Thai VI

นำเงินปันผลที่ได้ทั้งหมดตลอด 5 ปี รวมกับราคาหุ้น ณ ปีที่ 5 (มาจากการประมาณการ) หารด้วย 1.6 จะได้ราคาหุ้นที่ได้กำไร 10% ต่อปี

นำเงินปันผลที่ได้ทั้งหมดตลอด 5 ปี รวมกับราคาหุ้น ณ ปีที่ 5 (มาจากการประมาณการ) หารด้วย 2 จะได้ราคาหุ้นที่ได้กำไร 15% ต่อปี

นำเงินปันผลที่ได้ทั้งหมดตลอด 5 ปี รวมกับราคาหุ้น ณ ปีที่ 5 (มาจากการประมาณการ) หารด้วย 2.5 จะได้ราคาหุ้นที่ได้กำไร 20% ต่อปี

นำเงินปันผลที่ได้ทั้งหมดตลอด 5 ปี รวมกับราคาหุ้น ณ ปีที่ 5 (มาจากการประมาณการ) หารด้วย 3 จะได้ราคาหุ้นที่ได้กำไร 25% ต่อปี

อันนี้ประเมินยากก็ต้องหวังกำไรต่อปีมาก ๆ หน่อย

หุ้นตัวไหนดูแล้วมีความเสี่ยงสูงแต่อยากจะซื้อก็ต้องคาดหวังผลตอบแทนมาก ๆ นะครับ

ความยากคือ ราคาหุ้น ณ ปีที่ 5 (มาจากการประมาณการ) ยิ่งประมาณการไปนานๆ ความเสี่ยงมี่จะผิดพลาดมีสูงครับ

มันดัดแปลงจากสูตร Dividend Growth Model ครับ เป็นการคิด discounted cash flow อย่างนึง

KentaII เขียน:มันดัดแปลงจากสูตร Dividend Growth Model ครับ เป็นการคิด discounted cash flow อย่างนึง

ใช่แล้วครับ บางครั้งเราอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถหาเครื่องคิดเลขที่คิด irr ได้ เช่นของผมขายของอยู่หน้าร้านจะเอาคอมมาตั้งแกะกะหน้าร้านก็ไม่ได้ บนโต๊ะจะเอาไว้วางเครื่องคิดเลข ของที่จะคิดเงิน หรือถ้าลูกค้าขอบิลบนโต๊ะก็ต้องเอาไว้เขียนบิล ตอนไม่มีลูกค้าหรือนั่งว่าง ๆ ก็แค่หยิบกระดาษห่อเหล้า กระดาษห่อบุหรี่ หนังสือพิมพ์เก่า ๆ ที่ใช้ห่อเหล้า ขึ้นมาแผ่นหนึ่ง นั่งขีด ๆ เขียน ๆ แก้เบื่อ แก้ว่าง
หรือคนอื่น ๆ อาจจะมีสถานะการณ์อื่น ๆ เช่นอยู่ในที่ไหนที่สุดแสนจะน่าเบื่อ ก็หยิบกระดาษกับปากกกามาขีดเขียนอะไรก็ได้วิธีนี้มันใช้ได้ทุกที่ครับ
แต่ถ้าจะให้ใช้ง่ายหน่อยก็ขอเครื่องคิดเลขเล็ก ๆ ที่บวกลบคูณหารได้ก็ใช้ได้แล้ว

ไม่แน่นะ วอเรนบัฟเฟตก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน แค่เครื่องคิดเลขที่บวกลบคูณหารได้ก็รู้ราคาที่เหมาะสมของหุ้นแล้ว