Thai VI

คือทำอะไรไม่ได้เลย เช่นเดิม
หรือไม่ได้ทำอะไรเลย เช่นเดิม

ช่วงนี้เห็นหุ้นขึ้นมาหลายตัว บางตัวก็มี story แต่ก็ขึ้นเกินเหตุ บางตัวเราประเมินว่าเน่าสุด ๆ แต่ก็สามารถขึ้นมาอย่างได้ใจ

เราเล่นแบบ vi มองแล้วก็เสียวแทนผู้ลงทุน ด้วยความหวังดี ไปเตือนเขาให้จ้องขายออกไป ปรากฎว่าขึ้นมาอีก 2 เท่าบ้าง 3 เท่าบ้าง เป็นอุทาหรณ์ว่า ไปเอาแน่อะไรกับราคาไม่ได้ ...หวังดีกับใครอาจไปขัดลาภเขา

สุดท้ายกลับมาเดินตามแนวทางเราดีกว่า แนวทางคนอื่นเขาย่อมสมควรชำนาญในแนวทางของเขา

ด้าน กลต ...ผมว่าเขาก็พยายามทำหน้าที่ของเขา ก็เห็นเป็นช่วง ๆว่า เขาสามารถจับได้หลายกรณี
กระนั้นก็ตามอยากให้เข้าใจว่าการจับได้มันไม่ง่ายนะครับ ก่อน กลต จะกล่าวโทษใคร ต้องมั่นใจ มีหลักฐานชัดเจน พิสูจน์ได้ ไม่เช่นนั้น อาจถูกฟ้องร้องกลับ และเสียภาพพจน์ กลต ด้วย เราดูจากภายนอกก็บอกง่าย แต่ที่เราเห็นเป็นเพียงภาพราคา แต่เราไม่รู้รายการซื้อขายที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร ว่ามีการปั่นหุ้นจริงไหม การปั่นหุ้นมีหลายแบบ อาจจากการโยนหุ้นไป-มา อันนี้ตรวจสอบง่าย แต่หากเป็นการสร้างข่าว หรือ ความคาดหวังจนเกิด volume การซื้อ-ขาย...อันนี้จะพิสูจน์ยาก เหมือนหุ้น ipo ที่เข้าตลาดแล้วขึ้นไปเป็น 100 % อาจมาจากการปั่นและหรือความโลภของนักลงทุน ที่มองแนวโน้มราคาหุ้นเข้าตลาดเป็นเช่นนั้น จึงกล้าซื้อแม้ที่ราคาสูงมากก็ตาม

ช่วงนี้สนุกสนานเฮฮากันใหญ่
อะไรก็เอามาขายเป็น story ได้หมด

อา... สภาพตอนน้ำลดจะเป็นอย่างไร น่ารอดูชม

ปั่นไม่ปั่นผมไม่รู้หรอก แต่หุ้นหลายตัว(พูดถึงบริษัทที่คุณภาพโอเคถึงดีลงทุนได้นะ หุ้นเน่าผมไม่เคยตามหรือทองเลยไม่รู้)peมันไปถึงสวรรค์ ลองคิดแบบforwardแล้วก็เถอะ หรือผมconservativeเกินไปไม้รู้ ปีนี้เลนแพ้ตลาดกระจุย 555

ช่างกลต. เถอะครับ สำหรับเราชาว VI แล้วปั่นไม่ปั่นพวกเราดูออกสบายๆ

ปล่อยให้เม่าไทยและห้องนู้นด่ากลต. ต่อไป เพราะพวกเขาไม่เคยโทษตัวเองเลย

ไม่มีใครบังคับคุณให้ซื้อหุ้นปั่น

ขอความรู้หน่อยครับนะครับ

ไม่รู้ว่าเราจะดูยังไงว่าตัวไหนปั่นไม่ปั่นอ่ะครับ

ก.ล.ต = กูลืมเตือน

หุ้นที่ขึ้นเยอะๆตอนนี้เค้าก็อ้างตัวเป็นแนวแวลู่ทั้งนั้น. ถึงเรียกเม่าได้เยอะ. กลต. ไปห้ามก็โดนด่าสิ รอให้มันดอยก่อนค่อยเบรค

patongpa เขียน:หุ้นที่ขึ้นเยอะๆตอนนี้เค้าก็อ้างตัวเป็นแนวแวลู่ทั้งนั้น. ถึงเรียกเม่าได้เยอะ. กลต. ไปห้ามก็โดนด่าสิ รอให้มันดอยก่อนค่อยเบรค

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 17365.html
ก่อนที่ผมจะไปตั้งกระทู้ดังกล่าวข้างต้น
ผมใช้ความคิดอยู่นานทีเดียวก่อนตัดสินใจเขียนมันลงไป

นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดเชื่อว่า การลงทุนหุ้นแบบระยะ สั้นซื้อๆขายๆ จะสร้างผลกำไรที่ดีกว่าให้กับเค้า
ภาพ "การเป็นนักลงทุนระยะยาว" เริ่มค่อยๆจางหายไปจากตลาดฯ

คำว่า "วีไอ" ถูกแสลงเป็นคำว่า "ไว ไว"
และทุกคนกำลัง Enjoy สุดขีดกับการเข้าลุยซื้อหุ้นแบบวันต่อวัน โดยคำแนะนำจาก "เซียนใบ้หุ้น"
โดยอาศัยเหตุผลในการซื้อเพียงแค่ว่า...."วันนี้เค้าบอกให้ลุยตัวนั้นตัวนี้!!!"

"เซียนใบ้หุ้น" เองนั้น...
บางคนก็หาหุ้นเอง โดยใช้ปัจจัยพื้นฐานบางส่วน และมักใช้กราฟ เพื่อหา Buy Signal
แต่ก็มีอีกหลายคน ที่เป็น "เซียนใบ้หุ้น" โดยใช้ข้อมูล Inside เพราะรู้จักกลุ่มก๊วนรายใหญ่ๆในตลาดฯ
แต่เท่าที่ผมพอรู้มา...
"เซียนใบ้หุ้น" ส่วนใหญ่ มักจะมีเพื่อนเป็น "มาร์" แล้วฟังเค้าบอกต่อมาอีกที ก็เท่านั้นเอง

"ข่าวจริง ข่าวหลอก ข่าวลือ"...บินว่อนทั่วตลาดไปหมด
ในวันนี้ วันที่ Set กำลังจะไปแตะ 1,400 จุด!!!

สำหรับบริษัทฯของผมเอง
คนทั่วไปอาจมองว่า "เน่า"...แต่ผมมองเห็น Business Model ที่เปลี่ยนแปลงไปเกือบทั้ง100% ทั้ง Market Size และ Margin
คนทั่วไปอาจมองว่า "ปั่น"...แต่ผมมองเห็นว่า ทุกๆราคาปิดที่เกิดขึ้นในช่วงนี้นั้น ส่งผลอย่างรุนแรงต่อ "ราคาแปลงสภาพของ Convertible Debenture(CD)" ที่เสนอขายให้กับกองทุน AO Fund
และมากกว่านั้น ราคาแปลงสภาพของ CD ดังกล่าว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับแผนการล้างขาดทุนสะสมของบริษัทฯอย่างยิ่ง
(เพราะ ทุกๆการแปลง CD จะก่อให้เกิดส่วนเกินมูลค่าหุ้น)

"เวลา"...จะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกอย่างด้วยตัวเองอย่างช้าๆ
ผมเองยอมรับว่า "มีโอกาสตัดสินใจผิดพลาด" ได้เช่นกัน
เพราะการที่บริษัทฯทำธุรกิจ ย่อมต้องเสี่ยง และอาจมีอุบัติเหตุที่เราคาดคิดไม่ถึงได้เสมอ
แต่นั่นเป็นเพราะ เราประเมินมูลค่า และมองเห็น "โอกาส" ของ New Business Model

สำหรับผมแล้ว...
"เวลา"...ยังคงเป็นเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดสำหรับผม
ผมไม่รู้ว่า...ผมกำลังแอบอ้างตัวเองว่าเป็น "วีไอ" อยู่หรือเปล่านะครับ
แต่อยากให้รู้แค่ว่า...

เช้านี้ ผมตื่นขึ้นมาทำการบ้าน ด้วยนั่งอ่านเอกสารแนบเรื่องการเพิ่มทุน Convertible Debenture อย่างช้าๆ
พร้อมกำลังจดคำถามที่เป็น Strategic Question เพื่อไปถามในที่ประชุมฯ
ผมเชื่อว่า...
"ผมเหนื่อยลงแรงเพียงคนเดียว แต่นักลงทุนทั้งประเทศได้ประโยชน์จากสิ่งที่ผมถาม มันก็คุ้มค่าครับ"

ด้วยความเคารพ
pak ThaiVI

สำหรับบริษัทฯของผมเอง
คนทั่วไปอาจมองว่า "เน่า"...แต่ผมมองเห็น Business Model ที่เปลี่ยนแปลงไปเกือบทั้ง100% ทั้ง Market Size และ Margin
คนทั่วไปอาจมองว่า "ปั่น"...แต่ผมมองเห็นว่า ทุกๆราคาปิดที่เกิดขึ้นในช่วงนี้นั้น ส่งผลอย่างรุนแรงต่อ "ราคาแปลงสภาพของ Convertible Debenture(CD)" ที่เสนอขายให้กับกองทุน AO Fund
และมากกว่านั้น ราคาแปลงสภาพของ CD ดังกล่าว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับแผนการล้างขาดทุนสะสมของบริษัทฯอย่างยิ่ง
(เพราะ ทุกๆการแปลง CD จะก่อให้เกิดส่วนเกินมูลค่าหุ้น)

พี่ PAK ผมอ่านแล้วไม่เข้าใจประโยคนี้ครับ

กลต. อยู่ที่ ตึกจีพีเอฟ ถนนวิทยุ ครับ

ถ้ารู้ว่าตัวไหนปั่นหรือแจ้งเบาะแส ก็ที่นี่เลยครับ http://www.sec.or.th/sec/Content_000000 ... 02&lang=th

หุ้นปั่นเกิดขึ้นได้ก็มาจาก demand และระดับความโลภของคนด้วยครับ ในช่วงตลาดตกต่ำ พวกนี้มีค่อนข้างน้อยเพราะคนไม่สนใจตลาดทำให้ demand ไม่พอครับ ^^

ผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของความกลัวกับความโลภที่มีอยู่ทั่วไป นักลงทุนอย่างเราๆ ก็ควรมีสติ และรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตัวเอง โทษคนอื่นไม่ได้ครับ

<< New >> เขียน:กลต. อยู่ที่ ตึกจีพีเอฟ ถนนวิทยุ ครับ

ถ้ารู้ว่าตัวไหนปั่นหรือแจ้งเบาะแส ก็ที่นี่เลยครับ http://www.sec.or.th/sec/Content_000000 ... 02&lang=th

เห็นด้วยครับ ถ้าใครมีเบาะแสอะไรก็แจ้งเค้าไปได้เลยครับ

ผมเองยังเคย mail ไปแจ้งเรื่อง login ดังใน pantip ที่โพสกราฟให้เป้าหมายหุ้นโดยไม่มีใบอนุญาต แจ้งไปประมาณ 2 อาทิตย์ login นั้นก็โดนห้ามโพส เกิดดราม่าใหญ่โตใน pantip

ผมคิดว่าถ้ามีหลักฐาน แล้วมีคนแจ้ง เค้าดำเนินการเร็วนะครับ คงไม่ได้นั่งนิ่งดูดายกินเงินเดือนไปวันๆ

ก่อนที่จะกล่าวหาว่าหุ้นตัวไหนเป็นหุ้นปั่น
ถามว่าได้ศึกษาพื้นฐานหุ้นตัวนั้นๆ แล้วหรือยัง
ไม่ใช่ว่า หุ้นที่ขึ้นแรงๆ เร็วๆ ทุกตัวคือปั่น
ผมเคยตกรถนับขบวนไม่ถูก เพียงเพราะอคติกับหุ้นที่เคยพื้นฐานไม่ดีในอดีต แต่ปัจจุบัน Biz Model เปลี่ยนไปแล้ว หรือบางบริษัทก็เปลี่ยนทีมบริหาร เปลี่ยนนโยบาย บริหารจัดการ หาตลาดได้เพิ่มขึ้น
ทั้งหมดนี้ผมไม่เคยสนใจจะไปดู มัวแต่คิดว่ามัน หุ้นปั่น

ดำ เขียน:ผมเคยตกรถนับขบวนไม่ถูก เพียงเพราะอคติกับหุ้นที่เคยพื้นฐานไม่ดีในอดีต แต่ปัจจุบัน Biz Model เปลี่ยนไปแล้ว หรือบางบริษัทก็เปลี่ยนทีมบริหาร เปลี่ยนนโยบาย บริหารจัดการ หาตลาดได้เพิ่มขึ้น
ทั้งหมดนี้ผมไม่เคยสนใจจะไปดู มัวแต่คิดว่ามัน หุ้นปั่น

ผมเคยพลาด KAMART ครับ
หลังจากนั้น ผมไม่เคย "ดูเบา" บริษัทฯใดในตลาดฯอีกเลย

ล่าสุด...
แม้แต่ N-PARK เอง คุณประชา มาลีนนท์ ก็ยังซื้อหุ้นไปบางส่วน
ส่วนท่านซื้อไปทำไม
ไม่รู้ครับผม??? ไม่เคยตามจ้า

Kamart นี่เป็นตัวอย่างเลย
ผมเห็นมันตอนเป็น Distar เก่า
ตอนนั้นอยู่ประมาณ 20-30 สตางค์
และพอเปลี่ยนมาทำธุรกิจเครื่องสำอางค์
หุ้นก็ขึ้นเอา ๆ ก็ยังไม่กล้าซื้อ
จนถึงปัจจุบันนี่ประมาณ 7 บาท แล้ว

คิดดูว่าเพิ่มขึ้นมากี่ พัน%
อย่าเพิ่งคิดว่ามันปั่นทุกตัว
ธุรกิจมันเปลี่ยน ราคาก็อาจเปลี่ยนได้

จะมีแบบ kamart ซักกี่บริษัท
รอดูครับ

เสียดายเอ่ยชื่อหุ้นไม่ได้ ผิดกฏ แต่ผมคงไม่ต้องระบุหรอกครับ เห็นๆกัน....

พลาด karmart กันเหรอครับ ?

ตอนนี้ karmart ราคา 7 บาท
ปี 55 eps หยาบๆ ก็ (143×4) / (3×360) = 0.52
forward pe ก็ 7/0.52 = 13.4 เท่า

วันนี้เห็นแล้วนะครับ
หลายบริษัทกิจการเปลี่ยนแปลงขนาดไหนเชียวถึงทำให้มูลค่าตลาดสวิงได้ขนาดนี้

ส.สลึง เขียน:พลาด karmart กันเหรอครับ ?

ตอนนี้ karmart ราคา 7 บาท
ปี 55 eps หยาบๆ ก็ (143×4) / (3×360) = 0.52
forward pe ก็ 7/0.52 = 13.4 เท่า

ขอโทษครับดูตัวเลขผิดไป
eps = (143 × 4) / (3 × 600) = 0.32
forward pe = 7/0.32 = 22 เท่า

มันไม่ได้มีแต่ kamart น่ะสิครับ มันมีเพียบเลยพวกหุ้นหลายๆเด้ง ตอนมันขึ้นมานี่ก็ว่าปั่นทั้งนั้น
ลองดูรายชื่อหุ้นที่ผลตอบแทนมากที่สุด 10 อันดับ ของ 3ปีล่าสุด พวกนั้นมันปั่นรึเปล่าอ่ะครับ

พลาด ]karmart กันเหรอครับ ?

ตอนนี้ karmart ราคา 7 บาท
ปี 55 eps หยาบๆ ก็ (143×4) / (3×360) = 0.52
forward pe ก็ 7/0.52 = 13.4 เท่า

ครับพลาดครับเพราะตอนนั้นมันขาดทุนแต่เห็นราคามันวิ่งครับ
มันเหมือนตอนนี้เลยครับ พลาดอีกแล้วมีแต่คนว่าเป็นหุ้นปั่น
สุดท้ายพลาดทุกตัวเลยครับ
Kamart น่าจะราคาเท่าเก่านะครับผมจะได้ไม่พลาด

ถ้าคิดว่าหุ้น Turnaround อยู่นอกขอบเขตความรู้ของเรา การหลีกเลี่ยงหุ้นแบบนี้ก็เป็นสิ่งที่ดีครับ

แต่การที่ไปเหมารวมหุ้นที่ราคาขึ้นแรงๆว่าหุ้นปั่น ผมว่าไม่ควรทำ ยิ่งถ้าไปกล่าวหาโดยที่ไม่รู้จริงยิ่งไม่ควร (แต่ถ้ารู้จริงว่าหุ้นตัวไหนปั่นแน่ๆ โดยไม่มีพื้นฐานรองรับ เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ที่จะนำข้อเท็จจริงแจ้งแก่ กลต. หรือบอกให้สาธารณชนรับรู้ แต่ต้องไม่ใช่การกล่าวหาลอยๆ ด้วยอคติ)

ครั้งหนึ่งทุกคนคงจำได้ หุ้น JAS ถูกนักลงทุนในโลก Cyber รุมประนามว่าหุ้นปั่น จนเป็นที่มาของฉายา VI ทมิฬ จนทำให้เพื่อนๆที่เก่งๆในเว็บนี้หลายท่านเอือมระอาจนเลิกโพสต์กันไป ผมถามว่า แล้วเราจะทำตัวเลียนแบบคนเหล่านั้นซะเองเหรอครับ

หุ้นก็คือหุ้น ไม่มีหุ้นของใคร พวกใคร มันจะดีจะเลวก็เป็นไปตามพื้นฐานแท้จริงของมัน ไม่ใช่ว่าพวกผมถือก็หุ้น Super Growth แต่พอเป็นพวกมรึงถือ กรูเรียกหุ้นปั่น

หุ้นลักษณะ Turnaround โดยรวมมันเสี่ยงน่ะใช่ครับ บัฟเฟตต์เองก็บอกว่า Turnaround seldom turns

แต่สำหรับตลาดกำลังพัฒนา ซึ่งไม่ค่อยมีธุรกิจไหนแข็งแกร่งในระยะยาวๆหลายสิบปีมากนัก โอกาสที่ธุรกิจจะมีวัฏจักรขึ้นๆลงๆก็สูง (ดูกระทู้หุ้นที่ผลตอบแทนแย่ที่สุดในรอบปี 55 ก็ได้ครับ มีหลายตัวที่เคยเป็นหุ้น VI พิมพ์นิยมในนั้น ทั้ง IT SIS MCS RPC TR) ทำให้โอกาสที่จะหาธุรกิจที่กำลังพลิกฟื้นจากสถานการณ์ย่ำแย่ก็มีสูงกว่าในตลาดพัฒนาแล้ว

เสน่ห์ของหุ้นแบบนี้ คือ แม้ว่า % ที่จะหาหุ้นถูกตัวเจอมีต่ำ (หุ้นที่หวือหวา 10 ตัว อาจเป็นของจริงแค่ 1-2 ตัว ที่เหลือก็เก็งก็ปั่นสร้างแต่ข่าวลวงกันไป) แต่ถ้าเจอตัวจริง เท่ากับคุณซื้อธุรกิจนั้นได้ตั้งแต่ต้นรอบ ยิ่งถ้าเป็นธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนทั้งด้านตลาด การผลิต การบริหารจัดการ เงินทุน สุดท้ายหุ้นนั้นๆ อาจกลายร่างจากแค่ Turnaround ไปเป็น Growth Stock ทีนี้ก็ "ตีแตก" กันเท่านั้น

ใครสนใจแนวนี้ แหล่งข้อมูลก็สุดแสนจะใกล้ตัว ผมเองก็เคยละเลยหุ้นกลุ่มนี้ เพราะยอมรับว่ายากมากๆ ถ้าไม่รู้จริง โอกาสเจอย้อมแมวก็เยอะ จนจับพลัดจับผลูมาได้อ่านกระทู้ต่างๆ ของคุณ Pak แบบตั้งใจอ่าน ถึงพอจะมองเห็นภาพของหุ้นแบบนี้

แม้ว่าผมไม่เคยรู้จักคุณ Pak เป็นการส่วนตัว และก็แน่นอนว่าคุณ Pak ก็ไม่รู้จักผม แต่ผมเชื่อมั่นว่าแนวคิดหุ้น Turnaround ของคุณ Pak เป็นประโยชน์กับผมและเป็นของจริง แม้ว่าผมยืนยันว่าจะไม่เข้าไปซื้อหุ้นตัวเดียวกันก็ตามเนื่องด้วยว่ามันไม่เข้าตามเกณฑ์ของผม แต่สักวันผมหวังว่าจะหาหุ้นตีแตกได้ด้วยตัวผมเอง

ป.ล. ขออภัยคุณ Pak ด้วยที่ต้องเอ่ยถึง และขอบคุณมากๆ ครับสำหรับความรู้ที่แบ่งปันให้กับสังคมหุ้นนี้ แม้บางครั้งจะถึงขั้นเปลืองตัวก็ตาม อย่างน้อยก็อยากให้กำลังใจว่าข้อมูลเหล่านั้นเป็นทั้งประโยชน์และแรงบันดาลใจ (อย่างมีเหตุผล) กับผมอย่างน้อยก็หนึ่งคนนะครับ

อย่าเป็นประเด็นเลยครับ
เพราะพวกเราอยู่ท่ามกลาง "การเปลี่ยนแปลง" ตลอดเวลา
ธุรกิจมิอาจอยู่นิ่ง

และจะว่าไปแล้ว พวกเราก็หากินอบู่กับ "การเปลี่ยนแปลง" นี้เองครับ
เพราะถ้าผลประกอบการของบริษัทฯ Stable เหมือนเดิมหมด..."ราคาหุ้นจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร???"

"การเปลี่ยนแปลง"...เปิดช่องว่างในการหากำไรให้กับนักลงทุน
ส่วนตัวผมแล้ว...
"ถ้าใครบอกว่าลงทุนหุ้นไม่เสี่ยง ผมเถียงตายห๊า"


เพราะทุกธุรกิจ "เสี่ยงหมด" ครับ
PTT จะเป็นองค์กรร้อยปีได้ไหม? เพราะถ้าเค้าเปลี่ยนเทคโนโลยีเชื้อเพลิงรถยนต์ ปตท. จะปรับตัวทันหรือไม่?
RS และ Grammy จะเอาตัวรอดอย่างไร? เมื่อคนรู้จัก 4Share มากกว่า "กด *XXXXX แล้วกดโทรออก"
PTTEP จะมี Business Model ในอนาคตอย่างไร? ถ้าขุดน้ำมันและก๊าซจนหมดอ่าวไทยและฝั่งอันดามันแล้ว

นี่แหล่ะครับ..."เสน่ห์ของตลาดหุ้น" ^ ^


ปล.
ท่ามกลางการด่ากร่นของคนใน FB
ผมได้นั่งทำ "บทสรุป" การจากประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2555 ของบริษัทฯ PAE
ในวันที่ 28 ธ.ค. 55 ที่โรงแรมดุสิต ปริ้นเซส ศรีนครินทร์

กับ ความรู้เรื่อง "หุ้นกู้แปลงสภาพ (Convertible Debenture)"
ความรู้ความเข้าใจ เรื่อง "ตราสารหนี้" และ "ตราสารทุน"
ที่ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 65.html#48

น่าจะเป็นกรณีศึกษาที่ดีครับ

งั้น สมัคร งาน กลต. เลย ครับ ทันใจกว่า

พอไม่เป็นรายตัวเลยคุยกันไม่รู้เรื่อง

ผมถามเลยละกัน ให้ผู้รู้มาช่วยพัฒนาปัญญาผมหน่อย

AIM มีอะไรครับ

ผมต้องขอบคุณพี่pakมากเลยครับ พี่เหนื่อยแถมนำมาเเบ่งบันความรู้ให้กับมือใหม่อย่างผม เรื่องราคาบนกระดานผมมองว่าอย่าไปสนใจเลยครับ เรามองตัวธุรกิจกันดีกว่าครับ งบการเงินผมว่าเป็นข้อมูลเอาไว้พิจารณาประกอบครับ ว่าเรารับความเสี่ยงกับบัญชีแบบนี้ได้มากแค่ไหนครับ หรือเราค้นพบอะไรในนั้น ช่วยกันมองอนาคตแล้วมาเเชร์กันดีกว่าครับ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อแถมอาจจะเจอเพชรก็ได้นะครับ

ดำ เขียน:ก่อนที่จะกล่าวหาว่าหุ้นตัวไหนเป็นหุ้นปั่น
ถามว่าได้ศึกษาพื้นฐานหุ้นตัวนั้นๆ แล้วหรือยัง
ไม่ใช่ว่า หุ้นที่ขึ้นแรงๆ เร็วๆ ทุกตัวคือปั่น
ผมเคยตกรถนับขบวนไม่ถูก เพียงเพราะอคติกับหุ้นที่เคยพื้นฐานไม่ดีในอดีต แต่ปัจจุบัน Biz Model เปลี่ยนไปแล้ว หรือบางบริษัทก็เปลี่ยนทีมบริหาร เปลี่ยนนโยบาย บริหารจัดการ หาตลาดได้เพิ่มขึ้น
ทั้งหมดนี้ผมไม่เคยสนใจจะไปดู มัวแต่คิดว่ามัน หุ้นปั่น

ถูกต้องครับ เหมือนหุ้นบางตัวที่ราคาดิ่งเหวอย่างเร็วจนหลายคนเจ็บตัวแบบเข็ดขยาด
พอมาวันนี้เขาไต่ขึ้นจากเหวขึ้นมาบ้าง เพราะนโยบายผู้บริหารที่เปลี่ยนไป เป้าหมายธุรกิจที่เปลี่ยนไป
ไปคิดว่าจะเป็นปั่นอย่างเดียว มันอาจไม่ถูก เพราะเขาควรกลับมาอยู่ในจุดที่เขาควรเป็น
คิดอย่างนี้น่าจะดีกว่า

ส่วนตัว ผมจะเข้าไปเตือนครั้งเดียวพอ แต่จะไม่ต่อความยาว เพราะ อย่างที่ใครๆ เขาบอกไว้
กลายเป็นว่าไปขัดลาภเขา คนที่ซื้อเขาก็อยากให้หุ้นขึ้นไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
สำหรับผู้ที่รู้ว่าซื้ออะไร ลงทุนอะไรอยู่ ผมขอให้ประสบความสำเร็จละกันครับ

กฏของอาจารย์ Lynch ให้หลีกเลี่ยงหุ้นร้อนแรงในภาวะที่ตลาดร้อนแรง

สวัสดีปีใหม่ครับ

ช่วงนี้บางตัวงบขาดทุนติดลบ
เพิ่มทุนแล้ว ยังปั่นไป 4-5 เด้งได้เลย
แสบมั๊ย