Thai VI

ผมเคยอ่านหนังสือ ฝึกอ่านเร็วอยู่เล่ม 2 เล่ม มีเล่มนึงมีรูปไอน์สไตน์ 4 สี อีกเล่มนึงชื่อไรจำไม่ได้

พูดได้น่าสนใจมาก
คือ ธรรมดา คนเราจะไล่อ่านไปตามบรรทัด ซึ่งมันช้ามาก
แต่การฝึกอ่านเร็วจะทำให้สายตาเราจับคำได้เป็นกลุ่มๆ บรรทัดนึงอ่านจะมองแค่ 2 ครั้ง หรือครั้งเดียว
ทำให้เมื่อเก่งขึ้นก็อ่านได้ทีละบรรทัด หรือสองบรรทัด หรือทีละหน้า หรือทีละสองหน้า

ปกติผมอ่านหนังสือประมาณปีละ 30-40 เล่ม เฉลี่ยต่อเล่มก็ประมาณ 10 วัน (ป๋มก็ว่าเร็วใช้ได้นะ)
แต่ถ้าฝึกจนอ่านทีละบรรทัดได้ อาจจะอ่านเร็วขึ้น 3-5 เท่า กลายเป็นปีละ 100-200 เล่ม โอ้วชิทท

ยิ่งปัจจุบันอินเตอร์เนตทำให้หนังสือฟรีมันลอยเต็มอากาศไปหมด ทั้ง pdf หรือ epub (ส่วนใหญ่เป็น Eng)
และภาษาอังกฤษที่งูๆปลาๆของป๋มมันก็พอจะอ่านออก

ลิสต์หนังสือที่ต้องอ่านมันเลยทะลักกระฉูด (ที่จริงหนังสือภาษาไทยที่ซื้อมาดองก็มีเพิ่มขึ้นด้วย)

แพล่มมาซะยาว เลยจะถามว่า
มันมีที่ให้เรียนไหมครับ ไม่ก็ หนังสือเล่มไหนเด็ดๆที่สอนเรื่องนี้มั่ง เพราะไอหนังสือ 2 เล่มที่ผมเคยอ่านมามันบอกไม่ละเอียดพออะ

หนูดีก็เคยบอก ในหนังสือ อัจฉริยะสร้างได้ ว่าเขาไปลงคอร์สอ่านเร็วที่ฮาเวิร์ด เพราะเรียนที่นู่นมันต้องอ่านหนังสือเป็นตับๆ ตรับๆๆ

ปล.ได้ยินว่าที่ ตปท เขามีพวกคอร์สสอนเรื่องนี้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ประเทศไทยอ่านหนังสือไม่เยอะ เลยน่าจะทำให้ไม่มีของพวกนี้

ใครทำได้ แชร์วิธีฝึกหน่อย ขอบคุณครับผม

เอ่อ สำหรับผม ผมว่าผมเอาอ่านเข้าใจก่อนดีกว่า อ่านเร็วเด๋วผมจะมั่วไปใหญ่ยิ่งหัวไม่ค่อยดีอยู่ ฮ่าฮ่า

ผม download เก็บไว้หลายเล่ม แต่เป็นภาษาอังกฤษนะครับ อยู่ใน HDD เดี๋ยวจะหามาให้

ผมสนใจ แต่ไม่ฝึก เพราะผมปกติไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ text ทั่วไป ที่อุดมไปด้วยตัวหนังสืออย่างเดียวแบบนิยาย

แต่อ่านหนังสืออย่างที่เห็นอย่างเราใช้กันในการลงทุน ว่าต้องมานั่งทำแบบฝึกหัด
คือมีความต้องการในการทำความเข้าใจ มากกว่าต้องการรับข้อมูลจำนวนมาก

แต่ผมไม่ได้ Anti นะ พออาจมีบางคน ความต้องการอาจต่างไป


ผมประเมินหลักการคร่าวๆ ว่าคนที่เป็นเจ้าของภาษา หรือภาษาไหนที่เราพอรู้บ้าง สมองเราเข้าใจตัวอักษรนั้นเป็นความหมายเต็ม โดยที่ไม่ต้องอ่านทุกคำ
คุณจะพบว่า ถ้าคุยกับเพื่อนหรือฟังทีวี คู่สนทนาหรือคนในทีวีเรายังพูดไม่ครบ แต่เราก็คิดในใจต่อเอง
เป็นเพราะประสบการณ์ในการใช้ภาาษานั้นๆ บันทึกไว้ในสมองก่อนหน้านี้
แม้แต่คำแต่ละคำ ถ้าสลับตัวหนังสือ ก็ได้ใจความ (ดูข้างล่างประกอบ)

นั่นเป็นการรับสารเข้าไป ส่วนการส่งสารกลับออกมานั้น ขนาดพิมพ์ คุณอาจเคยพบว่า คุณพิมพ์ตัวหนังสือสลับกันเลย หรือบางทีเราพูดคำออกมากลับกัน


การได้ฝึก ช่วยให้จับใจความเร็วขึ้น
พอไปอ่าน บางทีมันข้ามไปแล้วต่อได้เอง

แต่ว่าแต่ละคนความสามารถอาจแตกต่างไปบ้าง


ลองอ่าดูข้างล่างนี้นะครับ

ณุคอาน่ได้มยั้

ถ้าคณุอาน่บทคาวมนี้ได้
คณุมีคาวมคดิที่แขง็แรงพอสวคมรเลยนะ
คณุอาน่ได้หรอืเลป่าล่ะ
มีแค่ 55 คนจกา 100 เท่านนั้แล่หะที่อาน่ได้

ฉนัไม่อายกจะเชอื่เลยว่า
ฉนัเข้าใจสงิ่ที่ฉนักำลงัอาน่อู่ยนี้
มนัเปน็ปฎกราากรณ์ของคาวมคดิของม์ษุยน
ผลการศกึาษวจิยัจาก มวหายิทัาลย แบมคิร์จด ก่าลวว่า


มนัไม่สคำญเลยว่าตวัอรัษกเยีรงถตอ้กูงหรอืไม่ในคำคำหนงึ่
มนัสคำญแค่ว่า ตวัอษักรแรกและตวัอษกัรตวัสดุทาย้ของคำ
นนั้อู่ยในตนำแห่งที่ถกูตอ้ง ที่เลืหอนนั้มนัจะมวั่ซวั่อ่ายงไร
คณุก็อาน่มนัได้อู่ยดี ไม่มีปหญัา


ที่เปน็อาย่งนี้เราพะคาวมคดิของมษุน์ยนนั้
ไม่ได้อาน่ตวัอษกัรทกุตวัซกัหอน่ย
แต่อาน่เปน็คำเตม็ ๆ คำ
สดุยอดเลยใช่มยั้ล่ะ...ใช่เลย
แต่ยงัไงฉนัก็คดิว่าการสกะดมนัสคำญันะ
ถ้าคณุอาน่บทคาวมนี้ได้ ชว่ยสง่ตอ่หอน่ยนะ

คำเฉลย
ถ้าคุณอ่านบทความนี้ได้
คุณมีความคิดที่แข็งแรงพอสมควรเลยนะ
คุณอ่านได้หรือเปล่าล่ะ
มีแค่ 55คนจาก 100เท่านั้นแหล่ะที่อ่านได้

ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่า
ฉันเข้าใจสิ่งที่ฉันกำลังอ่านอยู่นี้
มันเป็นปรากฎการณ์ของความคิดของมนุษย์
ผลการศึกษาวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ กล่าวว่า

มันไม่สำคัญเลยว่าตัวอักษรเรียงถูกต้องหรือไม่ในคำคำหนึ่ง
มันสำคัญแค่ว่า ตัวอักษรแรกและตัวอักษรสุดท้ายของคำ
นั้นอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ที่เหลือนั้นมันจะมั่วซั่วอย่างไร
คุณก็อ่านมันได้อยู่ดี ไม่มีปัญหา
ที่เป็นอย่างนี้เพราะความคิดมนุษย์นั้น
ไม่ได้อ่านตัวอักษรทุกตัวซักหน่อย
แต่อ่านเป็นคำเต็มๆคำ
สุดยอดเลยใช่ไหมละ ... ใช่เลย
แต่ยังไงฉันก็คิดว่าการสะกดมันสำคัญนะ
ถ้าคุณอ่านบทความนี้ได้ ช่วยส่งต่อหน่อยนะ
๐๐๐๐๐๐๐๐๐

หากอ่านภาษาไทยได้ ภาษาอังกฤษ ก็ดูจะง่ายขึ้น
ลองดูอีกรอบนะครับ

๐๐๐๐๐๐๐๐๐
I cnduo't bvleiee taht I culod aulaclty uesdtannrd waht I was rdnaieg. Unisg the icndeblire pweor of the hmuan mnid, aocdcrnig to rseecrah at Cmabrigde Uinervtisy, it dseno't mttaer in waht oderr the lterets in a wrod are, the olny irpoamtnt tihng is taht the frsit and lsat ltteer be in the rhgit pclae. The rset can be a taotl mses and you can sitll raed it whoutit a pboerlm. Tihs is bucseae the huamn mnid deos not raed ervey ltteer by istlef, but the wrod as a wlohe. Aaznmig, huh? Yaeh and I awlyas tghhuot slelinpg was ipmorantt! See if yuor fdreins can raed tihs too.

คำเฉลย
I couldn't believe that I could actually understand what I was reading. Using the incredible power of the human mind, according to research at Cambridge University, it doesn't matter in what order the letters in a word are, the only important thing is that the first and last letter be in the right place. The rest can be total mess and you can still read it without a problem. This is because the human mind does not read every letter by itself, but the word as a whole. Amazing, huh? Yeah and I always thought spelling was important! See if your friends can read this too.
๐๐๐๐๐๐๐๐๐

source: http://www.oknation.net/blog/StayFoolis ... 08/entry-1

มีอีกเรื่อง
ฝึกการจำอะไรจำนวนมากๆ
ผมทดลองเบื้องต้นได้ผลดี
หลักการคือการจำเป็นภาพจะจำได้ดีกว่า แทนที่จะจำคำ เป็นหลักการบันทึกลงในสมองของคน

แต่ขั้น advance ให้จำเป็นพันอย่าง ไม่อยากฝึก
เพราะในชีวิตประจำวันผมต้องการเข้าใจมากกว่าจำ
แค่ฝึกเพื่อพิสูจน์ทดลองหลักการ

Guiman เขียน: มันมีที่ให้เรียนไหมครับ ไม่ก็ หนังสือเล่มไหนเด็ดๆที่สอนเรื่องนี้มั่ง เพราะไอหนังสือ 2 เล่มที่ผมเคยอ่านมามันบอกไม่ละเอียดพออะ

เอาไปเลยครับ แชร์ไว้ใน google drive ผม download เก็บไว้ เลือกเองนะครับ
https://docs.google.com/folder/d/0B77AV ... N5Tms/edit

มีทั้ง workbook มีทั้งเป็น text บางอันเป็น sheet บางอันเป็นคล้าย brochure อย่่างที่เห็น เช่น ของทหารเรือ + ได้ลองนิดหน่อยเห็นหลักการ เลยแน่ใจว่าเป็นจริง

อ่าชอบ reply ของคุณ Ii'8N ครับคือดูเผินๆเหมือนตัวหนังสือมันทำใ้ห้เราจะอ่านไม่ออก แต่เอาเข้าจริงๆผมว่าใครๆก็อ่านออก และอ่านได้เหมือนอักษรไม่สลับกันด้วยแหะ

ผม มี ไอเดียเสนอ ท่านเจ้า ของกระทู้
คือ ถ้า ท่าน อยาก อ่าน หนังสือ จำ นวน มาก ๆ เพื่อ ให้ ได้ ความรู้ละก็

ผม ว่า ลอง มา ทาง นี้ มั๊ยครับ
ไม่ ต้องอ่าน เยอะ ก็ ได้ ประโยชน์ นะ
ถ้า รู้วิธี ตรวจสอบ หนังสือ เล่มนั้น ว่า มัน ตรงประเด็น คุ้มเงิน คุ้มเวลา ที่เรา เสีย รึ เปล่า
สำหรับ ผม เลือก วิธี นี้ ละ ครับ ไม่ เยอะ แต่ เน้น ที่ทำอยู่ก็ได้แก่
1.อ่าน คำนำ คำแนะนำ(ปกหลัง)
2.ติดอันดับ ขายดี รึเปล่า
3.ลองอ่าน ซัก 4-5 หน้า มัน เด็ดพอมั๊ย ของดี จริง แค่ 2-3 ประโยค มัน ก็ ซี๊ด แล้ว ครับ
4.ดู เครดิต ด้วย สำนักพิมท์ นี้ เลือกงาน ดีๆ มั๊ย คนแปล นี้ แปล แต่ หนังสือ ดีๆ มั๊ย
อย่าง ถ้า เล่มไหน มีท่าน อ.ดร.นิเวศน์ แปล หรือ แนะนำ ละ ก็ ผม ลุย หมด ไม่ สน ราคา
5.สุดท้าย ที่ผม กำลังพยายามทำ คือ เฟสบุ๊กผม ผมจะเอา หนังสือที่อ่าน เสร็จ มา แชร์ เสมอ
6.ที่เวปนี้ ก็ มี ห้อง100 เล่ม นะครับ

ผมอ่านไม่ค่อยเร็วครับ กว่าจะอ่านจบได้ก็ต้องเป็นเดือนครับ
ยิ่งเป็นเล่มที่มีการคำนวณด้วยยิ่งนานเลยครับ
แถมไปอ่านเล่มอื่นไปอีกสักสามสี่เล่มก็จะจำของเก่าไม่ค่อยได้
ก็ต้องมาอ่านใหม่ครับ
ได้อ่านกระทู้นี้ ก็เลยมีไฟในการอ่านมากขึ้นเลยครับ

ถ้าผมอ่านไดซักครึ่งนึกของจขกทก็ดีใจจะแย่ล่ะ5555

ในช่วงที่ผมเป็นนักศึกษาผมเคยอ่านได้ปีประมาณ 200-300 เล่ม
ในจำนวนนี้ไม่มีหนังสือเรียนเลย 5555. เป็นหนังสือที่ผมสนใจที่
อยากจะอ่านมากกว่า การอ่านเร็วสำหรับผมแล้วผมไม่ค่อยให้
ความสำคัญมากนัก เพราะการอ่านเร็วผมมองว่าทำให้อรรถรสใน
การอ่านหมดไป เหมือนกับการทานอาหารที่รีบทานเอาแต่เพียง
ปริมาณแต่เพียงอย่างเดียว ถ้าเราค่อย ๆ อ่านไปเรื่อย ๆ มันจะได้
รสชาติในการอ่านมากกว่าเหมือนกับการเราค่อย ๆ ทานอาหารแล้ว
ซึมซับรสชาติระหว่างทานไปเรื่อย ๆ

ให้เร็วขึ้นอีกฝึกอ่านจับใจความเป็นย่อหน้าไปเลยครับ ในหนึ่งย่อหน้าจะมีใจความสำคัญไม่กี่เรื่อง นอกนั้นก็จะเป็นขยายความ

# Ii'8N
ขอบคุณมากครับพี่Ii'8N (พี่เป็นเบอร์ 1 เรื่องเทคโนโลยีในใจผมเลยนะเนี่ย ในบอร์ดนี้ แถมยังรอบรู้ด้วย ตอนนั้นที่ตั้งกระทู้อีบุ๊ครีดเดอร์ พี่ก็ตอบใ้ห้แบบข้อมูลแน่นปึ้ก ซักวันคงมี money talk หรือ กรุงเทพธุรกิจไปขอสัมภาษณ์แหงๆ 555)

ไอคำสลับๆกันผมก็เคยเห็นครับ อ่านได้สบายมาก
คิดว่าน่าจะเป็นเพราะการอ่านเยอะๆ
ภาษาอังกฤษก็เคยเห็น ก็พออ่านได้ แต่ช้ากว่าของไทย
คิดว่า speed reading คงใช้ประโยชน์จากจุดนี้

ผมว่า speed reading มันอาจจะมีประโยชน์ตรงที่
หนังสือเล่มนี้ อาจจะมีใจความสำคัญอยู่ไม่เท่าไหร่ ที่เหลือเป็นการเกริ่น หรือขยายความ
ถ้าลองสมมติจากกฏ 80/20 เนื้อหาแค่ 20% อาจจะเป็นแก่น ที่เหลืออาจจะเป็นน้ำๆ
อย่างเช่นหนังสือ ตีแตก ดร.นิเวศน์ ผมว่ามีหลายบทที่เลือกทิ้ง ไม่อ่าน หรืออ่านแบบเร็วๆได้
อย่างเช่น บทนักลงทุนยิ่งใหญ่ของโลก บทเกริ่นแรกๆ บทตั้งชมรมVI บทแนะนำการลงทุนหลายประเภท(พระ งานศิลปะ) ถ้าดูจริงๆอาจจะมีมากกว่านี้

ถ้าเราอ่านแบบ speed ตรงที่เป็นน้ำ แล้วก็ค่อยอ่านปกติตรงที่เนื้อๆ ก็จะประหยัดเวลาได้มากโข ผมคิดว่างี้นะ

เอาไปเลยครับ แชร์ไว้ใน google drive ผม download เก็บไว้ เลือกเองนะครับ
https://docs.google.com/folder/d/0B77AV ... N5Tms/edit

ขอบคุณมากครับ เยอะจริงๆ ว่าแต่มันโหลดลงคอมได้ไหมครับ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

#canuseeme
ขอบคุณมากครับคุณพี่คานูซีม
แต่น่าเสียดายว่าคำแนะนำ 6 ข้อนั้นผมทำหมดทุกข้อมาเป็นปีๆแล้วครับ

1.อ่าน คำนำ คำแนะนำ(ปกหลัง)

ผมอ่านหมด คำนำ คำนิยม ปกหลัง สารบัญ เปิดสุ่มอ่าน ถ้าชอบแต่ไม่อยากซื้อก็นั่งอ่านในร้านจนเกือบจบ

2.ติดอันดับ ขายดี รึเปล่า

ผมดูบอร์ด หรือแผง best seller ทุกครั้งที่เข้าร้านหนังสือครับ ดูโลโก bestseller ที่หน้าปกด้วย

3.ลองอ่าน ซัก 4-5 หน้า มัน เด็ดพอมั๊ย ของดี จริง แค่ 2-3 ประโยค มัน ก็ ซี๊ด แล้ว ครับ

เหมือนข้อที่ 1

4.ดู เครดิต ด้วย สำนักพิมท์ นี้ เลือกงาน ดีๆ มั๊ย คนแปล นี้ แปล แต่ หนังสือ ดีๆ มั๊ย
อย่าง ถ้า เล่มไหน มีท่าน อ.ดร.นิเวศน์ แปล หรือ แนะนำ ละ ก็ ผม ลุย หมด ไม่ สน ราคา

แน่นอนครับ ผมชอบสำนักพิมพ์ openbook, welearn, thinkbeyond, fidelity, se-ed, มติชน,a-day,เป็ดเต่าควาย ฯลฯ
นักเขียนนักแปล ก็ ดร.นิเวศน์,ดร.ไสว บุญมา, ปกป้อง จันวิทย์, ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ, เดวิด เจ ไลเบอร์แมน, มัลคอม แกลดเวลล์, วิลเลียม เจ โอนีล, นิ้วกลม, ทีฮาร์ฟ เอคเคอร์ ฯลฯ

5.สุดท้าย ที่ผม กำลังพยายามทำ คือ เฟสบุ๊กผม ผมจะเอา หนังสือที่อ่าน เสร็จ มา แชร์ เสมอ

เป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมครับ ไว้ผมจะลองทำดู ส่วนพวกรีวิวผมก็เสริชหาตามเน็ตบ่อยๆครับ

6.ที่เวปนี้ ก็ มี ห้อง100 เล่ม นะครับ

ผมเข้าจนเปื่อยแล้วครับ ตั้งแต่ก่อนยุบรวมกับ multimedia forum แต่อาจจะไม่ได้ซื้อตามทุกเล่มที่ออกใหม่ เพราะเงินจำกัด ส่วนใหญ่ใช้ยืมห้องสมุดเอาครับ ซื้อเฉพาะหนังสือหุ้นเป็นส่วนใหญ่

6 ข้อ นี้ผมทำหมดแล้ว แทนที่ลิสต์หนังสือจะลดลง แต่มันกลับพอกพูนขึ้นสูงเสียดฟ้า เพราะ
- บัฟเฟตต์ โซรอส ลงทุนถูกนิสัยยังไงก็ชนะ เล่มเดียวให้ลิสต์หนังสือที่ควรอ่านมาอีก 20-30 เล่ม (ตรงท้ายๆเล่มเค้ามีแนะนำหนังสือ)
- ดร.ไสว บุญมา คนเดียวเขียนหนังสืออีกเป็นสิบๆเล่ม แถมยังเขียนคอลัมน์ในกรุงเทพธุรกิจ (ซึ่งคงมีการรวมเล่มอีกในอนาคต)
- วิลเลียม เจ โอนีล คนเดียวให้ลิสต์หนังสือมาอีกเป็นสิบยี่สิบเล่ม
- ซีรี่ย์หนังสือที่รวบรวมเรื่องราวเศรษฐศาสตร์ สังคม การเมือง ชื่อ OCTOBER (ของสำนักพิมพ์โอเพ่นบุ๊ค) มีอีกเกือบ 10 เล่ม
- เว็บ sarut homesite แนะนำมาอีก 9 เล่ม http://www.sarut-homesite.net/2012/05/b ... %E0%B8%A5/

พอก่อนครับ เหนื่อย เดี๋ยวมันจะถึงร้อยถึงพันเล่มซะก่อน

ปล.แล้วไมต้องอ่านเยอะขนาดนี้ ?? ผมอยากเก่งเร็วๆ เก่งกว่าคนอื่นแค่นั้นเองครับ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------

#SAM11
ผมเคยอ่านมาว่า ถ้าเราอ่านเยอะๆ สปีดมันจะเร็วขึ้นกว่าคนที่ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือครับ
ส่วนที่จำของเก่าไม่ค่อยได้นี่ผมว่าเรื่องปกตินะ
พี่ hong value เขาบอกว่าเขาเคยได้ยิน คนเราถ้าเรียนอะไรแล้วไม่ทบทวนใน 24 ชม. จะลืม (จากหนังสือ เซียนหุ้นอัจฉริยะเล่ม 2 ของเขา)
ผมว่าอย่าซีเรียส ความรู้มันมีแบบ "รู้" กับแบบ "เข้าใจ" แบบรู้นี่อ่านปุ๊บก็รู้ แต่มันอาจจะลืมง่าย ส่วนแบบเข้าใจมันต้องซ้อม แล้วลืมยาก ส่วนไอ้ที่อ่านๆมา มันจะมีบางส่วนที่สำคัญมากๆ ผมว่าเราจะรู้เองว่าตรงไหนและจำได้โดยอัตโนมัตินะครับ

ได้อ่านกระทู้นี้ ก็เลยมีไฟในการอ่านมากขึ้นเลยครับ

555 แรกๆผมก็ขี้เกียจ แต่พอเห็นคนแบบพี่ hong value พี่โจลูกอีสาน แล้วผมก็เลยต้องฟิตตัวเอง เพราะผมเชื่อว่าหุ้นมันคือการกินตังค์คนอื่น (โง่สุดจ่ายรอบวง)

พ่อผมก็ชอบเอาเรื่องโธมัส เอดิสัน มาเล่าจังเลย
ว่าตอนเด็กๆ เขาจะไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดมากองสูง 1 ฟุต แล้วอ่านให้หมดภายใน 1 อาทิตย์

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

#ไตรลักษณ์
โหดมากครับ
ผมก็ไม่อ่านหนังสือเรียนเหมือนกัน มันเอียน จะอ้วกทุกที 55

เห็นด้วยนะครับว่าอ่านเร็วทำให้อรรถรสหมดไป
แต่ผมว่าก็คงต้องเลือก เพราะอรรถรสมันมีเข้ามาแล้วก็หายไป เช่นเดียวกับเวลาที่เสียไป แต่ความรู้เป็นสิ่งที่คงอยู่
ผมว่าอาจจะต้องเลือกว่าหนังสือแบบไหนอ่านเอาอรรถรส แบบไหนอ่านเอาเร็ว (อะมั้ง)

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

#pat4310
อา พี่ภัทร
ผมแอบเป็นแฟนบล็อกกับเพจพี่อะ
ฝันไว้ว่าเร็วๆนี้จะมีตังค์ไปลงคอร์สด้วย ฮ่าๆ (ค่าเรียนมันคนละเรื่องกับหลักสูตรพ่อมดการเงินเลยนะนิ )

ให้เร็วขึ้นอีกฝึกอ่านจับใจความเป็นย่อหน้าไปเลยครับ ในหนึ่งย่อหน้าจะมีใจความสำคัญไม่กี่เรื่อง นอกนั้นก็จะเป็นขยายความ

น้อมรับคำแนะนำครับ ยังไม่เคยทำแบบนี้เหมือนกัน ขอบคุณครับ

เยี่ยมครับ ผมก็ว่าผมอ่านเร็วใช้ได้นะ..แต่หนักไปทางอ่านนิยาย เช่น เพชรพระอุมา ( 2 อาทิตย์ 52 เล่ม ) อ่านเอามันส์ซะมากกว่า จำรายละเอียดไม่ค่อยได้ แต่อ่านอีกทีก็ยังสนุกเหมือนเดิม..

แต่อ่านเอาความรู้จริงจัง เคยลองแล้ว ช้ามากกกกกก....สงสัยขาดอารมย์ร่วม เลยช้าไปนิดนึง ปัจจุบันใช้วิธีอ่านน้อยเล่ม แต่เน้นๆมากกว่า..

Guiman เขียน:

เอาไปเลยครับ แชร์ไว้ใน google drive ผม download เก็บไว้ เลือกเองนะครับ
https://docs.google.com/folder/d/0B77AV ... N5Tms/edit

ขอบคุณมากครับ เยอะจริงๆ ว่าแต่มันโหลดลงคอมได้ไหมครับ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

load ได้โดยตรงอยู่แล้วนี่ครับ เพราะตอนสั่งแชร์ ให้ load ไ้ด้ (คือปกติจะสั่ง view อย่างเดียวก็ได้)

ลองเข้าไปนะครับ https://docs.google.com/folder/d/0B77AV ... N5Tms/edit
click ตรงแถบรายชื่อซ้ายมือ เข้าไปเลือกเล่มที่อยากจะอ่า่นเูหรือ load
สังเกตตรงเมนู จะมีให้ download


ถ้าจะ download ทีละเยอะๆ หลายไฟล์พร้อมกัน ไปเก็บบน HDD ต้องมี account google
ตรงมุมซ้ายมือบน ตอนไม่ Login จะเป็นคำว่า Google Docs อย่างที่เห็นรูปก่อนหน้าข้างบน แต่ Login แล้ว จะเปลี่ยนเป็น Google Drive

click ที่นั่นเลย จะสามารถ download ครั้งเดียวทีละกี่ไฟล์หรือทุกไฟล์ก็ได้แล้วแต่จะเลือก (Select all แล้วสั่ง Download -> All items)

ถ้า อ่านเยอะ ขนาดนั้น เพราะ อยาก เก่งเร็วๆ
ผม คง ช่วย อะไรไม่ได้

อีก วิธี นึง คือ ลอง คุย หรือ คบ มิตร ที่เป็น บัณฑิต(ไม่ได้ หมายถึง พวกเรียน จบ มหาลัย นะครับ)
เป็น ความหมายบัณฑิต ตาม หลัก ศาสนา ทั่ว ไป ประมาณ กลุ่มปัญญาชน อะไร ยังงั้น นะ ครับ