Thai VI

ผมเห็นว่าช่วงนี้หลายสำนักออกมาแสดงความมั่นใจว่า set จะไปถึงไฮเดิมตอนปี 40
ถึงแม้ว่าเราจะดูเป็นรายตัว แต่ก็อยากให้รุ่นพี่ๆที่ผ่านช่วงก่อนปี40มา ช่วยแชร์แบ่งปัน
ประสบการณ์ให้ด้วยครับ ว่าตอนนั้นการออกความเห็นของสำนักต่างๆเป็นยังไง
การหาเหตุผลต่างๆมารองรับการคาดเดาตลาดในตอนนั้น เหมือน คล้าย หรือแตกต่าง
จากช่วงนี้ยังไง หรือใครมีบทสัมภาษณ์/บทวิเคราะห์ในช่วงก่อนฟองแตกมาแบ่งปัน
เพื่อเปรียบเทียบกับตอนนี้ได้คงจะยิ่งดีครับ

ผมว่าบทสัมภาษณ์หรือบทวิเคราะห์ของเขาเหล่านี้ควรต้องได้รับการติดตามและตรวจสอบ
ด้วยนักลงทุนรายย่อยอย่างพวกเรา เพราะเมื่อถึงเวลาที่ไม่เป็นไปอย่างที่เขาพูด
คนที่เจ็บหนักคือพวกเรา นักลงทุนหน้าใหม่ รายย่อย ที่เชื่อคำพูดของเหล่าผู้เชี่ยวชาญ
ในเมื่อไม่มีองค์กรไหนหรือใครสามารถรับผิดชอบแทนคำพูดหรือคำแนะนำของพวกเขาได้
พวกเราควรจะช่วยกันติดตามและตรวจสอบคำแนะนำพวกนั้น โดยพวกเราเอง เพราะเวลา
ที่เขาพูดออกมาแล้วเข้าหูเรา ผมว่าถึงเราจะไม่อยากเชื่อแต่มันก็ต้องมีส่วนที่ฝังเข้าไป
ในจิตใจของเราโดยที่เราไม่รู้ตัว ไม่มากก็น้อย ยิ่งคนเริ่มลงทุนใหม่ยิ่งน่าเป็นห่วง

บทความนี้ใช้ได้คับ ลองอ่านดู

http://www.kaohoon.com/daily/336716/%E0 ... B610.prodA

แล้วมุมองแบบนี้ เราควรตรวจสอบความเห็นอย่างไร?


"ก้องเกียรติ"มองหุ้นไทยดิ่งแรง! แค่ปรับฐาน หลังแรลลี่มา 5 ไตรมาส ผลตอบแทนกว่า 50% มองระยะยาว"ขาขึ้น" ลงทุนภาครัฐหนุน


นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริการ บริษัทหลักทรัยพ์เอเซียพลัส จำกัด ให้สัมภาษณ์รายการ "ตรงประเด็นเที่ยง" กรุงเทพธุรกิจทีวี ในวันนี้ (4 เม.ย.) กรณีที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงว่า ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาก โดยในไตรมาส 1 เพิ่มขึ้นประมาณ 10% และในปีที่ผ่านมา ดัชนีก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 30% หรือคิดเป็นเฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 50% ในช่วง 5 ไตรมาสติดต่อกัน การปรับตัวลดลงถือเป็นเรื่องปกติ

"การขึ้นของดัชนีในช่วงหลังๆ หุ้นขนาดเล็ก หุ้นที่ไม่มีคุณภาพ ขึ้นไปผิดปกติ หลายตัวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ไม่มีคุณภาพหมายถึงผลประกอบการไม่รองรับราคาหุ้น เชื่อว่าที่สำคัญนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาเยอะ ต้องการทำกำไรเร็ว โดยขาดประสบการณ์ บางทีอาจตกเป็นเหยื่อด้วย"

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ และโบรกเกอร์ ได้มีการออกมาตรการที่เข้มงวดเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อหุ้น ซึ่งทำให้หุ้นเก็งกำไรได้รับผลกระทบ และการปรับตัวลดลงของดัชนีในครั้งนี้ก็เป็นปรากฎหการณ์ที่ได้รับผลกระทบในกลุ่มที่เก็งกำไรผิดปกติ

นายก้องเกียรติกล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยระยะยาวยังคงมีมุมมองเป็นบวก แม้จะมีการปรับฐานบ้างในช่วงนี้ เพื่อรอการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งในเร็วๆนี้ก็จะมีการประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคาร คงต้องมาดูอีกทีว่าผลประกอบการเป็นไปอย่างที่นักวิเคราะห์คาดการณ์หรือไม่ นอกจากนี้ ยังมองว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาลที่วางไว้ 2 ล้านล้านบาท จะส่งผลดีกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ประธานกรรมการบริการ บริษัทหลักทรัยพ์เอเซียพลัส กล่าวอีกว่า ในส่วนของปัจจัยเสี่ยงการเมือง ถือเป็นความห่วงใยระยะสั้น เนื่องจากนักลงทุนกังวลความไม่ต่อเนื่อง ถ้ากรณีเลวร้ายสุดกรณีการเปลี่ยนตัวผู้นำรัฐบาล แต่ก็เชื่อว่านโยบายยังมีความต่อเนื่อง ดังนั้นนักลงทุนอย่ากังวลจนเกินเหตุ

ความเห็นผมนะครับ อาจจะบ้าหน่อย แต่ผมคิดแบบนี้จริงๆ
เป้าผมปีนี้คือ 1,900 จุด นำตลาดโดยกลุ่มพลังงาน ยักษ์หลับ แต่จะตื่นปีนี้และเป็นพระเอก
แม้หุ้นจะลงหนักมาก และมีแววจะลงอีกลึกมากๆ แต่โดยส่วนตัว ชิวมาก
หุ้นผมทุกตัว ยังต่ำกว่าพื้นฐาน ลงก็ช่างมัน ไม่ซีเครียด
ส่วนนักวิเคราะห์อย่าไปสนใจ เป้าโน่นนี่ ไร้สาระมาก
บริษัทที่ดีแข็งแกร่งจะกลับมาอย่างรวดเร็ว และทำนิวไฮ ใหม่ทุกครั้งเมื่อผลประกอบการออกมาโต
แค่นี้ก็พอแล้วมั้งครับ มัวแต่ไปเก็งดัชนี ลุ้นระทึก จิตหลอนป่าวๆ
หุ้นตกหนักคราวนี้ ถ้าดูให้ดี จะเห็นอะไรมากมาย อย่างนึงคือหุ้นที่แข็งแกร่ง ขาขึ้นมันจะขึ้นมากกว่าตลาดมากๆ
และขาลงมันจะลงน้อยกว่าตลาด ประสบการณ์พวกนี้ ผมว่าล้ำค่ามาก ตำราที่ไหนก็ไม่มีสอน

การตรวจสอบความเห็น ของนักวิเคราะห์
เราก็ต้องประเมินมูลค่าหุ้นได้เองคับ

VI ก็ทำเป็นปกติอยู่แล้ว ถ้ามีประสบการณ์พอ
ก็พอจะมองหุ้นทุกตัวออกคร่าวๆคับว่ามันถูกหรือแพง