Thai VI

จาก 1640 ท่านถือหุ้นกี่เปอร์เซนต์ของพอร์ตครับ

ประมาณ 50 ครับ เพราะยังรู้สึกว่าตัวเองยังมีความรู้น้อย แถมยังเริ่มช้า เข้ามาตอนที่ตลาดโตไปไกลมากแล้ว

ตอนนี้ทยอยเก็บเพิ่มเป้น 80% ครับ ส่วนใหญ่จะซื้อตัวที่ลงแรงๆ แต่พฐ.กิจการไม่เปลี่ยน อีก 20% ตั้งใจจะเก็บไว้เพื่อฟองสบู่จะแตกขึ้นมาจริงๆ แต่ตอนนี้ชักเสียวแล้วครับ.... เสียวว่าจะทนเห็นของแดง(ของดีราคาไม่แพง)ไม่ไหว ตอนนี้ได้แต่ปรับพอร์ต ขายตัวตกน้อยออกมาซื้อตัวตกมาก แต่ก็คันไม้คันมืออยากจะซัดแล้วครับ (ยิ่งวันนี้ตัวที่เล็งไว้ราคาวูบไปก่อนปิดตลาดอีกแน่ะ)

ไม่ได้ตั้งใจจะถือ 100 % ครับขายออก เพื่อล็อกกำไร แล้ว
แต่ดันไปตัวเดิมที่ราคาไม่ค่อยลง เข้าใหม่ตอนวัน set+ กว่า 50จุด
ตอนนี้มันดันลงมาหลายวันแล้ว กำลังชั่งใจว่าเอาไงดี
เปลี่ยนม้ากลางศึก จะดีไหมหนอ

ผมถือหุ้น100%เพราะผมเดาทางตลาดไม่ออกจริงๆแต่ที่พอรู้ก็คือเส้นทางของบริษัทที่ถืออยู่
ภายุมันแรงแต่ถ้าเรารู้ว่าเรือมันจะไปสู่เกาะที่มีผลไม้ข้าวปลาให้กินตลอดล่ะก้อ หวังว่าเรือทุกคนจะแข่งแกร่งน่ะคร้าบ

เท่ากับ 1650 เพิ่ม LTF RMF อีกนิดหน่อย

100% เหมือนเดิม ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินเก็บกระสุนก่อนครับ...

อันนี้
พอดีไปอบรม รุ่นที่ 3
คุณกับพี่หมูแดงก็ดี และ ท่านอื่นในกลุ่ม ที่นำเสนอ erw
บอกเลย ว่า ลด port ที่ลดอันเรื่องจากว่า safety ไม่มี
ซึ่งเป็นความดวงดี ทำให้ยาดเจ็บหนัก
ประกับการลดลง ของการถือครองหลักทรัพย์ ค่อย คัท ค่อย คัท
ไปแบบไม่เสียดาย เพราะตอนนั้น safety หมดจริงๆๆ
หมดในที่นี้คือ เงินสดหมด อยู่ในหุ้นหมด และต้องมี safety อย่างรวดเร็ว
คิดไปถ้าหากไม่ได้ไปเรียน tvi รุ่น 3 คงจะหนักกว่านี้

เอ สรุปได้มั๊ยครับว่าส่วนใหญ่ดอย อ่ะ ล้อเล่ง

ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่ใน TVI ไม่ดอย
ขาดทุนก็ คงไม่ได้ขาดทุนมากนัก

แต่ขาด ทุนทรัพย์ จะเก็บเพิ่ม
คิดว่าส่วนใหญ่ wealth หดไปมากก

สองเดือนก่อน มีแต่ มองว่า ยาวไป ผลประกอบการ q1-2556 บ. ก็โตกระฉูดหลายบริษัท มีแต่ข่าวการลงทุนใหญ่ในรอบ 15 ปี, urbanization, AEC
พอสองเดือนให้หลัง สถานการณ์โลก กับข่าว หน้ามือเปนหลังเท้า

ผมเองคิดว่า QE จะ tapering แน่ ถ้าสหรัฐดีขึ้น แต่ไม่คิดว่า ตลาด ตอบสนองต่อการtapering 1ปี ดุเดือดปานนี้
เกินที่คาดไปมากมาย

จนตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่า จะไป bottom ตรงไหน
ถ้าลงทุน เพื่อ อนาคต อีก 10 -15ปี ครั้งนี้ การลงครั้งนี้อาจจะเปน noise ก็ได้ เมื่อมองกลับมา

สุดท้าย เวลาจะเปนเครื่องพิสูจน์
ว่าแต่ฟ้าหลังฝน มะไรจะมาซะที

ตอนดัชนี 1640 ผมก็ร้อยเปอร์เซนครับ..ก่อนหน้าก็ร้อยเปอร์เซนต์ครับ
วันนี้ก็ร้อยเปอร์เซนต์ครับ....(ว่าแต่ว่าพี่ NB จะนำข้อมูลตรงนี้มาวิเคราะห์ในประเด็นอะไรหรือครับ)

ทุกท่านที่คิดว่าข้าศึกเป็นทัพ QE ล้วน

ลอง google คำว่า China Credit Crunch ครับ ได้ยินคำนี้แล้วคุ้นๆ กับสมัย Credit Crunch สมัยซับไพรม์ไหมครับ

โกโก้ครันช์เมนูนี้พึ่งออกมาสดๆ อาทิตย์ที่แล้ว พึ่งโปรโมทออกสื่อกันหนักๆ ก็คืนนี้แหละครับ
ไม่แน่ใจว่าจะสร้างชื่อระบือลั่นในฐานะ หมี่เกี้ยว Crisis ต่อจากต้มยำกุ้ง แฮมเบอเกอร์ได้หรือไม่ต้องติดตามครับ

ลด QE ลำพังคงเฉยๆ แต่ถ้ามีหมี่เกี๊ยว Credit Crunch... ฟิวชั่นรวมร่างกัน อันนี้ไม่แน่ใจตลาดจะตอบรับยังไงครับ

ถือ100% อยู่ครับ ถ้าเทียบกับต้นปี ก็ ขาดทุนพอ ๆ กับตลาด คือ ขาดทุนในระดับ 2 % แต่ถ้าเทียบกับตอนที่สูงสุดแล้ว ตอนนี้ขาดทุนกำไรไป 31% หมายถึงมูลค่าที่คิดเป็นเงินแล้วลดมูลค่าไป 31% เนื่องจากลงทุนมายาว มีการสะสมกำไรไว้ตลอดเลยยังกำไรใน port อยู่ ผมว่าขณะนี้น่าจะใกล้จุดต่ำสุดแล้ว รอบนี้ต่ำสุดน่าจะประมาณดัขนี 1250 จุด คงไม่ต่ำกว่านี้แล้ว รอหาเงินซื้อเพิ่มอย่างเดียว หรือไม่ก็ต้องสับเปลี่ยน พวก RMF ที่เป็นตราสารหนี้ มาเป็น ตราสารทุน ในกรณีที่ไม่มีเงินมาเพิ่มแล้ว....... ไหน ๆ จะเสี่ยงและอยู่กับหุ้นก็ต้องทำแบบนี้ อย่าไปคิดอะไรมากเลยครับ.....ตอนนี้ต้องพยายามทำจิตใจให้สงบ ร่าเริง และรอปันผลกลางปีที่จะออกในเดือนสิงหาคม-กันยายน นี้...แล้วก็ลงทุนต่อไป การลงทุนก็หาหุ้นที่ปันผลสม่ำเสมอ และกิจการค่อย ๆ ขยับ เป็นดีที่สุด ส่วนจะได้กำไรจากราคาหุ้นหรือไม่ก็แล้วแต่ว่ามีนักลงทุนแบบเรามากแค่ไหน....ผมมีทำ excel และดู present value ของ port ที่ขยับลดลงเรื่อย ๆ แต่สิ่งที่ไม่ขยับลดลงก็คือ ปันผลที่คาดว่าจะได้ ต้องเป็นไปตามที่เราคำนวณเอาไว้ นั่นแหละความสุขของการลงทุนครับ

(เก็บไว้อ้างอิง เมื่อวาน 24/6/56 ดัชนีปิดที่ 1364.09)

ลุงขวด เขียน:ถือ100% อยู่ครับ ถ้าเทียบกับต้นปี ก็ ขาดทุนพอ ๆ กับตลาด คือ ขาดทุนในระดับ 2 % แต่ถ้าเทียบกับตอนที่สูงสุดแล้ว ตอนนี้ขาดทุนกำไรไป 31% หมายถึงมูลค่าที่คิดเป็นเงินแล้วลดมูลค่าไป 31% เนื่องจากลงทุนมายาว มีการสะสมกำไรไว้ตลอดเลยยังกำไรใน port อยู่ ผมว่าขณะนี้น่าจะใกล้จุดต่ำสุดแล้ว รอบนี้ต่ำสุดน่าจะประมาณดัขนี 1250 จุด คงไม่ต่ำกว่านี้แล้ว รอหาเงินซื้อเพิ่มอย่างเดียว หรือไม่ก็ต้อง swift พวก RMF ที่เป็นตราสารหนี้ มาเป็น ตราสารทุน ในกรณีที่ไม่มีเงินมาเพิ่มแล้ว....... ไหน ๆ จะเสี่ยงและอยู่กับหุ้นก็ต้องทำแบบนี้ อย่าไปคิดอะไรมากเลยครับ.....ตอนนี้ต้องพยายามทำจิตใจให้สงบ ร่าเริง และรอปันผลกลางปีที่จะออกในเดือนสิงหาคม-กันยายน นี้...แล้วก็ลงทุนต่อไป การลงทุนก็หาหุ้นที่ปันผลสม่ำเสมอ และกิจการค่อย ๆ ขยับ เป็นดีที่สุด ส่วนจะได้กำไรจากราคาหุ้นหรือไม่ก็แล้วแต่ว่ามีนักลงทุนแบบเรามากแค่ไหน....ผมมีทำ excel และดู present value ของ port ที่ขยับลดลงเรื่อย ๆ แต่สิ่งที่ไม่ขยับลดลงก็คือ ปันผลที่คาดว่าจะได้ ต้องเป็นไปตามที่เราคำนวณเอาไว้ นั่นแหละความสุขของการลงทุนครับ

ยิ่งใหญ่ครับ

เหลืออยู่แค่ 5% ครับ ต้องบอกว่า โชคดีสุดๆ
เหตุผลคือ ผมมองทุกอย่างเป็นความเสี่ยงครับ
ถ้าความเสี่ยงสูง เราก็ถอยออกมาได้
ยอมเสียโอกาส แต่ไม่ยอมขาดทุนครับ
ที่สำคัญกำไรปีนี้ได้ตามเป้าหมายที่วางแผนไว้แล้ว
ก็ไม่จำเป็นต้องรีบอะไร
ตอน Subprime ก็ทำแบบนี้ อาจเสียโอกาสไปบ้าง
แต่รอจังหวะเหมาะๆ ดีกว่า

(สุดท้าย ผมคิดว่าบอกไม่ได้หรอกครับว่าคิดถูกหรือคิดผิด จนเหตการณ์มันเฉลยออกมา)

ลุงขวด เขียน:ถือ100% อยู่ครับ ถ้าเทียบกับต้นปี ก็ ขาดทุนพอ ๆ กับตลาด คือ ขาดทุนในระดับ 2 % แต่ถ้าเทียบกับตอนที่สูงสุดแล้ว ตอนนี้ขาดทุนกำไรไป 31% หมายถึงมูลค่าที่คิดเป็นเงินแล้วลดมูลค่าไป 31% เนื่องจากลงทุนมายาว มีการสะสมกำไรไว้ตลอดเลยยังกำไรใน port อยู่ ผมว่าขณะนี้น่าจะใกล้จุดต่ำสุดแล้ว รอบนี้ต่ำสุดน่าจะประมาณดัขนี 1250 จุด คงไม่ต่ำกว่านี้แล้ว รอหาเงินซื้อเพิ่มอย่างเดียว หรือไม่ก็ต้อง swift พวก RMF ที่เป็นตราสารหนี้ มาเป็น ตราสารทุน ในกรณีที่ไม่มีเงินมาเพิ่มแล้ว....... ไหน ๆ จะเสี่ยงและอยู่กับหุ้นก็ต้องทำแบบนี้ อย่าไปคิดอะไรมากเลยครับ.....ตอนนี้ต้องพยายามทำจิตใจให้สงบ ร่าเริง และรอปันผลกลางปีที่จะออกในเดือนสิงหาคม-กันยายน นี้...แล้วก็ลงทุนต่อไป การลงทุนก็หาหุ้นที่ปันผลสม่ำเสมอ และกิจการค่อย ๆ ขยับ เป็นดีที่สุด ส่วนจะได้กำไรจากราคาหุ้นหรือไม่ก็แล้วแต่ว่ามีนักลงทุนแบบเรามากแค่ไหน....ผมมีทำ excel และดู present value ของ port ที่ขยับลดลงเรื่อย ๆ แต่สิ่งที่ไม่ขยับลดลงก็คือ ปันผลที่คาดว่าจะได้ ต้องเป็นไปตามที่เราคำนวณเอาไว้ นั่นแหละความสุขของการลงทุนครับ

รบกวนสอบถามลุงขวดคร้าบว่าทำไมลุงขวดถึงมอง1250น่าจะเป็นจุดต่ำสุดเหรอครับ

แรงขายต่างชาติใกล้จะหมดแล้ว .....ถ้าดัชนีลงต่ำกว่า 1250 จุด แสดงว่า เศรษฐกิจโลกต้องเลวร้ายมากและกระทบต่อประเทศของเรา หรือ อาจเป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ ก็คือ เศรษฐกิจประเทศของเราล้มเหลว มีเรื่องต่าง ๆ ที่ไม่ดีเกิดขึ้นตลอด นั่นแหละจะทำให้ดัชนีเราต่ำกว่า 1250 จุด ขออย่าให้เกิดขึ้นเลยครับ ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น

ลุงขวด เขียน:แรงขายต่างชาติใกล้จะหมดแล้ว .....ถ้าดัชนีลงต่ำกว่า 1250 จุด แสดงว่า เศรษฐกิจโลกต้องเลวร้ายมากและกระทบต่อประเทศของเรา หรือ อาจเป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ ก็คือ เศรษฐกิจประเทศของเราล้มเหลว มีเรื่องต่าง ๆ ที่ไม่ดีเกิดขึ้นตลอด นั่นแหละจะทำให้ดัชนีเราต่ำกว่า 1250 จุด ขออย่าให้เกิดขึ้นเลยครับ ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น

ขอบคุณลุงขวดครับสำหรับความคิดเห็น

ตอนนี้มีเงินสด 14% ครับ
ตอนเกิน 1600 มานิดหน่อย เพื่อนๆ กับผมนั่งคิดกันว่านี่มันมากไปละลดหน่อยดีกว่า
ลดๆ จนมีเงินสด 50%
เห็นหุ้นตัวนึง upside เยอะ เลยมือบอน ซื้อไปซื้อมามีมากกว่า 60% ของ port
หันมาอีกที เห้ย ซื้อเยอะไปปะ
แล้วราคาก็ไหลลงๆ ตอนนี้เทียบ peak ของปีกำไรหาย 40% แต่เทียบต้นปียังกำไร 6%
อย่างไรก็ตาม จากที่คุยๆ กับเพื่อน (เดากันเล่นๆว่ามี 10XX-11XX ลากยาวถึงตุลา)
คาดว่ากำไรคงกลายเป็นขาดทุน
ทั้งๆ ที่เคยคิดไว้ว่า ถ้ามันมีวิกฤติอีกที ต้องรวยให้ได้แล้วแท้ๆ

ขอตั้งอนุสรณ์สถานไว้สำหรับความมือบอนของตัวเองครับ
ต่อไปนี้จะจำไว้ว่า อย่าเทในหุ้นใดหุ้นหนึ่งมากไป
โดยเฉพาะหุ้นที่ยังมีบางอย่างไม่ชัดเจนนัก แม้ trend มาแน่แต่ต้องรอเวลา
เพราะมันทำให้หุ้นตัวนั้นต้องใช้เวลาในการพิสูจน์นานยิ่งขึ้นไปอีก
หากหุ้นมันตกหนักๆ
เราก็จะเสียโอกาสในการเอาเงินไปหมุนก่อน

ตอนนี้เริ่มกลัว แรงขายจากกองทุน แทน แล้วครับ ถ้าดัชนีลงมากๆจนเกิด mass crisis ทางจิตวิทยา กลุ่มผู้ซื้อLTF เมื่อ5-6ปีก่อนที่มีต้นทุนตอนดัชนีราวๆ400-500จุดที่มีกำไรพอสมควรเกิดอยากขายพร้อมๆกันขึ้นมาเพื่อ nails down พอร์ตตัวเอง แล้วกองทุนขาดสภาพคล่องขึ้นมา ก็น่ากลัวครับ

หวังว่าคงไม่เกิดขึ้นนะครับ

ผมก็คงเป็นหนึ่งในวีไอส่วนมากครับ 100% ท่าน NB
stay calm stay invested ครับผม

dome@perth เขียน:ผมก็คงเป็นหนึ่งในวีไอส่วนมากครับ 100% ท่าน NB
stay calm stay invested ครับผม

ขอบคุณท่านโดมอย่างสูงครับ และคำแนะนำสั่งสอนของหลาย ๆ ท่าน

ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้ไม่ perfect จริง ๆ แล้วมันเป็นเสน่ห์ของมันที่มันจะไม่ perfect

stay calm, stay invest ครับ

30/70ครับ เงินสด70 ถอยมารอปูซานครับ +/- 50 จุด

มันเหมือนการเล่นบริค ครับ เราต้องอ่านใจกันมากๆ

อย่างน้อยโอกาศช๊อบของถูกย่อมมีมากครับ ทำตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่เดือนกุมภา-มีนาครับ

คล้ายการเล่นไพ่ตีแตก ถ้าไพ่ไม่ดี สู้ก้ไปก้เจอเค้าตีแตก

สู้รอเราถือไพ่ดีๆ ทีนี้ก้ยาว ถือกันลืม ขอ ไพ่แบบ 4A แบบนี้ครับ


บางตัวแม้จะถูก แต่อารมณ์ตลาดยังไม่ดี ต่อเพิ่มอีกสักหน่อยจะเป็นไรไปครับ

ไหนๆเค้าก้ลดราคาแล้ว 555+

ตัดแต่งกิ่งไป 20% เหลือใน port 80% ว่าจะรอซื้อคืนตอน panic sells ตอนนี้ก็ยังรีๆรอๆอยู่คะ plan ว่าถ้า SET ต่ำกว่า 1300 จะเริ่มเก็บคืนมั่ง แล้วค่อยๆใส่เงินเพิ่ม ... ตอนนี้ได้แต่นั่งมองport ที่ขาดทุนกำไรไปแล้ว 50% ... โชคดีที่ port มีแต่หุ้นปันผลและถือยาวๆ เหมือนลุงขวดคะ เลยใจเย็นนั่งมองตลาดได้เพราะยัง happy กับเงินปันผลอยู่ ...

่่ของผม portติดลบนะตอนนี้ -25%มือใหม่ครับไม่รู้จะทำยังไงขอคำแนะนำด้วยครับ

Percen เขียน:่่ของผม portติดลบนะตอนนี้ -25%มือใหม่ครับไม่รู้จะทำยังไงขอคำแนะนำด้วยครับ

มือใหม่เหมือนกันครับ เข้าใจความรู้สึก แต่อาจช่วยไม่ได้มากนะครับ

ถ้าถามอาจารย์ vi หลายท่านของผม ทุกคนคงบอกว่าอย่าไปสนใจกับราคาที่ตลาดให้ในตอนนี้ครับ สนใจที่กิจการของบริษัทที่เราลงทุนอยู่ดีกว่าเรารู้จักกิจการดีพอหรือไม่ บริษัทที่เราถือเป็นบริษัทที่ดีหรือไม่ เราได้มีการคำนวณมูลค่าที่แท้จริง หรือประเมินอนาคตของกิจการหรือไม่ ทัศนคติของผู้บริหารเป็นอย่างไร ถ้าเราตอบคำถามทุกข้อได้หมดแล้ว ก็ปิดหน้าจอคอมแล้วไปหาอะไรทำที่มันจรรโลง รอคอยจนกว่าสถานการณ์ตลาดหุ้นตกต่ำในช่วงนี้จะผ่านไป แล้วตลาดจะกลับมาให้ค่า premium กับกิจการที่เราถือไว้เองครับ

ไม่รู้ว่ากำลังเตือนคุณ Percen อยู่หรือเตือนตัวเองอยู่เหมือนกันนะครับ 555

นายมานะ เขียน:

Percen เขียน:่่ของผม portติดลบนะตอนนี้ -25%มือใหม่ครับไม่รู้จะทำยังไงขอคำแนะนำด้วยครับ

มือใหม่เหมือนกันครับ เข้าใจความรู้สึก แต่อาจช่วยไม่ได้มากนะครับ

ถ้าถามอาจารย์ vi หลายท่านของผม ทุกคนคงบอกว่าอย่าไปสนใจกับราคาที่ตลาดให้ในตอนนี้ครับ สนใจที่กิจการของบริษัทที่เราลงทุนอยู่ดีกว่าเรารู้จักกิจการดีพอหรือไม่ บริษัทที่เราถือเป็นบริษัทที่ดีหรือไม่ เราได้มีการคำนวณมูลค่าที่แท้จริง หรือประเมินอนาคตของกิจการหรือไม่ ทัศนคติของผู้บริหารเป็นอย่างไร ถ้าเราตอบคำถามทุกข้อได้หมดแล้ว ก็ปิดหน้าจอคอมแล้วไปหาอะไรทำที่มันจรรโลง รอคอยจนกว่าสถานการณ์ตลาดหุ้นตกต่ำในช่วงนี้จะผ่านไป แล้วตลาดจะกลับมาให้ค่า premium กับกิจการที่เราถือไว้เองครับ

ไม่รู้ว่ากำลังเตือนคุณ Percen อยู่หรือเตือนตัวเองอยู่เหมือนกันนะครับ 555

สิ่งหนึ่งที่เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าที่ผมเคยได้ทดสอบมาก็คือ การได้ถือหุ้นแบบยาวๆ ตั้งแต่ราคาเป็นบวกและเริ่มติดลบไปเรื่อยๆ แบบน่าใจหาย จนกระทั่งเวลาผ่านไปจนมันก็กลับมาเป็นบวกอีก (ตอนราคามันร่วง ไม่เคยจินตนาการออกเลยว่าราคามันจะกลับมาอยู่ที่เดิมได้ ตอนนั้นมีแต่ข่าวร้ายๆ)

ถึงวันนี้เข้าใจแล้วว่า ราคาเป็นแค่ภาพลวงตา คุณค่าเป็นของจริง

ลุงขวด เขียน:ถือ100% อยู่ครับ ถ้าเทียบกับต้นปี ก็ ขาดทุนพอ ๆ กับตลาด คือ ขาดทุนในระดับ 2 % แต่ถ้าเทียบกับตอนที่สูงสุดแล้ว ตอนนี้ขาดทุนกำไรไป 31% หมายถึงมูลค่าที่คิดเป็นเงินแล้วลดมูลค่าไป 31% เนื่องจากลงทุนมายาว มีการสะสมกำไรไว้ตลอดเลยยังกำไรใน port อยู่ ผมว่าขณะนี้น่าจะใกล้จุดต่ำสุดแล้ว รอบนี้ต่ำสุดน่าจะประมาณดัขนี 1250 จุด คงไม่ต่ำกว่านี้แล้ว รอหาเงินซื้อเพิ่มอย่างเดียว หรือไม่ก็ต้อง swift พวก RMF ที่เป็นตราสารหนี้ มาเป็น ตราสารทุน ในกรณีที่ไม่มีเงินมาเพิ่มแล้ว....... ไหน ๆ จะเสี่ยงและอยู่กับหุ้นก็ต้องทำแบบนี้ อย่าไปคิดอะไรมากเลยครับ.....ตอนนี้ต้องพยายามทำจิตใจให้สงบ ร่าเริง และรอปันผลกลางปีที่จะออกในเดือนสิงหาคม-กันยายน นี้...แล้วก็ลงทุนต่อไป การลงทุนก็หาหุ้นที่ปันผลสม่ำเสมอ และกิจการค่อย ๆ ขยับ เป็นดีที่สุด ส่วนจะได้กำไรจากราคาหุ้นหรือไม่ก็แล้วแต่ว่ามีนักลงทุนแบบเรามากแค่ไหน....ผมมีทำ excel และดู present value ของ port ที่ขยับลดลงเรื่อย ๆ แต่สิ่งที่ไม่ขยับลดลงก็คือ ปันผลที่คาดว่าจะได้ ต้องเป็นไปตามที่เราคำนวณเอาไว้ นั่นแหละความสุขของการลงทุนครับ

ขอบคุณแนวทางการลงทุนของคุณ "ลุงขวด" ครับ...^^)
ของผมดูทั้งปันผล และมูลค่าของพอร์ตครับ ตอนนี้โตกว่าปีที่แล้วทั้ง 2 ส่วนครับ
(แต่มูลค่าพอร์ตโตน้อยกว่าตอนต้นปี...T-T)

ลุงขวด เขียน:ถือ100% อยู่ครับ ถ้าเทียบกับต้นปี ก็ ขาดทุนพอ ๆ กับตลาด คือ ขาดทุนในระดับ 2 % แต่ถ้าเทียบกับตอนที่สูงสุดแล้ว ตอนนี้ขาดทุนกำไรไป 31% หมายถึงมูลค่าที่คิดเป็นเงินแล้วลดมูลค่าไป 31% เนื่องจากลงทุนมายาว มีการสะสมกำไรไว้ตลอดเลยยังกำไรใน port อยู่ ผมว่าขณะนี้น่าจะใกล้จุดต่ำสุดแล้ว รอบนี้ต่ำสุดน่าจะประมาณดัขนี 1250 จุด คงไม่ต่ำกว่านี้แล้ว รอหาเงินซื้อเพิ่มอย่างเดียว หรือไม่ก็ต้อง swift พวก RMF ที่เป็นตราสารหนี้ มาเป็น ตราสารทุน ในกรณีที่ไม่มีเงินมาเพิ่มแล้ว....... ไหน ๆ จะเสี่ยงและอยู่กับหุ้นก็ต้องทำแบบนี้ อย่าไปคิดอะไรมากเลยครับ.....ตอนนี้ต้องพยายามทำจิตใจให้สงบ ร่าเริง และรอปันผลกลางปีที่จะออกในเดือนสิงหาคม-กันยายน นี้...แล้วก็ลงทุนต่อไป การลงทุนก็หาหุ้นที่ปันผลสม่ำเสมอ และกิจการค่อย ๆ ขยับ เป็นดีที่สุด ส่วนจะได้กำไรจากราคาหุ้นหรือไม่ก็แล้วแต่ว่ามีนักลงทุนแบบเรามากแค่ไหน....ผมมีทำ excel และดู present value ของ port ที่ขยับลดลงเรื่อย ๆ แต่สิ่งที่ไม่ขยับลดลงก็คือ ปันผลที่คาดว่าจะได้ ต้องเป็นไปตามที่เราคำนวณเอาไว้ นั่นแหละความสุขของการลงทุนครับ

สมกับที่เป็น "มือเก่า" จริง ๆ ครับ คุณลุงขวดผ่านวิกฤติมาหลายครั้ง หนักแน่นไม่อ่อนไหวจริง ๆ ครับ

คุณ "Nevercry.boy" ครับ ของผมจัดอยู่ในส่วนไหนไม่ทราบอะครับ...-_-??)
เงินที่ไว้ลงทุนในหุ้นก็อยู่ในหุ้น 100% ครับ แต่ถ้าเงินทั้งหมดที่มีอยู่ในหุ้น 30% ครับ
ที่เหลืออยู่ในสินทรัพย์อื่นครับ ผมยึดหลัก "หากเงินที่อยู่ในหุ้นเป็น 0 จะต้องไม่กระทบ
ต่อการดำเนินชีวิตของเราและครอบครัว" ครับ....^^)

100ครับ