนและหุ้นต่างประเทศอยู่ 98.75% ของพอร์ตเงินสดเพิ่มขึ้นมาเป็น 1.25% ของพอร์ตและไม่มีเงินกู้แล้ว

เงินสดที่ได้มาไม่ได้มาจากการขายหุ้น ได้มาจากปันผลและเงินเดือนหัก คชจ. ซึ่งผมก็จะเก็บ เก็บ เก็บ อีกจนถึงช่วงวิกฤตอีกครั้งก็จะกลับไปซื้อหุ้นเพิ่มครับ

ผมก็ถือหุ้น 100% รอขายเช่นกัน จะโดนกดลบมั้ยเนี่ย เหมือนท่านข้างบนมั้ยเนี่ย

พึ่งสะสมเพิ่มช่วงหลายเดือนมานี้ เพราะคิดว่าตัวเองมีเงินสดน้อยมากเลยครับ

ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ "แผนการ" ของคุณครับ...^^)

BoatAttasit เขียน:-อยากถามความเห็นหน่อยครับ ว่าผมถือเงินสดในสัดส่วนที่เยอะไปหรือเปล่า เพราะเงินสดที่ถือไว้รอโอกาสลงทุนตอนที่หุ้นถูกๆ ก็ไม่ได้ผลตอบแทนอะไรเลยเหมือนกัน

นั่นก็คือต้องหาที่พักเงินครับ

BoatAttasit เขียน:-มีการลงทุนอะไรที่ใกล้เคียงเงินสด ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก แบบว่าจะเปลี่ยนเป็นเงินสดมาซื้อหุ้นก็สามารถทำได้ทันทีบ้างไหมครับ

พักไว้ในกองทุนครับ มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝาก
แต่ต้องเลือกเองครับว่ากองไหนดีกว่า และสะดวกกับเรามากกว่าครับ

....^^)

หุ้น100%คร้าบบ ถือเงิดสดเดี๋ยวก็ใช้หมด มาเก็บไว้ในหุ้นอยากได้อะไรก็ขายหุ้นรอ3วันก็ได้เงินละ บางทีเงินมาความอยากหมดก็เอาไปซื้อหุ้นต่อ

จัดเต็มไปตอนเดือน มิถุนายนถึง กรกฏาคม 2556 ครับ
หลังจากเอาออกมาตอนเดือน พฤษภาคม 2556 ครับ
หลังจากไปอบรม TVI รุ่น 3 ครับ เอาออกมาเกือบครึ่งเลย
เพราะเห็นสัญญาณเตือนภัยมาจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นแบบรวดเร็ว
ตอนนี้ที่แน่ใจเพราะ อัตราดอกเบี้ยมันลดลงละ

-อยากถามความเห็นหน่อยครับ ว่าผมถือเงินสดในสัดส่วนที่เยอะไปหรือเปล่า เพราะเงินสดที่ถือไว้รอโอกาสลงทุนตอนที่หุ้นถูกๆ ก็ไม่ได้ผลตอบแทนอะไรเลยเหมือนกัน
--> ตอบ: กฏข้อที่หนึ่ง คือ อย่าเสียเงินต้น กฏข้อที่สอง คือ กลับไปดูกฏข้อที่หนึ่ง ... ความเห็นส่วนตัว ผมว่าเงินสดที่หรือไม่ถือไม่ใช่เป้าหมาย แต่คำถามคือว่าเรามีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าและมั่นใจได้ว่าจะไม่เสียเงินต้นหรือเปล่า (Margin of Safety) ถ้ายังไม่มีก็หาต่อไป ถ้ามี .. ก็ไม่มีเหตุผลอื่นว่าจะถือเงินสดต่อทำไม
-พี่ๆน้องๆคนอื่นถือเงินสดกันบ้างไหมครับ ถ้าถือ ถือประมาณกี่%พอร์ตครับ
--> ตอบ: ถือแบบจำใจครับเพราะยังหาตัวที่มี MOS มาเติมได้ไม่เต็มพอร์ต และส่วนตัวค่อนข้าง conservative มาก เลยถ้าไม่มีที่แน่ใจจริงๆก็เลือกถือเงินสดไว้จนกว่าจะเจอตัวที่แน่ใจมากกว่า แต่ว่าไม่ใช่รอเฉยๆนะครับ ก็มองหาโอกาสไปเรื่อยๆ
-มีการลงทุนอะไรที่ใกล้เคียงเงินสด ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก แบบว่าจะเปลี่ยนเป็นเงินสดมาซื้อหุ้นก็สามารถทำได้ทันทีบ้างไหมครับ
--> ตอบ: แนะนำกองทุนพันธบัตร, กองทุนตลาดเงิน, กองทุนหุ้นกู้ครับ มีทุกธนาคาร ซื้อขายได้ T+1

ถ้ามันแพงไป การถือเงินรอเค้าลดราคาก้ไม่แปลกครับ แต่ก้ควรมีหุ้นที่เราดักซื้อได้ถูกกอดไปด้วย

ผมยังคงเน้นหุ้นเติบโตได้+ถูกเมื่อเทียบกับตัวมัน และทนได้ในยามฟ้าฝนไม่เป็นใจครับ

ก้อย่างที่อาจารย์ท่านกล่าวไว้ ให้เลือกเบอร์1หรือ2 ของที่ทุกคนต้องกินต้องใช้ กิจการเข้าใจง่ายไม่ยุ่งยาก

คาดการณ์กำไรและรายได้แน่นอน และต้องมองภาพใหญ่ๆออกว่า ไปทางไหนเจริญขึ้นหรือ เจริญฮวบๆ

ผมเลือกใช้ mebytmb เป็นที่พักเงินตอนที่ยังหาการลงทุนที่ดีไม่ได้ 3%ก็ไม่เลวร้าย
น่ะครับ ชนะเงินเฟ้ออยู่

หุ้น 99% ครับ ปีนี้ทั้งปีก็ซื้อแต่ตอน set +-1300 กับตอนที่บริษัทที่เราถือประสบข่าวร้ายสุดๆอ่ะครับ

ผมถือเงินสดอยู่เกือบ50%ครับ หลังจากที่ขายไปครึ่งนึงตอน1600กว่าๆ ตอนนี้กำลังศึกษาบริษัทต่างๆอยู่ครับ ทยอยซื้อไปนิดหน่อยๆ ใจจริงก็อยากจะซื้อทั้งหมด แต่ขอต่อราคาหน่อยครับ

เล่าเป็นกรณีของผมแล้วกัน ต่างคนต่างมีสไตล์แตกต่างกัน
ถ้าลงทุนแล้วไม่เจ๊ง ก็ถือว่าถูกทุกคำตอบ

เงินสด 40% มาตั้งแต่เดือนมีนาคม
มันอยู่ที่ความพอใจของเราเป็นหลัก อันนี้เล่าให้ฟังแบบเจียมตัวเลยนะ เพราะหลายๆ ท่านในเว็บนี้พอร์ตใหญ่มากๆ เลย
อย่างผมไม่เคยมีเงินมากมาก่อน พอหาเงินได้ 11.xx ล้าน ก็พอใจแล้ว
ไม่อยากเร่ง ค่อยๆ ลงทุนไปเรื่อยๆ ไม่รีบแล้วครับ

ถ้าหุ้นตก หรือ นิ่งๆ side way ผมมีรายได้ 1000 บาท ต่อวัน
ถ้าหุ้นดีเป็นกระทิง ได้ capital gain (อาจจะสัก 1 ล้าน)

จะเอามากกว่านี้ก็ทำได้เช่น ถ้าผมอยากมีรายได้ 2000 บาท ต่อวัน
ก็ลงทุนให้มากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็สูงขึ้น และเพิ่มโอกาสที่พอร์ตจะเล็กลงหากหุ้นตกรุนแรง

แต่ถ้าอยากปลอดภัย หากหุ้นตก เรามีเงินสดไว้ shopping ได้
ก็ถือเงินสดไว้สัก 40%
แปลว่าถ้าหุ้นตกแรง เราก็จะกลับมารวยกว่าเดิมอีกครั้ง

ขอบคุณทุกคนสำหรับวิทยาทานครับ

ผมเอาเงินสดออกไปปล่อยกู้ครับให้ supplier ที่ขายของให้บริษัทผมครับ 2%ต่อเดือน
ถ้าเบี้ยวก็ไม่จ่ายเงินค่าของครับ

Z เขียน:ผมเอาเงินสดออกไปปล่อยกู้ครับให้ supplier ที่ขายของให้บริษัทผมครับ 2%ต่อเดือน
ถ้าเบี้ยวก็ไม่จ่ายเงินค่าของครับ

ถ้ามี supplier กู้มากๆ ก็ไม่ต้องลงทุนในหุ้นแล้วครับ
ถ้าเพิ่มวงเงินมากๆก็ยิ่งรวย
ดอกเบี้ยแพงมาก ซึ่งทำให้ต้นทุน supplier สูงขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อคุณภาพสินค้าที่ส่งให้บริษัทคุณ
ซึ่งมันก็จะกลับมาที่ คุณภาพสินค้าและราคาของที่บริษัทคุณซื้ออยู่ดี
แม้จะไม่มีผลทั้งหมดก็ตาม
ถ้าดอกเบี้ยประมาณ 1%/เดือน นี่ผมว่าจะเป็นการลงทุนที่เยี่ยมาก
"ที่ขายของให้บริษัท" แปลว่า บริษัท ที่ จขกท เป็นเจ้าของ หรือ บริษัท ที่ จขกท ทำงานด้วย
แต่ถ้าเป็น บริษัท ที่ จขกท ทำงานด้วย บริษัทคงไม่แฮปปี้แน่ๆ กับ การกระทำนี้
ขอโทษด้วยนะครับ ถ้าผมออกความเห็นที่ค่อนข้างมอง จขกท ในแง่ร้าย

[quote="CARPENTER"][quote="Z"]ผมเอาเงินสดออกไปปล่อยกู้ครับให้ supplier ที่ขายของให้บริษัทผมครับ 2%ต่อเดือน
ถ้าเบี้ยวก็ไม่จ่ายเงินค่าของครับ[/quote]
ถ้ามี supplier กู้มากๆ ก็ไม่ต้องลงทุนในหุ้นแล้วครับ
ถ้าเพิ่มวงเงินมากๆก็ยิ่งรวย
ดอกเบี้ยแพงมาก ซึ่งทำให้ต้นทุน supplier สูงขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อคุณภาพสินค้าที่ส่งให้บริษัทคุณ
ซึ่งมันก็จะกลับมาที่ คุณภาพสินค้าและราคาของที่บริษัทคุณซื้ออยู่ดี
แม้จะไม่มีผลทั้งหมดก็ตาม
ถ้าดอกเบี้ยประมาณ 1%/เดือน นี่ผมว่าจะเป็นการลงทุนที่เยี่ยมาก
"ที่ขายของให้บริษัท" แปลว่า บริษัท ที่ จขกท เป็นเจ้าของ หรือ บริษัท ที่ จขกท ทำงานด้วย
แต่ถ้าเป็น บริษัท ที่ จขกท ทำงานด้วย บริษัทคงไม่แฮปปี้แน่ๆ กับ การกระทำนี้
ขอโทษด้วยนะครับ ถ้าผมออกความเห็นที่ค่อนข้างมอง จขกท ในแง่ร้าย[/quote]

บริษัทของผมเองครับ

เงิบครับเงิบ