การเลือกหุ้นแบบ คนไม่รู้เรื่อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 10, 2012 11:41 pm
ผมกำลังคิดวิธีเลือกหุ้นสำหรับ ตัวผมเอง ที่ไม่ค่อยเก่งในการประเมินธุรกิจ และไม่ได้เก่งบัญชีอะไรเลย
ที่สำคัญผมติดตามข่าวสารบริษัทที่สนใจอย่างมากก็รายไตรมาสเท่านั้น ตามรายงานผลประกอบการ
โดยหลักการที่คิดขึ้นมาได้นั้น ใช้แนวความคิดง่ายๆว่า
"อย่างน้อยๆเราควรจะลงทุนในบริษัทมีรายได้มากหรือเท่ากับ Mkt Cap"
เพราะผมมองว่าเวลาเราทำธุรกิจนั้น ต้องมีรายได้อย่างน้อยเท่ากับต้นทุน กำไรมากน้อยแตกต่างกันไป
และอย่างน้อยๆรายได้ควรจะได้เท่ากับรายได้ในปีที่ผ่านมา
ดังนั้น ผมมอง Mkt Cap เป็นต้นทุน เหมือนเราอยากทำธุรกิจนั้นๆ
ให้ b-Index คือ รายได้รวม หารด้วย Mkt Cap.
ถ้า b-Index มากกว่า 1 แปลว่า บริษัทนั้นมีความน่าลงทุนด้วยอย่างมาก
ถ้า 1 > b-Index > 0.75 แปลว่า จับตามอง หรือสามารถถือไว้ได้
ถ้า 0.75 > b-Index > 0.5 แปลว่า สามารถถือไว้ได้ แต่ไม่ควรซื้อเพิ่ม
ถ้า b-Index < 0.5 แปลว่า ไม่น่าลงทุนด้วย
โดยการสุ่มตัวอย่างหุ้น 6 ตัวนี้ ขึ้นมาเพื่อแสดงวิธีการคิด เพื่อให้ทุกท่านแนะนำความเป็นไปได้ที่จะใช้วิธีนี้ในชีวิตการลงทุนของผม ข้อมูลนำมาจาก http://www.set.or.th
######## ปี 51..........ปี52.........ปี53..........ปี54.........3/55(เดา ณ สิ้นปี)
1. UVAN
รายได้รวม __ 6,853 __ 3,988 __ 4,328 __ 7,775 __ 4,969(6,625)
Mkt Cap. __ 5,781 __ 7,778 __ 8,460 __ 7,849 __ 8,930
b-Index ____ 1.18 ___ 0.51 ___ 0.51 ___ 0.99 ___ 0.74
ราคาล่าสุด ____ 61.5 ___ 82.75 ____ 90 ____ 83.5 ____ 95
2. PATO
รายได้รวม __ 761 __ 861 __ 910 __ 963 __ 321(428)
Mkt Cap. __ 476 __ 966 __ 2,002 __ 1,596 __ 1,568
b-Index ____ 1.59 ___ 0.89 ___ 0.45 ___ 0.6 ___ 0.27
ราคาล่าสุด ___ 34 ___ 6.9 ___ 14.3 ___ 11.4 ___ 11.2
3. UPOIC
รายได้รวม __ 1,332 __ 846 __ 846 __ 1,500 __ 1,228(1,637)
Mkt Cap. __ 1,280 __ 2,106 __ 2,495 __ 2,316 __ 3,661
b-Index ____ 1.04 ___ 0.4 ___ 0.33 ___ 0.64 ___ 0.44
ราคาล่าสุด ____ 39.5 ___ 6.5 ____ 7.7 ____ 7.15 ____ 11.30
4. AIT
รายได้รวม __ 3,325 __ 3,876 __ 4,579 __ 4,835 __ 2,767(3,689)
Mkt Cap. __ 684 __ 1,462 __ 2,940 __ 3,187 __ 3,954
b-Index ____ 4.86 ___ 2.65 ___ 1.55 ___ 1.51 ___ 0.93
ราคาล่าสุด ____ 61.5 ___ 82.75 ____ 90 ____ 83.5 ____ 95
5. CPALL
รายได้รวม __ 129,454 __ 117,760 __ 141,083 __ 161,889 __ 143,644(191,525)
Mkt Cap. __ 55,265 __ 111,430 __ 176,356 __ 232,520 __ 368,307
b-Index ____ 2.34 ___ 1.05 ___ 0.79 ___ 0.69 ___ 0.52
ราคาล่าสุด ___ 12.3 ___ 24.8 ___ 39.25 ___ 51.75 ___ 41.00
6. SCC
รายได้รวม __ 302,424 __ 250,156 __ 334,129 __ 386,246 __ 314,877(419,836)
Mkt Cap. __ 123,600 __ 282,000 __ 409,200 __ 375,600 __ 476,400
b-Index ____ 2.44 ___ 0.88 ___ 0.81 ___ 1.02 ___ 0.88
ราคาล่าสุด ___ 103 ___ 235 ___ 341 ___ 313 ___ 397
ถ้าผมใช้วิธีข้างต้นนี้ลงทุนในหุ้นทั้ง 6 ตัวนี้
คาดว่าจะสามารถ ทำกำไร จาก UVAN AIT CPALL SCC
ลดการขาดทุน จาก PATO
อาจจะขาดทุน ใน UPOIC ได้
ผมคิดว่า ถ้าใช้วิธีคิดแบบนี้ผมก็ไม่ต้องกังวลเรื่องทิศทางของบริษัทในอนาคตให้มากเกินไป
เพราะ ผมไม่ชำนาญในการมองอนาคตไกลๆ แค่ปีต่อปีก็ลำบากแล้ว
ใช้หลักการแบบนี้น่าจะได้หุ้นที่ under value ในแบบของผม จริงๆ ผมอยากได้ข้อมูลย้อนหลังนานๆมากกว่านี้อีก
รบกวนผู้รู้ทุกท่าน แนะนำด้วยครับ
ปล. ตัวอย่างนี้เพียงสุ่มขึ้นมาเท่านั้น ยังไม่ได้ทดสอบด้วยตัวเองจริงๆ
ที่สำคัญผมติดตามข่าวสารบริษัทที่สนใจอย่างมากก็รายไตรมาสเท่านั้น ตามรายงานผลประกอบการ
โดยหลักการที่คิดขึ้นมาได้นั้น ใช้แนวความคิดง่ายๆว่า
"อย่างน้อยๆเราควรจะลงทุนในบริษัทมีรายได้มากหรือเท่ากับ Mkt Cap"
เพราะผมมองว่าเวลาเราทำธุรกิจนั้น ต้องมีรายได้อย่างน้อยเท่ากับต้นทุน กำไรมากน้อยแตกต่างกันไป
และอย่างน้อยๆรายได้ควรจะได้เท่ากับรายได้ในปีที่ผ่านมา
ดังนั้น ผมมอง Mkt Cap เป็นต้นทุน เหมือนเราอยากทำธุรกิจนั้นๆ
ให้ b-Index คือ รายได้รวม หารด้วย Mkt Cap.
ถ้า b-Index มากกว่า 1 แปลว่า บริษัทนั้นมีความน่าลงทุนด้วยอย่างมาก
ถ้า 1 > b-Index > 0.75 แปลว่า จับตามอง หรือสามารถถือไว้ได้
ถ้า 0.75 > b-Index > 0.5 แปลว่า สามารถถือไว้ได้ แต่ไม่ควรซื้อเพิ่ม
ถ้า b-Index < 0.5 แปลว่า ไม่น่าลงทุนด้วย
โดยการสุ่มตัวอย่างหุ้น 6 ตัวนี้ ขึ้นมาเพื่อแสดงวิธีการคิด เพื่อให้ทุกท่านแนะนำความเป็นไปได้ที่จะใช้วิธีนี้ในชีวิตการลงทุนของผม ข้อมูลนำมาจาก http://www.set.or.th
######## ปี 51..........ปี52.........ปี53..........ปี54.........3/55(เดา ณ สิ้นปี)
1. UVAN
รายได้รวม __ 6,853 __ 3,988 __ 4,328 __ 7,775 __ 4,969(6,625)
Mkt Cap. __ 5,781 __ 7,778 __ 8,460 __ 7,849 __ 8,930
b-Index ____ 1.18 ___ 0.51 ___ 0.51 ___ 0.99 ___ 0.74
ราคาล่าสุด ____ 61.5 ___ 82.75 ____ 90 ____ 83.5 ____ 95
2. PATO
รายได้รวม __ 761 __ 861 __ 910 __ 963 __ 321(428)
Mkt Cap. __ 476 __ 966 __ 2,002 __ 1,596 __ 1,568
b-Index ____ 1.59 ___ 0.89 ___ 0.45 ___ 0.6 ___ 0.27
ราคาล่าสุด ___ 34 ___ 6.9 ___ 14.3 ___ 11.4 ___ 11.2
3. UPOIC
รายได้รวม __ 1,332 __ 846 __ 846 __ 1,500 __ 1,228(1,637)
Mkt Cap. __ 1,280 __ 2,106 __ 2,495 __ 2,316 __ 3,661
b-Index ____ 1.04 ___ 0.4 ___ 0.33 ___ 0.64 ___ 0.44
ราคาล่าสุด ____ 39.5 ___ 6.5 ____ 7.7 ____ 7.15 ____ 11.30
4. AIT
รายได้รวม __ 3,325 __ 3,876 __ 4,579 __ 4,835 __ 2,767(3,689)
Mkt Cap. __ 684 __ 1,462 __ 2,940 __ 3,187 __ 3,954
b-Index ____ 4.86 ___ 2.65 ___ 1.55 ___ 1.51 ___ 0.93
ราคาล่าสุด ____ 61.5 ___ 82.75 ____ 90 ____ 83.5 ____ 95
5. CPALL
รายได้รวม __ 129,454 __ 117,760 __ 141,083 __ 161,889 __ 143,644(191,525)
Mkt Cap. __ 55,265 __ 111,430 __ 176,356 __ 232,520 __ 368,307
b-Index ____ 2.34 ___ 1.05 ___ 0.79 ___ 0.69 ___ 0.52
ราคาล่าสุด ___ 12.3 ___ 24.8 ___ 39.25 ___ 51.75 ___ 41.00
6. SCC
รายได้รวม __ 302,424 __ 250,156 __ 334,129 __ 386,246 __ 314,877(419,836)
Mkt Cap. __ 123,600 __ 282,000 __ 409,200 __ 375,600 __ 476,400
b-Index ____ 2.44 ___ 0.88 ___ 0.81 ___ 1.02 ___ 0.88
ราคาล่าสุด ___ 103 ___ 235 ___ 341 ___ 313 ___ 397
ถ้าผมใช้วิธีข้างต้นนี้ลงทุนในหุ้นทั้ง 6 ตัวนี้
คาดว่าจะสามารถ ทำกำไร จาก UVAN AIT CPALL SCC
ลดการขาดทุน จาก PATO
อาจจะขาดทุน ใน UPOIC ได้
ผมคิดว่า ถ้าใช้วิธีคิดแบบนี้ผมก็ไม่ต้องกังวลเรื่องทิศทางของบริษัทในอนาคตให้มากเกินไป
เพราะ ผมไม่ชำนาญในการมองอนาคตไกลๆ แค่ปีต่อปีก็ลำบากแล้ว
ใช้หลักการแบบนี้น่าจะได้หุ้นที่ under value ในแบบของผม จริงๆ ผมอยากได้ข้อมูลย้อนหลังนานๆมากกว่านี้อีก
รบกวนผู้รู้ทุกท่าน แนะนำด้วยครับ
ปล. ตัวอย่างนี้เพียงสุ่มขึ้นมาเท่านั้น ยังไม่ได้ทดสอบด้วยตัวเองจริงๆ