อียูงัดกฎใหม่จ่อเชือดผู้ฝาก
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 08, 2013 8:07 pm
โพสต์ทูเดย์
08 เมษายน 2556 เวลา 18:01 น.
http://bit.ly/12yCD4p
อียูงัดกฎใหม่จ่อเชือดผู้ฝาก
อียูแย้มกฎใหม่ มุ่งผลักภาระให้ผู้ฝากเงินรายใหญ่-ผู้ถือหุ้น หากธนาคารเสี่ยงล้มละลาย
โอลี เรห์น กรรมาธิการด้านเศรษฐกิจและนโยบายการเงินแห่งสหภาพยุโรป(อียู) เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการแห่งยุโรป (อีซี) กำลังพิจารณาเสนอกฎข้อบังคับใหม่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและรักษาเสถียรภาพของภาคธนาคารในยุโรป โดยจะให้ผู้ฝากเงินรายใหญ่และผู้ถือหุ้นธนาคาร ร่วมแบกรับภาระต้นทุนการปรับโครงสร้างธนาคารที่มีปัญหา
“ผู้ถือหุ้นจะเป็นคนที่ได้รับผลกระทบลำดับแรก หลังจากนั้นมีความเป็นไปได้ที่ผู้ลงทุนและผู้ฝากเงินที่ไม่ได้รับการคุ้มครองจะได้รับผลกระทบต่อมา อย่างไรก็ตาม ผู้ฝากเงินที่ต่ำกว่า 1 แสนยูโร (ราว 3.8 ล้านบาท) จะยังคงได้รับการปกป้องต่อไป” เรห์น กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของฟินแลนด์
อย่างไรก็ตาม เรห์น ย้ำว่า ข้อเสนอดังกล่าวจะแตกต่างจากกรณีของไซปรัสเนื่องจากปัญหาภาคธนาคารในไซปรัสเป็นกรณีพิเศษ โดยก่อนหน้านี้ทางคณะกรรมการร่วมผู้ตรวจสอบวินัยการคลังของยุโรป (ทรอยกา) ได้ตั้งเงื่อนไขการขอรับเงินกู้มูลค่า 1 หมื่นล้านยูโร โดยมีข้อแม้ว่าไซปรัสจะต้องระดมทุนให้ได้ 5,800 ล้านยูโร ซึ่งจะทำให้ผู้มีบัญชีเงินฝากมากกว่า 1 แสนยูโร มีแนวโน้มสูญเงิน หรือถูกทำแฮร์คัต มากถึง 60% ของเงินฝากทั้งหมด
นอกจากนี้ กรรมาธิการด้านเศรษฐกิจและนโยบายการเงินแห่งยุโรปยังเสนออีกว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ควรมีมาตรการใหม่ๆ ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของภูมิภาคยุโรปที่กำลังเผชิญหน้ากับสภาวะซบเซาอยู่ในขณะนี้
08 เมษายน 2556 เวลา 18:01 น.
http://bit.ly/12yCD4p
อียูงัดกฎใหม่จ่อเชือดผู้ฝาก
อียูแย้มกฎใหม่ มุ่งผลักภาระให้ผู้ฝากเงินรายใหญ่-ผู้ถือหุ้น หากธนาคารเสี่ยงล้มละลาย
โอลี เรห์น กรรมาธิการด้านเศรษฐกิจและนโยบายการเงินแห่งสหภาพยุโรป(อียู) เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการแห่งยุโรป (อีซี) กำลังพิจารณาเสนอกฎข้อบังคับใหม่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและรักษาเสถียรภาพของภาคธนาคารในยุโรป โดยจะให้ผู้ฝากเงินรายใหญ่และผู้ถือหุ้นธนาคาร ร่วมแบกรับภาระต้นทุนการปรับโครงสร้างธนาคารที่มีปัญหา
“ผู้ถือหุ้นจะเป็นคนที่ได้รับผลกระทบลำดับแรก หลังจากนั้นมีความเป็นไปได้ที่ผู้ลงทุนและผู้ฝากเงินที่ไม่ได้รับการคุ้มครองจะได้รับผลกระทบต่อมา อย่างไรก็ตาม ผู้ฝากเงินที่ต่ำกว่า 1 แสนยูโร (ราว 3.8 ล้านบาท) จะยังคงได้รับการปกป้องต่อไป” เรห์น กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของฟินแลนด์
อย่างไรก็ตาม เรห์น ย้ำว่า ข้อเสนอดังกล่าวจะแตกต่างจากกรณีของไซปรัสเนื่องจากปัญหาภาคธนาคารในไซปรัสเป็นกรณีพิเศษ โดยก่อนหน้านี้ทางคณะกรรมการร่วมผู้ตรวจสอบวินัยการคลังของยุโรป (ทรอยกา) ได้ตั้งเงื่อนไขการขอรับเงินกู้มูลค่า 1 หมื่นล้านยูโร โดยมีข้อแม้ว่าไซปรัสจะต้องระดมทุนให้ได้ 5,800 ล้านยูโร ซึ่งจะทำให้ผู้มีบัญชีเงินฝากมากกว่า 1 แสนยูโร มีแนวโน้มสูญเงิน หรือถูกทำแฮร์คัต มากถึง 60% ของเงินฝากทั้งหมด
นอกจากนี้ กรรมาธิการด้านเศรษฐกิจและนโยบายการเงินแห่งยุโรปยังเสนออีกว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ควรมีมาตรการใหม่ๆ ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของภูมิภาคยุโรปที่กำลังเผชิญหน้ากับสภาวะซบเซาอยู่ในขณะนี้