จากดักแด้มาเป็นผีเสื้อ (3) /คนขายของ

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1593
ผู้ติดตาม: 2

จากดักแด้มาเป็นผีเสื้อ (3) /คนขายของ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ไม่ใช่ทุกตัวจะกลายเป็นผีเสื้อ - จากดักแด้มาเป็นผีเสื้อ (3) / โดย คนขายของ

คำนำก่อนอ่านบทความ: ในบางส่วนของบทความชุดนี้ผู้เขียนจะยกตัวอย่างกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นมาแล้วในอดีต เนื่องจากตัวเลขบางตัวไม่ได้มีการบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ จึงอาจมีความคลาดเคลื่อนได้บ้าง ทางผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้
 
มีกรณีศึกษาในอดีตหลายกรณีที่แสดงให้เห็นว่าถึงแม้กิจการจะมีการเปลี่ยนแปลงขององค์กร, โครงสร้างพื้นฐาน หรือ ความสามารถในการประกอบกิจการ แต่ก็ไม่สามารถทำให้มูลค่าของกิจการ เพิ่มมากขึ้นได้ บางกิจการต้องล้มละลายไป บางกิจการถูกกลืนไป เพราะประสบกับปัญหาตอนนำนโยบาย หรือ กลยุทธ์ที่ต้องการโตแบบก้าวกระโดดมาปฏิบัติจริง ทั้งนี้เนื่องจากมีปัจจัยแวดล้อมหลายอย่าง ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท ทำให้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้
 
1) การเข้าซื้อกิจการ บัมเบิลบี ซีฟู้ด ของยูนิคอร์ท : ในปี 2532 บริษัทยูนิคอร์ทของไทยได้เข้าซื้อบริษัท บัมเบิลบี(ผู้ผลิตปลาทูน่ากระป๋องซึ่งมียอดขายเป็นอันดับสามในสหรัฐอเมริกา) เป็นเงินกว่า 7,000 ล้านบาท เพื่อที่จะสร้างการเจริญเติบโตจากตลาดต่างประเทศ ในตอนนั้นบริษัทยูนิคอร์ทเองมีทุนจดทะเบียนแค่ 400 ล้านบาท การหาเงินมาซื้อกิจการส่วนใหญ่ใช้หนี้สิน โดยการนำสินทรัพย์ของบริษัทบัมเบิลบี ซีฟู้ด มาใช้ค้ำประกันเงินกู้ นอกจากนั้นยังมีหนี้สินบางส่วนเป็นหนี้ระยะสั้น ซึ่งดอกเบี้ยสูงกว่า12% ถึงแม้ว่าจะมี การระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ร่วมด้วยบ้างแต่ก็เป็นส่วนน้อย สภาวะแวดล้อมของตลาดปลาทูน่ากระป๋อง เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ตลาดเริ่มมีการแข่งขันด้านราคาสูงขึ้น ทำให้ Gross Margin ลดต่ำลง การต่อสู้ เรื่องราคาเป็นมาตลอดระยะเวลายาวนาน จนทำให้ในที่สุดบริษัทไม่สามารถรักษาสภาพคล่องไว้ได้ ต้องเข้าสู่กลไกของการฟื้นฟูกิจการ และขายหุ้นบัมเบิลบีออกไปในราคาเพียง 3,800 ล้านบาทในปี 2538
 
2) การเข้าสู่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโรงกลั่นเอทานอลของพัฒน์กล : พัฒน์กลเป็นบริษัทชั้นนำของไทย ที่มีชื่อเสียงในการทำเครื่องทำน้ำแข็ง และรับเหมาออกแบบติดตั้งห้องเย็น บริษัทรับงานทั้งใน และนอก ประเทศ ก่อตั้งเมื่อปี 2508 และเข้าตลาดเมื่อปี 2536 ผลงานในเรื่องห้องเย็น ของพัฒน์กลเป็นที่ยอมรับ อย่างแพร่หลายจนเป็นเจ้าตลาด บริษัทได้เริ่มเข้าสู่ธุรกิจใหม่ คือรับออกแบบก่อสร้างโรงกลั่นเอทานอล ในปี 2549 บริษัทได้เข้าทำสัญญาก่อสร้างโรงงานไบโอเอทานอลกับลูกค้าสองราย คือ ราชบุรีเอทานอล กับ ทีพีเค เอทานอล มูลค่ารวมของสองสัญญาประมาณ 3,500 ล้านบาท โดยปกติ บริษัทมีรายได้จากธุรกิจห้องเย็น และเครื่องทำน้ำแข็งประมาณ 2,500 ล้านบาทต่อปี จะเห็นได้ว่าการเข้าสู่ ธุรกิจใหม่นี้สามารถสร้างรายได้ ให้โตแบบก้าวกระโดด พัฒน์กลได้ซื้อ know-how การสร้างโรงงาน เอทานอลจาก KATZEN สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงชั้นแนวหน้า แต่ต่อมาบริษัทกลับพบว่า บริษัทขาดความชำนาญ ในธุรกิจใหม่ที่เพิ่งรับงานมาทำให้มีปัญหาการก่อสร้าง ดังที่หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ฉบับ 6 กุมภาพันธ์ 2555 (ข่าวใน Bizweek Section) ได้ลงไว้ว่า…“ความไม่เชี่ยวชาญในธุรกิจใหม่ทำให้บริษัทเริ่มประสบ ปัญหาการก่อสร้าง วัตถุดิบมีราคาสูงขึ้น และตามติดมาด้วยปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน จนกระทั่งในปี 2552  ต้องยื่น คำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ต่อศาลล้มละลายกลาง เท่ากับบริษัท "เจ๊ง" มีหนี้สินล้นพ้นตัวกว่า 3,000 ล้านบาท ตกตะลึงกันไปทั้งวงการ”
 
3) การเข้าถือหุ้นธนาคารเอเซียของ ธนาคาร ABN AMRO:  การเข้ามาลงทุนถือหุ้นใหญ่ซึงมีอำนาจเต็ม ในการบริหารของบริษัทข้ามชาติ ย่อมสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อยชาวไทยซึ่งก็มีผู้เขียนเอง รวมอยู่ด้วย ในตอนนั้น ABN AMRO ได้ประกาศลงทุนโดยเข้ามาถือหุ้นหลักในธนาคารเอเซีย (BOA) เกือบ 80% หลังจากเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งในไทย หลังจากมีการเพิ่มทุนหลายระรอก ต้นทุนของ ABN AMRO ที่ซื้อหุ้น BOA นั้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6.6 บาทต่อหุ้น มีหลายคนในตอนนั้นเชื่อว่าการที่ธนาคารต่างชาติ ชั้นนำกล้าลงทุนในราคานี้ แสดงว่าราคานี้เป็นราคาที่ดีมีพื้นฐานรองรับ และการที่ BOAได้ ABN AMRO เข้ามาบริหารย่อมทำให้สามารถเข้าถึงการบริหารการจัดการอย่างมืออาชีพ ซึ่งน่าจะสามารถเพิ่มมูลค่า กิจการได้อย่างมากในอนาคต เรื่องนี้เป็นบทเรียนที่ดีในการลงทุนสำหรับตัวผู้เขียนเองว่า การลงทุนที่ดีนั้น ต้องมีการศึกษารายละเอียดของมูลค่าของกิจการมากกว่าการทึกทักเอาว่า มีบริษัทยักษ์ใหญ่ซื้อที่ราคานั้น ราคานั้นน่าจะปลอดภัย มีกรณีศึกษาหลายกรณีที่แสดงให้เห็นว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ก็ตัดสินใจผิดพลาดได้ เหมือนกัน ความจริงในข้อนี้ก็ได้ปรากฎอีกครั้งในปี 2547 เมื่อ ABN AMRO ประกาศขายหุ้น BOA ให้กับธนาคาร UOBของสิงค์โปร์ในราคา 5.35 บาทต่อหุ้นซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่าต้นทุนที่ทางธนาคารจ่ายไป
 
ดังนั้นสิ่งที่เรียกว่า Margin of Safety จึงเป็นสิ่งสำคัญของนักหาดักแด้ โดยมากข่าวสารของบริษัท ที่ออกมามักจะเป็นไปในด้านเดียว ในบางกรณีข่าวนั้นๆอาจทำให้ท่านมองดูทุกอย่างสวยงามไปหมดจน ลืมนึก ถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้เหมือนกันดังเช่นกรณีที่ได้กล่าวมา
[/size]
ภาพประจำตัวสมาชิก
kabu
Verified User
โพสต์: 2149
ผู้ติดตาม: 0

Re: จากดักแด้มาเป็นผีเสื้อ (3) /คนขายของ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความดีดีอีกครั้ง
MaiFuen
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 384
ผู้ติดตาม: 0

Re: จากดักแด้มาเป็นผีเสื้อ (3) /คนขายของ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณสำหรับ ประสบการณ์และความรู้ดีๆครับ

จะเฝ้ารออ่านบทความ เรื่องต่อไปนะครับ ชอบมากๆครับ
pakhakorn
Verified User
โพสต์: 957
ผู้ติดตาม: 0

Re: จากดักแด้มาเป็นผีเสื้อ (3) /คนขายของ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีความเสี่ยง อยู่เฉยๆก็ยังเสี่ยงได้

ขอบคุณ สำหรับตำนานอีกด้านหนึ่ง ยังรออ่านตอนต่อไป ครับ
TLSS
Verified User
โพสต์: 616
ผู้ติดตาม: 0

Re: จากดักแด้มาเป็นผีเสื้อ (3) /คนขายของ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขอบคุณครับ
thanyah
Verified User
โพสต์: 7
ผู้ติดตาม: 0

Re: จากดักแด้มาเป็นผีเสื้อ (3) /คนขายของ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความดีดีที่นำมาฝากกันเช่นเคย

จะรออ่านตอนต่อไปนะครับ
monsoon
Verified User
โพสต์: 535
ผู้ติดตาม: 0

Re: จากดักแด้มาเป็นผีเสื้อ (3) /คนขายของ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอบคุณนะครับ^^

ประสบการณ์ในความล้มเหลวแต่ละครั้งของธุรกิจ ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรเยอะจริงๆเลยนะครับ

คุ้นๆว่า ชาลี มังเกอรร์เคยบอกว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จในการลงทุน ให้ศึกษาประวัติศาสตร์ - read history..
ภาพประจำตัวสมาชิก
JUMP
Verified User
โพสต์: 175
ผู้ติดตาม: 0

Re: จากดักแด้มาเป็นผีเสื้อ (3) /คนขายของ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ขอขอบคุณสำหรับแนวคิดดีๆครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
crazyrisk
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 4549
ผู้ติดตาม: 0

Re: จากดักแด้มาเป็นผีเสื้อ (3) /คนขายของ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

รออ่านตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อครับ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
ภาพประจำตัวสมาชิก
S&K Fund
Verified User
โพสต์: 247
ผู้ติดตาม: 0

Re: จากดักแด้มาเป็นผีเสื้อ (3) /คนขายของ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

มีข้อสังเกตอย่างหนึ่ง. คือ การเติบโตด้วยการtake over หรือ ขยายธุรกิจใหม่ ที่แตกต่างจากธุรกิจเดิม
มีความเสี่ยงสูงกว่า การปรับปรุงประสิทธิภาพในธุรกิจเดิมให้มี. Gross margin ที่เพิ่มขึ้น
seksan999
Verified User
โพสต์: 101
ผู้ติดตาม: 0

Re: จากดักแด้มาเป็นผีเสื้อ (3) /คนขายของ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ชอบทุกตอนเลยครับ เป็นบทความไตรภาค ที่ให้ความรู้ในการลงทุนอย่างมากมาย

ขอบคุณพี่คนขายของ มากๆครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
untrataro25
Verified User
โพสต์: 952
ผู้ติดตาม: 0

Re: จากดักแด้มาเป็นผีเสื้อ (3) /คนขายของ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ขอบคุณครับ ติดตามตอนต่อไปครับ
โพสต์โพสต์