Thai VI

ในความคิดผม หุ้นมันแพงโคตรๆ เลยคับ และก็ยิ่งแพงอีกเรื่อยๆ ก็ไม่รู้ว่าจะแพงขึ้นอีกแค่ไหน ใจผมก็อยากลงทุนแบบมี mos กะเค้าบ้างเหมือนกัน แต่มันหาไม่เจอหน่ะสิครับ ก่อนหน้านี้ก็รอๆๆๆๆ ยิ่งรอ หุ้นก็ยิ่งขึ้น ยิ่งแพงๆๆๆ กว่าเดิม คนรอบตัวก็กำไรกันกระจาย ไอตัวผมก็ไม่กล้าซื้อ แค่รอๆๆๆ เห็นคนอื่นกำไรจนน้ำลายไหล สถานการณ์อย่างนี้ควรทำอย่างไรดีครับ กรุณาช่วยชี้ทางสว่างที

ปล. เงินสดล้นพอร์ทคับ ถือหุ้นไม่ถึง 10%

คุณก็ทำถูกแล้วนะ ไม่มั่นใจก็อย่าซื้อ ไม่มี mos ก็อย่าซื้อ
ผมว่าที่คนส่วนใหญ่ลงทุนแนว VI ไม่ได้ก็เพราะมันยากที่ต้องชนะใจตัวเอง

ต้องขุดต้องหาครับ

ดู money talk ตอนนี้ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=eV-zfS_poxc
ผมว่ามีความคิดดีๆ ในการวิจัยนี้

เพิ่มอีกนิด แล้วก็ทำความเข้าใจ เรื่อง การเพิ่มปริมาณเงิน ของ USA ของสหภาพยุโรป ของญี่ปุ่น
การประเมินราคาหุ้น การประเมิน mos อาจจะเปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง

หุ้นแพงหรือถูก บางครั้งก็เป็นเพราะเราใช้ข้อมูล
ที่เป็น ข้อมูลอดีตและข้อมูลขณะปัจจุบัน มาวิเคราะห์
มากเกินไป ละเลยกับการมองอนาคตให้ไกล
บางทีมันก็เป็นการใช้จินตนาการ มากกว่าเหตุผล
ซึ่งไม่น่าจะผิดอะไร ถ้าใช้ให้เหมาะสม
ปล แค่เปลี่ยนมุมมองเป็นการลงทุนระยะยาวจริงๆ
ปีนี้ผมลงทุนมีความสุขมากกว่าเดิมแถม
ผลตอบแทนก็ดี เกินความคาดหมาย
แต่ต้องดูกันยาวๆครับ

ที่บอกว่าแพง ๆ แล้วก็แพงขึ้นเรื่อย นั้นหมายถึง(ตัวเลข)ราคาหุ้นในตลาดหรือเปล่า
ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ มองให้ผ่าน(มายา)ราคาหุ้นเบื้องหน้าไปสู่
ตัวกิจการ(ของจริง)เบื้องหลัง
แนงทางการลงทุนที่เน้นปัจจัยพื้นฐานทุกแนวจะโฟกัสตัวกิจการ
มากกว่า "ราคา" ที่เคลื่อนไหวขึ้นลงในตลาด
เพราะ ราคา เป็นเรื่องของ"ตลาด" ซึ่งควบคุม คาดการณ์ไม่ได้

วิเคราะห์เจาะลึกบริษัททั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ
ลองสร้างจินตนาการอนาคตกิจการ
ประมาณการมูลค่ากิจการออกมาดู แล้วจึงค่อยประเมิน
ได้บทสรุปว่า "แพง"
"ถูก" หรือ "เหมาะสม" ก็ตัดสินใจเอา

ไม่รู้มูลค่ากิจการ จะรู้ถูก-แพงได้อย่างไร
ไม่รู้มูลค่ากิจการ ซื้อหุ้นมาแล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่าควรขายเมื่อไหร่
mos อยู่ที่ราคาซื้อเทียบกับตัวกิจการ ไม่ใช่ส่วนต่างราคาซื้อกับราคาตลาด
มีบริษัทที่ดีมีคุณภาพจำนวนมากที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่กิจการตลอดเวลา
แค่หาให้เจอ
..........................................................
การลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนในตัวเอง

ถ้าอยู่กลางทางแยก
แล้วมันมืดทั้งแปดด้าน
ผมคิดว่าส่วนใหญ่
เลือกที่จะอยู่เฉยๆ
ยกเว้น ในตลาดหลักทรัพย์

แต่แทนที่เราจะเลือก
อยู่เฉยๆ เพื่อรอให้ฟ้าสว่าง
เราก็ลองไปสำรวจถนนเส้นอื่นดู
ถนนที่ไม่เคยไปมาก่อน ก็ลองดู
ส่วนถนนที่เคยไปมาแล้ว
ก็ลองไปสำรวจดูอีกสักเที่ยว

ถ้าหุ้นแต่ละตัวเป็นถนน
ก็คงมีเส้นทางให้เราเลือก
สัก 500-600 เส้นทาง

ซึ่งผมคิดว่าอย่างน้อย
น่าจะมีถนนสักเส้น
ที่สว่างกว่าถนนเส้นอื่น

ประเด็นที่น่าสนใจคือ
ถนนเส้นที่ว่า มันสว่างพอ
ที่จะทำให้การเดินทางของเรา
ปลอดภัย และจะพาเรา
ให้ไปถึงจุดหมายของเรา
จริงๆ ใช่หรือเปล่า ?

เห็นด้วยกับพี่ส.สลึงครับ ศึกษาหุ้นให้มากๆเพื่อเพิ่มทางเลือก ตอนนี้ยังไม่ซื้อไม่เป็นไรครับ ตลาดหุ้นมันมีโอกาสมาให้เสมอๆ อาศัยเวลานี้ขยายขอบเขตความรู้ของเราไปเรื่อยๆ

ทฤษฎีของviผมว่าทุกคนรู้ครับ
แต่การประเมินมูลค่าที่แท้จริงและราคาที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะหุ้นgrowth stock
ลองดู"เม่าปีกเหล็ก"ที่สัมภาษณ์คุณendorphins จากwebพันธ์ทิพย์(=เฮียคลายเครียดของพวกเรา)
เฮียเค้าบอกเลยว่าประเมินค่าพวกหุ้นกลุ่มนี้ไม่ถูก
อะไรไม่รู้ก็อย่าโลภเกินความรู้ที่มี
อะไรทำแล้วไม่สบายใจของอย่าไปยุ่ง
"น้ำลายไหลดีกว่าน้ำตาตก"ครับ

และพวกน้องๆที่มาลงทุนใหม่ๆ
อย่าไปดูว่าbig nameที่เรารู้จักเค้าถือหุ้นอะไรอยู่แล้วซื้อตาม
เพราะเป็นข้อมูลเก่าราคาที่เค้าซื้อมีmosเยอะ
พอราคาขึ้นมามากๆโดยเฉพาะดัชนีขึ้นมาสูงๆแบบนี้
เค้าก็ต้องขายเพื่อตุนเงินสดไว้ก่อนรอพองสบู่แตกจะได้ช้อนต่อ
ลองUpdate รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ล่าสุดจะเห็นว่า
Big name ที่ว่าหายไปกันหมด

ปล.อจ.นิเวศน์ยังถือcpallอยู่ครับ

WHYDOWEFALL เขียน:ในความคิดผม หุ้นมันแพงโคตรๆ เลยคับ และก็ยิ่งแพงอีกเรื่อยๆ ก็ไม่รู้ว่าจะแพงขึ้นอีกแค่ไหน ใจผมก็อยากลงทุนแบบมี mos กะเค้าบ้างเหมือนกัน แต่มันหาไม่เจอหน่ะสิครับ ก่อนหน้านี้ก็รอๆๆๆๆ ยิ่งรอ หุ้นก็ยิ่งขึ้น ยิ่งแพงๆๆๆ กว่าเดิม คนรอบตัวก็กำไรกันกระจาย ไอตัวผมก็ไม่กล้าซื้อ แค่รอๆๆๆ เห็นคนอื่นกำไรจนน้ำลายไหล สถานการณ์อย่างนี้ควรทำอย่างไรดีครับ กรุณาช่วยชี้ทางสว่างที

ปล. เงินสดล้นพอร์ทคับ ถือหุ้นไม่ถึง 10%

ผมมองว่า ยังมีหุ้นที่แพงวันนี้ แล้วก็ "จะถูกลง"อีกเรื่อยๆ ในอนาคตนะครับ----หาหุ้นเติบโตนะครับ

ก็เหมือนเดินห้าง แล้วไม่เจอของถูกใจ แต่เห็นคนอื่นแย่งกันซื้อ

ปกติเจอแบบนี้ทำไงล่ะครับ ที่ทำแล้วสบายใจ ก็เอางั้นแหละ

ใจเย็นๆครับใจเย็นๆ.....Rome was not built in one day!

แหะๆแนะนำกันหลายคนเลย ยินดีกับคุณ "WHYDOWEFALL"
ด้วยนะครับ ได้ความรู้และแง่คิดไปเพียบเลย งั้นผมขอวิเคราะห์แทนละกันครับ...^^)

WHYDOWEFALL เขียน:ในความคิดผม หุ้นมันแพงโคตรๆ เลยคับ และก็ยิ่งแพงอีกเรื่อยๆ ก็ไม่รู้ว่าจะแพงขึ้นอีกแค่ไหน ใจผมก็อยากลงทุนแบบมี mos กะเค้าบ้างเหมือนกัน แต่มันหาไม่เจอหน่ะสิครับ ก่อนหน้านี้ก็รอๆๆๆๆ ยิ่งรอ หุ้นก็ยิ่งขึ้น ยิ่งแพงๆๆๆ กว่าเดิม คนรอบตัวก็กำไรกันกระจาย ไอตัวผมก็ไม่กล้าซื้อ แค่รอๆๆๆ เห็นคนอื่นกำไรจนน้ำลายไหล สถานการณ์อย่างนี้ควรทำอย่างไรดีครับ กรุณาช่วยชี้ทางสว่างที

ปล. เงินสดล้นพอร์ทคับ ถือหุ้นไม่ถึง 10%

1)ที่ว่ารอมาก่อนหน้านี้แล้วก็ยังหา mos ไม่ได้ แล้วราคาก็วิ่งๆขึ้นๆ
ลองย้อนกลับไปดูว่าที่เราวิเคราะห์ราคาไว้ มีจุดผิดพลาดหรือเปล่า
เพราะอะไร แล้วจะแก้ไขยังไง
2)วิเคราะห์ดูว่าหุ้นที่ขึ้นมันเกิดจากตัวบริษัท หรือเป็นเพราะตลาดพาขึ้น!!!
(ตอนนี้มีหลายตัวที่ตลาดพาไป)
3)เห็นคนอื่นกำไรจนน้ำลายไหลนี่ ไม่ใช่วิสัยของการลงทุนแบบ vi นะครับ
vi มีแผนการลงทุนเป็นของตนเอง ไม่ได้ไปเปรียบเทียบกับใครนะครับ

ปล.ผมแอบอิจฉาคุณนะ ช่วงนี้หุ้นน่าเก็บเพียบเลย แต่ผมไม่มีเงินสดอยู่ในมือนี่สิ...T-T)

ระหว่างนี้ก็ศึกษาธุรกิจใหม่ๆ เปิดดู Opp day หรือพวก Money Talk หรือคลิปรายการอื่นๆไปเรื่อยๆครับ จะรู้จักหุ้นในธุรกิจอื่นๆมากขึ้นครับ

เอ่อ ก่อนอื่นอยากถามเจ้าของกระทู้ว่า ลองหามาแล้วแบบลึกๆกี่ตัวครับ แบบ 400-500 ตัวเหมือนท่านประธานสมาคมหรือปล่าวครับ ถ้าหาขนาดนี้แล้วไม่เจอ ก็อาจจะต้องทำ watching list ไว้แล้วก็ฝึกประเมินมูลค่าไปเรื่อยๆครับ แล้วรอโอกาส เพราะอย่างปู่บัพแกก็รอหุ้นบางตัวนานมากกว่าจะได้ซื้อ อีกวิธีหนึ่งที่พอช่วยได้คือ เราลองซื้อหุ้นที่เราคิดว่ามีอนาคตเติบโตไปได้เรื่อยๆและเรามองว่าตอนนี้มันแพง โดยทยอยซื้อทีละน้อยๆทุกเดือนดู เน้นดูปัจจัยเชิงคุณภาพ เพราะมูลค่าที่แท้จริงที่เป็นตัวเลขโดดๆมันไม่น่าจะมี ที่แน่ๆถ้าเรารู้ว่าปัจจัยพื้นฐานการทำธุรกิจแข็งแกร่งและตัวกำไรสามารถเพิ่มขึ้นได้อีก แหย่ดูแบบ dollar cost average ก็ได้ ถ้าลงมามากๆแบบมี mos เราค่อยอัดเต็มเหนี่ยว แต่เวลามันลงมาต้องกล้าซื้อนะ

ต้องทำใจเลยก่อนว่า

ถ้าอยากลงทุนเวลานี้ ต้องประเมินกำไรในอนาคต
แล้วประเมินมูลค่าในอนาคตปีถึงสามปีเทียบกับราคาในตลาดคับ
ส่วนใหญ่ก็ยังมีบางตัวพอได้ แต่ก็ MoS ก็ไม่มากคับ
เพราะฉะนั้นถ้าซื้อหุ้นตอนนี้ต้องลงทุนยาวสามปีขึ้นไปคับ
แล้วก็หวังผลตอบแทนไว้ตามค่าเฉลี่ยคือ 10%
อย่าคาดหวังอะไรมาก อีกอย่างก็คือไม่ซื้อหมดไม้
ทะยอยซื้อไปคับ รอโอกาสดีๆส่วนใหญ่หุ้นดีๆจะลงมา
ให้เก็บมีเวลาไม่มาก บางที 2-5 วันเท่านั้นเอง
ลองดูหมวดพลังงานคับยังมีบางตัวที่คนไม่ค่อยพูดถึง
ราคาก็พอรับได้ถ้าเทียบกับการเติบโตสองปีนี้

ทางเลือกที่ดีกว่าลองดูกองทุนอสังหาคับ หลายตัวที่
ยังให้ปันผลดี และราคาไม่แพง แต่ก็มีเรื่องสภาพคล่องหน่อย
แต่ถ้าเราแบ่งพอร์ตไปซื้อไว้บ้างก็อาจจะดีกว่าถือเงินสดรอ

ก็จัดพอร์ตดีๆละคับ อย่าเพิ่งไปรับความเสี่ยงมากเกินไป
หุ้นตกหนักสองวัน มันเด้งมาก็อย่าเพิ่งดีใจคับ
ค่อยๆดู ค่อยๆเก็บไป ทะยอยลงทุนได้คับ ไม่ต้องรีบร้อนอะไร

พม่า. ลาว. กัมพูชา. มาเลเซีย รอบตัวเราเขากิน เขาใช้ อิ้มตัวกันหรือยัง หุ้นตัวใหนจะได้ประโยชน์. ประชากรแถวนี้ 600 ล้านคน ทีจะเข้า AEC มองภาพใหญ่ดูนะครับ

มีอยู่แล้วสิบเปอร์เซ็นต์แสดงว่ามีหุ้นอยู่ไม่ตกรถ

รอต่อเถอะครับ

มีสตัง อยู่กับตัวไม่ต้องกลัวอะไร

ใครอยากรวยปล่อยเขารวยไป เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด

ใครถามว่าทำไมไม่ซื้อหุ้น ให้ตอบอย่างมั่นใจว่า. ผมว่ามันแพง

ตามดูสิบเปอเซนที่ถือไว้ให้ดี. ถึงไม่ลงทุนก็อย่าออกจากตลาด วันนึงจะรู้เองว่าควรทำอย่างไร

สู้ๆนะครับ. พึงระลึกไว้ว่าอย่าขาดทุน

ส.สลึง เขียน:ถ้าอยู่กลางทางแยก
แล้วมันมืดทั้งแปดด้าน
ผมคิดว่าส่วนใหญ่
เลือกที่จะอยู่เฉยๆ
ยกเว้น ในตลาดหลักทรัพย์

แต่แทนที่เราจะเลือก
อยู่เฉยๆ เพื่อรอให้ฟ้าสว่าง
เราก็ลองไปสำรวจถนนเส้นอื่นดู
ถนนที่ไม่เคยไปมาก่อน ก็ลองดู
ส่วนถนนที่เคยไปมาแล้ว
ก็ลองไปสำรวจดูอีกสักเที่ยว

ถ้าหุ้นแต่ละตัวเป็นถนน
ก็คงมีเส้นทางให้เราเลือก
สัก 500-600 เส้นทาง

ซึ่งผมคิดว่าอย่างน้อย
น่าจะมีถนนสักเส้น
ที่สว่างกว่าถนนเส้นอื่น

ประเด็นที่น่าสนใจคือ
ถนนเส้นที่ว่า มันสว่างพอ
ที่จะทำให้การเดินทางของเรา
ปลอดภัย และจะพาเรา
ให้ไปถึงจุดหมายของเราจริงๆ ใช่หรือเปล่า ?

ขอบคุณคำแนะนำที่มีประโยชน์ครับ ท่าน ส.สลึง ผมก็ไม่เคยคิดว่าถนน 600 สายจะมืดมิดหมด ตราบเท่าที่เรายังอยากจะเดินทาง และค้นหามัน เพราะทุกๆปีถนนหลายๆสาย ก็จะมีการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ซ่อมแซม ตัวมันเองไม่มากก็น้อย

1. หาหุ้นที่ดีราคาต่ำกว่ามูลค่ามากๆ เพื่อมี MOS พื้นฐานมากๆ แต่ในภาวะปกติแบบนี้ การที่กิจการดีๆจะมีราคาถูกกว่ามูลค่าของมันมากๆ นั้น ยากมาก ตกหนักเมื่ออาทิตย์ก่อนยังลงแค่สิวแมวเอง แถมพวกราคาแพงมากๆๆ ก็ลงมาแค่ราคาแพงมาก อาจจะต้องรอๆๆ แต่ถ้าไม่อยากรอก็มีอีกวิธี

2. วิธีนี้ยาก และต้องเริ่มมีฝีมือมากหน่อย ค้นคว้าหน่อย คือ หาหุ้นที่มีราคายุติธรรมสำหรับกิจการที่ดีมาก แบบที่ 2 อาจจะมองว่าแพงตอนนี้ แต่นั่นล่ะครับมันอยู่ที่ฝีมือแล้วครับ แบบนี้ยากครับ เพราะคุณต้องมองมูลค่าในอนาคตออกว่า และกำหนด Time frame ว่ากี่ปีๆ ต้องมองให้ออก ถึงจะประสบความสำเร็จครับ

อย่าเคยตัวหรือยึดติด กับการคิดว่าจะซื้อแต่หุ้นราคาต่ำกว่ามูลค่ามากๆ เพราะมันจะเกิดแบบนั้นได้คงจะต้องให้เกิดวิกฤตซะก่อน หรือมีเหตุการณ์เฉพาะสำคัญๆ ขึ้น ก็ต้องร้องเพลงรอล่ะครับ อดทน นั่งทับมือไป

ผมเข้าใจคนที่ถือเงินสดตอนนี้ว่าคงเครียดพอดูกับการต้องดูราคาหุ้นวิ่งขึ้นตลอดช่วง3-4ปีที่ผ่านมา
และไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหนถึงจะมีโอกาสดีๆได้ซื้อหุ้นถูกๆอีกครั้ง

สำหรับผม ถ้าตอนนี้ผมถือเงินสดอยู่หรือคนใกล้ตัวผมสงสัยเรื่องนี้ผมจะบอกเค้าว่า...
ให้ลองดูบริษัทฯที่มาออฟเดย์รอบนี้และเทปย้อนหลังของรายการมันนี่ทอร์ควีคลี่อีกรอบ
จากนั้นก็ดูว่าบริษัทฯใหนที่เราเข้าใจ และลองประเมินมูลค่ากิจการใน1-2ปีข้างหน้าดู
ผมว่าแค่นี้เราก็จะพบคำตอบของคำถามแล้วครับ
นี่ยังไม่ถึงขั้นต้องอ่าน56-1ของแต่ละบริษัทฯอย่างที่รุ่นพี่viตัวจริงเค้าทำกันครับ

แฮ่...แต่ถ้ายังหาไม่เจอจริงๆ ก็ต้องอดใจรอก่อน
ไว้หาเจอเมื่อไหร่ก็ค่อยลงทุนเพิ่มครับ

ถ้าคุณยังไม่เข้าใจธุรกิจของบริษัทที่เล็งไว้อยู่มากพอ เวลาที่หุ้นตกทั้งตลาดแบบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งราคาหุ้นที่คุณเล็งไว้ก็ตกเหมือนกัน อาจจะตกมากกว่าตลาดด้วย คุณจะไม่กล้าซื้อ เพราะยังไม่มั่นใจในตัวธุรกิจ

ผมก็หาหุ้นถูกๆ ที่น่าสนใจลงทุนไม่เจอเหมือนกัน ที่มีอยู่ก็มีแต่ของเก่าเก็บที่รอวันขาย หาได้ก็แค่หุ้นที่เอาไว้พักเงินดีกว่าฝากเงินในธนาคาร แล้วก็ได้แต่ไปลงทุนต่างประเทศ เลือกหุ้นที่เป็น global mega trend ที่ราคาถูกกว่าหุ้นได้ ผมมีปัญญาทำได้แค่นี้จริงๆ

แต่ถ้าเปลี่ยนกลยุทธ์จากการลงทุน เป็นเก็งกำไร ผมว่าช่วงนี้นักเก็งกำไร น่าจะสนุกสนานกันพอสมควรนะครับ พอดีผมเก็งกำไรไม่ค่อยเป็น

CONAN เขียน:

ส.สลึง เขียน:ถ้าอยู่กลางทางแยก
แล้วมันมืดทั้งแปดด้าน
ผมคิดว่าส่วนใหญ่
เลือกที่จะอยู่เฉยๆ
ยกเว้น ในตลาดหลักทรัพย์

แต่แทนที่เราจะเลือก
อยู่เฉยๆ เพื่อรอให้ฟ้าสว่าง
เราก็ลองไปสำรวจถนนเส้นอื่นดู
ถนนที่ไม่เคยไปมาก่อน ก็ลองดู
ส่วนถนนที่เคยไปมาแล้ว
ก็ลองไปสำรวจดูอีกสักเที่ยว

ถ้าหุ้นแต่ละตัวเป็นถนน
ก็คงมีเส้นทางให้เราเลือก
สัก 500-600 เส้นทาง

ซึ่งผมคิดว่าอย่างน้อย
น่าจะมีถนนสักเส้น
ที่สว่างกว่าถนนเส้นอื่น

ประเด็นที่น่าสนใจคือ
ถนนเส้นที่ว่า มันสว่างพอ
ที่จะทำให้การเดินทางของเรา
ปลอดภัย และจะพาเรา
ให้ไปถึงจุดหมายของเราจริงๆ ใช่หรือเปล่า ?

ขอบคุณคำแนะนำที่มีประโยชน์ครับ ท่าน ส.สลึง ผมก็ไม่เคยคิดว่าถนน 600 สายจะมืดมิดหมด ตราบเท่าที่เรายังอยากจะเดินทาง และค้นหามัน เพราะทุกๆปีถนนหลายๆสาย ก็จะมีการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ซ่อมแซม ตัวมันเองไม่มากก็น้อย

ไม่เข้าใจทำไมติดลบ !!!
หุ้นมี 600 บ. หลายๆ บ. มีการปรับปรุง เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มไลการผลิต เปลี่ยนbussinet model ลองเข้าไปค้นไปหาทั้งหมดหรือยัง หุ้นไม่ใช่ไฟกระพริบบนหน้าจอ แต่เป็น บ.จริงๆที่มีคนทำงานดังนั้น การที่ บ.ทำสิ่งที่กล่าวมา คือการเพิ่ม value added ให้ตัวเองไม่มากก็น้อย แต่สิ่งเหล่านี้อาจจะยังไม่แสดงออกมาเป็นตัวเลขก็ได้

ทำไมถือเงินสดตั้ง 90% ถึงรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในที่มืดครับ

CONAN เขียน:ไม่เข้าใจทำไมติดลบ !!!
หุ้นมี 600 บ. หลายๆ บ. มีการปรับปรุง เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มไลการผลิต เปลี่ยนbussinet model ลองเข้าไปค้นไปหาทั้งหมดหรือยัง หุ้นไม่ใช่ไฟกระพริบบนหน้าจอ แต่เป็น บ.จริงๆที่มีคนทำงานดังนั้น การที่ บ.ทำสิ่งที่กล่าวมา คือการเพิ่ม value added ให้ตัวเองไม่มากก็น้อย แต่สิ่งเหล่านี้อาจจะยังไม่แสดงออกมาเป็นตัวเลขก็ได้

สงสัยเหมือนกัน แต่กดบวกเพิ่มไปให้แล้วครับ อย่าลืมว่า CPALL ก็ฟื้นมาเพราะขายโลตัสในจีนออกไปครับ หุ้นที่ถูกในปัจจุบันมักไม่ใช่เพราะมันเคยถูกสมัย SET Index อยู่ที่ 800 แล้วตอนนี้มาแถว 1500 ก็ยังถูกอยู่ครับ แต่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงครับ

ป.ล. คอมเมนต์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในคำตอบข้างบนนั้น สำหรับท่านอื่นครับเผื่อจะเป็นประโยชน์ ไม่เกี่ยวกับคุณ CONAN ครับ กลัวเข้าใจผิดเพราะดันเขียนติดกันลืมแยกคำตอบออกมา

ถึงจะมีทางเลือก 5-6 ร้อยทาง
แต่เราไม่จำเป็นต้องเลือกก็ได้

เมื่อเพื่อนๆ ของคุณ
ทิ้งคุณไว้คนเดียวภายใต้ความมืด
คุณตะโกนบอกเพื่อนของคุณด้วยความหวังดี
เฮ้ย.. ทางนั้นยังไฟสะหลัวอยู่
อย่าไปเลย อันตราย !!

แต่เพื่อนของคุณตะโกนตอบกลับมาว่า
ใครว่าล่ะ สว่างแล้ว
ทั้งๆ ที่คุณเห็นแค่หลังเพื่อนคุณตะคุ่มๆ

คุณจะเชื่อใครดีครับ ระหว่าง...
ตาของตัวเอง หรือว่าตาของคนอื่น ?

ช่วงนี้แนะนำกองทุนจีนครับ