CIO กองทุนบัวหลวง พูดเรื่องการลงทุนครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2013 10:42 pm
เอามาจากFB คุณวรวรรณ ธาราภูมิ CEO บลจ.บัวหลวง จากงานวันนี้ที่ตลาดหลักทรัพย์
เมื่อ CIO กองทุนบัวหลวง พูดถึงการลงทุนในปีนี้
-------------------------------
เน้นเรื่องการแสวงหาและคัดเลือกหุ้นที่เป็น Stars เป็น Growth Stocks ภายใต้ Theme การลงทุนที่เห็นข้างหน้าในอนาคต
เรื่อง QE เรื่องเงินต่างชาติที่เข้าๆ ออกๆ ซึ่งคล้ายๆ เงินร้อนจากต่างชาติทำตัวเป็นเจ้ามือตลาดหุ้นไปทั่วโลกนั้น พี่เคี้ยวบอกว่า “เจ้ามือตัวจริงคือ กำไรหุ้น ไม่ใช่เจ้ามืออย่างรัฐบาลและธนาคารกลางทั้งหลาย” หมายความว่า ผลกำไรของบริษัทที่เราลงทุนจะเป็นตัวตัดสินคุณค่าและราคาหุ้นในระยะยาว ไม่ใช่ข่าวที่จะรบกวนเราไปตลอดเส้นทางลงทุนเหมือนละครภาคดึกที่มีฉายให้ดูทุกวันอย่างเรื่องเพดานหนี้ในอเมริกา อย่างเรื่องปัญหาของยุโรป ที่จะมากวนเป็นระยะๆ
นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกประเทศ แม้จะกระทบได้ทั้งบวกและลบในระยะสั้น แต่มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศเลย แบบว่ายังต้องขับรถส่งลูกไปโรงเรียนทุกวัน ยังต้องกิน ต้องใช้ ดังนั้น Thinking Process จึงสำคัญที่สุด เราหา Theme ลงทุน คือหาวงจรแห่งความรุ่งเรือง แล้วกำหนด Trend ของ Theme
Theme ในวันนี้คือ Urbanization ซึ่งจะได้รับผลดีจากการที่เมืองขยาย ทำให้คน ตจว. มีเงินมากขึ้น ทำให้การบริโภคภายในประเทศไปได้อีกมาก
หลังจากนั้น เราจึงไปแสวงหาบริษัทที่จะได้รับผลดีจาก Theme นั้น หรือที่เรียกว่า Bottom up ซึ่งเราหาหุ้นโดยไม่ได้วิเคราะห์เฉพาะเชิงปริมาณหรือดูแค่ตัวเลขผลการดำเนินงาน แต่เราดูคุณภาพด้วย
เราไม่ได้ซื้อเพราะแค่ดูตัวเลขสวยๆ แต่ใช้รูปแบบของ ฟิลลิป ฟิชเชอร์ ที่ออกไปเสาะหาข้อเท็จจริงของธุรกิจ สืบค้น พูดคุยกับแหล่งข้อมูล เช่น คู่แข่ง ซัพพลายเออร์ ลูกค้า เพื่อที่จะดูให้ลึกลงไปว่าการดำเนินงานของบริษัทที่แท้จริงแล้วมันเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ ค่ายกองทุนบัวหลวง ไม่ได้ผูกตัวเองกับการเอาชนะตลาด ไม่ได้ตั้งเป้าเอาชนะคู่แข่ง ไม่ได้มุ่งให้ผลงานกองทุนชนะดัชนีตลาดหุ้น แต่เรามุ่งไปที่การหาหุ้นที่จะเป็นผู้ชนะ
จินตนาการที่จะบรรลุได้ ไม่ใช่แบบโบรกเกอร์ที่ขยับราคาไปเรื่อยๆ ในขณะที่เรามองไปแล้วตั้งแต่ต้น
ไวน์ชั้นดีเดิมคือไวน์จาก Old world เช่นของฝรั่งเศส แต่เดี๋ยวนี้เรามีไวน์ดีๆ จาก New World แล้ว ไทยก็มีบริษัทดีๆ ที่คล้ายๆ กับไวน์ดีๆ จาก New World ให้คนเลือกลงทุนได้ เรามอง AEC เป็นโอกาสมาก โดยต่อยอดเรื่องเดินทาง ขายของเพื่อนบ้าน Medical Tourism
เราให้ความสำคัญในเรื่อง Brand Image ของหุ้นที่เราสนใจจะลงทุน โดยเป็นบริษัทที่มีสินค้าและบริการที่ติดตลาดโดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน แต่ไม่จำกัดว่าเฉพาะอาเซียน ซึ่งเรื่องอย่างนี้ Brand Image เป็นสิ่งสำคัญ และสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีรายได้มากขึ้น ก็เลือกสินค้าและบริการที่มี Image ดีมากขึ้น
พี่เคี้ยวยกตัวอย่างว่าที่พัทยาเดิมมีป้ายภาษาไทยกับอังกฤษ เดี๋ยวนี้มึคำเตือนภาษาจีน ภาษารัสเซีย แล้ว นอกจากนี้ การท่องเที่ยวไทยยังรู้จักใช้ดาราไทยไปดึงดูดคนจีน โปรโมท สำเร็จจนไฟลท์บินเดือน ธค เต็ม
ด้านการลงทุนของต่างชาติที่เข้ามาใน Real Sectors ไทยนั้น ก็ขึ้นเยอะ เช่น ญี่ปุ่น ที่มาเร็ว มาจริง
ในปี 2555 ทีมจัดการกองทุนบัวหลวง เรียก Theme ที่ใช้ด้วยชื่อที่จำได้ง่ายๆ ว่า “บินแหลก แ_กไม่อั้น ซึ่งหมายถึงกิจการที่เกี่ยวกับการเดินทางทางอากาศ และการบริโภค
สำหรับปีนี้ เราก็ยัง “บินแหลก แ_กไม่อั้น” ต่อจากปีก่อน และเพิ่มด้วยประโยคที่ว่า “Light up your life, protect your assets.
“Light up your life” หมายถึงชีวิตที่สุขสำราญ สว่างไสว ไฟฟ้า เดินทางท่องเที่ยว ปลดปล่อย บันเทิง สวยขึ้น แต่งตัว Entertainment
ส่วน “Protect your assets” มีสองความหมาย อย่างแรกหมายถึงผู้คนจะเริ่มคิดถึงการปกป้องคุ้มครองตนและครอบครัวมากขึ้น เช่น ทำประกันชีวิต สุขภาพ รถ และในอีกแง่หนึ่งสำหรับการบริหารพอร์ตกองทุนของเรา เราจะปกป้องพอร์ตกองทุน และ Defensive มากขึ้น
สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่เพียงวิชาการและตัวเลขเท่านั้นที่จะทำให้เลือกลงทุนได้สำเร็จ จินตนาการเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้บรรลุได้ แต่ไม่ใช่จินตนาการลมๆ แล้งๆ ในขณะที่เรามองเห็นราคาหุ้นในอนาคตว่าน่าจะไปได้ถึงแค่ไหน เราก็ยึดเป้าหมายไว้ตรงนั้นตั้งแต่เราเริ่มลงทุน ซึ่งต่างกับโบรกเกอร์ที่ขยับราคาหุ้นไปเรื่อยๆ
นอกจากนี้ เรายังพบว่ามีระดับ CIO กองทุนต่างประเทศจำนวนมากที่ติดต่อขอมาพบเรา มาพบคู่แข่งเรา และไปเยี่ยมชมกิจการต่างๆ ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย นี่ยิ่งยืนยันได้ถึงกระแสตะวันออกและเอเชียมาแรง โดยเฉพาะอาเซียน เพราะเดิมนั้น ตัวใหญ่ๆ แบบนี้ไม่มีมาด้วยตนเอง ซึ่งกลุ่มนี้ไม่ใช่เงินร้อน เป็นกลุ่มที่ลงทุนได้นาน
สำหรับเงินร้อนช่วงสั้นๆ นั้น Currency War กำลังเป็น issue และจะเกิด yen carry trade ยังมี Fund flow เข้ามาลงทุนในไทยต่อเนื่อง
สำหรับการลงทุนใน AEC นั้น ทีมจัดการกองทุนของเรามีการเตรียมพร้อมไว้แล้ว รอให้ Operation ด้านชำระราคาและส่งมอบของตลาดหลักทรัพย์ฯ กับโบรกเกอร์เรียบร้อยก่อน โดยเราแบ่งนักวิจัยเราให้ดูกิจการในประเทศต่างๆ ครบถ้วน
ท้ายสุด พี่เคี้ยวบอกว่า....
“Be bullish in bull market”
"อย่าไปกลัว แต่ให้ลงทุนอย่างระมัดระวังและรอบคอบ"
เมื่อ CIO กองทุนบัวหลวง พูดถึงการลงทุนในปีนี้
-------------------------------
เน้นเรื่องการแสวงหาและคัดเลือกหุ้นที่เป็น Stars เป็น Growth Stocks ภายใต้ Theme การลงทุนที่เห็นข้างหน้าในอนาคต
เรื่อง QE เรื่องเงินต่างชาติที่เข้าๆ ออกๆ ซึ่งคล้ายๆ เงินร้อนจากต่างชาติทำตัวเป็นเจ้ามือตลาดหุ้นไปทั่วโลกนั้น พี่เคี้ยวบอกว่า “เจ้ามือตัวจริงคือ กำไรหุ้น ไม่ใช่เจ้ามืออย่างรัฐบาลและธนาคารกลางทั้งหลาย” หมายความว่า ผลกำไรของบริษัทที่เราลงทุนจะเป็นตัวตัดสินคุณค่าและราคาหุ้นในระยะยาว ไม่ใช่ข่าวที่จะรบกวนเราไปตลอดเส้นทางลงทุนเหมือนละครภาคดึกที่มีฉายให้ดูทุกวันอย่างเรื่องเพดานหนี้ในอเมริกา อย่างเรื่องปัญหาของยุโรป ที่จะมากวนเป็นระยะๆ
นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกประเทศ แม้จะกระทบได้ทั้งบวกและลบในระยะสั้น แต่มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศเลย แบบว่ายังต้องขับรถส่งลูกไปโรงเรียนทุกวัน ยังต้องกิน ต้องใช้ ดังนั้น Thinking Process จึงสำคัญที่สุด เราหา Theme ลงทุน คือหาวงจรแห่งความรุ่งเรือง แล้วกำหนด Trend ของ Theme
Theme ในวันนี้คือ Urbanization ซึ่งจะได้รับผลดีจากการที่เมืองขยาย ทำให้คน ตจว. มีเงินมากขึ้น ทำให้การบริโภคภายในประเทศไปได้อีกมาก
หลังจากนั้น เราจึงไปแสวงหาบริษัทที่จะได้รับผลดีจาก Theme นั้น หรือที่เรียกว่า Bottom up ซึ่งเราหาหุ้นโดยไม่ได้วิเคราะห์เฉพาะเชิงปริมาณหรือดูแค่ตัวเลขผลการดำเนินงาน แต่เราดูคุณภาพด้วย
เราไม่ได้ซื้อเพราะแค่ดูตัวเลขสวยๆ แต่ใช้รูปแบบของ ฟิลลิป ฟิชเชอร์ ที่ออกไปเสาะหาข้อเท็จจริงของธุรกิจ สืบค้น พูดคุยกับแหล่งข้อมูล เช่น คู่แข่ง ซัพพลายเออร์ ลูกค้า เพื่อที่จะดูให้ลึกลงไปว่าการดำเนินงานของบริษัทที่แท้จริงแล้วมันเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ ค่ายกองทุนบัวหลวง ไม่ได้ผูกตัวเองกับการเอาชนะตลาด ไม่ได้ตั้งเป้าเอาชนะคู่แข่ง ไม่ได้มุ่งให้ผลงานกองทุนชนะดัชนีตลาดหุ้น แต่เรามุ่งไปที่การหาหุ้นที่จะเป็นผู้ชนะ
จินตนาการที่จะบรรลุได้ ไม่ใช่แบบโบรกเกอร์ที่ขยับราคาไปเรื่อยๆ ในขณะที่เรามองไปแล้วตั้งแต่ต้น
ไวน์ชั้นดีเดิมคือไวน์จาก Old world เช่นของฝรั่งเศส แต่เดี๋ยวนี้เรามีไวน์ดีๆ จาก New World แล้ว ไทยก็มีบริษัทดีๆ ที่คล้ายๆ กับไวน์ดีๆ จาก New World ให้คนเลือกลงทุนได้ เรามอง AEC เป็นโอกาสมาก โดยต่อยอดเรื่องเดินทาง ขายของเพื่อนบ้าน Medical Tourism
เราให้ความสำคัญในเรื่อง Brand Image ของหุ้นที่เราสนใจจะลงทุน โดยเป็นบริษัทที่มีสินค้าและบริการที่ติดตลาดโดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน แต่ไม่จำกัดว่าเฉพาะอาเซียน ซึ่งเรื่องอย่างนี้ Brand Image เป็นสิ่งสำคัญ และสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีรายได้มากขึ้น ก็เลือกสินค้าและบริการที่มี Image ดีมากขึ้น
พี่เคี้ยวยกตัวอย่างว่าที่พัทยาเดิมมีป้ายภาษาไทยกับอังกฤษ เดี๋ยวนี้มึคำเตือนภาษาจีน ภาษารัสเซีย แล้ว นอกจากนี้ การท่องเที่ยวไทยยังรู้จักใช้ดาราไทยไปดึงดูดคนจีน โปรโมท สำเร็จจนไฟลท์บินเดือน ธค เต็ม
ด้านการลงทุนของต่างชาติที่เข้ามาใน Real Sectors ไทยนั้น ก็ขึ้นเยอะ เช่น ญี่ปุ่น ที่มาเร็ว มาจริง
ในปี 2555 ทีมจัดการกองทุนบัวหลวง เรียก Theme ที่ใช้ด้วยชื่อที่จำได้ง่ายๆ ว่า “บินแหลก แ_กไม่อั้น ซึ่งหมายถึงกิจการที่เกี่ยวกับการเดินทางทางอากาศ และการบริโภค
สำหรับปีนี้ เราก็ยัง “บินแหลก แ_กไม่อั้น” ต่อจากปีก่อน และเพิ่มด้วยประโยคที่ว่า “Light up your life, protect your assets.
“Light up your life” หมายถึงชีวิตที่สุขสำราญ สว่างไสว ไฟฟ้า เดินทางท่องเที่ยว ปลดปล่อย บันเทิง สวยขึ้น แต่งตัว Entertainment
ส่วน “Protect your assets” มีสองความหมาย อย่างแรกหมายถึงผู้คนจะเริ่มคิดถึงการปกป้องคุ้มครองตนและครอบครัวมากขึ้น เช่น ทำประกันชีวิต สุขภาพ รถ และในอีกแง่หนึ่งสำหรับการบริหารพอร์ตกองทุนของเรา เราจะปกป้องพอร์ตกองทุน และ Defensive มากขึ้น
สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่เพียงวิชาการและตัวเลขเท่านั้นที่จะทำให้เลือกลงทุนได้สำเร็จ จินตนาการเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้บรรลุได้ แต่ไม่ใช่จินตนาการลมๆ แล้งๆ ในขณะที่เรามองเห็นราคาหุ้นในอนาคตว่าน่าจะไปได้ถึงแค่ไหน เราก็ยึดเป้าหมายไว้ตรงนั้นตั้งแต่เราเริ่มลงทุน ซึ่งต่างกับโบรกเกอร์ที่ขยับราคาหุ้นไปเรื่อยๆ
นอกจากนี้ เรายังพบว่ามีระดับ CIO กองทุนต่างประเทศจำนวนมากที่ติดต่อขอมาพบเรา มาพบคู่แข่งเรา และไปเยี่ยมชมกิจการต่างๆ ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย นี่ยิ่งยืนยันได้ถึงกระแสตะวันออกและเอเชียมาแรง โดยเฉพาะอาเซียน เพราะเดิมนั้น ตัวใหญ่ๆ แบบนี้ไม่มีมาด้วยตนเอง ซึ่งกลุ่มนี้ไม่ใช่เงินร้อน เป็นกลุ่มที่ลงทุนได้นาน
สำหรับเงินร้อนช่วงสั้นๆ นั้น Currency War กำลังเป็น issue และจะเกิด yen carry trade ยังมี Fund flow เข้ามาลงทุนในไทยต่อเนื่อง
สำหรับการลงทุนใน AEC นั้น ทีมจัดการกองทุนของเรามีการเตรียมพร้อมไว้แล้ว รอให้ Operation ด้านชำระราคาและส่งมอบของตลาดหลักทรัพย์ฯ กับโบรกเกอร์เรียบร้อยก่อน โดยเราแบ่งนักวิจัยเราให้ดูกิจการในประเทศต่างๆ ครบถ้วน
ท้ายสุด พี่เคี้ยวบอกว่า....
“Be bullish in bull market”
"อย่าไปกลัว แต่ให้ลงทุนอย่างระมัดระวังและรอบคอบ"