เมื่อแมรี บัฟดฟตต์ บอก "บัฟเฟตต์ชอบหุ้นโค้กเหมือนหุ้น"เอสแอน
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 29, 2013 9:58 pm
บัฟเฟตต์ชอบหุ้นโค้กเหมือนหุ้น"เอสแอนด์พี"
29 เม.ย. 2556, 01:54 น.
โดย...เจียรนัย อุตะมะ
“แมรี บัฟเฟตต์” อดีตสะใภ้คนเล็ก “วอร์เรน บัฟเฟตต์” นักลงทุนหุ้นคุณค่าเศรษฐีโลกได้เดินทางมาไทย เพื่อพูดเรื่องค้นหาปรัชญาของ “บัฟเฟตต์” เมื่อวันศุกร์ที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามคำเชิญของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี
เธอเป็นนักเขียนหนังสือติดอันดับขายดีที่สุดของโลก และนักพูดเกี่ยวกับวิธีการลงทุนของบัฟเฟตต์ วัตถุดิบในการเขียนนั้นเป็นประสบการณ์ในช่วงเวลาที่สมรสกับ “ปีเตอร์” บุตรชายของบัฟเฟตต์เป็นเวลา 12 ปี เธอจึงเป็นทั้งนักเขียนและนักพูดที่มีความสามารถอธิบายโลกการลงทุนที่ซับซ้อนให้เป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย ตั้งแต่ทั่วสหรัฐจนถึงกรุงลอนดอน หรือปักกิ่งที่จีน และล่าสุดที่กรุงเทพฯ
12 ปีระหว่างเป็นสะใภ้ของบัฟเฟตต์ เรื่องของบัฟเฟตต์ไม่เคยเล็ดลอดออกมาให้โลกรู้ จนกระทั่งแมรีได้ร่วมกับ เดวิด คลาร์ก ออกหนังสือ BUFFETTOLOGY หรือกลยุทธ์ชัยชนะการลงทุนออกมาเป็นเล่มแรก ที่เฉลยว่าผลตอบแทนการลงทุนของบัฟเฟตต์ประสบความสำเร็จ ทำให้สถานะติดอันดับเศรษฐีโลก และทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปัจจุบันถึง 8 เล่ม ทำให้เป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลกและออกรายการทีวีมากมายทั้งซีเอ็นเอ็นและบลูมเบิร์ก
ในจำนวนนี้ โพสต์บุคส์ได้แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทยออกมาทั้งหมด 4 เล่ม
แมรี กล่าวว่า คนส่วนใหญ่รู้จักบัฟเฟตต์ว่าเป็นอัจฉริยะในการลงทุน แต่มีน้อยคนที่รู้ว่าเขาปราดเปรื่องในการบริหารจัดการชีวิตและธุรกิจและผู้บริหารพนักงานมากกว่า โดยบริษัทส่วนตัวของเขา “เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์” มีพนักงานทั้งหมด 2.33 แสนคนทั่วโลก มีประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 88 คน รายงานโดยตรงหรือในทางอ้อม ผลการดำเนินงานของบริษัทนั้นดีกว่าผลตอบแทนจากการลงทุน
เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ทำรายได้สุทธิจากการเติบโตจาก 18 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นในปี 2522 เป็น 4,093 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ในปี 2550 หรือเติบโตปีละ 21.39% กำไรสูงกว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในพอร์ตการลงทุนของบริษัทเองที่เติบโตเพียงปีละ 19.78%
เอ.แอล.อูเอลท์สคี ผู้ก่อตั้งและประธานของไฟลท์เซฟตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ บริษัทชั้นนำด้านการฝึกอบรมการบิน กล่าวแก่โรเบิร์ต พี. ไมล์ส เกี่ยวกับบัฟเฟตต์ ผู้เป็นนาย ว่า “ความเป็นผู้นำ คือ ทุกสิ่งในการเป็นผู้บริหารที่ดี” แต่ละอักษรของคำคำนี้ คือคุณสมบัติที่ผู้บริหารจะต้องมี คือ ความซื่อสัตย์และจงรักภักดี ความกระตือรือร้น ทัศนคติ วินัย ตัวอย่าง คุณต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ความรอบรู้ ซื่อสัตย์ มีศีลธรรม และความภาคภูมิใจ ที่บัฟเฟตต์มีคุณสมบัติครบถ้วน
ในความเป็นนักลงทุนเขาเป็นนักลงทุนที่ยอดเยี่ยม โดยการซื้อหุ้นได้ถูกที่ถูกเวลา เขาทำอย่างไร
แมรี เล่าว่า ช่วงเวลา 12 ปี ที่มีประสบการณ์ร่วมกับ “บัฟเฟตต์” ระหว่างที่พักผ่อนในงานเลี้ยงและคุยเรื่องธุรกิจ บัฟเฟตต์แนะนำให้ลงทุนในช่วงที่ราคาหุ้นลง เพราะมองว่าเป็นโอกาส เราจะซื้อหุ้นเสมือนเข้าไปเป็นเจ้าของบริษัท เข้าไปเมื่อบริษัทนั้นมีปัญหา
เคล็ดลับในการลงทุนของ “บัฟเฟตต์” คือ ก่อนเข้าซื้อหุ้นบริษัทจะมีการวิเคราะห์ คาดการณ์สินค้า และคาดการณ์อนาคตที่ต้องพิจารณาทั้งสัดส่วนราคาต่อกำไร (พี/อี) กระแสเงินสด และการบริหารจัดการ
“ผมจะมองหาธุรกิจที่คิดว่าสามารถทำนายได้ว่ามันจะเป็นอย่างไรในอีก 10-15 ปีข้างหน้า”
“บัฟเฟตต์” ชอบหุ้นบริษัท โคคา-โคล่า หรือถ้าเปรียบเป็นหุ้นไทยคงเป็นบริษัท เอสแอนด์พี ซินดิเคด (SNP) ที่อย่างไรคนก็ไม่หยุดดื่มและรับประทาน ก่อนการลงทุนจะมีการคาดการณ์สินค้า ทำความเข้าใจบริษัทว่ามีการบริหารจัดการดีหรือไม่ ผู้บริหารมีสไตล์การบริหารเช่นไร
แนวทางในการลงทุนบริษัทนั้น อันดับแรก ต้องพิจารณาคือ ศักยภาพการแข่งขัน ตัวบริษัทและราคา
เธอกล่าวว่า นักลงทุนระยะยาวจะไม่มีความเสี่ยงเพราะคาดหวังกำไรในอนาคต
สำหรับหุ้นไทย ในมุมมองของบัฟเฟตต์นั้น เปรียบเสมือนหญิงสาววัยรุ่นที่สวยและมีเจ้าของแล้ว บัฟเฟตต์ได้แต่มองด้วยสายตาที่มีแต่ความหวังเท่านั้น
บลูมเบิร์กคาดว่า เศรษฐกิจประเทศไทยจะเติบโตเป็นอันดับสามในบรรดาประเทศเกิดใหม่ รองจากจีนและเกาหลีใต้ โดยกองทุนเอเชีย กรุ๊ป ของ “มาร์ค โมเบียส” เข้ามาลงทุนสูงถึง 21% ของพอร์ต
นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วอร์เรน บัฟเฟตต์ เมืองไทย กล่าวว่า สไตล์การลงทุนของ “บัฟเฟตต์” ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีอัตราเติบโตที่มั่นคง ถึงมีวิกฤตก็อยู่ได้
“จรัมพร โชติกเสถียร” กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความเข้าใจในการลงทุนอย่างแท้จริงเป็นกุญแจสำคัญในการลงทุนของบัพเฟตต์
29 เม.ย. 2556, 01:54 น.
โดย...เจียรนัย อุตะมะ
“แมรี บัฟเฟตต์” อดีตสะใภ้คนเล็ก “วอร์เรน บัฟเฟตต์” นักลงทุนหุ้นคุณค่าเศรษฐีโลกได้เดินทางมาไทย เพื่อพูดเรื่องค้นหาปรัชญาของ “บัฟเฟตต์” เมื่อวันศุกร์ที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามคำเชิญของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี
เธอเป็นนักเขียนหนังสือติดอันดับขายดีที่สุดของโลก และนักพูดเกี่ยวกับวิธีการลงทุนของบัฟเฟตต์ วัตถุดิบในการเขียนนั้นเป็นประสบการณ์ในช่วงเวลาที่สมรสกับ “ปีเตอร์” บุตรชายของบัฟเฟตต์เป็นเวลา 12 ปี เธอจึงเป็นทั้งนักเขียนและนักพูดที่มีความสามารถอธิบายโลกการลงทุนที่ซับซ้อนให้เป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย ตั้งแต่ทั่วสหรัฐจนถึงกรุงลอนดอน หรือปักกิ่งที่จีน และล่าสุดที่กรุงเทพฯ
12 ปีระหว่างเป็นสะใภ้ของบัฟเฟตต์ เรื่องของบัฟเฟตต์ไม่เคยเล็ดลอดออกมาให้โลกรู้ จนกระทั่งแมรีได้ร่วมกับ เดวิด คลาร์ก ออกหนังสือ BUFFETTOLOGY หรือกลยุทธ์ชัยชนะการลงทุนออกมาเป็นเล่มแรก ที่เฉลยว่าผลตอบแทนการลงทุนของบัฟเฟตต์ประสบความสำเร็จ ทำให้สถานะติดอันดับเศรษฐีโลก และทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปัจจุบันถึง 8 เล่ม ทำให้เป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลกและออกรายการทีวีมากมายทั้งซีเอ็นเอ็นและบลูมเบิร์ก
ในจำนวนนี้ โพสต์บุคส์ได้แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทยออกมาทั้งหมด 4 เล่ม
แมรี กล่าวว่า คนส่วนใหญ่รู้จักบัฟเฟตต์ว่าเป็นอัจฉริยะในการลงทุน แต่มีน้อยคนที่รู้ว่าเขาปราดเปรื่องในการบริหารจัดการชีวิตและธุรกิจและผู้บริหารพนักงานมากกว่า โดยบริษัทส่วนตัวของเขา “เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์” มีพนักงานทั้งหมด 2.33 แสนคนทั่วโลก มีประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 88 คน รายงานโดยตรงหรือในทางอ้อม ผลการดำเนินงานของบริษัทนั้นดีกว่าผลตอบแทนจากการลงทุน
เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ทำรายได้สุทธิจากการเติบโตจาก 18 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นในปี 2522 เป็น 4,093 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ในปี 2550 หรือเติบโตปีละ 21.39% กำไรสูงกว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในพอร์ตการลงทุนของบริษัทเองที่เติบโตเพียงปีละ 19.78%
เอ.แอล.อูเอลท์สคี ผู้ก่อตั้งและประธานของไฟลท์เซฟตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ บริษัทชั้นนำด้านการฝึกอบรมการบิน กล่าวแก่โรเบิร์ต พี. ไมล์ส เกี่ยวกับบัฟเฟตต์ ผู้เป็นนาย ว่า “ความเป็นผู้นำ คือ ทุกสิ่งในการเป็นผู้บริหารที่ดี” แต่ละอักษรของคำคำนี้ คือคุณสมบัติที่ผู้บริหารจะต้องมี คือ ความซื่อสัตย์และจงรักภักดี ความกระตือรือร้น ทัศนคติ วินัย ตัวอย่าง คุณต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ความรอบรู้ ซื่อสัตย์ มีศีลธรรม และความภาคภูมิใจ ที่บัฟเฟตต์มีคุณสมบัติครบถ้วน
ในความเป็นนักลงทุนเขาเป็นนักลงทุนที่ยอดเยี่ยม โดยการซื้อหุ้นได้ถูกที่ถูกเวลา เขาทำอย่างไร
แมรี เล่าว่า ช่วงเวลา 12 ปี ที่มีประสบการณ์ร่วมกับ “บัฟเฟตต์” ระหว่างที่พักผ่อนในงานเลี้ยงและคุยเรื่องธุรกิจ บัฟเฟตต์แนะนำให้ลงทุนในช่วงที่ราคาหุ้นลง เพราะมองว่าเป็นโอกาส เราจะซื้อหุ้นเสมือนเข้าไปเป็นเจ้าของบริษัท เข้าไปเมื่อบริษัทนั้นมีปัญหา
เคล็ดลับในการลงทุนของ “บัฟเฟตต์” คือ ก่อนเข้าซื้อหุ้นบริษัทจะมีการวิเคราะห์ คาดการณ์สินค้า และคาดการณ์อนาคตที่ต้องพิจารณาทั้งสัดส่วนราคาต่อกำไร (พี/อี) กระแสเงินสด และการบริหารจัดการ
“ผมจะมองหาธุรกิจที่คิดว่าสามารถทำนายได้ว่ามันจะเป็นอย่างไรในอีก 10-15 ปีข้างหน้า”
“บัฟเฟตต์” ชอบหุ้นบริษัท โคคา-โคล่า หรือถ้าเปรียบเป็นหุ้นไทยคงเป็นบริษัท เอสแอนด์พี ซินดิเคด (SNP) ที่อย่างไรคนก็ไม่หยุดดื่มและรับประทาน ก่อนการลงทุนจะมีการคาดการณ์สินค้า ทำความเข้าใจบริษัทว่ามีการบริหารจัดการดีหรือไม่ ผู้บริหารมีสไตล์การบริหารเช่นไร
แนวทางในการลงทุนบริษัทนั้น อันดับแรก ต้องพิจารณาคือ ศักยภาพการแข่งขัน ตัวบริษัทและราคา
เธอกล่าวว่า นักลงทุนระยะยาวจะไม่มีความเสี่ยงเพราะคาดหวังกำไรในอนาคต
สำหรับหุ้นไทย ในมุมมองของบัฟเฟตต์นั้น เปรียบเสมือนหญิงสาววัยรุ่นที่สวยและมีเจ้าของแล้ว บัฟเฟตต์ได้แต่มองด้วยสายตาที่มีแต่ความหวังเท่านั้น
บลูมเบิร์กคาดว่า เศรษฐกิจประเทศไทยจะเติบโตเป็นอันดับสามในบรรดาประเทศเกิดใหม่ รองจากจีนและเกาหลีใต้ โดยกองทุนเอเชีย กรุ๊ป ของ “มาร์ค โมเบียส” เข้ามาลงทุนสูงถึง 21% ของพอร์ต
นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วอร์เรน บัฟเฟตต์ เมืองไทย กล่าวว่า สไตล์การลงทุนของ “บัฟเฟตต์” ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีอัตราเติบโตที่มั่นคง ถึงมีวิกฤตก็อยู่ได้
“จรัมพร โชติกเสถียร” กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความเข้าใจในการลงทุนอย่างแท้จริงเป็นกุญแจสำคัญในการลงทุนของบัพเฟตต์