Thai VI

กะลงทุนกองทุนตราสารหนี้ 2 ล้าน และลงทุนในหุ้นสัก 2 ล้าน ในผลตอบแทนสัก 7 % up และความเสี่ยงน้อย

ผมเล็ง se-ed ไว้ครับ และก็ ayud พี่ๆเห็นเป็นไง ผมเห็นราคาหุ้น
ผลกระทบน้อยมาก ขณะที่ตลาดลงอย่างนี้
และจะไปรับสักราคาที่เท่าไหร่ดีครับ เห็น se-ed มี warrant ด้วยแปลง
แล้วจะมีผลต่อราคาหุ้นมากไหมครับ

ลงทุนตราสารหนี้ควรระวังเรื่องดอกเบี้ยเงินฝากนะครับ เพราะถ้า
ดอกเบี้ยขึ้น ราคาตลาดของตราสารหนี้จะลดลงครับ

ผมว่าแทนที่จะซื้อกองทุนตราสารหนี้ ผมว่าซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่จะออกขายในเดือนสิงหาดีกว่าครับ อัตราดอกเบี้ยใกล้เคียง 7% และไม่มีความเสี่ยงใดๆเลย แถมมีสภาพคล่องจากการขายคืนหลังจากครบปีแรกอีกด้วยครับ ดีมากๆ

พันธบัตรรัฐบาลครับ

แต่หากต้องการเยอะกว่า 7% หุ้นสามัญเลยครับแต่มีความเสี่ยง

ขอเสริมท่าน CK

-กองทุนเปิดตราสารหนี้ มีจุดอ่อนที่ต้องซื้อขายตราสารหนี้เมื่อมีผู้ขายคืนหน่วยลงทุน บางครั้งผู้ลงทุนแห่ขาย กองทุนก็ต้องขายตราสารหนี้ในราคาถูกๆ เพื่อเอาเงินสด ขาดทุนเยอะแยะครับ

-กองทุนปิดตราสารหนี้ อาจจะไม่มีปัญหาในการขายตราสารหนี้ แต่คุณต้องขายหน่วยลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งสภาพคล่องของหน่วยลงทุนพวกนี้แย่มาก แย่กว่าหุ้นอีกครับ ส่วนมากจะขายลดจาก NAV ครับ ไม่เคยเห็นใครขายได้สูงกว่า NAV เลย

สรุป .. อย่าไปยุ่งกับกองทุนพวกนี้เลยครับ ถ้าชอบตราสารหนี้ ซื้อพันธบัตรเหมือนท่านฉัตรชัยแนะนำดีกว่า

เงิน 2 ล้านที่เหลือ อย่าเพิ่งลงทุนในหุ้นครับ ลงทุนลงแรงศึกษาให้มั่นใจก่อน
ถ้าคุณดูว่าราคาไม่ขยับมากแล้วจะปลอดภัย ผมว่ายังไม่ควรลงทุนในหุ้นครับ

เก็บเงินไว้ให้ดีๆก่อนครับ

จากนั้นก็ศึกษาหาความรู้ให้ดีก่อน ความรู้จะทำให้ไม่พลาด ไม่เสียหายหนัก

เมื่อศึกษามากพอแล้ว ก็ถึงจะตัดสินใจว่าจะลงทุนแบบไหน

มีบ้านเช่า หรืออพาร์ทเมนต์เก็บค่าเช่าก็ดี

ฝากธนาคารกินดอกเบี้ยก็ดี

มีหุ้นรอรับปันผลก็ดี

แล้วแต่จะเลือก เลือกเอาที่ชอบและเข้าใจมากที่สุดครับ

เห็นด้วยกับคุณแฮรี่ครับ หาความรู้จริงๆให้กระจ่างก่อนถึงจะค่อยๆเริ่มลงทุน
พี่ปรัชญายังบอกเลยว่า ปีนี้เป็นปีปราบเซียน แต่กรณีซื้อพันธบัตรนั้นผมเห็น
ด้วยว่าปลอดภัยที่สุด ปัญหาก็คือจะซื้อได้หรือไม่ เพราะมีความต้องการกัน
สูงมาก

แต่ผมเห็นว่าการลงทุนในตราสารหนี้น่าลงทุนผ่านกองทุนเปิดมากกว่า
นะครับ มีเหตุผลสนับสนุนดังนี้ครับ
1.กองทุนไม่ต้องเสียภาษีจากดอกเบี้ยที่ได้รับจากตราสารหนี้ ในขณะที่
ถ้าคุณถือพันธบัตรต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% ของดอกเบี้ย
2. สภาพคล่องสูงอยากขายเมื่อไรก็ขายได้มีราคาให้ดูทุกวัน
3. อันนี้เป็นความเชื่อส่วนตัวครับ ผมเชื่อว่าผู้บริหารกองทุนตราสารหนี้
มีความชำนาญสูงมาก และ การซื้อขายตราสารหนี้ของกองทุนมีข้อจำกัด
ต่ำกว่าการซื้อขายตราสารหนี้ของบุคคลธรรมดา ไม่เหมือนกับกองทุนหุ้น
ที่กองทุนมีข้อจำกัดมากกว่าบุคคลธรรมดา
(กองทุนหุ้นจะซื้อหุ้นตัวเล็ก ๆ ก็ลำบากเพราะเงินเยอะ)

แต่กรณีของพันธบัตรออกใหม่ที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่า อัตราผลตอบแทน
ของพันธบัตรที่ซื้อขายในปัจจุบันนั้น เห็นด้วย 100% ครับ
ถ้าสามารถจอ

สิ่งสำคัญในการซื้อกองทุนตราสารหนี้คือค่าบริหารจัดการครับ
ผมว่าที่เด่นถูกที่สุดคงเป็นของ บลจ.ทหารไทยครับ

เพิ่งนึกได้ ว่ามีอีกทางเลือก ก็พวกบัตรเงินฝากของธนาคาร ที่รู้จักกันดีก็ สลากออมสินนั่นแหละครับ ผลตอบแทนน้อยหน่อย แต่มีลุ้นรางวัลใหญ่
ก็ลองดูหลายๆทาง แล้วแต่ชอบครับ