หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 23, 2013 11:41 am
โดย Nevercry.boy
จะเข้าดีมั๊ย???
ว๊า ตอนที่ตกหนัก ๆ ไม่ได้ซื้อ
รอก่อนดีกว่า
สลับตัวดีมั๊ย ตัวที่เราถือไม่ขึ้นเลย ขึ้นแต่บิ๊กแค็ป
งั้น ขาย เลย ขาย ก่อน ล็อกกำไรไว้ นี่ก็กำลังจะเปิดสภาอีกแล้ว
เล่นรอบบางส่วนดิ บางส่วนถือยาว
........................................
รูปภาพ

.........................................

หนังสือจิตวิทยาลงทุนก็มักจะพูดเรื่องพวกนี้นะครับ คนเป็นสัตว์สังคม แปล๊กแปลกพอเห็นหุ้นเขียวก็ทนไม่ค่อยจะไหวอยากซื้อกัน แต่ก็กล้า ๆ กลัว ๆ แต่พอหุ้นลงแด๊ง แดง ขายก็ต้องขาดทุนความกล้ากลับฮึกเหิม คัทเป็นคัท ตายเป็นตาย เอาอีกแล้วพอมันขึ้นมาอีก เอาไงดี โดดเข้าเลย โดดเข้า เอ๊า ลงอีกแล้ว เฮ้อ เหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจนะครับ ข้อแรกอย่าทำกำไรหาย ข้อสองอย่าลืมข้อแรก ก็จบเห่กันหมด

..........................................
มันเป็นหลักการทำงานของฮอร์โมนครับ ฮอร์โมนของ นลท. มักจะพลุ่งพล่านเสมอ โดยเฉพาะเมื่อเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันกับตลาดหรือหุ้นที่เราถืออยู่ เราจะบังคับตัวเองว่าต้องทำอะไรสักอย่าง แดงแดง เขียวเขียว แต่นั่นเป็นกระแสนะครับ เพราะในตลาดหุ้นแล้วการตัดสินใจอยู่เฉย ๆ ก็เป็นการตัดสินใจเหมือนกัน ไม่ได้มีแค่ซื้อกับขายครับ ฝึกได้ครับ ผมเองก็พยายามอยู่เช่นกัน

วันนี้วันเข้าพรรษาครับ มาลดฮอร์โมนกัน สำหรับ นลท. แล้วก็ขอให้ มีเมตตาอยู่ในจิต เยือกเย็นไม่ต้องฉลาด ตลาดไม่มีอะไร แค่เล่นไปตามบท จุดจบก็แค่ตาย สุดท้ายก็เสมอ พอร์ตใหญ่แค่ไหนก็ไม่มีใครใช้หมด แท้จริงแล้วจิตเดิมแท้เดียวกันมันมีอิสระของมันมาแต่ต้น เพียงแต่ นลท. เอากรอบไปใส่มันเองว่าชั้นต้องมีเท่านั้นเท่านี้จึงจะพอจึงจะใหญ่ จึงจะมีหน้ามีตา ฮอร์โมนนี่มันเป็นตัวเดียวกับกิเลสรึเปล่าหนอ อยากมี อยากเป็น อยากได้

ลดฮอร์โมนกันเถอะ เอากรงออกซะ นั่นแหละคือ "อิสระภาพทางการเงิน" ที่แท้จริง

ปล. ที่เขียนมานี่เพื่อสอนตัวคนเขียนเองล้วน ๆ เลยครับ

Re: ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 23, 2013 11:43 am
โดย Nevercry.boy
ภาพประกอบจาก เวป m.thai
ภาพยนตร์เรื่อง "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น" ของ GTH ครับ

เรื่องนี้ก็ตีแผ่สังคมวัยรุ่นทั้งในมุมสว่างและมุมมืด ดูแล้วก็ต้องพิจารณากันต่อ หวังว่า นลท. คงไม่พลุ่งพล่านกันมากนะครับในยามที่ตลาดผันผวนเช่นนี้

Re: ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 23, 2013 12:12 pm
โดย yoko
สงสัยต้องตามไปดูเผื่อจะไม่พลุ่งพล่าน555

Re: ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 23, 2013 1:15 pm
โดย dome@perth
โอ้โห ท่าน NB :bow: :bow: :bow:

Re: ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 23, 2013 1:43 pm
โดย saichon
เรื่องราคาหุ้นผันผวน หลังๆฮอร์โมนผมไม่ค่อยพลุ่งพล่านเท่าไหร่แล้ว
แต่ภาพประกอบ(สาวๆ)ของพี่NBนี่ซิครับ ทำเอาฮอร์โมนผมพลุ่งพล่านมากทีเดียว ฮ่า... :ep:

Re: ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 23, 2013 7:13 pm
โดย tuaku
555 ช่วงนี้ฮอร์โมนมันดีดกลับไปม.ปลายเลยครับ
(ถ้ากลับไปได้จริงๆจะตั้งใจศึกษาและเริ่มลงทุนตอนม.6เลย)
แต่ไม่ทันแล้วครับ เลยต้องมาฝึกลูกแทน (1.9ขวบ) มีคุณsaiเป็นแรงบันดาลใจ
กว่าจะได้เริ่มสงสัยตัวเองต้องศึกษาให้ตกผลึกเยอะๆก่อนครับเดี๋ยวลูกงง. พ่อพูดอะไร555

Re: ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 23, 2013 8:52 pm
โดย yakjabon
ลงทุนด้วยฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin - ฮอร์โมนแห่งความสงบ) สิครับ :8)

แต่รูปพี่นี่ทำเอาอะดรีนาลีน (Adrenaline - ฮอร์โมนเลือดเดือด) สูบฉีดเลยนะ .. งี้เซโรโทนินเอาไม่อยู่แล้ว :mrgreen: :wall:

[youtube]ddK-Zw-ZFuY[/youtube]

Re: ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 24, 2013 10:13 am
โดย sai
นักลงทุนท่านใด รู้สึก ว้าวุ่น ให้ทำปากจู๋ครับ ^_^

Re: ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 24, 2013 11:19 am
โดย leky
ยามหุ้นตกหนัก

คนมีหุ้นเต็มพอร์ต "แย่แล้วมันจะลงไปอีกเท่าไหร่ล่ะนี่ เสียดายขึ้นไปตั้งเยอะไม่ได้ขายออกไปก่อน ดูสิมูลค่าพอร์ตที่หายไป เงินทั้งนั้น"
คนถือเงินสด "ลงมา ลงมาอีก ได้เวลาของเราแล้ว ดีนะที่ไหวตัวทันขายล้างออกไปก่อนหน้านี้ เห็นกันชัด ๆ ว่าตลาดมันเสี่ยงมันก็ควรจะขายออกมาก่อน ใครถือหุ้นเต็มพอร์ตก็บ้าแล้ว"

ยามหุ้นกลับเป็นขาขึ้น

คนมีหุ้นเต็มพอร์ต "ดีที่ยังไม่ได้ขายคัทลอส ถ้าตัดสินใจขายไปตรงราคาก้นเหว คงเจ็บใจน่าดู เงินที่หายไปค่อย ๆ งอกกลับมาแล้ว เอ้อ โล่งอก"
คนถือเงินสด "อ้าว เฮ้ย มันทำไมกลับเป็นบวกแล้ว แล้วนี่จะเอาไงดีล่ะ ขึ้นจริงหรือแค่หลอกไปปล่อยของ นี่เรายังไม่ได้ซื้อเลย เฮ้ยอย่าเพิ่งไป ลงมาก่อน เซ็งเป็ด"

หุ้นขึ้นก็เครียด หุ้นลงก็เครียด หุ้นลงไม่ทันได้ขายก็เครียด หุ้นขึ้นไม่ทันได้ซื้อเครียด เครียดได้ทุกสถานการณ์

ฮอร์โมน Adrenaline หลั่งมากเวลาเครียด กลัว ทำให้มีอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว ตื่นเต้น เหงื่อออก นอนไม่หลับ มักจะหลั่งมากในสถานการณ์ที่ต้องหนีเอาตัวรอด คนบ้านไฟไหม้สามารถยกตู้เย็นได้ นลท.ที่มีหุ้นก็สามารถ "ล้างพอร์ต" ได้โดยใช้เวลาไม่กี่นาที

ฮอร์โมน Endorphine เป็นสารแห่งความสุข ทำให้จิตใจสบาย ร่างกายสบาย

หรือเราปล่อยให้ฮอร์โมน Adrenaline มันมีผลกับเรามากเกินไป ฮอร์โมน Endorphine มีผลกับเราน้อยเกินไป :D

Re: ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 24, 2013 8:45 pm
โดย kongkiti
ขออนุญาต คลายเครียด เพิ่ม endorphine กันหน่อย
มา ขำขันกับ ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น...

"แม่ดาวกับเรื่องคราบ" hormones
http://pantip.com/topic/30748248

เมื่อ ไผ่ตาย
http://pantip.com/topic/30672198

สแตมป์ ฝากเพลงถึง สไปรท์ HormonesTheSeries

http://pantip.com/topic/30719340

คนนี้ป๊อบสุดๆ
http://pantip.com/topic/30691554

Re: ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 25, 2013 5:30 pm
โดย prichar s.
ณ วันที่ 25 ก.ค. 2556
หน่วย: ล้านบาท


นักลงทุน ซื้อ ขาย สุทธิ


สถาบัน 5,347.95 5,410.67 -62.72

บัญชีบล. 8,491.47 10,199.33 -1,707.87

ต่างประเทศ 12,442.67 12,066.31 376.35

ในประเทศ 30,009.28 28,615.04 1,394.24

มูลค่าการซื้อขายรวม 56,291.36 ล้านบาท


ตัวทำให้วุ่นก็ตัวแดง ๆ นั่นแหละ
มีไม่กี่เจ้าแต่เทรดวันละหมื่นล้าน น น น น

Re: ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 25, 2013 9:57 pm
โดย chaitorn
เป็นข้อเขียนสุดยอดครับ พี่ NB

เพียงปล่อยวางบ้าง สติก็จะกลับมา ปัญญาก็ตามมาพิจารณาให้เห็นตามเป็นจริง เหมือนนิทานนี้ครับ

http://www.chiangmai-thailand.net/tian_ ... -tour.html
ลิงกำถั่ว

 

ในอินเดีย ลิงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับชาวบ้าน เพราะชอบโขมยผลไม้ในสวน 
ชาวบ้านจึงคิดวิธีจับลิง โดยใช้กล่องไม้ซึ่งมีฝาด้านหนึ่งเจาะรูเล็กๆ พอให้ลิงสอดมือเข้าไปได้ 
ในกล่องมีถั่ว ซึ่งเป็นของโปรดของลิงวางไว้เป็นเหยื่อล่อ 
วันดีคืนดีลิงมาที่สวนเห็นถั่วอยู่ในกล่อง ก็เอามือล้วงเข้าไปหยิบถั่ว 
แต่พอถอนมือออกก็ติดฝากล่อง เพราะกำมือของลิงนั้นใหญ่กว่าฝากล่องที่เจาะไว้

ลิงพยายามดึงมือเท่าไหร่ก็ไม่ออก พอชาวบ้านมาจับ ก็ปีนหนีขึ้นต้นไม้ไม่ได้ 
เพราะมีมือเปล่าอยู่ข้างเดียว สุดท้ายถูกคนจับได้ ลิงหาได้เฉลียวใจไม่ว่า 
เพียงแค่มันคลายมือออกเท่านั้น มันก็เอาตัวรอดได้
แต่เพราะยึดถั่วไว้แน่น 
ไม่ยอมปล่อยจึงต้องเอาชีวิตเข้าแลก มีหลายอย่างที่เราอยากได้ใฝ่ฝัน 
จนถึงกับยึดถือไว้อย่างเหนียวแน่น เวลาประสบปัญหา

เพียงแค่คลายสิ่งที่ติดยึดนั้นเสียบ้าง ปัญหาก็คลี่คลาย แต่เป็นเพราะว่าเราไม่ยอมปล่อย 
จึงเกิดผลเสียตามมามากมาย ไม่คุ้มกับสิ่งที่ยึดติด จะชอบหรือพึงพอใจกับอะไรก็ตาม 
อย่าถึงกับยึดติดจนเหนียวแน่นเกินไป เพราะโอกาสที่จะหน้ามืดตามัวนั้น 
มีสูงจนหาทางออกไม่เจอ ปัญหาทั้งหลายในชีวิตนั้น ถ้าเรารู้จักปล่อยวางบางสิ่งเสียบ้าง 
มันก็จะบรรเทาไปได้เยอะ บ่อยครั้งการปล่อยวาง

ไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาเท่านั้น หากเป็นทางออกจากปัญหาเลยทีเดียว 
ความจริงการอยากผลักไสอะไรสักอย่าง ก็เป็นการติดยึดอีกแบบหนึ่งนั่นเอง 
ทั้งๆที่ลิงพยายามถูกำจัดกลิ่นกะปิไปจากมือ ก็อดไม่ได้ที่จะดึงมือมาดมหากลิ่นกะปิ 
ซ้ำแล้วซ้ำเล่ารู้ทั้งรู้ว่ากลิ่นกะปินั้นเหม็น แต่ก็ดมมือไม่ยอมเลิกง่ายๆ ในทำนองเดียวกัน 
ไม่ว่าเราจะโกรธอะไรหรือเกลียดใคร ก็มักดึงสิ่งนั้นหรือคนนั้นเข้ามาในจิตใจ 
ให้ครุ่นคิดเสมอไม่ยอมปล่อยไม่ยอมวางเสียที ทั้งๆ ที่ยิ่งคิดก็ยิ่งทุกข์

ปล่อยวางเสียเถิด แล้วใจเราจะเบาขึ้นเป็นกอง ความทุกข์ทั้งหลาย 
ไม่ว่าจะเป็นเพราะพลัดพรากจากสิ่งที่รัก หรือประสบกับสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา 
ที่มันบีบคั้นกดทับจิตใจเราไม่หยุดหย่อนเสียที ก็เป็นเพราะเราไปยึดไปแบกมันเข้าไว้ทั้งวันทั้งคืน

ในหลายกรณี ความทุกข์ไม่ได้มาจากไหน หากมาจากการยึดติดไม่ยอมปล่อย 
ดังเจ้าลิงหวงถั่วนั่นเอง คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่มีพฤติกรรมเหมือนลิงกำถั่วนี้

Re: ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 25, 2013 10:26 pm
โดย Nevercry.boy
ผมชอบเรื่องนิทานคุณชัยธรครับ

เอาไปใช้กับชีวิตได้หลายมุมเลย

Re: ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 26, 2013 7:25 am
โดย ziannoom
เข้ามาอ่านครับหลังจากห่างจากตลาดไปสามสี่เดือน ไม่ได้ขายนะครับแต่เลือกที่จะไม่ดูก็แค่นั้น
ตลาดดรอปช่วงนี้ ไก้เห็นพี่ๆรุ่นเก่าๆเข้ามาโพสนี่รู้สึกดีจริงๆ

Re: ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 26, 2013 11:45 am
โดย leky
chaitorn เขียน:เป็นข้อเขียนสุดยอดครับ พี่ NB

เพียงปล่อยวางบ้าง สติก็จะกลับมา ปัญญาก็ตามมาพิจารณาให้เห็นตามเป็นจริง เหมือนนิทานนี้ครับ

http://www.chiangmai-thailand.net/tian_ ... -tour.html
ลิงกำถั่ว

 

ในอินเดีย ลิงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับชาวบ้าน เพราะชอบโขมยผลไม้ในสวน 
ชาวบ้านจึงคิดวิธีจับลิง โดยใช้กล่องไม้ซึ่งมีฝาด้านหนึ่งเจาะรูเล็กๆ พอให้ลิงสอดมือเข้าไปได้ 
ในกล่องมีถั่ว ซึ่งเป็นของโปรดของลิงวางไว้เป็นเหยื่อล่อ 
วันดีคืนดีลิงมาที่สวนเห็นถั่วอยู่ในกล่อง ก็เอามือล้วงเข้าไปหยิบถั่ว 
แต่พอถอนมือออกก็ติดฝากล่อง เพราะกำมือของลิงนั้นใหญ่กว่าฝากล่องที่เจาะไว้

ลิงพยายามดึงมือเท่าไหร่ก็ไม่ออก พอชาวบ้านมาจับ ก็ปีนหนีขึ้นต้นไม้ไม่ได้ 
เพราะมีมือเปล่าอยู่ข้างเดียว สุดท้ายถูกคนจับได้ ลิงหาได้เฉลียวใจไม่ว่า 
เพียงแค่มันคลายมือออกเท่านั้น มันก็เอาตัวรอดได้
แต่เพราะยึดถั่วไว้แน่น 
ไม่ยอมปล่อยจึงต้องเอาชีวิตเข้าแลก มีหลายอย่างที่เราอยากได้ใฝ่ฝัน 
จนถึงกับยึดถือไว้อย่างเหนียวแน่น เวลาประสบปัญหา

เพียงแค่คลายสิ่งที่ติดยึดนั้นเสียบ้าง ปัญหาก็คลี่คลาย แต่เป็นเพราะว่าเราไม่ยอมปล่อย 
จึงเกิดผลเสียตามมามากมาย ไม่คุ้มกับสิ่งที่ยึดติด จะชอบหรือพึงพอใจกับอะไรก็ตาม 
อย่าถึงกับยึดติดจนเหนียวแน่นเกินไป เพราะโอกาสที่จะหน้ามืดตามัวนั้น 
มีสูงจนหาทางออกไม่เจอ ปัญหาทั้งหลายในชีวิตนั้น ถ้าเรารู้จักปล่อยวางบางสิ่งเสียบ้าง 
มันก็จะบรรเทาไปได้เยอะ บ่อยครั้งการปล่อยวาง

ไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาเท่านั้น หากเป็นทางออกจากปัญหาเลยทีเดียว 
ความจริงการอยากผลักไสอะไรสักอย่าง ก็เป็นการติดยึดอีกแบบหนึ่งนั่นเอง 
ทั้งๆที่ลิงพยายามถูกำจัดกลิ่นกะปิไปจากมือ ก็อดไม่ได้ที่จะดึงมือมาดมหากลิ่นกะปิ 
ซ้ำแล้วซ้ำเล่ารู้ทั้งรู้ว่ากลิ่นกะปินั้นเหม็น แต่ก็ดมมือไม่ยอมเลิกง่ายๆ ในทำนองเดียวกัน 
ไม่ว่าเราจะโกรธอะไรหรือเกลียดใคร ก็มักดึงสิ่งนั้นหรือคนนั้นเข้ามาในจิตใจ 
ให้ครุ่นคิดเสมอไม่ยอมปล่อยไม่ยอมวางเสียที ทั้งๆ ที่ยิ่งคิดก็ยิ่งทุกข์

ปล่อยวางเสียเถิด แล้วใจเราจะเบาขึ้นเป็นกอง ความทุกข์ทั้งหลาย 
ไม่ว่าจะเป็นเพราะพลัดพรากจากสิ่งที่รัก หรือประสบกับสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา 
ที่มันบีบคั้นกดทับจิตใจเราไม่หยุดหย่อนเสียที ก็เป็นเพราะเราไปยึดไปแบกมันเข้าไว้ทั้งวันทั้งคืน

ในหลายกรณี ความทุกข์ไม่ได้มาจากไหน หากมาจากการยึดติดไม่ยอมปล่อย 
ดังเจ้าลิงหวงถั่วนั่นเอง คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่มีพฤติกรรมเหมือนลิงกำถั่วนี้
อาจจะเพราะการดูการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นมากเกินไป ใจจึงยึดติดกับมูลค่าหุ้นในพอร์ต เมื่อหุ้นลงใจย่อมว้าวุ่น การยึดติดกับมูลค่าหุ้นมากเกินไปอาจจะเหมือนลิงที่ยึดติดอยู่กับถั่วในมือไม่ยอมปล่อย สุดท้ายหุ้นในพอร์ตมิได้ตาย แต่ใจเราจะตายเสียก่อน

นิทานเรื่องนี้แฝงด้วยคำสอนที่คมยิ่งนัก นับถือครับ

Re: ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 28, 2013 7:36 am
โดย leky
Thai VI Article เขียน:

โค้ด: เลือกทั้งหมด

โลกในมุมมองของ Value Investor           27 กรกฎาคม 2556
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ฮอร์โมนกับการลงทุน

	ซีรี่ละครทางเคเบิลทีวีเรื่อง “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” กำลังร้อนแรงเป็นที่กล่าวขวัญกันมากมาย  ก่อนหน้านี้ก็ในหมู่วัยรุ่นที่เป็นเป้าหมายหลักของคนสร้าง  แต่ในขณะนี้สังคมทั่วไปก็ดูเหมือนกับเริ่มเข้ามาสนใจมากขึ้น  ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการที่ผู้แสดงนำวัยรุ่นคนหนึ่งมีข่าวเข้าไปเกี่ยวข้องกับการลองใช้ยาเสพติดในชีวิตจริงที่คล้ายกับละครด้วย  เนื้อหาของละครเป็นเรื่องของชีวิตของเด็กวัยรุ่นที่กำลังเริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปเป็นผู้ใหญ่  และในกระบวนการนั้น  พวกเขาจำนวนมากไม่รู้หรือไม่สามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสมซึ่งก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ  ในชีวิต    การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของเด็กวัยรุ่นที่รุนแรงที่สุดนั้น  แน่นอน  ก็คือเรื่องของเพศที่เด็กหญิงกับเด็กชายจะเริ่มมีความแตกต่างกันมากทั้งในด้านของร่างกายและจิตใจ  ความแตกต่างนี้ในทางชีววิทยาเกิดขึ้นเนื่องจากการทำงานของฮอร์โมนเพศซึ่งสำหรับผู้หญิงก็คือ  Estrogen  และสำหรับเพศชายก็คือ  Testosterone  แต่ว่าที่จริงฮอร์โมนทั้งสองตัวนี้  ไม่ได้มีผลเฉพาะกับวัยรุ่นและความเป็นชายหรือหญิงเท่านั้น  มันยังมีผลต่อความคิด  พฤติกรรม และความสามารถของคนที่แตกต่างกันด้วย  มาดูกันว่า  ฮอร์โมนโดยเฉพาะ  เทสทอสเทอโรนที่มีมากในคนเพศชายมีผลอะไรกับการลงทุนกันบ้าง
	การศึกษาทางชีววิทยาสมัยใหม่นั้นพบว่าฮอร์โมนเทสทอสเทอโรนหรือ  “ฮอร์โมนเพศชาย” นั้น  ทำให้ผู้ชายมักจะมีความสามารถและพฤติกรรมที่แตกต่างจากผู้หญิงที่มีฮอร์โมนเอสโทรเจนหรือ “ฮอร์โมนเพศหญิง” มากกว่า   หลัก ๆ  ก็คือ  ผู้ชายนั้นร่างกายถูก  “ออกแบบ” ผ่านระบบฮอร์โมนโดยเฉพาะเทสทอสเทอโรนให้มีความเหมาะสมกับการเป็น  “นักล่า”  ซึ่งจะต้องแข็งแรงกว่า กล้าเสี่ยงกว่า  และมีความสามารถในการคิดที่เป็นมิติสัมพันธ์เช่น  เรื่องของทิศทาง  ความเร็ว  แผนที่  การคำนวณต่าง ๆ  เพื่อที่จะสามารถเดินทางไปล่าสัตว์และนำอาหารกลับมาเลี้ยงลูกเมียได้  ส่วนผู้หญิงนั้น  ถูกออกแบบผ่านการมีฮอร์โมนเอสโทรเจนมากให้มีความเหมาะสมกับการเป็น  “ผู้เก็บสะสมและดูแลลูก”  ซึ่งจะต้องมีความอ่อนโยน  ไม่ค่อยกล้าเสี่ยง  เข้าใจและสามารถอ่านความรู้สึกของคนอื่นว่าต้องการอะไรมากกว่าผู้ชาย  ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะสามารถดูแลเลี้ยงดูลูกที่ยังเล็กให้อยู่รอดจากภยันตรายต่าง ๆ  
	หลักฐานที่แสดงว่าความแตกต่างที่กล่าวข้างต้นเป็นจริงนั้นมีให้เห็นเต็มไปหมด  ดูกันง่าย ๆ  ก็อย่างเรื่องของการขับรถหรือการทำงานทางด้านของช่างหรือการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ  ที่ต้องอาศัยความแม่นยำนั้น   ผู้ชายจะมีความสามารถสูงกว่าผู้หญิงมาก  แต่ที่จะเกี่ยวข้องกับการลงทุนนั้นผมคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของการคำนวณซึ่งผู้ชายมักจะทำได้ดีกว่าผู้หญิงโดยเฉพาะที่ขยันเรียนเท่ากัน   สถิติของการแข่งขันคณิตศาสตร์หรือฟิสิกส์โอลิมปิกนั้นผมเชื่อว่าเด็กนักเรียนชายนั้นน่าจะได้เหรียญทองมากกว่านักเรียนหญิงมาก   และนี่นำมาสู่ประเด็นว่าผู้ชายมีความสามารถในการวิเคราะห์หุ้นโดยเฉพาะทางด้านเชิงปริมาณสูงกว่าผู้หญิง  และนี่ก็ทำให้ Value Investment ซึ่งต้องอาศัยการวิเคราะห์ตัวเลขค่อนข้างมากนั้น  เป็นสิ่งที่อยู่ในแวดวงของผู้ชายมากกว่าผู้หญิงมาก
	การ “กล้าเสี่ยง” ของผู้ชายที่มีฮอร์โมนเทสทอสเทอโรนมากนั้น  ทำให้ผู้ชายกล้าที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงในขณะที่ผู้หญิงมักจะ Conservative หรืออนุรักษ์นิยมกว่าจึงมักจะไม่กล้าที่จะลงทุนซื้อขายหุ้นมากนัก   หรือถ้าเข้ามาในตลาดหุ้นแล้วก็มักจะไม่กล้าเสี่ยงซื้อหุ้นในปริมาณที่มากเมื่อเทียบกับความมั่งคั่งทั้งหมด  ในทางตรงกันข้าม  ผู้ชายบางคนที่มีเทสทอสเทอโรนสูงกว่าปกติก็อาจจะกล้ารับความเสี่ยงอย่างมากโดยการซื้อขายหุ้นน้อยตัวและอาจจะใช้มาร์จินมาซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นไปอีกอย่างเต็มที่  และนี่อาจจะทำให้ผู้ชายในกลุ่มนี้บางคนสามารถสร้างผลตอบแทนมหาศาลสุดยอดแต่บางคนก็อาจจะขาดทุนจนล้มละลายได้เมื่อเกิดความผิดพลาดหรือสถานการณ์ตลาดไม่เอื้ออำนวย  ความเชื่อของผมก็คือ  โดยเฉลี่ยแล้ว  ความกล้าเสี่ยงมากกว่าไม่ได้ทำให้ผู้ชายชนะในการลงทุนเมื่อเทียบกับผู้หญิง
	สัญชาติญาณของ  “นักล่า”  ของคนที่มีฮอร์โมนเทสทอสเทอโรนมากนั้น  ทำให้ผู้ชายน่าจะชอบเทรดหรือซื้อขายหุ้นมากกว่า  ในขณะที่การเป็นนักเก็บรวบรวมสะสมของผู้หญิงนั้น  น่าจะทำให้ผู้หญิงมีปฏิกริยาหรือซื้อขายหุ้นน้อยกว่าผู้ชาย  พูดง่าย ๆ  ผู้หญิงน่าจะเป็นนักลงทุนระยะยาวที่สร้างผลตอบแทนจากการถือหุ้นหรือธุรกิจที่โตไปเรื่อย ๆ  มากกว่าผู้ชายที่พร้อมที่จะ  “กิน”  นักลงทุนคนอื่นโดยการซื้อหรือขายหุ้นเปลี่ยนตัวหุ้นไปมากกว่าผู้หญิง
	การถูกออกแบบตามธรรมชาติให้เป็น  “ผู้หาอาหาร”  ของผู้ชาย  ในขณะที่เป็น  “คนดูแลบ้านและลูก” ของผู้หญิงนั้น  ทำให้การ  “ลงทุนในหุ้น”  ซึ่งเป็นลักษณะของ   “การหาอาหารยุคใหม่”  เป็นเรื่องของผู้ชายมากกว่าผู้หญิงโดยเฉพาะที่เป็นการลงทุนแบบ  “เพื่อชีวิต”  ที่นักลงทุนทุ่มเททั้งเรื่องของเงิน  เวลา  และชีวิตจิตใจให้กับการลงทุน  จากการสังเกตของผมแล้ว  VI  ผู้มุ่งมั่นในเมืองไทยนั้น  ร้อยละ 90 ยังเป็นผู้ชาย  พูดถึงนักลงทุนรุ่นหนุ่มสาวที่กำลังสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเองนั้น  ส่วนใหญ่แล้วก็ยังเป็นหนุ่มมากกว่าสาวค่อนข้างมาก  ผมเองคิดว่าหน้าที่  “ผู้หาอาหาร”กับ “คนดูแลบ้านและลูก” ในสมัยนี้อาจจะอิงอยู่กับเรื่องเพศน้อยลงไปมากแล้ว  แต่เรื่องของการลงทุนในหุ้นเองนั้น  มันคงอิงอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่างที่ไม่ใช่เรื่องของการ  “หาอาหาร”  เพียงอย่างเดียว  แต่เป็นเรื่องของ  “ความเสี่ยง”  และ  “ความเข้าใจในด้านของตัวเลข” ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องของความถนัดของผู้ชายและเป็นจุดอ่อนของผู้หญิง  ดังนั้น  ผู้หญิงในยุคนี้จึงคงยังไม่สบายใจนักที่จะทำในขณะที่พวกหล่อนต่างก็พร้อมกันออกไป  “หาอาหาร”  โดยการทำงานประจำในธุรกิจต่าง ๆ  ไม่น้อยกว่าผู้ชายไปแล้ว
	ฮอร์โมนเทสทอสเทอโรนนั้น  นิยามของมันอีกอย่างหนึ่งก็คือ  “ฮอร์โมนของผู้ชนะ”  นั่นคือ  ถ้าคุณอยากชนะหรือคนที่จะชนะนั้นคุณจะต้องมีฮอร์โมนตัวนี้ให้มาก  เพราะมันเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นให้คนอยากแข่งขันชิงดีชิงเด่น  ธรรมชาติสร้างผลกระทบนี้ขึ้นมาเพื่อดึงดูดเพศหญิงให้ชอบหรือมองหาผู้ชายที่จะเป็นผู้ชนะซึ่งจะเป็นพ่อที่ดีของลูกและเป็นผู้นำครอบครัว  ดังนั้น  นักลงทุนผู้ชายจึงมักจะเป็นนักลงทุนที่  Aggressive หรือกล้าได้กล้าเสียกว่าผู้หญิง  สิ่งนี้ผมไม่ได้คิดว่าดีหรือไม่ดี  เพราะการกล้ามากเกินไปก็อาจจะทำให้ผิดพลาดร้ายแรงได้   อย่างไรก็ตาม  นักลงทุนที่ระมัดระวังมากนั้น  แม้ว่าโอกาสเสียหายร้ายแรงจะน้อย   แต่โอกาสที่จะโดดเด่นก็ยากเช่นเดียวกัน  ดังนั้น  เราจึงแทบไม่เคยได้ยินเซียนหุ้นระดับโลกที่เป็นผู้หญิงเลย  ครั้งหนึ่งเคยมีข่าวว่ามีชมรมนักลงทุนในสหรัฐที่เป็นผู้หญิงล้วนกลุ่มหนึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมได้และมีการเขียนหนังสือการลงทุนที่มีชื่อเสียงออกมาชื่อ The Beardstown Ladies Common-Sense Investment Guide   แต่หลังจากนั้นก็พบว่าข้อมูลผลตอบแทนที่ใช้อ้างนั้นผิดพลาดและการลงทุนไม่ได้ดีอย่างที่อ้าง    นอกจากนั้น  ถ้าเราดูกันที่ประวัติหรือสถิติของเซียนหุ้นระดับโลกอย่างเช่นที่มีการเขียนเป็นหนังสือออกมาอยู่เรื่อย ๆ  ก็จะพบว่ามีเซียนหุ้นที่เป็นผู้หญิงน้อยมาก ๆ  หรือแทบไม่มีเลย
	“ฮอร์โมนของการลงทุน” นั้น  หรือที่จริงก็คือฮอร์โมนที่มีผลต่อความคิด  ความสามารถ  หรือพฤติกรรมของคน  ยังมีอยู่มากมาย  ตัวอย่างเช่น  ฮอร์โมน  Adrenaline ที่ทำให้คน  “ตอบสนองต่ออันตราย”  อย่างทันท่วงทีเพื่อให้มนุษย์เอาตัวรอดได้ในยามคับขัน  ก็เป็นสิ่งที่น่าจะมีผลต่อการลงทุนไม่น้อย  เพราะนี่ก็คือสิ่งที่ทำให้นักลงทุนขายหุ้นเวลามีข่าวที่  “น่าสะพรึงกลัว”  ทั้งที่มันอาจจะไม่เกี่ยวกับพื้นฐานของกิจการ  ซึ่งทำให้เราเสียประโยชน์ไปมาก  ดังนั้น  เพื่อที่จะทำให้ฮอร์โมนเป็นมิตรกับเรา  สิ่งที่ต้องทำก็คือ  เราต้องรู้และเข้าใจมันและต้องควบคุมมันด้วยเหตุผลที่มีการไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุน
[/size]

Re: ฮอร์โมน นลท. ว้าวุ่น

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 31, 2013 3:07 pm
โดย whiteknight_p
ชอบเรื่องลิงกำถั่วมากครับ
ได้ข้อคิด เตือนสติ มากมายเลยครับ
ขอบคุณครับ