หน้า 1 จากทั้งหมด 1

แรงปรารถนา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 30, 2013 2:40 pm
โดย Thai VI Article

โค้ด: เลือกทั้งหมด

โลกในมุมมองของ Value Investor         29 มิ.ย. 56
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
แรงปรารถนา

	ในช่วงนี้  หรือที่จริงก็เกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ  เรื่อยมา  มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องของพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเข้าไปเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่เป็นของ  “ฆราวาส”  เช่น  การท่องเที่ยวและใช้สิ่งของหรูหราฟุ่มเฟือยหรือการเกี่ยวพันกับผู้หญิงในแบบที่ไม่เหมาะสม   หรือที่ดีขึ้นมาก็คือ  ละเพศบรรพชิตก่อนที่จะอยู่กินกับผู้หญิงที่ได้เข้ามาใกล้ชิดในช่วงที่ยังเป็นพระอยู่   เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ  และก็คงจะเกิดขึ้นต่อไปเรื่อย ๆ  เหตุผลก็เพราะว่า  ความรักและกามารมณ์    รวมถึงการท่องเที่ยวและการใช้ของหรูนั้นเป็นเรื่องของ  “ความต้องการที่รุนแรง” ของมนุษย์ที่แม้แต่พระก็  “ขัดขืน”  ยาก  เพราะมันอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นแค่ใน “สมอง”  ที่เราอาจจะคิดและฝืนมันได้   แต่มันเกิดขึ้นใน  “ยีน” ของคนเราที่ต้องการมันซึ่งบ่อยครั้งสมองก็  “เอาไม่อยู่”
	Mission หรือ “ภารกิจ” หลักของมนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งนั้นก็เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตที่เป็นสัตว์อย่างอื่นนั่นก็คือ  หนึ่ง  จะต้องเอาตัวรอด  ซึ่งก็คือจะต้องกินสิ่งมีชีวิตอื่นและหลีกเลี่ยงการถูกกินหรืออันตรายอื่น ๆ  และสอง  จะต้องสืบพันธุ์ขยายเผ่าพันธุ์หรือยีนของตนเองให้มากที่สุด  ส่วนเรื่องวิธีการที่จะทำให้ได้อย่างนั้นน่าจะต้องถือว่าเป็น “ภารกิจรอง” ยกตัวอย่างเช่น  มีคนเคยสงสัยว่าทำไมอดีตประธานาธิบดีคลินตันจึง  “เสี่ยง”  การสูญเสียตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเพียงเพื่อที่จะได้  “มีเซ็กส์”  กับเด็กฝึกงานคนหนึ่ง  คำตอบของนักวิชาการคนหนึ่งซึ่งผมลืมชื่อไปแล้วก็คือ  นี่เป็นข้อสงสัยของคนที่ไม่เข้าใจเรื่องของชีววิทยาที่แท้จริง   สำหรับนักวิชาการท่านนี้แล้ว  การที่คน “ดิ้นรน” เพื่อที่จะเป็นประธานาธิบดีนั้น  จริง ๆ  ไม่ใช่จุดสุดท้ายหรือเป้าหมายสุดท้ายของเขา  สิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ  ก็คือ  การมีโอกาสมีเซ็กส์เพื่อที่จะสืบทอดเผ่าพันธุ์หรือยีนของเขาต่างหาก  พูดง่าย ๆ  การเป็นประธานาธิบดีนั้นเป็นหนทางสู่การมีอำนาจ  การมีอำนาจเป็นหนทางสู่การอยู่รอดและการสืบพันธุ์ซึ่งเป็นภารกิจหลัก  ดังนั้นการมีเซ็กส์ของคลินตันจะเรียกว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงไม่ได้ในทางชีววิทยา
	ผมเกริ่นมายาวเพื่อที่จะบอกว่าเราจะต้องเข้าใจเรื่องของ  “ความต้องการที่แรงกล้า”  ของคนเพื่อที่จะได้รู้ว่าสินค้าอะไรจะขายดี  บริษัทไหนที่จะมีโอกาสทำกำไรมากและเติบโตได้ดีหรือเป็น  “ซุปเปอร์สต็อก”  ประเด็นหลักก็คือ  อะไรก็ตามที่สนองตอบต่อการเอาตัวรอดและการสืบพันธุ์ของคนหรือถ้าจะให้ถูกต้องกว่าก็คือ “ยีน” ที่ดีขึ้น  สิ่งนั้นก็จะเป็นที่ต้องการมากขึ้น  แต่เคล็ดลับของการดูว่าอะไรคือ “ความต้องการที่แรงกล้า” ของคนนั้น  เราจะต้องมอง  “ย้อนหลัง”  กลับไปยังอดีตที่โลกยังไม่เจริญและมนุษย์ผู้ชายยังมีหน้าที่ล่าสัตว์และมนุษย์ผู้หญิงอยู่ถ้ำเลี้ยงลูกและเก็บของป่าเพื่อประทังชีวิตที่ยากลำบากมาก  พฤติกรรมดังกล่าวนั้นดำรงอยู่มานานนับเป็นหมื่นหรือแสนปีซึ่งทำให้มัน  “ติดอยู่ในยีน” ซึ่งยังดำรงอยู่ในร่างกายของมนุษย์จนทุกวันนี้ส่งผลให้เรามีความสามารถและความต้องการอย่างที่เราเป็นในสังคมปัจจุบัน
นั่นก็คือ
	หนึ่ง  มันทำให้คนเราโดยเฉพาะผู้ชายชอบมีเซ็กส์และมีบ่อย ๆ  มากกว่าผู้หญิงที่จะต้องมั่นใจว่าถ้ามีเซ็กส์และมีลูก  ลูกจะต้องมีโอกาสรอดเพราะผู้ชายที่เป็นพ่อนั้นมีความสามารถ (สมัยก่อนก็คือการล่าสัตว์ สมัยนี้อาจจะเป็นการแสดง  การเล่นกีฬา  การบริหารหรือการลงทุน)  มีปัญญาที่จะหาเลี้ยงครอบครัวได้  สรุปก็คือ  ผู้ชายชอบผู้หญิงสวย (เพราะผู้หญิงสวยคือคนที่มีสุขภาพดีมีหุ่นดีซึ่งจะมีลูกง่าย)  ส่วนผู้หญิงชอบผู้ชายที่ความสามารถสูง  รวยและเป็นผู้นำ  (รวมถึงถ้าตัวสูงก็จะดีเพราะคนตัวโตมักล่าสัตว์ได้ดี)  ประเด็นเรื่องนี้ทำให้สินค้าเกี่ยวกับความสวยงาม  เช่น  เสื้อผ้าสตรี กระเป๋า เครื่องประดับ  เครื่องสำอาง  สถานเสริมสวยทั้งหลายรวมถึงการศัลยกรรมความงามนั้น   เป็นธุรกิจที่ดี  เพราะมันเพิ่มโอกาสให้ผู้หญิงในการสืบต่อเผ่าพันธุ์  มันจึงเป็นความปรารถนาที่แรงกล้าที่ผู้หญิงยินดีจ่าย  ธุรกิจในส่วนของผู้ชายที่น่าจะเป็นความต้องการที่แรงกล้าอาจจะเป็นเรื่องของรถสปอร์ตหรู  มอเตอร์ไซค์แบบหรู  ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเร็ว  การแข่งขันกีฬา  และอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเรื่องของเซ็กส์ทั้งหลาย  เพราะผู้ชายนั้นเป็น “นักล่า”  ดังนั้น  เขามักชอบอะไรที่เป็นเรื่องของความเร็วและการต่อสู้  ซึ่งก็คือการแข่งขันต่าง ๆ  เช่นฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ในปัจจุบัน
	สอง  ในเรื่องของการ “เอาตัวรอด”  นี่ก็มีสินค้ามากมายที่คนยินดีจ่าย  อาหารและการกินนั้น  แน่นอน  เป็นธุรกิจที่ดีเพราะมันเป็นพื้นฐานของการดำรงชีวิต  คนชอบกินอาหารที่มีโปรตีนสูง  เช่นเดียวกับแคลลอรี่สูง  อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันหรือหวานคืออาหารที่  “อร่อย” ในยีนของคน   การเอาตัวรอดของคนในสมัยก่อนนั้นยังรวมถึงการพยายาม “ลดการใช้พลังงาน”  ให้ต่ำลงเพราะอาหารในยุคดึกดำบรรพ์ไม่ได้หาได้ง่าย   ดังนั้น  นี่น่าจะทำให้คนเรา  “ชอบสบาย”  ไม่ชอบทำงานหนัก  เขาชอบที่จะ  “ล่า” สัตว์โดยใช้ความพยายามที่น้อยที่สุด  ดังนั้น  สินค้าของจำเป็นในชีวิตที่ตอบโจทย์เรื่องราคาที่ถูก  สามารถจับจ่ายในที่เดียว  หรือร้านที่ให้ความสะดวกสบายในการซื้อหาจึงเป็นธุรกิจที่ดี
	สาม  เรื่องของความตายนั้นเป็นสิ่งที่คนพยายามหลีกเลี่ยงมากที่สุด  ดังนั้น  อะไรที่สามารถลดความเสี่ยงหรือยืดอายุให้ยาวขึ้นย่อมเป็นธุรกิจที่ดี  ธุรกิจยา  โรงพยาบาล  อาหารเพื่อสุขภาพ  และอื่น ๆ  ต่างก็เป็นธุรกิจที่คนยอมจ่ายแพง ๆ   ถ้าเขามีเงินพอ
	สี่  เรื่องบางอย่างที่คนอาจจะไม่คิดว่าเกี่ยวพันกับความต้องการที่แรงกล้าเช่นกันก็คือ  เรื่องของการเดินทางท่องเที่ยวไปในที่ไกล ๆ  เหตุผลที่คนชอบเดินทางนั้น  เป็นเพราะนี่จะช่วยเพิ่มโอกาสที่คนจะเอาตัวรอดและมีคู่ได้ดีขึ้น  ลองคิดดูว่าถ้ามนุษย์ไม่เดินทางออกไปไกล ๆ  เขาก็คงไม่สามารถขยายเผ่าพันธุ์ไปได้มากเนื่องจากอาหารจะจำกัด  การอยู่แต่ในบริเวณหรือหมู่บ้านแคบ ๆ  พวกเขาก็อาจจะต้องแต่งงานกันเองซึ่งทำให้ยีนนั้นไม่หลากหลายและไม่สามารถต้านทานโรคร้ายบางอย่างได้ ผลก็คือในที่สุดเผ่าพันธุ์ก็อาจจะหมดไป   ดังนั้น  คนจึงชอบเดินทางไปสถานที่ใหม่ ๆ  และนี่ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องนั้นเติบโตไปเรื่อย ๆ  ซึ่งรวมถึงธุรกิจการบิน  โรงแรม  และอื่น ๆ 
	ธุรกิจสุดท้ายที่ผมจะพูดถึงก็คือ ธุรกิจของหรูหราฟุ่มเฟือย  นี่คือ สินค้าที่คนปรารถนาอย่างแรงกล้า  ผมคิดว่าของหรูที่มีราคาแพงนั้นคนต้องการเพราะว่ามันเป็นเครื่องบ่งบอกถึง “ความมั่งคั่ง” หรือความสำเร็จของคนใช้ที่มีปัญญาซื้อของเหล่านั้น  ดังนั้น  มันจึงเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้เพศตรงข้ามเข้ามาหาได้ดีที่สุดอย่างหนึ่ง  ดังนั้น  มันจึงมักเป็นธุรกิจที่ดี
	ก่อนที่จะจบผมจำเป็นที่จะต้องเตือนด้วยว่า  เวลาเราดูว่ามันเป็นธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่ดีนั้น  เรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ  ต้องดูว่าบริษัทไหนที่สามารถสนองตอบต่อความปรารถนาที่แรงกล้านั้นได้แบบโดดเด่นมากและเหนือกว่าคู่แข่งเนื่องจากความได้เปรียบในเชิงโครงสร้างอย่างยั่งยืนหรือไม่  ถ้าไม่ใช่  บริษัทก็อาจจะไม่มีค่าอะไรมากนัก  แต่ถ้าใช่  บริษัทนั้นก็จะมีคุณค่ามาก  และสุดท้ายก็คือ  การวิเคราะห์ในบทความนี้ผมหวังว่าจะไม่ทำให้นักการศาสนา  นักสิทธิมนุษยชนหรือคนที่เป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีเข้าใจผิดว่าผมเป็นคนไม่มีศีลธรรมหรือเหยียดผิวหรือเพศ  เพราะสิ่งต่าง ๆ  เหล่านั้นเป็นเรื่องจริงทางธรรมชาติ  เป็นเรื่องของประวัติหรือวิวัฒนาการของมนุษย์ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงเท่านั้นเอง
[/size]

Re: แรงปรารถนา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 30, 2013 8:33 pm
โดย wwwman
ขอบคุณคับ ได้ข้อคิด และมุมมองอีกแล้วคับ

Re: แรงปรารถนา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 30, 2013 9:11 pm
โดย KHOBJAI
เข้าใจ basic instinct อย่างลึกซึ้ง การลงทุนที่เข้าใจ สัญชาตญาณของมนุษย์

Re: แรงปรารถนา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 01, 2013 9:54 am
โดย uthai.l
ขอบคุณครับ

Re: แรงปรารถนา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 01, 2013 10:44 am
โดย Tibular
เห็นด้วยครับ เป็นการวิเคราะห์ถึงสิ่งที่หลายๆคนอาจยอมรับไม่ได้
ว่าความต้องการพื้นฐานตามธรรมชาติของมนุษย์จะมากำหนด
หรือมีแรงทำให้เกิดพฤติกรรมต่างๆได้ อย่างที่เราๆไม่รู้สึกตัวเช่นนี้

แต่ผมเองก็คิดว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ โดยเห็นได้ชัดมากในสังคม
โดยเฉพาะธุรกิจและกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับความต้องการพื้นฐานเหล่านี้
ต่างเจริญเติบโตได้ดี ไม่เฉพาะในไทย แต่ทั่วโลก ไม่ต่างกันเลย มันกำหนดแนบแน่น
จนกลายเป็นเรื่องธรรมดามาตลอดอารยธรรมของมนุษย์

แล้วเราจะปล่อยให้สิ่งเหล่านี้มากำหนดการดำเนินชีวิตของเราโดยที่เราไม่รู้ตัวหรือครับ?

Re: แรงปรารถนา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 01, 2013 12:28 pm
โดย Carpediem
ขอบคุณค่ะสําหรับแนวคิด

Re: แรงปรารถนา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 01, 2013 1:52 pm
โดย chowbe76
ธุรกิจที่เกี่ยวกับข้อแรก...
โพไซดอน เดวิสกรุ๊ป...
เอิ่มมมมม ถึงว่าสิ

Re: แรงปรารถนา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 01, 2013 2:23 pm
โดย kissme
บทความนี้แรงได้ใจจริงๆ อิอิ ^_^

Re: แรงปรารถนา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 01, 2013 3:16 pm
โดย ddoo7
ผมเห็นด้วยเกือบทั้งหมด เพียงแต่ว่า เราจะวางธุรกิจพวกบุหรี่ น้ำเมา หรือแอลกอฮอร์ไว้ในสัณชาติญานอะไร และทำไมถึงกำไรดี
และธุรกิจที่ถูกศีลธรรมหรือบริษัท ที่มีธรรมภิบาลจะอยู่รอดในสังคมได้มั้ยน้อ

Re: แรงปรารถนา/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 03, 2013 4:40 pm
โดย WHYDOWEFALL
ก็ว่าอยู่ มิน่าธุรกิจอาบอบนวดถึงอยู่รอดมาได้ตั้งแต่โบราณกาล..คนพร้อมที่จะจ่ายเงินก่อนที่จะเห็นสินค้าซะอีก