Thai VI

อันนี้ผมขอยกกรณีศึกษาของ BTSGIF ซักหน่อย
ตอนที่เริ่มออกกองทุนนี้ ในหนังสือชี้ชวน เขียนไว้ ชัดเจน
ว่าเงินลงทุนไป ที่ 10.80 นั้นทยอยจ่ายคืน ในสองรูปแบบนี้
1. ปันผล ซึ่งปันผลทุกไตรมาส หากมีกำไร
2. ลดทุนของกองทุน
ซึ่งไตรมาสที่ผ่านมา (Q2/2556) มีการประเมินมูลค่าของกองทุนนี้จาก 10.80 เป็น 11 บาท
และเดือนนี้มีการขึ้น XD จ่ายปัน 0.11 บาทต่อหน่วย(โดยประมาณ)

ราคา ณ ตอนนี้คือ 10.30 ลงไปต่ำสุดคือ 9 บาท
ถ้าใครซื้อที่ 9 บาท นั้นคือ คุณได้เงินต้นที่ 10.80 (ในอนาคตถ้าหากทำได้อยู่) กับปันผลในอนาคตด้วย
ดังนั้นกรณีคือ เป็นกรณีที่น่าคิดตามว่า กองทุนนี้ทำได้ตามที่บอกหรือเปล่า

ดูไปดูมาคล้ายกับ พันธบัตรรัฐบาลเลยละเนี่ย

กราฟยอดผู้โดยสารยังไต่ขึ้นเรื่อยๆครับ

อยากให้ข้อคิดเตือนใจ

1) เรารู้หรือเปล่า่ว่า Capacity ของระบบรถไฟฟ้าของ BTSGIF รับผู้โดยสารสูงสุด
ได้เท่าไร แน่นอน มันย่อมมี ไม่มีทางที่จะเพิ่มขึ้นโดยไม่มีขีดจำกัด เป็นสิ่งแรกที่ผม
อ่านหนังสือชี้ชวนแล้ว ไม่เชื่อในทันที เพราะเอาตัวเลขปีที่มีการเติบโตสูงๆ มาใช้
เป็นอัตราการเติบโต (Growth Rate) ในการคำนวณ แล้วคุณคิดว่า อัตราการเติบโต
เฉลี่ยตลอดอายุึโครงการน่าจะเป็นที่เท่าไร หรือช่วงระหว่างเท่าไรหรือเท่าไร

2) ที่ 2.5 เดือนแรก ปันผลออกมา 0.117 บาท/หุ้น ถ้าคิดง่ายๆ ก็ ไตรมาสละ
ประมาณ 0.14 บาท คูณออกมาเป็นปี 0.56 บาท/หุ้น (ข้อดี ไม่ต้องโดยหัก ณ
ที่จ่าย 10%) ผมให้ 0.60 บาท/หุ้นเลยครับ (เลขกลมๆ)

3) อายุโครงการ 17 ปี (ประมาณ)

4) WACC หรือที่ผมชอบมากกว่า Opportunity Cost ของคุณเป็นเท่าไร

5) ใส่ตัวเลขไปหาค่า IRR หรือ NPV ใน Excel

แค่นี้ก็รู้แล้วครับว่า มูลค่า หรือเงินที่คุณควรจ่าย เพื่อซื้อหน่อย ควรอยู่ระหว่าง
เท่าไรถึงเท่าไร คิดไม่ยากครับ

หรือถ้าจะเอาแบบง่ายๆ (แต่ผิดหลัก) 0.60 หารด้วยราคาที่ซื้อมา สมมุติ 10.00 บาท
ประมาณ 6% แต่ในนี้รวมเงินต้นของคุณแล้วที่ 10.-/17ปี = 0.588 บาท
ต่อปี (ไม่ต้องคิดดอกเบี้ย หรือค่าเสียโอกาสเลย) ในปีแรกคุณได้ ผล
ตอบแทนที่ 0.60 - 0.588 = 0.012 บาท/หุ้น เท่านั้น !!!! แล้วคิดปีต่อไป
เอา 10.00 ไปลบ 0.588 แต่เพื่อความง่ายคิดเป็น 0.60 เหลือ 9.40 บาท
เป็นเงินต้นก้อนใหม่ปีหน้าเศรษฐกิจยังดีสมมุึติว่าได้ปันผลเพิ่ม 10% ได้ปัน
ผลเป็น 0.66 บาท ได้ผลตอบแทนหลังหักเงินต้น 0.06 บาทเองนะครับ ...

syj เขียน:อยากให้ข้อคิดเตือนใจ

1) เรารู้หรือเปล่า่ว่า Capacity ของระบบรถไฟฟ้าของ BTSGIF รับผู้โดยสารสูงสุด
ได้เท่าไร แน่นอน มันย่อมมี ไม่มีทางที่จะเพิ่มขึ้นโดยไม่มีขีดจำกัด เป็นสิ่งแรกที่ผม
อ่านหนังสือชี้ชวนแล้ว ไม่เชื่อในทันที เพราะเอาตัวเลขปีที่มีการเติบโตสูงๆ มาใช้
เป็นอัตราการเติบโต (Growth Rate) ในการคำนวณ แล้วคุณคิดว่า อัตราการเติบโต
เฉลี่ยตลอดอายุึโครงการน่าจะเป็นที่เท่าไร หรือช่วงระหว่างเท่าไรหรือเท่าไร

2) ที่ 2.5 เดือนแรก ปันผลออกมา 0.117 บาท/หุ้น ถ้าคิดง่ายๆ ก็ ไตรมาสละ
ประมาณ 0.14 บาท คูณออกมาเป็นปี 0.56 บาท/หุ้น (ข้อดี ไม่ต้องโดยหัก ณ
ที่จ่าย 10%) ผมให้ 0.60 บาท/หุ้นเลยครับ (เลขกลมๆ)

3) อายุโครงการ 17 ปี (ประมาณ)

4) WACC หรือที่ผมชอบมากกว่า Opportunity Cost ของคุณเป็นเท่าไร

5) ใส่ตัวเลขไปหาค่า IRR หรือ NPV ใน Excel

แค่นี้ก็รู้แล้วครับว่า มูลค่า หรือเงินที่คุณควรจ่าย เพื่อซื้อหน่อย ควรอยู่ระหว่าง
เท่าไรถึงเท่าไร คิดไม่ยากครับ

หรือถ้าจะเอาแบบง่ายๆ (แต่ผิดหลัก) 0.60 หารด้วยราคาที่ซื้อมา สมมุติ 10.00 บาท
ประมาณ 6% แต่ในนี้รวมเงินต้นของคุณแล้วที่ 10.-/17ปี = 0.588 บาท
ต่อปี (ไม่ต้องคิดดอกเบี้ย หรือค่าเสียโอกาสเลย) ในปีแรกคุณได้ ผล
ตอบแทนที่ 0.60 - 0.588 = 0.012 บาท/หุ้น เท่านั้น !!!! แล้วคิดปีต่อไป
เอา 10.00 ไปลบ 0.588 แต่เพื่อความง่ายคิดเป็น 0.60 เหลือ 9.40 บาท
เป็นเงินต้นก้อนใหม่ปีหน้าเศรษฐกิจยังดีสมมุึติว่าได้ปันผลเพิ่ม 10% ได้ปัน
ผลเป็น 0.66 บาท ได้ผลตอบแทนหลังหักเงินต้น 0.06 บาทเองนะครับ ...

คิดผิดหรือเปล่าครับ
ปันผลแยกส่วนกับการลงทุนของกองทุน
ปันผลคือปันผล ส่วนลดของทุนอีกส่วนหนึ่ง
เพราะ คุณลงทุนไป 10.80 อาจจะมีค่ามากกว่า 10.80 หรือน้อยกว่า 10.80 หรือเท่ากับ 10.80 ก็ได้
ลงทุนนั้นกองทุนมีแผนการลดทุนไว้อยู่แล้ว ตอนนี้ปันผล 0.11 บาท(โดยประมาณ) นั้นเป็นปันผลจากการดำเนินการจริงๆ ยังไม่ได้ลดทุนที่ซื้อจาก 10.80 บาท
ตัว Discount ที่ขายตอนแรกนั้นแหละคือ ส่วนต่างๆที่คุณได้รับ

กองทุนอินฟรานั้นตัวคิดลดคือ Discount rate ตัวนี้ คือ ตัวที่ตัดสินว่าคุณได้ผลตอบแทนเท่าไร ถ้าหากคิด Discount มากๆๆ แสดงว่า
1. ความเสี่ยงในการลงทุนมีสูง นั้นคือสะท้อนความไม่แน่นอน
2. ถ้า Discount มากๆๆ คือโอกาสที่คุณได้ ก็มากไปด้วย

ต้องแยกเรื่องนี้ให้เข้าใจไว้ก่อนครับ
ถ้าไปอ่านของ ABIF คุณจะเห็นชัดเจนกว่าของ BTSGIF ว่า
ปันผลกับการลงทุนของกองทุนนั้น เป็นเช่นไร

กอง BTSGIF ข้อดีที่แตกต่างกับกองทุนอื่นๆคือ
ไม่เสียภาษี 10% (กรมสรรพากร ออกเป็นคำสั่งเรียบร้อยแล้ว)
ใครที่ได้ปันผลรอบนี้จะเห็นข้อมูลที่ข้อ 2.8 ละ

อีกประเด็นที่ผมยกขึ้นมา
ผมให้เห็นเรื่อง Mr Market ทำงานผิดพลาด
ปล่อยให้หลักทรัพย์ แบบนี้ซื้อขายที่ราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นหรือเปล่า

เหมือนในอดีต BCP-DR ตัวนี้ก็ต่ำกว่ามูลค่าเป็นจริงเป็นเวลานาน
หรือ VAYU1 ก็มีช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ต่ำกว่ามูลค่าเป็นจริงด้วย

ยกมาให้เห็นว่า ถ้าคุณขยันอ่าน ขยันหาข้อมูล คุณจะได้ของดีราคาถูก
ไม่ใช่ แบะมือขอ อย่างเดียว จับปลาต้องจับให้เป็น

อันนี้ไม่แน่ใจ รบกวนคุณsyj ช่วยชี้แนะด้วยครับ
เพราะผมเข้าใจว่าปันผลงวดQ1ที่ผ่านมา จ่ายมาจากส่วนของรายได้จากการลงทุนสุทธิทั้งหมด (681.08 ล้านบาท÷5,788ล้านหุ้น=0.117บาทต่อหุ้น) ยังไม่ได้รวมส่วนจ่ายคืนเงินลดทุนนี่ครับ
ดังนั้นทั้งปีน่าจะได้เงิน 0.6 บาท(ปันผลที่คุณsyjประมาณ) + ส่วนคืนเงินลดทุนอีกปีละประมาณ 0.6บาท/หุ้น/ปีไม่ใช่หรือครับ (มาจาก10.8บาท÷17ปี ซึ่งน่าจะจ่ายส่วนนี้ในQ4ของงบปี)

ผมก็คิดเหมือนคุณmiracleครับ แต่รบกวนถามคุณmiracleหน่อยครับว่า เงินส่วนลดทุนนั้น กองทุนBTSGIF จะเอาเงินสด(ย้ำว่าเงินสดๆนะครับ)มาจากไหนเพื่อจ่ายคืนครับ เพราะเงินที่ขายหน่วยลงทุนทั้งหมดตอนแรกไปเข้ากระเป๋าBTSหมดแล้ว

มี projection ในการจ่ายเงินคืนส่วนทุนไว้อยู่แล้ว

ถ้าดูในงบการเงินมีเงินสดส่วนหนึ่ง ที่ได้จาก BTSG ซื้อหน่วยลงทุน 33% มาให้ครับ
(ส่วนนี้เหมือนอัฐยายซื้อขนมยายละครับ)
ซึ่งเงินสดอยู่ในรูปของพันธบัตรรัฐบาล ส่วนหนึ่งครับ (ถ้าดูจากงบการเงิน)
ส่วนที่เหลือจากลำแข้งของตัวเอง คือจาก กระแสเงินสดของ BTS เอง
สิ่งที่มากับงบการเงินคือ การประเมินของผู้ประเมินอิสระ ว่ามูลค่าของการลงทุนในกระแสเงินสดของกิจการ BTS นั้นเป็นเช่นไรด้วย จุดนี้แหละ ที่ ถ้าตอนขายกองทุนมีข้อผิดพลาดผู้ประเมินอิสระจะช่วยเหลือเราอีกแรงหนึ่ง ด้วยนอกจากสิ่งอื่นๆ
ดังนั้น CASE นี้เป็นตัวอย่างที่น่าศึกษาไว้
เพราะ กองอินฟ่า มันจะมีของ ABIF ที่กำลัง IPO
กอง TRUE ,JAS และจะตามมาอีกเรื่อยๆ
เพราะมันคือ กลทางการเงินที่เอาเงินปัจจุบันมาใช้ โดยมีกระแสเงินสดในอนาคตค้ำไว้

สงสัยว่าส่วนลดทุนจะไม่ได้ตัดเป็นเส้นตรงนะครับ เพราะปีแรกประมาณสภาพคล่องส่วนเกินที่จะมาลดทุนมีแค่ 391ล้านบาทเท่านั้นเอง

ถีึงได้บอกว่าเป็น สิ่งที่ต้องเรียนรู้ไงละครับ