หน้า 1 จากทั้งหมด 1

Appreciate Thailand/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 19, 2013 10:24 pm
โดย Thai VI Article

โค้ด: เลือกทั้งหมด

โลกในมุมมองของ Value Investor            18 พ.ค. 56
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
Appreciate Thailand
 
   ​คนไทยจำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะที่เป็นคนร่ำรวยมีเงินทองในระดับเศรษฐีหรือคนที่เป็นคนชั้นกลางระดับสูงที่มีรายได้มากและกำลังสะสมความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  มักจะชอบวิจารณ์หรือบางทีถึงกับก่นด่าว่าประเทศไทยนั้นมีเรื่องที่ “แย่ ๆ” มากมายที่กำหนดหรือสร้างขึ้นโดย  “รัฐ”   นักการเมืองเองก็เอาแต่กอบโกยหาผลประโยชน์เข้าตัวเองหรือไม่ก็ใช้เงินที่ได้จากภาษีที่มาจากคนที่ทำงานมีรายได้สูงเอาไปแจกจ่ายให้กับฐานเสียงของตนเองซึ่งเป็นประชาชนที่มีรายได้ต่ำโดยไม่เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ  แต่ส่วนที่ “ดี ๆ”  ของประเทศไทยนั้นดูเหมือนว่าจะมาจาก “คนไทย”  และ “ขนบธรรมเนียม” ต่าง ๆ  ของคนไทยที่ทำให้ประเทศนี้  “น่าอยู่”  มากกว่าที่อื่นใดในโลก
   ​ผมเองคงไม่ไปถกเถียงในเรื่องของรายละเอียดต่าง ๆ  ของการทำงานของรัฐไทยว่าดีเลวอย่างไร  ว่าที่จริงผมเองก็เคยมีความคิดแบบนั้น  แต่หลังจากที่ผมกลายเป็นนักลงทุนเต็มตัวและกลายเป็นคนที่มีเงินมากอยู่เหมือนกันและเงินเหล่านี้ล้วนเกิดหรือถูกสร้างขึ้นในประเทศไทยโดยคนไทยโดยเฉพาะที่เป็นคนมีเงินน้อยและภายใต้กฎเกณฑ์ของคนส่วนใหญ่ของประเทศที่มีเงินน้อยเช่นกัน  ผมเริ่มจะรู้สึกว่าสิ่งที่ผมเคยคิดว่า “แย่ ๆ”  นั้นมันอาจจะไม่จริง  ตรงกันข้าม  ผมคิดว่าผม “โชคดี” ที่เกิดและทำงานหากินในประเทศไทย   ผมรู้สึกแบบที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า  “Appreciate ประเทศไทย”  นั่นคือ  ผมรู้สึกขอบคุณประเทศไทย  รู้สึกพึงพอใจที่ได้เป็นคนไทยและลงทุนในประเทศไทย  รู้สึกเห็นคุณค่าของประเทศไทย  และผมคิดว่าผมไม่ใช่คนเดียวที่คิดอย่างนั้น  เพราะผมมีเพื่อนหรือรู้ว่าชาวต่างชาติจำนวนมากที่เป็นคน  “มีสตางค์”  นั้น  ไม่ได้  “โชคดี”  อย่างเรา  พวกเขาถูก  “ลิดรอน” ความมั่งคั่งด้วยภาษีและการกระทำหรือนโยบายหลายอย่างที่ทำให้ความมั่งคั่งที่มาจากหยาดเหงื่อและแรงงานลดลงจนบางที “ไม่รู้จะทำอย่างไร”
   ​ตัวอย่างเช่นชาวเมริกันนั้น  ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนและทำงานที่ไหนในโลก  พวกเขาจะต้องถูกรัฐเก็บภาษีอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลี่ยงไม่ได้  เพื่อนนักลงทุนชาวอเมริกันของผมที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยคนหนึ่งบอกกับผมว่าแต่ละปีเขาต้องเสียภาษีนับสิบล้านบาทให้กับรัฐบาลอเมริกันจากผลตอบแทนที่เขาได้จากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทั้ง ๆ  ที่เขาไม่ได้ทำงานหรือมีรายได้ในอเมริกาเลย   ว่าที่จริงเขาแทบไม่ได้กลับอเมริกาเลยบางทีเป็นปี ๆ   สำหรับเขาในเวลานี้แล้ว  เมืองไทยคือบ้าน  เขามีความสุขในการใช้ชีวิตและลงทุนในตลาดหุ้นไทยและคงอยู่ไปเรื่อย ๆ ตลอดไป   ผมถามเขาว่าสรรพากรของอเมริกาจะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำไรจากการซื้อ-ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย  เขาตอบว่า  ถ้าเขาโกงภาษีและถูกจับได้ก็ต้องติดคุก  ดังนั้นเขาไม่เสี่ยงแน่นอน  ผมถามต่อว่าทำไมไม่แปลงสัญชาติอย่างที่ดาราหรือคนดังที่มีรายได้มากอย่าง จิม โรเจอร์ นักลงทุนทำกรณีแปลงสัญชาติเป็นคนสิงคโปร์  เขาบอกว่าเขาก็ทำ  แต่การ “ยกเลิก” สัญชาติอเมริกันนั้น  คุณก็จะต้องจ่ายภาษีทั้งหมดที่คุณกำไรจากหุ้นแม้ว่าคุณจะไม่ได้ขายมัน   ซึ่งนั่นก็จะเป็นเงินมหาศาล  อาจจะเป็นร้อย ๆ ล้านบาท  เห็นหรือยังครับว่าการเป็นนักลงทุนส่วนบุคคลของคนอเมริกันนั้นมันยากเข็ญแค่ไหน?  โชคดีที่ผมไม่ใช่คนอเมริกัน!
   ​ถ้าคุณเป็นคนญี่ปุ่นและมีทรัพย์สินมาก  เวลาคุณตาย  รัฐก็จะเก็บภาษีจากทรัพย์มรดกของคุณอย่างหนัก  ดังนั้น  ความมั่งคั่งที่คุณสร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงตลอดชีวิตก็จะถูกรัฐเอาคืนไปเหลือถึงลูกหลานน้อยไปมาก   เช่นเดียวกัน  การมีทรัพย์สินที่มีมูลค่าตลาดสูงซึ่งรวมถึงบ้านที่เราใช้อยู่อาศัยนั้น  ทุกปีก็จะถูกเก็บภาษีทรัพย์สินที่หนักหนาสาหัส  นี่คือสิ่งที่เป็นในประเทศที่เจริญแล้วแทบจะทั่วโลก  ดังนั้น  แม้ว่าในบางครั้งคุณจะไม่ได้ทำอะไรกับทรัพย์สินที่มีค่าที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง  คุณก็จะถูกเก็บภาษีซึ่งยิ่งเวลานานไปความมั่งคั่งของคุณก็จะค่อย ๆ  ลดลงไปเรื่อย ๆ    ทั้งเรื่องภาษีมรดกและภาษีทรัพย์สินเป็นรายจ่ายหรือต้นทุนของความมั่งคั่งที่ในประเทศไทยยังไม่มี    ดังนั้น  สำหรับคนที่ร่ำรวยโดยเฉพาะที่มีที่ดินมากเขาควรจะต้อง  Appreciate ประเทศไทย
   ​ผมยังมีเพื่อนชาวต่างชาติที่ไปลงทุนในตลาดหุ้นเวียตนามในช่วงเร็ว ๆ นี้   เขาเล่าว่าหุ้นมีราคาถูกมาก PE ของบริษัทชั้นนำที่ดี ๆ  มีค่าไม่เกิน 10 เท่า  และเศรษฐกิจกำลังเติบโต  เขาทำกำไรจากหุ้นได้ไม่เลวนักแต่ปัญหาก็คือเรื่องของเงินเฟ้อและค่าเงินรวมถึงกฎระเบียบต่าง ๆ  ที่ยังค่อนข้างยุ่งยาก  ผลก็คือ  บางทีก็ขาดทุน   อย่างไรก็ตาม  เขาก็ยัง “เข้า-ออก”  ตลาดหุ้นเวียตนามเป็นระยะแบบนักเก็งกำไร   แต่ถ้ามองในฐานะของคนเวียตนามเองผมคิดว่าการเป็นคนมีเงิน  รวมถึงการเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้นนั้น  คงจะไม่สะดวกสบายหรือให้ผลตอบแทนที่ดีนักเมื่อคำนึงถึงว่าดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อยังสูงลิ่วซึ่งทำลายค่าเงินตลอดเวลา   ค่าเงินด่องเองก็ไม่มีเสถียรภาพและลดค่าลงเรื่อย ๆ  ทำให้กำลังซื้อสินค้าจากต่างประเทศหรือการไปเที่ยวต่างประเทศของคนเวียตนามที่ “มีสตางค์” ลดต่ำลง  นอกจากนั้น  ถ้าเข้าใจไม่ผิด  การเป็นคนรวยในสังคมเวียตนามเองก็ยังเป็นสถานะที่ “ถูกเพ่งเล็ง” จากทางการหรือสังคมอยู่  ซึ่งทำให้ชีวิตคนรวยนั้นอาจจะไม่สดใสเท่ากับคนรวยของไทยที่มักจะเป็นที่นิยมชมชอบของคนในสังคม    ดังนั้น  คนที่มีฐานะดีควรที่จะ Appreciate ประเทศไทย
   ​ผู้บริหารชาวต่างชาติที่ถูกส่งมาจากบริษัทแม่ที่มาทำงานในกิจการของบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยที่เรียกว่า Ex-Pat โดยเฉพาะที่เป็นคนญี่ปุ่นนั้น  ส่วนใหญ่แล้วจะมีความสุขมากที่ได้มาทำงานในไทย  เพราะชีวิตและมาตรฐานความเป็นอยู่ของพวกเขาจะดีและสูงขึ้นมาก   พวกเขามีรถหรูพร้อมคนขับรถ  มีแม่บ้านรับใช้  มีบ้านหรู  และมีสิ่งอื่น ๆ  อย่างกับ “ราชา”   ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่มีในประเทศของตนเอง  ดังนั้น  เวลาที่ผู้บริหารชาวญี่ปุ่นได้รับการคัดเลือกให้มาทำงานในไทย  พวกเขาจะดีใจมาก  แต่ในวันที่พวกเขาถูกเรียกตัวกลับนั้น  บางคนบอกว่าพวกเขาแทบจะร้องไห้   การมีเงินนั้น  คุณสามารถซื้ออะไรหลาย ๆ  อย่างในประเทศไทยที่มีราคาถูกมากเทียบกับประเทศที่เจริญแล้วอีกหลายประเทศ  ตัวอย่างเช่นมันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจ้างแม่บ้านอยู่ดูแลรับใช้ในญี่ปุ่นแม้ว่าคุณจะมีเงินค่อนข้างมาก  ดังนั้น  เราควร  Appreciate ประเทศไทย
   ​ถ้าจะให้หรือจัดอันดับกันแล้ว  ผมคิดว่าประเทศไทยนั้น  น่าจะเป็นเมืองที่เป็น  “เพื่อน” กับคนที่ร่ำรวยหรือฐานะดีมีความมั่งคั่งสูงมากที่สุดแห่งหนึ่งมองจากด้านของระบบภาษี  กฎเกณฑ์ และสภาวะทางเศรษฐกิจ  รวมถึงขนบประเพณีวัฒนธรรม  ถ้าจะมีประเทศไหนที่โดดเด่นกว่าเมืองไทยชัดเจนนั้น  ผมคิดว่าน่าจะเป็นสิงคโปร์ที่เขามีการแก้ไขปรับปรุงระบบภาษีและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ  เพื่อให้ประเทศเป็นแหล่งดึงดูดคนมีเงินทั่วโลกเข้ามาเพื่อเพิ่มพลเมืองและสร้างประเทศให้มีความก้าวหน้าและมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ    จุดอ่อนของไทยและของสิงคโปร์ในแง่ของการใช้ชีวิตนั้นน่าจะอยู่ที่เรื่องของภูมิอากาศที่ค่อนข้างร้อนตลอดปีซึ่งผมคิดว่ามีส่วนทำให้เกิดความหงุดหงิดได้ง่ายและทำให้กิจกรรมหลาย ๆ  อย่างนอกอาคารไม่รื่นรมย์
   ​ในฐานะของการเป็นคนไทยและเป็นนักลงทุนนั้น  ผมคิดว่าแม้ว่าเราจะมีปัญหาและความขัดแย้งมากมายในสังคม การเมือง และความคิดในเรื่องของการกำหนดกฎเกณฑ์ทางด้านกฎหมายและเรื่องอื่น ๆ  อีกมากมายจนหลาย ๆ  คนอาจจะรู้สึกว่าประเทศไทยนั้นมี  “ความเสี่ยงของประเทศ”  ค่อนข้างสูง  แต่ผมก็ยังคิดว่านับจนถึงวันนี้ประเทศไทยเองก็ยังไม่เคยที่จะหลุดเข้าไปอยู่ใน  “แดนสนธยา”  ที่นักลงทุนหรือคนที่สร้างความมั่งคั่งให้ตนเองซึ่งส่งเสริมให้ประเทศก้าวหน้าในแนวทางทุนนิยมไม่สามารถเติบโตอย่างมั่นคงได้  ผมเองก็ได้แต่หวังว่าประเทศไทยจะยังรักษาสถานะแบบนี้ได้ต่อไปได้อีกยาวนาน  และตราบใดที่มันยังเป็นแบบนั้น  ผมเองก็อยากจะบอกความรู้สึกของผมว่า  ผม  Appreciate ประเทศไทยอันเป็นที่รักที่ทำให้ผมมีวันที่ดี ๆ  เช่นในวันนี้ในฐานะของนักลงทุน
[/size]

Re: Appreciate Thailand/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 20, 2013 2:07 am
โดย ลูกหิน
ขอบคุณครับ

Re: Appreciate Thailand/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 20, 2013 2:37 am
โดย CARPENTER
สำหรับผม ที่เป็น ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม sme
คิดทุกวันว่าจะเลิกกิจการอย่างไร ให้เจ็บตัวน้อยที่สุด
อุตสาหกรรมที่ทำนั้น สิ่งทีเรียกว่ากำไลในบัญชีแต่ละปีนั้น
จริงๆไม่ใช่กำไร เพราะ เมื่อเลิกกิจการ มีภาระต้องจ่าย
ค่าชดเชยแรงงาน จำนวณมหาศาล การขาดทุนจาก
ทรัพย์สินที่เป็นเครื่องจักร โรงงาน วัติถุดิบคงเหลือ สินค้าคงเหลือ ลูกหนี้
ไม่รู้ว่าจะมีมูลค่ากี่เปอร์เซ็นของราคาบัญชี
ความรู้สึกที่ผมมีต่อกฏหมาย กฏระเบียบของกระทรวงต่างๆ
นโยบายของนักการเมือง ที่เอื้อต่อ ธนาคาร, modern trad ขนาดใหญ่
การให้ boi กับโรงงานใหญ่ ผมว่านรกชัดๆ
หวังว่าเนื้อหาที่โพสต์ผมจะไม่ถูกband
แต่ถ้าเห็นว่าใช้คำไม่สุภาพ ก็ลบเฉพาะคำได้

Re: Appreciate Thailand/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 20, 2013 9:57 am
โดย PLUSLOVE
ขอบคุณท่าน อาจารย์ ดร นิเวศน์ครับ

บทความดีๆ อีกแล้วครับ

Re: Appreciate Thailand/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 20, 2013 10:52 am
โดย chatchai
ผมเองก็คิดว่าการเกิดเป็นคนไทยในยุคนี้ สมัยนี้ เป็นสิ่งที่วิเศษสุดๆ

เพราะการเกิดและอาศัยอยู่ในประเทศไทย ทำให้ได้ศึกษา เรียนรู้ พุทธศาสนา

ถ้าเกิดเป็นคนประเทศอื่น อาจจะยากลำบากกว่าที่จะได้ศึกษา

หรือถ้าเกิดในยุคก่อนที่ยังคงมีสงครามอยู่บ่อยๆ ชีวิตก็คงไม่สุข สงบ เช่นนี้

ผมคิดได้แต่เพียงว่า อย่าทำให้ชาตินี้ที่อุตส่าห์เกิดเป็นคนไทยต้องสูญเปล่า

Re: Appreciate Thailand/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 20, 2013 5:26 pm
โดย wwwman
ขอบคุณ ดร.คับ สุวรรณภูมิ แผ่นดินทองของเรา ศูนย์กลางความเจริญทางด้านจิตใจ
สัปดาห์นี้มีงานวิสาขบูชาโลกที่ท้องสนามหลวงนะคับ ไปกันมายังคับ

Re: Appreciate Thailand/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 20, 2013 6:28 pm
โดย ปล้องนาง
ขอบคุณครับ
โดนใจมากครับ

Re: Appreciate Thailand/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 21, 2013 6:24 pm
โดย kongkiti
บทความอ่านแล้วก็ตีความได้หลายแบบนะครับ
ได้เห็นความเป็นไปของระบบทุนนิยม ในประเทศต่างๆ
แต่ผมยังเชื่อว่า ท่าน อ. ไม่ได้จงใจสื่อให้เราหลงในระบบทุนนิยม / เป็นคนหน้าเงินเป็นแน่
ขอบคุณบทความดีๆ ครับ

ปล.
1. เห็นด้วยกับ ความเห็นของพี่ฉัตรฯ อย่างแรง ^^
"อย่าทำให้ชาตินี้ที่อุตส่าห์เกิดเป็นคนไทยต้องสูญเปล่า"
2. แอบอ่านโพสที่ถูกอุ้ม ไป 1 โพสทัน mod จัดการเร็วมาก

Re: Appreciate Thailand/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 22, 2013 2:00 pm
โดย blueplanet
"สงครามสังหารใหญ่ในนานกิง เริ่มต้นเมื่อกองทัพญี่ปุนได้ยาตราทัพยึดเมืองนานกิงเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 1937
จากนั้นทหารญี่ปุ่นก็ได้ทำลายล้างเมือง สังหาร ข่มขืน อย่างโหดเหี้ยมที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
ข้อมูลฝ่ายจีนระบุ ชาวจีนทั้งทหารและพลเรือน 300,000 คน สังเวยชีวิตในการสังหารอย่างบ้าคลั่ง"

รัฐบาลและทหารจีนในสมัยนั้น คงคิดไม่ถึงว่า การถอยหนีของกองทัพ เพื่อเอาตัวรอด
และทิ้งชาวบ้านกับกองทัพญี่ปุ่นจะทำให้ ทหารญี่ปุ่นฆ่าและทำทารุณกรรมต่อคนจีนมากขนาดนั้น
ถ้ารู้ ว่าจะเป็นแบบนั้น รัฐบาลจีนและกองทัพคงสั่งให้สู้ตาย และไม่ยอมหนี
แต่ไม่แน่ พวกระดับบนในกองทัพ คนที่แข็งแรง พวกนี้พร้อมที่จะหนีเอาตัวรอดอยู่แล้ว

ผมต้องการอยู่ในสังคมที่ดี มีกฎหมายที่ดี มีความยุติธรรม ไม่มีใครอยู่เหนือกฏหมาย

Re: Appreciate Thailand/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 30, 2013 11:43 am
โดย silomlaw
ขอบคุณแนวคิดดีๆอีกครั้งครับ

ในส่วนของระบบกฏหมายของประเทศไทยนั้น ในฐานะที่เรียนกฎหมาย ทำงานด้านกฏหมาย ผมว่าระบบความคิดทางกฎหมายและการยึดมั่นในระบบกฎหมายบ้านเมืองเราเข็มแข็งไม่น้อยหน้าระบบอื่นบ้านเมืองอื่นครับ (ไม่ได้บอกว่าสมบูรณ์ทุกอย่างนะคับ ยังต้องเดินหน้าต่อครับ) การจะยกเลิกเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง ระบบเศรษฐกิจ ทำได้ไม่ง่ายนัก เราจะเห็นทุกครั้งที่เกิดปัญหาทางการเมือง นักกฏหมายใหญ่ๆมักได้รับการเชิญเข้าไปช่วยทุกครั้ง นั่นหมายถึงเราเคารพกติกาและกฎหมายเมืองกันครับ

Re: Appreciate Thailand/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 01, 2013 1:11 pm
โดย PUNSRI
รู้สึกรักและภูมิใจใความเป็นไทยเช่นเดียวกับอาจารย์ค่ะ ไม่เคยรู้สึกว่าประเทศใดดีกว่าประเทศไทยเลยค่ะ