Thai VI

เยี่ยมครับ

ขอบคุณครับ ให้อีกมุมมองทั้งคล้ายและที่แตกต่างดีครับ

น่าสนใจมากเลยครับ

ขอบคุณครับ ที่นำมาแบ่งปันให้อ่านกัน

ผู้เขียนน่าจะไปเขียนเกี่ยวกับการเมืองนะครับจินตนาการสูงมาก ภาษาที่ใช้ก็เหมาะ

อ่านแล้ว รู้สึกว่า logic และการตีความ ในหลาย ๆ เรื่อง
มันผิดเพี้ยนชอบกลนะครับ

ขอบคุณครับ เป็นอีกมุมมองที่ไม่เคยคิดเลย คิดแบบง่ายๆว่า ท่านชอบและมีความสุขกับการลงทุนตั้งแต่เด็ก ตลอดมามีการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย และสุดท้ายทรัพย์สินส่วนใหญ่บริจาคให้กับมูลนิธิต่างๆ คงเป็นคำตอบในตัวเองอยู่แล้ว ไม่น่าจะมีอะไรชับช้อนขนาดนั้นครับ

ขอบคุณที่นำมาให้อ่านอีกครั้ง สนุกดี แต่ผมมองไม่เหมือนผู้เขียนนะ อ่านงบแค่ปีเดียว จะมองบัฟเฟตออกทั้งชีวิตได้อย่างไร

ขอบคุณสำหรับบทความครับ

แต่ผมขอพูดจากใจจริง ผมไม่ชอบสไตล์การเขียนที่แอบไปคล้ายกับงานเขียนเก่าๆของคนอื่นมาผสมๆกันย่อหน้านึง ใส่ความเห็นจากอารมณ์และความเชื่อของผู้เขียนย่อหน้าหนึ่ง และโฆษณาตัวเองอีกย่อหน้านึง

สไตล์การเขียนนี้มันจะย้อนมาทำร้ายตัวเองเมื่อผู้อ่านเห็นว่าผู้เขียนไม่ได้เข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองเขียนเลย แต่กลับเขียนซะเหมือนตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญครับ

อ่านแล้วมั่นใจเลยครับ คนเขียนเป็นรีพับริกัน แหงๆ

panadius เขียน:อ่านแล้วมั่นใจเลยครับ คนเขียนเป็นรีพับริกัน แหงๆ

โทษทีครับ ไม่ได้ดูบทความ นึกว่าเป็นหนังสือที่เคยอ่าน ชื่อนี้เลย

มั่วแม้กระทั่งชื่อของอาจารย์เกรแฮม ยังเขียนเป็นbill grahamเลยคาับคู้ณณณณ ไม่รู้จะว่ายังไง

เอาแง่คิดที่ได้ประโยชน์มาใช้ครับ

อ่านจนจบ มองไม่เห็นประโยชน์ตรงไหนเลยครับ

สงสัยอยู่นิดเดียว คนเขียนนี่ เคยลงทุนรึเปล่า ประสบความสำเร็จในการลงทุนบ้างมั้ย
แค่นั้นแหละครับ

เหมือนเอาชื่อบัฟเฟตมาขายหนังสือแค่นั้นเองอะครับ

อืมม เหมือนเป็นลักษณะตั้งโจทย์หัวข้อ แล้วก็ไปresearch ข้อมูลมาเขียนบทความ

พยายามหาประเด็นมาเขียนวิเคราะห์หลายๆ มุม
แต่ผลลัพธ์ของบทความกลายเป็น การเอาdataวาง แล้ว
ผสมบทบรรยายแบบคิดเองเออเอง มากไปหน่อย

อ่านสนุกๆ ได้ประโยชน์จากมุมมองแปลกใหม่ แต่ไม่กระตุ้นความรู้ครับ