ล้มแล้วลุก กับ ล้มแล้วคว่ำ ต่างกันอย่างไร?
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 21, 2013 1:38 pm
ในยามเศรษฐกิจถดถอย บริษัททั้งหลายจะมีกำไรลดลง (ขาดทุน) นลท. จะทราบได้อย่างไรว่า? บริษัทมีปัญหาชั่วคราวหรือถาวร แน่นอนเราคงใช้กำไร EPS หรือ Growth มาวิเคราะห์ไม่ได้ในกรณีนั้น แต่ผมมีข้อสังเกตดังนี้
จากที่ผมพยายามศึกษาด้วยตัวเองโดยใช้ข้อมูลย้อนหลังของหลายบริษัท หากจะเริ่มสงสัยว่าบริษัทใดจะประสบภาวะชั่วคราวหรือถาวรนั้นมีพฤติกรรมดังนี้
1. รายได้ไม่ลด และเพิ่มขึ้น (Year on Year) มาร์จิ้นลดลงแต่ทรงตัวในระดับสูง แม้ว่ากำไรลดลงผมสังเกตว่านี่เป็นส่วนนึงของพฤติกรรมของบริษัทบางบริษัทที่ประสบปัญหาชั่วคราว จากการผันผวนของเศรษฐกิจภาพใหญ่ หรือเกิดจากการเติบโตซึ่งอาจต้องยอมเจ็บตัวบ้างเพื่อให้ได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มและรองรับการโตในอนาคต
2. เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้น แม้ว่าในบางปีบริษัทจะประสบปัญหาชั่วคราวกำไรลดลงแต่บริษัทที่แข็งแกร่งจะสามารถรักษาระดับเงินทุนหมุนเวียนให้สภาพคล่องไม่ขาดมือ ผมให้ความสำคัญกับ liquidity สูง (และอาจารย์ผมสอนว่าให้สนใจจุดนี้มากกว่ากำไร)
3. หนี้ลด ในบางปีของบริษัทที่แข็งแกร่งในช่วงที่ประสบปัญหาเค้าจะ conservative กับการใช้เงินกู้ ยอดเงินกู้ระยะยาวก็จะรักษาไว้ที่ระดับต่ำไม่นำบริษัทไปเสี่ยงรักษาต้นทุนเงินทุนต่ำ (WACC) ซึ่งจะเป็นการรักษาไว้ซึ่ง Moat ทางการเงิน ลองคิดดูหากเราขายก๊วยเตี๋ยวเหมือนกันขายไม่ค่อยออกเหมือนกันร้านที่กู้เงินมากับร้านที่ใช้เงินตัวเองใครจะหน้าเขียวก่อนกัน
เพิ่มเติมได้แนะนำได้นะครับอย่างน้อยก็ดีกว่าการดู EPS รายการสุดท้ายรายการเดียวแล้วโยน Bid/Offer เลย
จากที่ผมพยายามศึกษาด้วยตัวเองโดยใช้ข้อมูลย้อนหลังของหลายบริษัท หากจะเริ่มสงสัยว่าบริษัทใดจะประสบภาวะชั่วคราวหรือถาวรนั้นมีพฤติกรรมดังนี้
1. รายได้ไม่ลด และเพิ่มขึ้น (Year on Year) มาร์จิ้นลดลงแต่ทรงตัวในระดับสูง แม้ว่ากำไรลดลงผมสังเกตว่านี่เป็นส่วนนึงของพฤติกรรมของบริษัทบางบริษัทที่ประสบปัญหาชั่วคราว จากการผันผวนของเศรษฐกิจภาพใหญ่ หรือเกิดจากการเติบโตซึ่งอาจต้องยอมเจ็บตัวบ้างเพื่อให้ได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มและรองรับการโตในอนาคต
2. เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้น แม้ว่าในบางปีบริษัทจะประสบปัญหาชั่วคราวกำไรลดลงแต่บริษัทที่แข็งแกร่งจะสามารถรักษาระดับเงินทุนหมุนเวียนให้สภาพคล่องไม่ขาดมือ ผมให้ความสำคัญกับ liquidity สูง (และอาจารย์ผมสอนว่าให้สนใจจุดนี้มากกว่ากำไร)
3. หนี้ลด ในบางปีของบริษัทที่แข็งแกร่งในช่วงที่ประสบปัญหาเค้าจะ conservative กับการใช้เงินกู้ ยอดเงินกู้ระยะยาวก็จะรักษาไว้ที่ระดับต่ำไม่นำบริษัทไปเสี่ยงรักษาต้นทุนเงินทุนต่ำ (WACC) ซึ่งจะเป็นการรักษาไว้ซึ่ง Moat ทางการเงิน ลองคิดดูหากเราขายก๊วยเตี๋ยวเหมือนกันขายไม่ค่อยออกเหมือนกันร้านที่กู้เงินมากับร้านที่ใช้เงินตัวเองใครจะหน้าเขียวก่อนกัน
เพิ่มเติมได้แนะนำได้นะครับอย่างน้อยก็ดีกว่าการดู EPS รายการสุดท้ายรายการเดียวแล้วโยน Bid/Offer เลย