หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 28, 2013 5:46 pm
โดย charnengi
สอบถามความเห็นครับ ว่าคิดว่าอุตสาหกรรม IT จะสามารถฟื้นตัวได้มั้ย จากเหตุการณ์ปัจจุบันที่ทั้ง wholesale ทั้ง retail ต่างมียอดขายลดลง

หรือว่าจะกลายเป็นตะวันตกดินยาวๆ ไป

Re: ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 28, 2013 5:47 pm
โดย charnengi
มีใครเคยเห็นอุตสาหกรรม.IT หดตัวรึเปล่าในอดีต ถ้ามีเป็นช่วง ปี พ.ศ. ไหนครับ จะไปหาข้อมูลเพิ่ม

Re: ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 28, 2013 7:38 pm
โดย OutOfMyMind
ตัวสินค้าไอทีไม่มีหดครับ ช่องทางจัดจำหน่ายต่างหากที่เปลี่ยนไปตามไลฟสไตล์ของลูกค้า

Re: ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 28, 2013 10:33 pm
โดย wk0966
IT หมวดไหนล่ะครับ ที่หดแน่ๆ ในระยะสั้น PC NB ครับ คนจะหันไปใช้ มือถือ tablet กัน
หดเนี่ย อาจจะทั้ง จำนวน ราคาต่อหน่วย แล้ว กำไรต่อหน่วย

ช่วงปลายมี.ค ผมหิ้ว NB เที่ยวเกาะ รู้สึกอาย เชย ยังงัยไม่รู้ครับ
ในระยะยาว ความจำเป็นในการใช้ PC คงเหลืออยู่แค่ตามโต็ะทำงาน

ในอนาคต app ใช้งานต่างๆของ บริษัท ยังถูกจับใส่ลงไปใน มือถือ tablet ได้ด้วยเลย
ทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลาจิงๆ

Re: ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 28, 2013 10:42 pm
โดย ส.สลึง
ผมเปลี่ยน tablet ไป 2 เครื่องแล้ว
แต่ยังใช้ notebook ตัวเดิมอยู่ครับ

Re: ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 29, 2013 12:06 am
โดย AleAle
ผู้ค้าปลีก กับผู้ค้าส่ง ใครจะปรับตัวได้ยากง่ายกว่ากันครับ

Re: ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 29, 2013 12:42 am
โดย vim
คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะกับร้านประกอบคอมก็หายไปเยอะนะครับ ผมคิดว่าแนวโน้มจะไม่กลับมารุ่งเหมือนนอดีต แต่ก็จะไม่ตายเพราะมีตลาดเฉพาะอยู่ สินค้าไอทีอย่างโน้ตบุคและมือถือก็อาจจะเป็นแบบเดียวกันในอนาคต

Re: ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 29, 2013 10:05 am
โดย killyX
อุตสาหกรรม IT ไม่ได้หดตัวเพียงแต่เทรนด์เปลี่ยน แล้วต้องมาวิเคราะห์ Product life cycle ของสินค้าและดูว่าบริษัทใดในไทยจำหน่ายสินค้าหลักอยู่ในช่วงใด ซึ่งนักลงทุนส่วนมากจะดูตัวเลขเชิงปริมาณจากงบการเงิน เช่น ยอดขาย กำไร ลูกหนี้การค้า และอัตราแลกเปลี่ยน ไม่ค่อยมีใครจะวิเคราะห์ PLC ของสินค้าหลักที่ขายของบริษัทที่ลงทุนกัน
Product life cycle
http://inging10.blogspot.com/2009/07/pr ... cycle.html

ถ้าลองอ่านประวัติศาสตร์ IT ในตอนแรกเริ่มคนที่ครองตลาด PC เป็น APPLE แล้วก็ถูก IBM มายึดแล้วก็เป็น HP แล้วก็เป็น DELL เพราะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าเจ้าอื่น(Cost leadership)

ลองมาดูงบการเงินของผู้นำใน IT Global trend
ดู Revenue และ Operating income ของกลุ่มนี้นี้โตในอัตราเพิ่มขึ้น หมายถึงอยู่ใน Growth stage
ของ Product life cycle
APPLE (Hardware & Software)
http://www.google.com/finance?q=NASDAQ% ... IMuhkgXuYA
SAMSUNG (Hardware)
http://www.samsung.com/us/aboutsamsung/ir/newsMain.do
GOOGLE (Software)
http://www.google.com/finance?q=NASDAQ% ... O8bNlAWHEQ

แล้วลองมาดูผู้ที่เคยเป็นผู้นำตลาด IT ในอดีต
ดู Revenue และ Operating income ของกลุ่มนี้ลดลงซึ่งอยู่ในช่วงหดตัว (Decline) และ บางตัวโตในอัตราที่ลดลงอย่าง Microsoft ซึ่งอยู่ในช่วงอิ่มตัว (Maturity)
DELL (Hardware)
http://www.google.com/finance?q=NASDAQ% ... jcySBf-GAQ
HP (Hardware)
http://www.google.com/finance?q=NYSE%3A ... FoivkgXdWg
MICROSOFT (Software)
http://www.google.com/finance?q=NASDAQ% ... H8azkAXuYg

ผู้นำตลาด IT ในอดีตที่เปลี่ยนแนวทางมาเน้น IT solution Service หลีกการแข่งขันพวกยักษ์ IT ทั้งหลาย ซึ่งปู่วอเรนก็ได้มาลงทุนในบริษัทนี้ด้วย
IBM (IT Service)
http://www.google.com/finance?q=NYSE%3A ... G8jVkgW5Pw

การจะหวังให้หุ้นของบริษัทที่ลงทุนเป็น Growth stock เพราะอยู่ในอุตสาหกรรมเติบโต (Sunrise Industry)
แต่บริษัทยังขายสินค้าที่ Product life cycle ที่อยู่ในช่วงอิ่มตัว (Maturity) และหดตัว (Decline) อาจจะยากเกินไปที่จะเติบโต

Re: ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 29, 2013 12:11 pm
โดย syj
ส.สลึง เขียน:ผมเปลี่ยน tablet ไป 2 เครื่องแล้ว
แต่ยังใช้ notebook ตัวเดิมอยู่ครับ
คล้ายกันครับ ถ้า PC ไม่พังแบบซ่อมไม่ได้คงไม่เปลี่ยนใหม่
NB นี่แทบไม่ได้จับเลยครับ ... iPad1, 2, 3 รอ iPad5 อยู่ ...

Re: ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 29, 2013 12:19 pm
โดย syj
ที่จริงแล้ว ตลาดมือถือ Smartphone ก็ไม่ได้ดีโดดเด่นอะไรนะครับ
เพราะเครื่อง 3G ส่วนใหญ่ที่ขายก็รองรับกับ ระบบ 3G-2100 อยู่แล้ว
เป็น "Default" มาเลย แล้วดูๆ แล้วเครื่องที่ใช้งานอยู่ส่วนมากก็
เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ จอประมาณ 4" ขึ้นไปก็เพียงพอแล้ว
สำหรับ Andriod มีสัก 2 core, RAM 768MB ก็เพียงพอและเร็วพอครับ
อาจจะไม่เร็วปานสายฟ้า แต่ก็ไม่ต้องรอชนิดหายไปเลย ...
ส่วน iPhone แค่ iPhone4 (1 Core RAM256MB ก็ยังเร็วพอเลยครับ) ...

=======================================

"โมบาย เอ็กซ์โป" พลาดเป้ายอดคนเดิน-ยอดขายเครื่องร่วง คาด 3จี 2100-สมาร์ทโฟนใหม่ยังไม่เร้าใจ ส่งผลเงินสะพัดซื้อขายในงานหดเหลือ 1,360 ล้านบาท

นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด ผู้จัดงานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป กล่าวว่า ภาพรวมงานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2013 ไฮเอ็นด์ 4 วันที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามคาด โดยมียอดผู้ชมงานลดลงกว่า 18% ส่งผลต่อเนื่องถึงเงินสะพัดในงานที่ลดลงจากเป้าที่ตั้งไว้ 1,600 ล้านบาทเหลือเพียง 1,360 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ซื้อไม่ค่อยให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่นำมาวางขายในงาน แม้จะใช้เทคโนโลยีล้ำหน้าอย่างควอดคอร์ หรือประมวลผลแบบ 8 คอร์ โดยแบรนด์มือถือที่มียอดขายสูงสุดในงาน 5 อันดับแรกคือ ซัมซุง, ไอ-โมบาย, โซนี่, โนเกีย และเอชทีซี

"คนใช้เวลาเดินดูของเยอะขึ้น แต่ก็ดูเฉยๆ ไม่ได้ซื้อ เพราะส่วนใหญ่ก็ยังเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ แม้จะมีรุ่นใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวมาขาย เช่น เอส 4 เรามองว่าคนก็ยังมองดีไซน์เป็นเรื่องสำคัญ เพราะครั้งนี้แม้จะเป็นรุ่นใหม่ แต่ก็ไม่มีอะไรฉีกพอที่จะดึงดูดให้คนเดินมาดู ขณะที่ 3จีใหม่ก็ยังไม่เห็นผลเท่าที่ควร ส่วนใหญ่จะขอดูก่อน เพราะยังไม่เห็นว่ามีอะไรดีที่ทำให้ต้องซื้อเครื่องใหม่ หรือยังมองว่าเป็นเรื่องไม่จำเป็น เพราะ 3จีเดิมก็ยังใช้ได้ดีอยู่"

อย่างไรก็ตาม งานครั้งนี้ตลาดแทบเล็ตก็ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร โดยเฉพาะแทบเล็ตจีนราคาถูก หรือแทบเล็ตแบรนด์ราคาไม่กี่พันบาท ซึ่งส่วนใหญ่แทบเล็ตที่ยังขายได้จะอยู่ในระดับราคา 6,000 บาทขึ้นไป หรือมีฟังก์ชันใช้เป็นโทรศัพท์ได้ในตัว เพราะผู้ซื้อเริ่มมีประสบการณ์กับแทบเล็ตแล้ว

แต่สินค้าในกลุ่มอุปกรณ์เสริม และสินค้าไอทีกลับมียอดขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากการปรับราคาลงอย่างมากเมื่อเทียบกับต้นปีที่ผ่านมา

"จากงานนี้ทำให้แบรนด์เริ่มคุยกันมากขึ้นว่าอาจต้องปรับแผนการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ให้อยู่ในช่วงเดียวกัน ซึ่งน่าจะทำให้ตลาดรวมคึกคักได้มากกว่า เพราะครั้งนี้แม้จะมีสินค้าใหม่แต่เนื่องจากแต่ละแบรนด์แยกจัดกันทำให้กระแสดรอป" นายโอภาสกล่าว

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท กล่าวว่า ยอดขายมือถือช่วงนี้ยังไม่คึกคักเท่าที่ควร โดยยอดจากงานโมบาย เอ็กซ์โปรอบต้นปีคึกคักมากกว่าครั้งล่าสุด แม้ผู้ให้บริการระบบจะพยายามจัดแพ็คเกจใหม่ๆ มาช่วยกระตุ้นตลาด แต่ปัจจัยสำคัญยังอยู่ที่ตัวเครื่องมากกว่า

โดยรุ่นที่มียอดขายดียังอยู่ระดับราคากลางๆ หรือหมื่นบาทขึ้นไป และอุปกรณ์เสริม เช่น เพาเวอร์แบงก์

อย่างไรก็ตามสำหรับเจมาร์ทยังคาดว่าจะมียอดขายดีกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากยอดขายตามสาขายังคงแข็งแกร่ง ประกอบกับมีงานที่จัดเองเพื่อกระตุ้นตลาดทุกไตรมาส และแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง

"เราไม่กังวลอะไร เพราะยอดตามสาขายังดีอยู่ และเราก็มีแผนจะขยายอีกเยอะ ซึ่งงานครั้งนี้น่าจะเพราะกำลังซื้อไม่ค่อยดี และรุ่นใหม่ๆ ไม่น่าสนใจทำให้ยอดตก แต่สำหรับเราในภาพรวมแล้วคาดว่าดีกว่าเดิมแน่นอน" นายอดิศักดิ์ กล่าว
http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... ือซึม.html

Re: ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 29, 2013 11:39 pm
โดย miracle
ตลาดของ IT ตอนนี้แยกชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิมคือ
1. PC (Sunset)
2. Notebook(Sunset) + NetBook(ตายไปแล้ว)
3. Smartphone (ดวงรุ่งอย่างมากมาย)
4. Tablet PC (ดาวรุ่งมาแทน Notebook)

ตอนนี้ระบบ IT ของเมืองไทยนั้น ทดแทนด้วย Visualization
Desktop แทนด้วย Visualization Desktop (บางองค์กรในประเทศที่มีขนาดใหญ่เริ่ม Implement) แล้ว โดยที่ซื้อเครื่องใหม่แต่ ระบบงานเดิมโดยที่ไม่ต้องClone PC แต่ใช้ Visualization แทน (ลองไปดูหุ้นของบริษํท ที่ชื่อ Vmware เอาละกัน)
ส่วนเครื่อง Server ของประเทศไทย กล่าวได้ว่า ทุกธนาคารในประเทศใช้งาน Visualization กันหมดแล้ว
แต่ปัญหาที่ท้าทายใน IT ณ วันนี้คือ ทำอย่างไร ที่ให้ทุกอุปกรณ์มาใช้งานระบบฯของบริษัท บนความปลอดภัยที่ยอมรับได้ ณ ปัจจุบันนี้

เอามาเล่าสู่กันฟังละกัน
:)

Re: ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 30, 2013 11:32 am
โดย dabudara
ไอทีกลุ่มเก่า (โน้ตบุ๊ค เดสค์ทอป ) ไม่ตา่ยก็คงเลี้ยงไม่โต ยุคสมัยเปลี่ยนผ่าน PC ยุคแป้นพิมพ์ ที่กลายเป็นกลุ่มตะวันตกดิน ไปเป็นระบบจอสัมผัส ด้วยแทปเล็ต และสมาร์ทโฟน ที่กำลังทอแสง

ผลวิจัยระบุ ยอดขายพีซีลดลงเป็นประวัติการณ์ คาดแทบเล็ตแซงหน้าขึ้นอันดับ1 ปี 58
http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... %B558.html

การคาดการณ์ของ IDC

รูปภาพ

ในภาพรวมตลาดไอที ไม่ได้โตลดลง แต่ว่าเป็นกลุ่มใหม่ที่มียอดขายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งกลุ่มใหม่อย่าง apple samsung ก็มีช่องทางขายของตัวเอง ความซวยจึงมาเกิดกับร้านค้าปลีกและร้านค้าส่งไอทีดั้งเดิม
รูปภาพ

ในช่วง 2-3 ปีนี้ แอปเปิ้ลและซัมซุง น่าจะยังเป็นผู้ชนะในสงครามแทปเล็ตและสมาร์ทโฟน แต่จากนั้น 5-10 ปี คงบอกไม่ได้เพราะยากเกินความสามารถที่จะคาดเดา

Re: ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 30, 2013 11:59 am
โดย wk0966
จิงๆอย่างไรผมก็ชอบ PC ที่สุดยังต้องใช้ keyboard mouse จอ 23 นิ้ว
ยังชอบ windows มากก่า os ของ mobile
หากในอนาคต สามารถ สร้าง PC เบาบางเท่า มือถือ
สร้างVisual keyboard mouse จอ 23 นิ้ว แบบแสงฉายบนอากาศ ได้
จะได้เห็นเปล่าหน้อ

Re: ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 31, 2013 9:09 am
โดย miracle
การมาของ concept cloud compute
คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่า ระบบที่ให้บริการอยู่ที่ไหน ทำงานอย่างไง
แต่คุณสามารถใช้บริการได้ทุกที่บนโลก ทุกหนทุกแห่ง ถ้าคุณเชื้อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต

:)

Re: ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 31, 2013 9:33 pm
โดย miracle
อีกด้านหนึ่งของอุปกรณ์พกพา พวก Smart Phone และ Tablet PC
ตอนนี้กินส่วนแบ่งการตลาดของ กล้องถ่ายรูปไป
จนกระทั่ง ซัมซุง เปลี่ยนแปลง ระบบ กล้องถ่ายรูปเอาระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ ใส่ซักเลย

แต่อย่างไงก็ตาม ซัมซุงก็อยู่ค้ำฟ้าไม่ได้ เพราะเจ้าของระบบปฏิบัติการคือ Google เองก็จะออกมือถือ ของตัวเองมาปลายปีนี้(Q4/2556) ต้องจับตาดูว่า การออกมือถือของตัวเอง ภายใต้ชื่อ โมโต นั้น มีการเปลี่ยนแปลงอะไรในตลาดนี้หรือไม่
เจ้าของลงมาทำตลาดเองหรือเปล่า ถ้าทำตลาดเอง แสดงว่า มีอะไรที่เหนือกว่าเจ้าอื่นๆหรือไม่

ส่วนของ BB เองก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง ต้องของ BB messenger ที่ผูกขาดอยู่บนเครื่อง BB เท่านั้น
กลายเป็นตอนนี้กำลังออกโซลูชั่นที่ เรียกได้ว่า ทุกระบบปฏิบัติการนั้น สามารถใช้งาน BB Messenger ได้
เนี่ยคือ ผู้ที่แพ้ กำลังจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ในอีกเวทีหนึ่งที่จุดเด่นของตนเอง
:)

Re: ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 01, 2013 10:10 am
โดย syj
miracle เขียน:ตลาดของ IT ตอนนี้แยกชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิมคือ
1. PC (Sunset)
2. Notebook(Sunset) + NetBook(ตายไปแล้ว)
3. Smartphone (ดวงรุ่งอย่างมากมาย)
4. Tablet PC (ดาวรุ่งมาแทน Notebook)

ตอนนี้ระบบ IT ของเมืองไทยนั้น ทดแทนด้วย Visualization
Desktop แทนด้วย Visualization Desktop (บางองค์กรในประเทศที่มีขนาดใหญ่เริ่ม Implement) แล้ว โดยที่ซื้อเครื่องใหม่แต่ ระบบงานเดิมโดยที่ไม่ต้องClone PC แต่ใช้ Visualization แทน (ลองไปดูหุ้นของบริษํท ที่ชื่อ Vmware เอาละกัน)
ส่วนเครื่อง Server ของประเทศไทย กล่าวได้ว่า ทุกธนาคารในประเทศใช้งาน Visualization กันหมดแล้ว
แต่ปัญหาที่ท้าทายใน IT ณ วันนี้คือ ทำอย่างไร ที่ให้ทุกอุปกรณ์มาใช้งานระบบฯของบริษัท บนความปลอดภัยที่ยอมรับได้ ณ ปัจจุบันนี้

เอามาเล่าสู่กันฟังละกัน
:)
ขออภัย ขอแก้ให้นะครับ เป็น Virtualization ครับ
ที่จริงเรื่องนี้มีมานานมากๆ แล้วครับ ตั้งแต่สมัยกว่า
20 ปีก่อนโน้น ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ
สูงมากๆ จะมีการวิ่งระบบปฏิบัติการ (OS) มากกว่าหรือ
เท่ากับ 2 ตัว เสมือนหนึ่งมีเครื่องสองเครื่องหรือมากกว่า
ปัจจุบัน (ที่จริงก็หลายปีแล้ว) เครื่องระดับ PC ก็ทำได้
อาทิเช่น เอา Win98/ME หรือ XP วิ่งอยู่ภายใต้ Win7
หรือแม้กระทั่ง Mac OSX วิ่งบน Win7 (ผ่าน Virtual
Machine Software อาทิ VMWare, VirtualBox, etc.)
แต่ถ้าจะให้มีประสิทธิดีสุด ต้องเอา พวก Windows
ไปวิ่งบน Mac OSX ครับ (ของเขาดีจริงๆ Windows
นี่ไปไกลๆ ครับสู้ไม่ได้จริงๆ)

ส่วนใหญ่ที่ใช้กันมากๆ เป็น Server นะครับ เพราะ
เครื่องหนึ่งตัว สามารถมี Virtual Server ได้หลายๆ ตัว
เลยทีเดียว ประหยัดเงิน ประหยัดไฟ ประหยัดที่เก็บ ...

Re: ว่าด้วยบทความ ครูสอนเปียโน กับภาวะอุตสาหกรรม IT

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 01, 2013 8:15 pm
โดย miracle
ขอบคุณครับ
ตอนนี้ vm มิใช่แต่ server แล้ว
มันลงมาระดับ client แล้ว
:)