Thai VI

ในไทยตอนนี้มี 2 ค่ายคือ ebooks.in.th กับ ookbee.com
ผมลองใช้ดูแล้วมีปัญหาคือ บางครั้งเครื่อง Andoid ไม่สามารถตอบสนองกับ App ของทางเขา
ตอนแรกที่ผมซื้อมานะครับเจ้าเครื่อง Andoid มันตอบสนองกับ App ดีอยู่ใช้ไปได้อาทิตย์เดียว App ก็ไม่ตอบสนองกับเครื่องของผม
เครื่องที่ตอบสนองได้ตลอดจะเป็นของกลุ่ม Apple ซึ่งราคายังแพงอยู่ครับหลักหมื่นนู้น

ถ้า ณ เวลานี้หนังสือเป็นเล่มยังไปได้อยู่ครับ

AIS BookStore
B2S BookStore
ก็มีเป็น online ขายครับ

ตอนนี้พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนแปลงครับ
ดูจากรายการของช่องสามข่าวเช้าวันไหนตอนหลังเที่ยงคืน
วันสุดสัปดาห์มีแนะนำหนังสือ Online ทั้งเสียเงินและไม่เสียเงิน
แต่นิสัยคนไทยคือ ไม่ต้องการจ่ายเงินทุกอย่างครับ
~

ความเห็นส่วนตัวนะครับ อาจแรงไปหน่อยขออภัยไว้ก่อน จินตนาการล้วนๆ
ผมว่าร้านขายหนังสือเพียวๆ ทั่วโลก จะหายไปในอนาคต หรือเหลือน้อยมาก
เหตุผลของผมก็คือ
1.internet มันมีอะไรให้อ่านฟรีๆ ก็แทบจะอ่านกันไม่ไหวแล้ว google ค้นอะไรก็มีหมด
2.facebook twitterมาแย่งเวลาการอ่านหนังสือ มาแย่งความสนใจคนไปได้เยอะ ข้อมูลข่าวสารมัน update realtime ตลอดเวลา รูป คลิปวีดีโอ พร้อม แถมคุยกับเพื่อน ดูรูป เพลิน เล่นตลอดเวลาไม่มีเบื่อ
3.ค่าเช่าพื้นที่ ต้นทุนการพิมพ์ การผลิต การจัดเก็บ การขนส่ง ค่าแรงคนงาน มีแต่จะเพิ่มตลอดเวลา แต่กลับกันราคาหนังสือ ไม่สามารถเพิ่มได้เท่าค่าใช้จ่ายเหล่านั้น เพราะผู้บริโภคที่จะอ่านหนังสือเป็นเล่ม ก็เฉพาะเป็นแฟนที่เหนียวแน่นของหนังสือ และไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่พร้อมจะจ่ายเท่าไรก็ได้ แพงก็อาจไม่ซื้อ แม้จะสนใจก็ตาม

ส่วน ebook ผมว่าน่าติดตามและน่าจะโตได้เรื่อยๆ ตามเทรนของ tablet
แต่อาจโดนปัญหา copy ตามหลอกหลอน พี่ไทยเรื่อง copy หายห่วงครับ
copyได้ทุกอย่างแม้จะมีระบบป้องกันดีแค่ไหนก็ตาม

ยกตัวอย่างแรงๆนิสนึง
พวกขายแผ่น sofeware ปลอม หรือ แผ่นผีเพลง mp3 หรือแม้แต่หนัง AV
พวกนี้กำลังเป็นธุรกิจที่เหนื่อยหนัก เพราะตอนนี้ใน internet คุณสามารถหาได้ฟรีทั้งหมด
แถมมากมายมหาศาลจนโหลดไม่ไหว
และนับวันความเร็วเน็ตยิ่งแรง โหลด แชร์ข้อมูลมันง่าย เร็วไปหมด

se-ed ผม ก้อแย่สิ...ไม่มีหนังสือให้ขาย หรือ ไม่มีคนซื้อแล้วสิ

มาชัวครับ เพราะผมก้เริ่มอ่านข่าวใน ipad แล้ว สดวกดีๆม่ต้องเดินออกไปซื้อหรือให้มาส่งที่บ้านด้วย เพราะทุกเช้าจะมีอัพเดทเล่มใหม่ให้เลย สดวกดีแถมประหยัดกว่า

ปัญหา ไฟร์ E-Book เถื่อนมีแน่นอน จะทำให้ E book โตช้า

แต่ทางรอดก็มี ถ้า se-ed หรือ นายอิน ทำ เครื่องอ่าน e-book ของตัวเอง แล้วอย่าให้แพงมาก

download ผ่านตัวเครื่องเท่านั้น เหมือน Amazon ทำ Kindle

พวก Ipad Tablet ถ้าคนอ่านหนังสือจริงๆ ไม่เหมาะแก่การอ่าน อ่านนานๆไม่ได้แสบตา

สายตาจะเสียได้ เหมือยนั่งมองหลอดไฟตลอดเวลา เพราะไฟ LED จากจอ

E-Ink ใกล้เคียงกระดาษที่สุดแล้ว ณ ตอนนี้ ร้านหนังสือ น่าจะมาเจาะตลาดตรงนี้บ้าง

miracle เขียน:AIS BookStore
B2S BookStore
ก็มีเป็น online ขายครับ

ตอนนี้พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนแปลงครับ
ดูจากรายการของช่องสามข่าวเช้าวันไหนตอนหลังเที่ยงคืน
วันสุดสัปดาห์มีแนะนำหนังสือ Online ทั้งเสียเงินและไม่เสียเงิน
แต่นิสัยคนไทยคือ ไม่ต้องการจ่ายเงินทุกอย่างครับ
~

มันbase ookbee หมดเลยครับที่ว่ามา รวมถึงของสนพมติชนด้วย ;w;

ผมคิดว่า e-books จะมาแน่ครับ โดยมี ookbee ศิษย์ intuch นำมาเป็นเจ้าใหญ่
เพียงแต่ว่าคงค่อยๆเปลี่ยน ไม่ได้เปลี่ยนแบบฉับพลัน

สาเหตุก็หลายอย่าง เช่น ความพร้อมของ software ในการอ่าน อย่าง android ด้วยความที่มันมีหลากหลาย version มาก ทำให้ software ไม่สามารถรองรับได้ดีในทุก version ได้ ทั้งๆที่มันเป็นตลาด mass มากกว่า iOS

platform ก็คงผ่าน tablet เป็นหลัก แม้การอ่านจะทำให้ล้ากว่าเมื่อเทียบกับเครื่องอ่าน ebook แบบ kindle ก็ตาม
ปัญหาของ kindle คือ ช่วงหลังจะเห็นชัดเลยว่าแม้แต่ amazon ก็ยกเลิก kindle จอใหญ่แล้ว เหลือแค่ 6 นิ้ว ซึ่งมันเหมาะกับหนังสือที่มีแต่ตัวหนังสือ แต่คนทั่วไปชอบอะไรที่มัน universal กว่านั้น เช่น อ่าน magazine หรือ หนังสือที่มีรูปมากๆได้ ซึ่ง tablet มีหน้าจอขนาดใหญ่จะเหมาะกว่ามาก

ข้อดีของ e-books ก็คือ ประหยัดที่เก็บ + พกพาง่าย + ราคาประหยัดถึง 50-70% จากราคาเป็นเล่ม เอาแค่ magazine 12 เล่มต่อปี ก็กองพะเนินแล้วครับ ส่วนตัวก็รอ ipad รุ่นใหม่ออ กปีนี้คงซื้อมาใช้ ตอนนี้ก็ชะลอซื้อพวก magazine แล้วค่อยซื้อเล่มย้อนหลังแทนครับ

ส่วนเรื่องร้านหนังสือ ไม่ต้องเอาไกล ขนาด e-books ยังไม่แพร่หลาย ร้านหนังสือเจ้าฮิตประจำชุมชนแถวบ้านผม ช่วงหลังยังย่ำแย่ ที่เคยลดให้ 10% ก็เหลือ 3-5% คนก็เข้าน้อยลง หรือจะไปดูเจ้าใหญ่ตามห้าง เช่น B2S ผมเป็นสมาชิก book club ลดได้ 10% ตอนนี้เปลี่ยนนโยบายเหลือแค่ 5% แล้วเช่นกันครับ

pornchal เขียน:se-ed ผม ก้อแย่สิ...ไม่มีหนังสือให้ขาย หรือ ไม่มีคนซื้อแล้วสิ

ผมรอดูโครงการสื่อสอนภาษาอังกฤษที่ผู้บริหารเคยพูดไว้ เป็นโครงการเพื่อรองรับ AEC
ถ้าดีจริงอย่างที่ผู้บริหารมอง น่าจะพลิกธุรกิจของ SE-ED ได้

เจ้าตลาดของ E-book คือ อะเมซอน
ระบบดีมากๆมาย ถ้าใครซื้อมามันเล่น 3G ฟรีด้วยละ
โดยไม่เสียเงินไม่เสียค่า Air Time สำหรับบางรุ่น (ตรวจสอบก่อนซื้อละกัน)

Kiddle มีให้โหลดทั้ง android + iOS ส่วน MS windows ยังไม่ได้ลองกับมือ
(แต่เป็นคนที่ใช้เจ้าหุ่นยนต์ไม่ค่อยจะเป็น งงอยู่)

บ้านเรา มีข้อแปลกคือ คนไม่ค่อยอ่านหนังสือ อ่านน้อยมากๆ
ชอบของฟรีอีกต่างหาก ราคาต่ำๆค่อยซื้อ (ซื้อของลดราคา ไม่ลดไม่ซื้อ)
ยิ่งมีการจับรางวัลหรือส่งชิงโชคยิ่งขายดี
ดังนั้น ถ้าใครตีโจทย์จุดนี้แตกก็เป็นผู้นำตลาดนี้ได้

ผมเป็นคนที่ชอบซื้อ e-book มาอ่านบ้าง
ปกติก็ซื้อจากapp ชื่อ AIS bookstore กับ MEB(mobile e-book)
สงสัยเหมือนกันว่าทำไมราคา e-book ถึงต่างกับหนังสือแค่ ไม่กี่เปอร์เซ็น
(ทั้งๆที่ e-book มันช่วยลดต้นทุนการพิมพ์เยอะมาก(รึป่าว) ??? )
ทำให้การซื้อหนังสือธรรมดาหรือ e-book ดูไม่ค่อยต่างกัน

แต่อย่างเพลงนี่ผมยอมซื้อ เพราะอยากอุดหนุนศิลปินจริงๆ
เพลงนึงราคาแค่ 0.69 $
ท่านอื่นมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ???

งั้นเดี๋ยวผมจะทำหนังสือชื่อ ยำใหญ่ครับ ราคา 49 บาทเท่านั้น ขายทาง Apple 1.99 $
ตอนนี้รอให้ทาง ookbee อัพโหลดหนังสือให้เท่านั้นครับ
หรือถ้าใครใจร้อนมาดูได้ที่ http://www.ebooks.in.th/ebook/11966/ยำใหญ่
อันนี้ผมสมัครไว้กับทาง ebooks.in.th

miracle เขียน:AIS BookStore
B2S BookStore
ก็มีเป็น online ขายครับ

ตอนนี้พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนแปลงครับ
ดูจากรายการของช่องสามข่าวเช้าวันไหนตอนหลังเที่ยงคืน
วันสุดสัปดาห์มีแนะนำหนังสือ Online ทั้งเสียเงินและไม่เสียเงิน
แต่นิสัยคนไทยคือ ไม่ต้องการจ่ายเงินทุกอย่างครับ
~

อันนี้คือค่ายกลุ่มพันธมิตรเดียวกันครับคือ ookbee.com ครับ

ผมว่าน่าจะค่อยๆมาทดแทนน่ะครับ แต่คงไม่ทำให้หนังสือแบบเป็นเล่มหายไปเลย เพราะคงมีคนบางกลุ่มที่ยังเลือกอ่านหนังสือแบบเป็นเล่ม อาจจะเพราะทั้งในเรื่องสายตาหรือเรื่องเทคโนโลยี ส่วนตัวผมอ่าน E-Book ไม่ค่อยไหวครับปวดตา ถ้าเป็นหนังสือที่เนื้อหาค่อนข้างเยอะ ผมยังคงเลือกอ่านหนังสือแบบเป็นเล่มครับ

คิดว่ามาแน่นอน เพราะตอนนี้เราก็แทบจะเปลี่ยนมาซื้อหนังสือทางออนไลน์เลย
เพราะว่าได้ส่วนลด ไม่ต้องหาที่เก็บหนังสือ และพกไปอ่านได้ทุกที่