Thai VI

ผมขอนำข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย มา share นะครับ
ปัจจัยสนับสนุนทางเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2555 และปี 2556
1.นักลงทุนผ่อนคลายความกังวลต่อปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป ประกอบกับมาตรการทางการเงินของสหรัฐฯ (QE3) และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีขึ้น
2.เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่องจากการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่า
3.แนวโน้มการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศตามแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย และมาตรการ QE
4.การเพิ่มขึ้นต่อเนื่องของจานวนนักท่องเที่ยว ช่วยสร้างรายได้ให้กับภาคบริการและการโรงแรม
5.การใช้จ่ายตามแผนยุทธศาสตร์ฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศจะเพิ่มระดับการลงทุนในปี 2556 และการลงทุนในระยะปานกลาง
ถ้าจากข้อ 1,3 หุ้นใน set 50 น่าจะได้ประโยชน์จากการลงทุน,ข้อ 2 น่าจะเป็นกลุ่มค้าปลีก สื่อสาร,ข้อ 4 กลุ่มโรงแรม,ข้อ 5 กลุ่มก่อสร้าง โภคภัณท์ต่างๆ พี่ๆมีมุมมองอย่างไรบ้างครับ ลองมาแชร์ภาพกว้างๆกันครับ

ผมสงสัยอยุ่อย่าง ที่ว่าอัตราเิงินเฟ้ออยุ่ในระดับต่ำนี่ สงสัยจะเป็น white lie

ขอแสดงความเห็นในฐานะเป็นมนุษย์เงินเดือน

มนุษย์เงินเดือนถัวเฉลี่ยแล้วคิดว่าเงินเดือนไม่น่าจะปรับกันเกิน 10% ต่อปี (ยกเว้นได้เลื่อนตำแหน่งทุกปี)

แต่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลายๆอย่างในช่วงที่ผ่านมามันเพิ่มขึ้นแบบเตะผ่าหมากเลย

ข้าวราดแกงถ้าไม่ใช่ในโรงงาน จาก 25 กลายเป็น 30 (เพิ่ม 20%)
ไข่ดาวเมื่อก่อน 5 บาท พอไข่ขาดตลาดพุ่งไปเป็น 10 บาท (100%) พอช่วงไข่ล้น ก็ยังไม่ลง

รถเมล์ในกรุงเทพคันเล็ก เมื่อก่อน 6.50 ตอนนี้ 7 บาท (7%)
รถโดยสารระหว่างอำเภอ(พัดลม)เมื่อก่อนนั่ง 15 บาท ตอนนี้ 20 บาท (33%)
ตัดผมปัตตาเลี่ยนเมื่อก่อน 60 เดี๋ยวนี้ 70 (17%)

น้ำขวดใส ขวดเล็กเมื่อก่อน 5 บาท พอเจอน้ำท่วมพุ่งเป็น 7 บาท (20%) น้ำไปแล้วก็ไม่ลง

ของที่ถูกลงก็พวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ (เมื่อเทียบจากประสิทธิภาพต่อราคา)

บรรยายไม่หมด เพราะเป็นรายจ่ายประจำ บางทีราคามันขยับไปก็ไม่รู้ตัว (รู้ตัวก็ทำไรไม่ได้)

ว่ามายาว ไม่เกี่ยวกับกระทู้เลย

ภาพใหญ่ผมว่าที่ท่าน kamol ว่ามานี่มันใหญ่ไปหน่อย
ราคาหุ้นค้าปลีกใครว่ายังไงไม่รู้ แต่ผมรุ้สึกว่าจะแพงบ้าเลือดเกินไป
โรงแรมนี่ก็ต้องดูเป็นตัวๆ ทำเลไหน จับลูกค้าประเทศอะไร คู่แข่งเยอะนะครับโรงแรม เปิดกันเยอะมาก รีสอร์ทก็บาน

โภคภัณฑ์ดูไม่เป็น ยากเกินสำหรับผม

ตัวแรงของปีที่นี้คือ tablet&smartphone, automotive, housing development etc

อะไรทำให้ตัวอย่างข้างบนพุ่งแรง ?

เหมือนอย่างที่สมาชิกท่านนึง(ผมจำชื่อไม่ได้)บอกว่า ให้ดูที่ source of profits

ปีหน้าหรือในอีกสองสามปี หรือ ถ้าใครเก่งขนาดมองได้ยาวถึงห้าปีข้างหน้า source นั้นจะทำหน้าที่ของมันได้ดียิ่งกว่าที่เป็น(เมื่อเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบันแล้ว)

ก็ต้องรีบจัดหนักกันเลย

โม้ซะยาว ไม่ได้บอกเลยว่ากลุ่มไหน
ผมดูเป็นตัวๆมากกว่า โดยเฉพาะตัวที่เป็นนางฟ้าตกสวรรค์
เดี๋ยวนี้ใครๆก็เป็น VI ราคาหุ้นไปไวไม่พอ แข็งโป๊กอีกต่างหาก ไม่ลงซะที
รอเป็นปีก็ไม่ลง คงเป็นเพราะช่วงนี้ตลาดเพิ่งปรับตัวจากวิกฤต 2008 มาไม่กี่ปี
ผมมองแต่ หุ้นที่เงียบๆ คนไม่ค่อยมอง

แชร์ได้แค่นี้แหละครับ เพราะรู้น้อย

ที่ผ่านมา ข้าวสารถุง 5 กก. ราคาร้อยกว่าบาท ราคาพอ ๆ กับ กาแฟยี่ห้อดังตามศูนย์การค้า

ถึงเวลาที่ ข้าวสารถุง 5 กก. จะต้องปรับขึ้นแล้ว ราคาที่เหมาะสมไม่ควรต่ำกว่า 500 บาท

ถึงเวลานั้น ชาวนาจะมีรายได้มาก จะเกิดการใช้จ่าย ทำให้เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียนเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า

ยอดขายของกิจการต่าง ๆ จะเพิ่มสูงขึ้นมาก กำไรจะเพิ่มมากขึ้น และแน่นอน หุ้นจะราคาสูงขึ้นแน่

อย่าลืมfiscal cliffครับ แล้วก็น้องแสนดีที่พังบ้านพวกแยงกี้ซะราบคาบ
ดูเหมือนว่าคนมะกันจะต้องใช้จ่ายมากขึ้น แต่มีเงินให้ใช้รึเปล่านั้นอีกเรื่อง
ผลคงไม่เหมือนซึนามิเพราะคนญี่ปุ่นเก็บเงินเก่งจนดอกต่ำติดดินมาเป็นสิบปี
จนต้องให้ต่างชาติกู้ลงทุนโครงการต่างๆ เมื่อถึงเวลาต้องใช้เงินก็สามารถใช้ได้

โภคภัณฑ์ ต้องดูตลาดโลก ทั้งด้านดีมานด์ซับฟลาย
ข้อควรระวังคือแม้ปริมาณขายจะเพิ่มมาก แต่ถ้าราคาขายตกก็อาจเห็นผลขาดทุนได้

ด้วยภาวะที่ปัญหาของยุโรปะเมกายังไม่ได้รับการแก้ไข
จีนก็ได้รับผลกระทบจากทั้งสองพอสมควร
ผมยังมองไม่อนาคตข้างหน้าเลยครับ
แต่อาจมีบางกลุ่มที่ฝ่าไปได้ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
ก็คือพวกอินเตอร์เนต 3จีที่เป็นเทคใหม่อัตราการเข้าถึงยังต่ำอยู่
เทรนมาอะไรก็ฉุดไม่อยู่ครับ

ดูข่าว อาชีพ เชฟ รายได้ดีที่สุด

ธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม น่าจะรุ่งนะ

ณุศาศิริเปิดหมู่บ้านสุขภาพเขาใหญ่ [ โพสต์ทูเดย์, 7 พ.ย. 55 ]

ณุศาศิริ จับมือวิลล่าเมดิก้า ผุดโรงพยาบาลในโครงการอสังหาริมทรัพย์ วาดเป้ารายได้ปีหน้าโตพรวด
6 เท่า

นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ
เปิดเผยว่า ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับวิลล่า เมดิก้า (ประเทศไทย) ศูนย์การแพทย์ทางเลือก เพื่อลงทุนใน
โครงการมาย โอโซน พัฒนาหมู่บ้านสุขภาพแห่งแรกในประเทศไทย บนเนื้อที่ 1,200 ไร่ ที่เขาใหญ่ มูลค่า
ลงทุนรวม 6,000 ล้านบาท

ปีหน้าหรือครับ รุ่งก้คง

ก้คงเป็นอุตาหกรรมเกษตรครับ เช่น ข้าว

เพราะคงเป็นปีที่ยังคงรับจำนำในราคาสูง

อุตสาหกรรม แอร์ ครับ เพราะ คิดว่าปีหน้าช่วงหน้าร้อนคงร้อนกว่านี้

เพราะขนาดเดือน 11 ยังร้อนขนาดนี้

รับเหมาครับ เพราะโครงการสร้างเขื่อนกั้นน้ำคงเริ่มปีหน้า

ผู้ผลิตเอทานอลครับ เพราะการยกเลิกขายเบนซิน91

กลุ่มผลิตมอไซด์ครับ เพราะคนคงต้องเปลี่ยยนมอไซด์ใหม่

กลุ่มสินเชื่อมอไซด์ คิดว่าดีครับ

ไฟฟ้าครับ เพราะ คนน่าจะเปิดแอร์มากขึ้น

น้ำครับ ก้คงจะแล้งขึ้นยังไงก้ต้องใช้น้ำมากขึ้นครับ

นานๆๆมาตอบที ถูกๆๆผิดๆๆมั่วๆๆ ยังไงอย่าว่ากันครับ